Encyclopédie หนังสือที่อ่านแล้ว มีโทษถึงประหารชีวิต /โดย ลงทุนแมน
“นายไม่อ่านหนังสือ นายจะรู้อะไร”
คำพูดของศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี คงเป็นที่จดจำของใครหลายคน
แต่ถ้าย้อนกลับไปในประเทศฝรั่งเศสในปี 1749
การอ่านหนังสือบางเล่มกลับกลายเป็นสิ่งต้องห้าม
สมัยนั้น มีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า Encyclopédie, ou dictionnaire raisonné des sciences, des arts et des métiers ได้ถูกตีพิมพ์ให้คนทั่วไปมีโอกาสเข้าถึงจนก่อให้เกิดการพัฒนาทั้งทักษะและความคิดครั้งใหญ่
แต่ Encyclopédie กลับถูกสั่งแบนทั้งห้ามอ่าน ห้ามจัดจำหน่าย และห้ามครอบครอง
ซึ่งโทษสูงสุดของผู้ที่ฝ่าฝืนคือ “การประหารชีวิต”
แล้วทำไมการอ่านหนังสือเล่มนี้ ถึงมีโทษร้ายแรง
และหนังสือมีบทบาทสำคัญต่อโลกอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้นเรื่องราวทั้งหมดนี้ เกิดขึ้น ณ ประเทศฝรั่งเศสในปี 1745
เมื่อ André Le Breton เจ้าของสำนักพิมพ์สนใจนำหนังสือเล่มหนึ่ง
ที่ชื่อว่า Cyclopædia: or, An Universal Dictionary of Arts and Sciences
มาแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาฝรั่งเศสเพื่อวางจำหน่ายในประเทศ
โดยหนังสือเล่มนี้เป็นสารานุกรมรวบรวมบทความเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และศิลปะ
เขาจึงได้จ้างนักเขียนที่ชื่อว่า Denis Diderot มาทำหน้าที่ในการแปลหนังสือ
ร่วมมือกับนักคณิตศาสตร์ชื่อว่า Jean Le Rond d'Alembert
ต้องบอกว่าช่วงเวลานั้น รัฐมักปิดกั้นความรู้และความคิดของชนชั้นล่าง
ขณะเดียวกันกลับส่งเสริมบารมีของชนชั้นสูง เช่น สถาบันกษัตริย์ ขุนนาง และเหล่านักบวช
ทำให้หนังสือส่วนใหญ่เน้นเรื่องราวเกี่ยวกับชนชั้นสูงมากกว่า
และไม่ค่อยมีหนังสือที่มีเนื้อหาที่มีประโยชน์แก่กลุ่มคนชนชั้นล่างมากนัก
แต่ด้วยความที่ผู้แปลหรือ Denis Diderot เป็นชายที่มีหัวขบถและชอบตั้งคำถาม
ทำให้ในเวลาต่อมาเขาเกิดตั้งคำถามกับตัวเองว่า
ทำไมจะต้องทำแค่แปลหนังสือ
ทำไมพวกเราไม่สร้างหนังสือขึ้นเอง
หนังสือที่จะทำให้ผู้คนเกิดความรู้และวิธีคิดครั้งใหญ่ขึ้นมา ?
หลังจากเกิดคำถามขึ้นในใจ
Denis Diderot ก็ได้เริ่มเกลี้ยกล่อม Jean Le Rond d'Alembert นักคณิตศาสตร์ที่มาช่วยแปลหนังสือให้เห็นด้วยกับโปรเจกต์ใหม่ของเขาและในที่สุดโปรเจกต์ระดับมหากาฬนี้ก็ได้กำเนิดขึ้น
โดยเป็นการสร้างสารานุกรมที่รวบรวมข้อมูลหลาย ๆ ศาสตร์เข้าด้วยกัน
มีทั้งศาสตร์ด้านศิลปะ วิทยาศาสตร์ และงานฝีมือ ที่มีประโยชน์แก่ผู้คน
รวมถึงแอบแฝงวิธีคิดอย่างมีเหตุมีผล และการตั้งคำถามกับสิ่งต่าง ๆ อยู่เสมอ
แต่ทั้งคู่คิดว่าการมีผู้เขียนแค่ 2 คนคงไม่สามารถเขียนได้ครบจบทุกเรื่อง
เพราะภาระหนักเกินไปและแต่ละคนก็ใช่ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในทุกด้าน
พวกเขาจึงคัดเลือกและรวบรวมผู้เชี่ยวชาญในแต่ละศาสตร์
เพื่อมาเผยเคล็ดลับและความรู้ของตนให้ผู้คนได้รับรู้
ซึ่งโปรเจกต์นี้เองมีผู้เชี่ยวชาญมาให้ความร่วมมือถึง 150 คนเลยทีเดียว
และส่วนใหญ่เป็นตัวท็อปของแต่ละวงการนั้น ๆ อีกด้วย เช่น
Claude Bourgelat สัตวแพทย์ชื่อดังของฝรั่งเศส
Chevalier Louis de Jaucourt ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤกษศาสตร์
Voltaire นักปรัชญาที่มีชื่อเสียงด้านความเฉลียวฉลาด
ระหว่างทำโปรเจกต์นี้เอง Denis ก็ได้แยกตัวออกมาเขียนหนังสือของตัวเองเพิ่ม
อย่าง Philosophical Thoughts, The Skeptic's Walk และ Letter on the Blind
โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการไม่เชื่อในพระเจ้าหรือศาสนาคริสต์ รวมถึงมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก
ทำให้ Denis Diderot ถูกรัฐลงโทษจำคุกในที่สุด แต่เวลาต่อมาเขาก็ถูกปล่อยตัว
โดยเขาสัญญาว่าจะไม่กลับมาเขียนเรื่องแนวนี้อีก
แต่สัญญาก็ไม่ได้เป็นไปตามสัญญา
เพราะแทนที่เขาจะหยุด เขากลับไม่ได้เพียงแค่หันมาเขียนหนังสือเช่นเดิม
แต่กลับสร้างหนังสือที่กำลังจะสร้างผลกระทบครั้งใหญ่
โดยตัวเขาได้เขียนเกี่ยวกับการวิพากษ์วิจารณ์ชนชั้นสูงเหมือนเดิม
แต่ทำให้กลมกลืนไปกับเนื้อหาเรื่องอื่น ๆ ด้วยการแฝงใจความสำคัญเข้าไป
ซึ่งหลังจากตีพิมพ์หนังสือออกมา หนังสือของเขาก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า
และได้รับการตอบรับที่ดีจากชนชั้นล่าง ซึ่งเป็นกลุ่มประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ
สำหรับเนื้อหาในหนังสือเป็นเรื่องที่ผู้คนเข้าถึงได้ง่าย สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง ซึ่งเป็นเกร็ดความรู้ของแต่ละสายอาชีพ
เช่น ความรู้เกี่ยวกับพืชผัก ลักษณะ การปลูกและเลี้ยงดู
การก่อสร้างอาคาร การผลิตสิ่งทอ การผลิตเครื่องปั้นดินเผา
และอื่น ๆ อีกมากมายที่ส่งผลต่อปากท้องของผู้คน
ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ เพราะเวลานั้นผู้คนจะไม่ค่อยแบ่งปันเคล็ดลับให้คนอื่น
และแม้ว่าจะมีการแบ่งปันความรู้อยู่บ้าง แต่ก็เป็นแค่ระดับคนใกล้ชิด
จึงทำให้หนังสือฉบับนี้เป็นที่ชื่นชอบของผู้คน
เท่านั้นไม่พอ หนังสือยังมอบมุมมองและวิธีตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องราวบนโลกใบนี้ด้วย
อย่างความเชื่อที่ส่งต่อกันมา เราจะสามารถพิสูจน์ได้อย่างไรว่าจริงหรือเท็จ
รวมถึงแต่ละเรื่องมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน เช่น ทำไมชนชั้นตัวเองต้องอยู่อย่างลำบาก ในขณะที่คนอีกกลุ่มอยู่อย่างสุขสบาย
ด้วยการตั้งคำถามแบบนี้ ทำให้ผู้คนเริ่มเกิดวิธีคิดแบบใหม่
แทนที่จะเป็นการเชื่อหรือตัดสินอะไรโดยทันที
มาเป็นการพิจารณาและวิเคราะห์เรื่องราวนั้น ๆ ก่อน
นอกจากนี้สารานุกรมยังยกย่องชนชั้นระดับล่างหรือแรงงาน
ว่าเป็นผู้ที่มีเกียรติและอุตสาหะ เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติ
ไม่ได้เป็นเพียงผู้ต่ำต้อยอย่างที่เข้าใจกัน
ในทางกลับกัน หนังสือก็ได้ตั้งคำถามถึงการมีอยู่ของกลุ่มคนชนชั้นสูงว่ามีความจำเป็นหรือไม่
หรือกลุ่มคนเหล่านี้เป็นตัวส่งเสริมหรือขัดขวางความเจริญของประเทศกันแน่
จากเรื่องราวทั้งหมดที่กล่าวไป ก็ทำให้ผู้คนตระหนักและเข้าใจถึงสถานการณ์ของตนเองมากขึ้น
รวมถึงเริ่มเข้าใจถึงการแบ่งแยกชนชั้น และการถูกเอารัดเอาเปรียบ
ส่งผลให้หลังจากการตีพิมพ์ฉบับที่ 2 ออกมาได้ไม่นาน
พระเจ้าหลุยส์ที่ 15 ได้สั่งห้าม ไม่ให้ประชาชนมีหนังสือไว้ในครอบครอง
เพื่อป้องกันการต่อต้านและตื่นรู้จากกลุ่มชนชั้นล่าง
นอกจากนี้ พระสันตะปาปาเคลมองต์ที่ 13 เองก็มีคำสั่งให้เผาหนังสือทั้งหมด
รวมถึงหนังสือต้นฉบับ โดยให้เหตุผลว่า มันเป็นสิ่งที่เลวร้ายและสร้างกิเลสจนเกินไป
แต่โชคก็ยังเข้าข้าง Denis Diderot อยู่บ้าง
เมื่อหัวหน้าผู้ตรวจที่รับผิดชอบบุกค้นบ้านอยู่ข้างเดียวกับเขา
ช่วยให้เขาสามารถแอบเก็บต้นฉบับได้ทัน และลักลอบออกไปตีพิมพ์นอกประเทศได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตามหลังจากโปรเจกต์สารานุกรมโดนแบน ชีวิตของ Denis Diderot ก็เริ่มแย่ลง
เพื่อนพ้องถอยห่างจากเขา ตัวเขาเองก็ถูกเจ้าหน้าที่คุกคาม
และการงานอาชีพของเขาก็ค่อย ๆ ลดหายลงไป
ด้วยความที่ Denis Diderot เป็นคนที่มุ่งมั่นและแพ้ไม่เป็น
เขาก็ยังคงตั้งตาเขียนบทความออกมาอยู่เรื่อย ๆ รวมกันแล้วประมาณ 7,000 บทความ
แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็ต้องพบเจอกับความผิดหวัง
เมื่อบทความเหล่านั้นถูกเซนเซอร์เนื้อหาหลังจากตีพิมพ์
เพราะสำนักพิมพ์ก็กลัวอำนาจของรัฐเช่นกัน
บั้นปลายชีวิตของ Denis Diderot จึงคิดว่าโปรเจกต์ที่สร้างมาโดยตลอด น่าจะล้มเหลว..
ซึ่งจริง ๆ แล้ว ก็ต้องบอกว่าเขาคิดผิด
เพราะแม้ว่าหลังจากโปรเจกต์นี้จะถูกแบนไป แต่มันก็ได้ทำหน้าที่ไปเรียบร้อยแล้ว
โดยสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น คือคนฝรั่งเศสเริ่มรู้จักใช้ความคิดอย่างมีเหตุมีผล
นอกจากนี้ จากการที่หนังสือถูกแบน ก็เป็นตัวเร่งให้ผู้คนเกิดความสงสัย
และอยากรู้กันมากขึ้นจนผลักดันให้พวกเขาศึกษาและหาความรู้เพิ่ม
จากเรื่องราวทั้งหมดนี้เอง ก็เป็นส่วนสำคัญ
ที่นำไปสู่การปฏิวัติครั้งใหญ่ในฝรั่งเศสเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองในเวลาต่อมา..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.britannica.com/biography/Denis-Diderot
-https://www.youtube.com/watch?v=jv4bWkoG4k8
-https://library.wustl.edu/news/a-revolutionary-encyclopedia/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Encyclop%C3%A9die
-https://en.wikipedia.org/wiki/Denis_Diderot
-https://en.wikipedia.org/wiki/Encyclop%C3%A9distes
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
diderot 在 Yahoo!奇摩新聞 Facebook 的最佳解答
【Yahoo論壇/商周】
有一天,朋友送狄德羅一件精緻的睡袍,然而,他很快就有了讓所有物升級的強烈欲望。他穿著華貴的睡袍在書房走動時,總覺得傢俱不是破舊不堪,就是風格不對。於是,他把原本的地毯換成來自大馬士革的地毯、用昂貴雕像布置家裡,之後又購入一張高級餐桌、扔掉藤椅換上皮椅。他每一次的購物都帶來下一次花費,如同連鎖效應。
狄德羅效應是一種「越得到越不滿足」的心理反應。18世紀的法國哲學家鄧尼斯·狄德羅(Denis Diderot)發現,人在獲得新物品時,往往會帶來連鎖消費反應,而平添額外的購物,東西還沒到手前,心裡很平穩,而一旦得到了,卻不滿足。
#Yblog
diderot 在 虛詞.無形 Facebook 的最讚貼文
周旋法、俄兩大王室、現代百科全書之父、狄德羅是「討人厭」的思想家,李海燕寫其人其事,字裡行間似有所指。
#狄德羅 #思想 #哲學家 #百科全書之父 #懷疑論者
全文:https://bit.ly/2F1wCYv
◤
想閱讀更新更多「虛詞」內容,歡迎先讚好專頁,再將專頁揀選為「搶先看」!
◤ ◤
《無形》於各獨立書店有售,包括(港島)艺鵠ACO、見山書店、銅鑼灣樂文書店、銅鑼灣Desk-one溫室、glue咕嚕館;(九龍)序言書室、油麻地Kubrick、旺角樂文書店、合舍、貳叄書房、旺角Desk-one溫室;(新界)生活書社、荃灣Desk-one溫室;(澳門)邊度有書,售價港幣20元正。
歡迎訂閱,敬請私訊查詢。
◤ ◤ ◤
《無形》及「虛詞」歡迎自由題投稿,稿例:http://www.p-articles.com/contribution
diderot 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的精選貼文
diderot 在 大象中醫 Youtube 的最佳貼文
diderot 在 大象中醫 Youtube 的最佳貼文
diderot 在 Denis Diderot | Biography, Philosophy, Works, Beliefs 的相關結果
Denis Diderot, French man of letters and philosopher who, from 1745 to 1772, served as chief editor of the Encyclopedie, one of the principal works of the ... ... <看更多>
diderot 在 Denis Diderot (1713—1784) - Internet Encyclopedia of ... 的相關結果
Denis Diderot was the most prominent of the French Encyclopedists. He was educated by the Jesuits, and, refusing to enter one of the learned professions, ... ... <看更多>
diderot 在 Denis Diderot - Wikipedia 的相關結果
Denis Diderot was a French philosopher, art critic, and writer, best known for serving as co-founder, chief editor, and contributor to the Encyclopédie ... ... <看更多>