เมื่อรอบก่อนผมพูดไปถึงคนที่
เข้ามาทำงานสายอาร์ตแต่จริงๆแล้วไม่ได้อยากจะทำอาชีพ
รอบนี้ผมจะเจาะจงพูดถึงคนที่อยากจะมาทำอาชีพ
และอธิบายถึงข้อแตกต่างระหว่าง
Concept Artist กับ Technical Artist ครับ
--------------------------------------
จากที่พูดไว้รอบก่อนคือ
คนที่เข้ามาทำงานนี้เป็นอาชีพ
จะต้องสร้างผลงานที่ผู้อื่นอยากจะให้คุณสร้าง
โดยมันมีประเด็นอยู่ว่าพระเจ้า(ลูกค้า) นั้น
ไม่ได้รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองอยากได้จริงๆคืออะไร
เพราะถ้าเขารู้ เขาก็ไม่ได้จำเป็นจะต้องมาจ้าง Artist
และทำเองไปได้แล้ว
-------------------------------
-------------------------------
เช่นพระเจ้าต้องการ ABCDEFG
เขารู้แค่ว่า ACDG คือสิ่งที่อยากได้แน่นอน
แต่ไม่รู้ว่าของที่ขาดไปคืออะไร
หน้าที่ของ Concept Artist
คือการหาว่า BEF ที่ขาดไปนั้นคืออะไร
เช่นการทำงานเหล่านี้ขึ้นมา
เพื่อให้พระเจ้าดูว่านี่คือสิ่งที่ต้องการหรือเปล่า
AMCDNHG
ALCDIOG
ASCDPTG
และอื่นๆ
จนไปจบที่ได้ ABCDEFG ขึ้นมา
--------
ซึ่งค่าของ Concept Artist จะขึ้นอยู่กับว่า
เขาได้มอบสิ่งที่ตรงกับความต้องการของพระเจ้าได้มากเท่าไหร่
AxCDxxG <<== คือใช้ไม่ได้เลย แทบไม่มีค่าในฐานะ Concept Artist
ABCDxxG <<== ไม่ดีพอ แต่ก็ดีกว่าคนก่อน
ABCDExG <<== ถือว่าพอไหว ทั่วไปก็ฝีมือระดับนี้กัน
ABCDEFG <<== ยอดฝีมือที่สร้างความพอใจให้พระเจ้าได้
แต่จริงๆแล้ว Concept Artist ที่ยอดเยี่ยมที่สุด
คือคนที่มอบ
ABCDEFG + HIJK
ให้พระเจ้าได้
พระนอกจากพระเจ้าจะได้สิ่งที่ต้องการแล้ว
ยังมีคุณค่าอะไรเสริมเข้ามาอีกต่างหาก
ซึ่งถ้าพระเจ้าอยากได้ HIJK ด้วยก็จะมีผลตอบแทนมากขึ้น
แต่ถ้าไม่ต้องการก็แค่ตัดออกก็เสร็จ
------------------------
ต่อมา
เมื่อเรารู้ว่าพระเจ้าต้องการอะไรแล้ว
Technical Artist
คือคนที่มีความรู้ว่า
จะผลิต A ต้องทำยังไง
จะผลิต B ต้องทำยังไง
จะผลิต C ต้องทำยังไง
และต่อมาเรื่อยๆจนจบ
อย่างเช่นในกระบวนการผลิต Particle FX ในเกม
Concept Artist อาจรู้ว่าพระเจ้าต้องการแบบไหน
แต่ไม่รู้ว่าจะต้องผลิตยังไง
Technical Artist คือคนที่สร้าง FX นั้นให้ใช้งานจริงขึ้นมาได้
หรือถ้ากรณีผลิตตัวละคร 3D สำหรับเกม
Concept Artist ก็คือ Character Designer ที่ออกแบบตัวละครมา
ในขณะที่ Technical Artist
คือคนที่ปั้นโมเดล ทำ Texture ริก อนิเมท
เพื่อให้ตัวละครนั้นสามารถเอามาใช้ในงานได้จริง
------------------------------------------------
------------------------------------------------
ซึ่งถึงแม้ว่าตอนที่คุณศึกษา
คุณควรจะฝึกทั้งสองสาย
เพื่อให้เข้าใจกระบวนการทำงานของทุกระดับ
แต่ตอนที่คุณทำงานจริงๆ
คนที่เป็น Specialist ในสายหนึ่งและในสายย่อย
จะเป็นที่ต้องการมากกว่า Generalist
ที่ทำได้ทุกอย่าง แต่ไม่สุดๆเลยในสายเดียว
คือคนที่เป็น Generalist นั้น
มีประโยชน์ตรงที่ ถ้าตรงไหนคนขาดก็ย้ายไปเติมตรงนั้นได้
แต่คุณจำเป็นต้องมี Specialist
เพื่อการผลิตผลงานคุณภาพดีได้
และคนที่มีค่าที่สุด คือ Jack of all Trades and Master of One
...... Master of ONE นะครับ ไม่ใช่ of None
กล่าวคือคนที่เป็น Specialist ในสายหนึ่ง
แต่ก็เป็น Generalist ที่พอจะทำทุกอย่างได้ด้วยถ้าจำเป็น
ในขณะที่ Master of All นั้น
จริงๆแล้วมีความสามารถเกินความจำเป็น
เพราะไม่มีเวลาพอจะลงไปทำทุกอย่างเองได้
และผลงานก็ไม่ได้มีมากไปกว่า Specialist ด้วย
-------------------------------
-------------------------------
ทีนี้ ผมอยากจะขอยกคำศัพท์คำหนึ่งขึ้นมา
คำว่า 花形 แปลประมาณว่าผู้มีความโดดเด่นราวดอกไม้งาม
อย่างเช่นเซ็นเตอร์ในวงไอดอล หรือคนที่เป็นนักร้องนำ
ซึ่งคนที่เป็น 花形 ในวงการนี้ส่วนใหญ่
คือคนกลุ่ม Concept Artist
เพราะผลงานของพวกเขาจะเข้าสู่สายตาผู้บริโภคได้โดยตรง
และมีเอกลักษณ์ที่คนอื่นไม่สามารถมอบให้ได้
ในขณะที่ Technical Artist จะเหมือนพวกคนทำงานเบื้องหลัง
คือก็รู้อยู่ว่ามีผลงานมา แต่ก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ
และถ้าให้คนอื่นที่มีฝีมือระดับเดียวกันมาทำ
ก็สามารถสร้างผลงานใกล้เคียงกันได้
ด้วยเหตุนี้ ......... คนที่อยากมาเป็น Concept Artist จึงมีจำนวนมาก
................. มาก .............
................. จนเกินความต้องการของตลาด
-------------------------------
อย่างสมมุติในกรณีพระเจ้าจะเอางาน ABCDEFG ที่ผมยกมานี้
ถ้าคุณมียอดฝีมืออยู่คนเดียวที่ทำ ABCDEFG ให้ได้เลย
คุณก็ไม่ได้จำเป็นจะต้องมี Concept Artist คนที่สองหรือสาม
ในกรณีที่คุณมีแต่คนฝีมือระดับรองๆ
คุณอาจจะมีคนที่เจอ ABCDxxG คนนึง กับ AxCDEFG คนนึง
เพื่อรวมกันให้มาเป็น ABCDEFG ได้เช่นกัน
............... แต่นี่เป็นเรื่องไม่ควรทำในแง่ของการบริหาร
เพราะยิ่งคุณมีบุคลากรมากเท่าไหร่
คุณก็จะยิ่งมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นเท่านั้น
อย่างกรณีคนที่ทำ ABCDEFG ได้มีค่าจ้าง 5 หมื่น
คุณอาจต้องจ่าย 6-8 หมื่นเพื่อจ้าง ABCDxxG + AxCDEFG
เพื่อทำงานให้ได้ในระดับเดียวกัน
ซึ่งเมื่อคุณมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม คุณก็ต้องเก็บเงินจากพระเจ้ามากตาม
ในขณะที่พระเจ้าก็จะไม่พอใจว่า
รายนี้ทำ ABCDEFG ในราคา 5 หมื่นได้
ทำไมอีกเจ้าถึงคิดเงิน 6-8 หมื่น
เพราะสิ่งที่เขาต้องการมันเป็นผลงานท้ายสุด
กระบวนการระหว่างทางมันไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับเขา
--------------------
แต่ Technical Artist นั้นต่างกันครับ
มันจะต้องมีคน A คนทำ B คนทำ C ไปจนถึงอันสุดท้าย
เพื่อให้ผลงานจริงนั้นเสร็จ
สมมุติว่าคุณให้นาย [ก] ทำ A+B
มันก็จะเท่ากับคุณจ้างนาย [ก] x2 รอบ
ค่าแรงโดยรวมมันจะไม่ได้ต่างกับจ้างให้
นาย [ก] ทำ A + นาย [ข] ทำ B
ในกรณีที่นาย [ก] กับ นาย [ข] มีฝีมือเท่ากัน
..... แต่ .....
นาย [ก] ทำ A+B
****จะใช้เวลามากกว่า****
นาย [ก] ทำ A + นาย [ข] ทำ
ซึ่งจริงๆแล้วมันจะมีปัจจัยเรื่อง ||ขั้นตอนการผลิต||
กับเรื่อง ||ฝีมือ|| อยู่
ที่ทำให้ค่าของตรงนี้มันเปลี่ยน
*แต่* *ถ้า*
เราตัดสองเรื่องนี้ออกไป
ยิ่งคุณมี Technical Artist เท่าไหร่
งานมันก็จะยิ่งทำเสร็จได้เร็วขึ้น
ทำให้กิจการนั้นมีค่ามากกว่าในสายตาของพระเจ้า
ว่าสามารถทำงานให้เสร็จเร็วกว่าได้
ในขณะที่จ่ายเท่ากัน
-------------------------------------
ด้วยเหตุนี้นะครับ .............. Technical Artist
จึงเป็นสายงานที่มีความต้องการกับกิจการ
มากกว่าคนสาย Concept Artist
ถ้าจุดประสงค์ของคุณคือ "การประกอบอาชีพ"
คนที่เรียนสาย Technical มา
จะมีโอกาสได้งานมากกว่าคนสาย Concept ครับ
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
acdg 在 MCM Louis Facebook 的最佳貼文
Finally got my most wanted shoes of 2018. Gotta put them on asap even it's raining.
-
They ain't #ACG. They are #ACdG!
@nike x @commedesgarcons #mowabb