ย้อนกลับไป ในวันที่ 22 เมษายน ในปี 1915 : แก๊สคลอรีนเผยโฉม กับความเลวร้ายของอาวุธเคมี
หนึ่งในสิ่งที่สงครามแต่ละครั้งเปลี่ยนโลกไปตลอดกาลคือพัฒนาการทางการทหาร อาวุธหลากชนิดถูกจัดสรรมาประชันเพื่อชัยชนะของแต่ละฝ่าย จนเกิดการพัฒนาทางการทหารอย่างก้าวกระโดด หนึ่งในนั้นคืออาวุธเคมีที่ถูกคิดค้นในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 นี่เอง เปิดศักราชอาวุธแห่งการฆ่าล้างให้รุนแรงขึ้นกว่าเก่า
รู้จักคลอรีนก่อนถูกนำไปใช้เป็นอาวุธร้าย
คลอรีน(Chlorine) เดิมเป็นสารประกอบที่พบได้ทั่วไปในธรรมชาติ โดยจะมีลักษณะเป็นแก๊ส คุณสมบัติเด่นคือมีสีเขียวอมเหลืองและกลิ่นฉุน นิยมใช้กันอย่างกว้างขวางตั้งแต่ในอุตสาหกรรมกระดาษ สี สิ่งทอ น้ำยาทำความสะอาดหลากหลายชนิด ไปจนอุตสาหกรรมอาหาร ทั้งในด้านการฆ่าเชื้อจากวัตถุดิบหรือทำความสะอาดภาชนะที่ใช้งานทั้งหลาย หรือถ้าที่ใช้งานและเกี่ยวข้องอยู่ตอนนี้ น้ำประปาที่เราใช้กันทุกวันนี้ล้วนผ่านการฆ่าเชื้อด้วยคลอรีน ก่อนออกมาเป็นน้ำสำหรับให้เราได้ใช้อุปโภคบริโภค นับเป็นสารที่มีความสำคัญยิ่งสำหรับการใช้ชีวิต
แม้จะมีคุณอนันต์แต่โทษของมันร้ายแรงไม่แพ้กัน ด้วยความที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อพื้นเพของมันจึงมีความเป็นพิษสูง ในกรณีได้รับพิษจนเกิดอาการเฉียบพลัน ในปริมาณไม่มากจะเกิดอาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ระคายเคืองตาและจมูก ไอ สำลัก หายใจลำบาก มากหน่อยก็อาจทำให้เกิดอาการน้ำท่วมปอด ขาดออกซิเจน ทำลายเนื้อเยื่อปอด ไปสู่ระบบหายใจล้มเหลวในเวลาประมาณ 2-3 นาที นี่คือส่วนที่ถูกเล็งเห็นและนำไปพัฒนาเป็นอาวุธในที่สุด
ก้าวแรกของภัยร้ายแห่งมนุษยชาติ
ก่อนจะมีการนำคลอรีนไปใช้เป็นอาวุธ ความพยายามในการใช้อาวุธเคมีเคยเกิดขึ้นมาแล้วนั่นคือฝรั่งเศส ในเดือนสิงหาคม 1914 หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ระเบิดขึ้นไม่นาน โดยการนำสารประกอบอินทรีย์ที่มีชื่อว่าไซลิล โบรไมด์(Xylyl bromide) อัดไว้ภายในลูกระเบิดขนาด 26 มม. เมื่อทำงานจะก่อให้เกิดแก๊สที่ทำให้เกิดความระคายเคืองต่อเยื่อบุโพรงจมูก หลอดลม และปอด อีกทั้งส่งผลต่อดวงตา ถูกนำไปใช้ในการบีบพื้นที่ให้ศัตรูต้องออกจากบังเกอร์หรือสนามเพลาะ ในส่วนนี้อานุภาพของแก๊สยังไม่มากหากไม่สูดดมเป็นเวลานาน แต่จะเรียกว่าเป็นบทโหมโรงความเลวร้ายก็คงได้
จากยาฆ่าเชื้อสู่ต้นตำรับแห่งแก๊สพิษ
ชาติแรกที่เริ่มนำคลอรีนมาใช้งานเป็นอาวุธอย่างจริงจังคือเยอรมนี โดยบริษัทผลิตสารเคมีชั้นนำร่วมกับผลิตเพื่อใช้ในการสงครามโดยเฉพาะ ภายใต้การกำกับของ ฟริต ฮาเบอร์ ที่ถูกโลกขนานนามให้เป็นบิดาแห่งสงครามเคมี วันแรกที่ถูกใช้คือ 22 เมษายน 1915 ในแนวหน้าแถบเมืองอีปส์(Ypres) เยอรมนีนำมาใช้งานกับแนวรบสนามเพลาะของฝรั่งเศส สร้างความเสียหายให้แนวรบข้าศึกยาวกว่า 7 กิโลเมตร ทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบไม่ต่ำกว่า 67,000 คน
และนั่นคือจุดเริ่มต้นความเลวร้าย เยอรมนีได้รับชัยชนะอย่างต่อเนื่องทันทีที่มีการนำอาวุธชนิดนี้มาใช้งานในสนามรบแต่ทำให้เกิดผู้เสียชีวิตมากมาย อย่างที่ปรากฏในบันทึกของนายทหารอังกฤษว่า ในการรบที่ถูกโจมตีด้วยแก๊สคลอรีนมีผู้เสียชีวิตทันที 90 ราย อีก 46 รายเสียชีวิตหลังจากนั้น และคนเจ็บอีก 207 ราย นั่นคือบันทึกที่ได้มาจากแนวรบส่วนเดียว ยังมีอีกมากมายหลายแห่งที่แก๊สนี้ถูกนำไปใช้นับจากนั้น
แม้มีอาวุธใหม่ชนิดนี้ไม่ได้การันตีชัยชนะเสมอไป ด้วยจำเป็นต้องอาศัยทางลมไม่ให้แก๊สพัดย้อนกลับมาหาผู้ใช้งาน รวมถึงบางครั้งแม้ถูกแก๊สเล่นงานก็สามารถตอบโต้กลับไปได้ อย่างทหารรัสเซียที่ป้อมปราการออสโซเวค แต่ไม่ใช่ทุกครั้งจะทำได้แบบนั้นทำให้ชาติอื่นจำเป็นต้องทำตาม เมื่อมีผู้ริเริ่มหลังทำการประณามพอเป็นพิธีทุกชาติจึงเร่งพัฒนาอาวุธนี้ของตัวเอง อย่างอังกฤษที่พัฒนาแก๊สคลอรีนของพวกเขาอย่าง Red star แต่ด้วยลมที่เปลี่ยนทิศ ประกอบกับหน้ากากกันแก๊สรุ่นแรกไม่มีความทนทานมากนัก ทำให้อาวุธที่คิดมาพิฆาตข้าศึกกลายเป็นหายนะมาสู่ผู้ใช้งานมันเสียเอง
แก๊สคลอรีนอาจเป็นอาวุธเคมีชนิดแรกที่คิดค้นแต่ไม่ใช่ชนิดสุดท้ายของสงคราม ถัดจากนั้นฟอสจีนถูกคิดค้นและถึงแม้จะไม่ได้ชื่อดังเท่าชนิดอื่น แต่เจ้านี่ก็มีอัตราคร่าชีวิตสูงถึง 85% เมื่อถูกใช้งาน และสร้างผลกระทบในระยะยาวกับผู้ได้รับผลกระทบ ทำให้ถุงลมที่ปอดถูกทำลายจนทำให้เกิดน้ำท่วมปอดหรือติดเชื้อหลังจากนั้น ตบท้ายด้วยแก๊สมัสตาร์ด ราชาของอาวุธเคมีในยุคนั้น ที่นอกจากทำลายระบบหายใจ ยังทำให้เกิดแผลพุพองเพราะสามารถซึมผ่านเสื้อผ้าและสามารถเกิดได้ทั่วทั้งร่างกาย สร้างความทรมานอันเลวร้ายให้กับเหยื่อ และยังทิ้งสารตกค้างไว้บนดิน น้ำ และอากาศ ปนเปื้อนทำให้เกิดผลกระทบในระยะยาวอีกด้วย
หนึ่งในการใช้งานอาวุธเคมีครั้งที่เลวร้ายที่สุดของสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นวันที่ 21 มีนาคม 1918 กองทัพเยอรมันเปิดยุทธการมิคาเอล กับการระดมยิงอาวุธเคมีสาดลงไปแบบปูพรมยาวนานถึงห้าชั่วโมง เป็นผลให้เกิดผู้เสียชีวิตจากการรบครั้งนี้ไปมากกว่า 500,000 ราย และสร้างผู้รับเคราะห์อีกนับล้านที่ต้องทุกข์ทรมานจากผลของอาวุธร้ายชนิดนี้
สู่ปัจจุบันกับความอำมหิตที่ไม่จบสิ้น
ปัจจุบันมีอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี(Chemical weapon convection)ตั้งแต่ปี 1997 ที่มี 65 ประเทศลงนามเข้าร่วม แต่ไม่มีทีท่าว่าอาวุธชนิดนี้จะหายไป นับแต่เกิดขึ้นในหน้าประวัติศาสตร์มนุษยชาติเป็นต้นมา อาวุธเคมีต่างมีส่วนร่วมในสงครามนับจากสงครามโลกครั้งที่ 1 อีกหลายครั้ง ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ,สงครามเวียดนาม ,สงครามอ่าวเปอร์เซีย ไปจนนำไปใช้ก่อการร้ายในปี 1997 ในรถไฟฟ้าใต้ดินของประเทศญี่ปุ่น หรือยกตัวอย่างที่ใกล้ที่สุดคงต้องเป็นสงครามซีเรีย
สงครามซีเรียเป็นสงครามกลางเมืองที่เกิดในประเทศซีเรียที่กินเวลายาวนาน ส่งผลกระทบร้ายแรงทำให้มีผู้เสียชีวิตไปเฉียด 400,000 และสูญหายอีกกว่า 200,000 ราย ยังไม่นับคนอีกหลายล้านที่ต้องอพยพออกจากบ้านเกิดและไม่มีทีท่าจะได้กลับไปส่งผลกระทบไปทั่วยุโรป แน่นอนว่าอาวุธเคมีก็เป็นหนึ่งในนั้น
แก๊สซารินถูกนำมาใช้งานตั้งแต่สิงหาคมปี 2013 ก่อนเปลี่ยนมาเป็นระเบิดคลอรีนในปี 2014 ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อต่อต้านการเข้าไปหลบในหลุมหลบภัยที่อยู่ใต้ดิน อาศัยการรั่วไหลของแก๊สเล็ดรอดเข้าไปคร่าชีวิตคนที่หลบอยู่ด้านใน แค่ปีแรกที่เริ่มใช้ก็มีการโจมตีด้วยแก๊สคลอรีนไปกว่า 24 ครั้ง จนมีผู้เสียชีวิตไปกว่า 32 ราย และเลวร้ายกว่าคือผู้รอดชีวิตที่ได้รับผลกระทบอีกหลายร้อย ที่ต้องอยู่อย่างหวาดผวาและทุกข์ทรมานจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับปอดนับจากนี้
แน่นอนว่านี่จะไม่มีทางเป็นครั้งสุดท้ายที่อาวุธชนิดนี้จะถูกหยิบมาใช้งาน ไม่ว่าจะมีข้อห้าม กฎบัตร หรืออนุสัญญาเลิศเลอเพียงไร อาวุธเคมีจะคงอยู่บนโลกและมนุษยชาติต่อจากนี้ไปอีกหลายร้อยปี ตราบที่มันยังมีฤทธิ์คร่าชีวิตมนุษย์ได้ง่ายดายและน่ากลัว แต่ไม่ได้หมายความว่าสารเคมีที่ถูกสร้างขึ้นมาเหล่านี้เป็นสิ่งผิด หากไม่นับแก๊สมัสตาร์ดที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อการสงครามโดยเฉพาะ สารตัวอื่นล้วนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ประโยชน์กับชีวิตของผู้คน
ทั้งคลอรีนที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการฆ่าเชื้อให้อุตสาหกรรมทั้งหลายและการประปา ฟอสจีนที่เดิมก็อยู่ในอุตสาหกรรมผลิตสีย้อมหรือโฟม กระทั่งซารินแก๊สพิษเลื่องชื่อที่สร้างความเสียหายแก่ผู้คน จุดหมายตั้งต้นของเจอร์ฮาร์ด ชเรเดอร์ผู้ค้นพบสารชนิดนี้ แท้จริงเขาแค่ตั้งใจนำมันมาใช้สำหรับการฆ่าแมลงเพื่อหยุดความหิวโหยของมนุษยชาติเท่านั้นเอง
เห็นได้ชัดว่าสารเหล่านี้เองก็เปรียบเสมือนไฟที่สามารถทำได้ทั้งสร้างชีวิตและทำลายชีวิตไปพร้อมกัน
ขึ้นอยู่กับผู้ใช้อย่างเราเท่านั้นว่าจะนำมันไปสร้างสรรค์หรือทำลายสิ่งใดบนโลกนี้
#peoplepersona
#เขย่งก้าวกระโดด
ที่มา
https://www.bbc.com/thai/international-56405029
https://themomentum.co/syria-chemical-attack/
https://www.halallifemag.com/chlorine-gas-weapon-syria-civil-war/
https://www.siamchemi.com/%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%99/
https://www.blockdit.com/posts/5ef2c68295d9ef13a534664c
http://infofile.pcd.go.th/haz/67-Phosgene.pdf?CFID=67464&CFTOKEN=44866816
https://www.gypzyworld.com/article/view/608
chlorine gas 在 Follow Me To Eat La - Malaysian Food Blog Facebook 的精選貼文
Keep Calm & Stay Safe With a+ Antah Wellness Defend Tag & Protect Nano Silver Spray. 😍😍
.
Auntie Lilly is excited to share the latest innovative products from Antah Healthcare to help you double your defence and protection against airborne diseases like influenza, hand mouth foot disease, & bacteria. 👍👍
.
"Prevention Is Better Than Cure" ~ Equip yourself & your loved ones with additional protection with not one but two amazing products from Antah Wellness Personal Protection Defend Tag & Protect Nano Silver Spray! 😷😷
.
DEFEND TAG ✴️ RM59.90
Personal protection tag imported from Japan that releases anti-microbial chlorine dioxide for prevention against air-borne diseases. Packaged innovatively with 5gm of Sodium Chlorite in a sachet to release standardized Chorine Dioxide gas that has the superior anti-microbial effect, protecting the bearer from airborne diseases. One sachet provides 45-days of protection within the space of 1 cubic meter around the bearer. 😉😉
.
PROTECT NANOSILVER SPRAY, 60ml ✴️ RM29.90
A safe & effective antiseptic spray containing <10ppm Nanosilver colloidal particles suspended in deionized water. Proven to kill multiple micro-organisms plus promote wound healing & help to cleanses, sanitizes & disinfects surfaces around you & your body. With a non-alcohol base ingredient, it won't sting when spraying onto an open wound. Perfect size bottle & handy to carry around as additional protection against germs. 😉😉
.
For more info about Defend Tag & Protect Nano Silver Spray by a+ Antah Wellness, please visit Antah Healthcare On FB & IG. ✅✅
.
Defend Your Loved Ones & Get Protected Now, Shop At Watsons: http://bit.ly/AWDefendTag
.
*Disclaimer: Defend Tag is not intended to be used as a substitute for practising good personal hygiene & social distancing.
.
.
#FollowMeToEatLa
#AntahHealthcareGroup
#AntahWellness
#ProtectNanoSilverSpray
#DefendTag
chlorine gas 在 Ly Huy The Pharmacist 藥劑師不只是會派藥 Facebook 的最佳貼文
【是消毒好棒棒还是消毒坏棒棒呢?真的可以殺滅身體附近的COVID病毒嗎?】
.
.
.
.
之前很紅的消毒卡和這次的消毒棒都是用一樣的成分:Chlorine Dioxide二氧化氯
請看回關於消毒卡的文章:
https://web.facebook.com/lyhuythepharmacist/posts/232754478092527
.
.
.
再仔細講解一次好了
🧪Chlorine Dioxide是時常被用來消毒的化學成分
比如:消毒物體表面、製造紙張產品(用來漂白他們),甚至連全世界的飲用水都可以用它來消毒殺菌等等的功用
.
.
.
🤔️哇❗️❗食用水都可以消毒了 這樣消毒棒它一定可以有效去除COVID病毒咯❓
先大概解釋一下Chlorine Dioxide這個化學成分的特性:
🧪Chlorine Dioxide是非常reactive (非常活躍)的化學物
就是很容易和別的物質產生化學反應
1⃣️如果Chlorine Dioxide遇到水:
就會很快地和水有反應,變成Chlorite Ions(也是一個很激烈的化學物😂)
所以他們才會被使用來殺水中的細菌和微生物(但是劑量是被計算過和控制的,必須在安全的範圍內)
2⃣️但是❗️❗️❗️
如果Chlorine Dioxide遇到空氣:
陽光很快地就會把Chlorine Dioxide分解城Chlorine Gas和氧氣
所以 如果這時候你在它身邊 就會吸入Chlorine Gas咯~
.
.
.
🤔️那為什麼吸入Chlorine Gas對身體不好❓
🧪就像剛才所說的 Chlorine Dioxide會變成Chlorite ion
這兩個成分都會很熱情地和水分產生反應
尤其是我們的呼吸系統是濕濕的
🧪當你吸入這個gas的時候 它就會刺激你的呼吸系統 造成呼吸系統問題 比如鼻子 喉嚨 和肺部🫁
還會破壞體內的紅血球
.
.
.
🤔️Chlorine Dioxide會影響baby和小孩嗎❓
有動物研究顯示呢 如果在出生之前和出生時的前期 在環境中一直接觸高濃度的Chlorine Dioxide的話
會造成腦部發展的遲緩
如果小孩接觸高濃度的話 會比大人更嚴重
身體內的血會更快速地減少帶氧氣的能力
造成呼吸更辛苦
.
.
.
所以我看了消毒棒的報告和指示書裡 用邏輯想了想 覺得有幾個疑點:
1⃣️Chlorine Dioxide怕陽光怕空氣,有些產品指示書也都有寫他們的產品怕光怕熱
但是他們還建議大家戴在身上 掛在車上⋯⋯hmm??
2⃣️保護直徑很夠力大
Hmm 用邏輯想 很夠力的保護範圍 是不是就代表濃度很高 才可以去到那麼遠
但是同時又不能讓人吸入過量的Chlorine Dioxide 不然人會出現呼吸系統問題
(啊 頭腦好混亂)
3⃣️也有很多很夠力的其他國家認證
我說了很多次了 外國多好多誇張
講到我阿嬤都會痛哭流淚拍掌說好的產品
❌如果沒有馬來西亞的認證 就不要相信‼️‼️
第一,我們活在馬來西亞,是要under 馬來西亞衛生部
第二,馬來西亞的衛生部對於保健品和醫藥這些產品方面 檢查其實真的非常嚴厲
每次說馬來西亞爛beh 外國多好多好
如果可以拿到國外那麼多够力的認證 為什麼馬來西亞的拿不到?
4⃣️如果這個Chlorine Dioxide真的有用 之前衛生部就不會出來澄清了
衛生部澄清消毒卡的Chlorine Dioxide沒用的連接:
https://web.facebook.com/kementeriankesihatanmalaysia/posts/10156881307966237
马来西亚政府也从来没有宣布过什么产品、保健品 可以预防或者杀灭COVID
除了药和疫苗可以宣稱這些 其他的都请安静🤫
.
.
.
所以到底要不要買 這次我不說了 由你來決定🤔
.
.
.
⚠️⚠️千萬千萬不要因為覺得有了這個消毒棒的「保護罩」就可以不保持1米距離 也可以不戴口罩 不勤勞洗手 也不打疫苗⋯⋯⋯⋯⋯⋯
这才最担忧这消毒坏棒棒带来的隐藏后果
.
.
.
想早日出國 不戴口罩 經濟恢復 都需要大家的齊心合力的努力
還有,不要再交智商稅了❗️
交給我 比較安全😂😂
再见~
.
.
.
如果有发现别人乱说他们的产品可以预防啊 抵抗啊 治疗COVID的 都可以向政府报告:
https://moh.spab.gov.my/eApps/system/index.do
想询问/報告關於产品問題:
https://npra.gov.my/index.php/my/helpdesk-enquiry-complaints-2.html
.
.
.
🔹Instagram:
lyhuylau
https://www.instagram.com/lyhuylau/
🔹Ly Huy The Pharmacist 藥劑師不只是會派藥
https://www.youtube.com/channel/UC3nnyBdOxpnDLcTWsYk86Vw
chlorine gas 在 Facts About Chlorine - CDC Emergency Preparedness 的相關結果
Chlorine is an element used in industry and found in some household products. · Chlorine is sometimes in the form of a poisonous gas. · Chlorine gas can be ... ... <看更多>
chlorine gas 在 Chlorine Gas Toxicity - StatPearls - NCBI Bookshelf 的相關結果
Gaseous chlorine is poisonous and classified as a pulmonary irritant. It has intermediate water solubility with the capability of causing acute ... ... <看更多>
chlorine gas 在 Chlorine - Wikipedia 的相關結果
Chlorine is a yellow-green gas at room temperature. It is an extremely reactive element and a strong oxidising agent: among the elements, it has the highest ... ... <看更多>