รู้จักเรื่องราวของ Kildall ที่เสียโอกาสทองให้ Bill Gates ไปอย่างน่าเสียดาย /โดย ลงทุนแมน
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “Microsoft Windows” เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล
ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งการตลาด ที่มากถึง 83%
นวัตกรรมดังกล่าว กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้ก่อตั้งบริษัท Microsoft อย่าง “Bill Gates” กลายเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐี ที่รวยที่สุดในโลกมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันเขามีทรัพย์สินมากถึง 4.4 ล้านล้านบาท
โดยจุดเริ่มต้นของ Microsoft Windows เกิดจากการที่บริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่สุดในโลกขณะนั้นอย่าง IBM เริ่มผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหรือ PC และกำลังตามหาบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาระบบปฏิบัติการ ซึ่ง IBM ก็ได้เลือกทำสัญญากับบริษัท Microsoft ที่ในตอนนั้นเพิ่งก่อตั้งมาได้ 5 ปี
แต่รู้หรือไม่ว่านอกจาก Bill Gates แล้ว ยังมีนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์อัจฉริยะอีกคน ที่เกือบได้เป็นผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ให้กับ IBM และอาจจะกลายมาเป็นแบบ Bill Gates ในทุกวันนี้
แล้วเขาคนนั้น คือใคร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
อัจฉริยะที่เกือบได้เป็น Bill Gates คนนั้น มีชื่อว่า “Gary Kildall”
Kildall เกิดในปี 1942 ที่เมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา
แต่เดิม Kildall ตั้งใจว่าเมื่อเรียนจบมาจะเป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์ แต่ระหว่างเรียนระดับปริญญาตรีเขาเริ่มสนใจเรื่องเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ Kildall จึงเรียนต่อจนถึงระดับปริญญาเอกในสาขาวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์
ในปี 1971 ช่วงที่ Kildall กำลังเรียนปริญญาเอก เขาได้ยินมาว่า Intel จะเปิดตัว ไมโครโพรเซสเซอร์ตัวแรกของโลกที่ชื่อว่า “Intel 4004”
ไมโครโพรเซสเซอร์ ก็คือชิปขนาดเล็กที่มีแผงวงจรรวมจำนวนมหาศาล
ซึ่งนวัตกรรมนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คอมพิวเตอร์ ซึ่งแต่เดิมมีขนาดใหญ่ นิยมใช้กันแต่ในองค์กร มีขนาดเล็กลง จนเป็นไมโครคอมพิวเตอร์และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในเวลาต่อมา
ด้วยความที่ Kildall สนใจเรื่องราวของไมโครโพรเซสเซอร์เป็นอย่างมาก เขาจึงตัดสินใจเข้าไปทำงานพาร์ตไทม์เป็นที่ปรึกษาให้กับ Intel ซึ่งหลัก ๆ แล้ว Kildall จะพัฒนาและเขียนโปรแกรมที่ใช้งานร่วมกับไมโครโพรเซสเซอร์ของ Intel ได้
จากจุดเริ่มต้นนี้ Kildall ก็ได้ต่อยอดจนสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์
ที่ชื่อว่า “CP/M” ที่นับว่าเป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์แรกของโลก
โดยก่อนหน้าที่จะมี CP/M คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องบนโลกจะต้องใช้ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาของใครของมัน แต่ Kildall ได้พัฒนา CP/M ให้เป็นระบบปฏิบัติการกลาง ซึ่งสามารถนำไปใช้งานได้กับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่อง
แรงผลักดันในการพัฒนา CP/M และผลงานอื่น ๆ ของ Kildall เกิดขึ้นจากความหลงใหลในคอมพิวเตอร์
เพราะจริง ๆ แล้ว Kildall ไม่เคยสนใจเรื่องธุรกิจเลย แต่ภรรยาของเขาก็ได้โน้มน้าวให้จัดตั้งบริษัทเพื่อจดสิทธิบัตรระบบปฏิบัติการและทำธุรกิจจัดจำหน่ายซอฟต์แวร์ ทั้งคู่เลยร่วมกันก่อตั้งบริษัทที่ชื่อว่า “Digital Research”
ลูกค้าที่เลือกใช้ CP/M ของ Digital Research ก็เช่น IMSAI 8080 ไมโครคอมพิวเตอร์ชื่อดัง ที่เปิดตัวในปี 1975 ซึ่งทำออกมาแข่งกับไมโครคอมพิวเตอร์รุ่นตำนานอย่าง Altair 8800 ของบริษัท MITS
โดย Altair 8800 ที่เปิดตัวมาก่อนหน้านั้น 1 ปี ยังใช้ซอฟต์แวร์ที่เขียนขึ้นมาใช้เฉพาะรุ่น ชื่อว่า BASIC ซึ่งซอฟต์แวร์นี้เองก็เป็นผลิตภัณฑ์แรก ๆ ของบริษัทซอฟต์แวร์น้องใหม่ที่ก่อตั้งโดยชายวัย 20 ปี ที่ชื่อว่า “Bill Gates” ซึ่งเขาได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดแล้วชวนเพื่อนมาตั้งบริษัท “Microsoft”
มาถึงในปี 1976 บริษัท Apple ก็ได้ปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ด้วยการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรุ่นแรก ๆ ของโลกที่ชื่อว่า Apple I ก่อนที่ในปีถัดมาจะประสบความสำเร็จจาก Apple II ซึ่งบริษัท Apple เรียกว่าเป็น Home Computer ที่คนทั่วไปใช้งานได้ที่บ้าน ไม่จำเป็นต้องเป็นโปรแกรมเมอร์
นั่นเลยทำให้ Apple II ได้รับความนิยมสูงมากและสามารถลบคำสบประมาทที่คนมักเถียงกันว่าคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก เป็นเพียงอุปกรณ์สำหรับคนที่คลั่งไคล้ในคอมพิวเตอร์เท่านั้น คนทั่วไปคงไม่สนใจซื้อมาใช้งาน
ความสำเร็จของ Apple ก็ทำให้บริษัทเทคโนโลยีอันดับหนึ่งของโลกในขณะนั้นอย่าง IBM อยากเข้ามาร่วมในตลาดคอมพิวเตอร์สำหรับคนทั่วไปบ้าง
ในปี 1980 IBM จึงได้เริ่มออกแบบคอมพิวเตอร์ซึ่งเรียกว่า Personal Computer หรือ PC แทน Home Computer แบบ Apple เพราะ IBM ไม่ได้มองว่าคอมพิวเตอร์จะต้องใช้แค่ที่บ้าน แต่จะถูกใช้งานให้เกิดประโยชน์ได้มากกว่านั้น อย่างเช่นการนำไปใช้งานตามออฟฟิศ
IBM ต้องการทำให้ PC เริ่มวางขายได้เร็วที่สุด IBM จึงโฟกัสที่การออกแบบฮาร์ดแวร์โดยใช้ชิปของ Intel ส่วนซอฟต์แวร์อย่างระบบปฏิบัติการ ทางบริษัทจะจ้างบริษัทขนาดเล็กพัฒนาแทน โดยหนึ่งในบริษัทที่ IBM ติดต่อไปก็คือ Microsoft ซึ่งในตอนนั้นเพิ่งก่อตั้งมาได้เพียง 5 ปี
IBM เดินทางไปที่ออฟฟิศของ Microsoft ซึ่งเมื่อไปถึง IBM ได้ให้ Gates เซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูล เพราะ IBM ต้องการเก็บเรื่องที่กำลังพัฒนา PC ไว้เป็นความลับ
หลังจากนั้น IBM ก็ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ Gates ฟัง
แต่โชคร้ายที่ตอนนั้น Microsoft ยังไม่ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
Gates จึงได้แนะนำกับ IBM ว่าให้ไปหา Kildall แห่งบริษัท Digital Research ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ไว้แล้ว IBM ตัดสินใจเดินทางไปพบ Kildall ที่ซีแอตเทิลทันที
Gates โทรไปบอก Kildall ว่าจะมีคนสำคัญมากไปพบ ให้ปฏิบัติกับพวกเขาดี ๆ
แต่ Gates เล่ารายละเอียดให้ฟังไม่ได้เพราะติดสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูลกับ IBM
Kildall ไม่รู้เลยว่ากลุ่มคนที่กำลังมาพบเขา จะมาจากบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่สุดในโลก
ซึ่งเขากลับคิดว่าคนที่ Gates เล่าถึงจะเป็นเพียงกลุ่มคนที่มาจากบริษัทขนาดเล็ก
เขาจึงไม่ได้สนใจมากนักและเขาก็ได้ขับเครื่องบินส่วนตัวไปอีกเมือง ซึ่งจนถึงตอนนี้ ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าเขาไปขับเครื่องบินเล่นเพื่อหลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือไปติดต่องานทางธุรกิจกันแน่
นั่นจึงทำให้เมื่อ IBM ไปถึงออฟฟิศบริษัท Digital Research ทีมงานจึงได้เจอแต่เพียงภรรยาของ Kildall ซึ่งก่อนที่ทีมงานจาก IBM จะแนะนำตัวและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการให้ฟัง
ทาง IBM ก็ได้ขอให้ภรรยาของ Kildall เซ็นสัญญาห้ามเปิดเผยข้อมูลก่อนเหมือนกับที่ให้ Gates เซ็น แต่ภรรยาของ Kildall ยังไม่ยอมเซ็นสัญญา
ซึ่งสาเหตุที่เธอไม่ได้เซ็นก็เพราะว่าเธอรู้สึกเหมือนโดนบังคับ
รวมถึงเธอก็อยากรอ Kildall กลับมาพูดคุยเองมากกว่า
ส่วนทาง IBM ก็เริ่มหัวเสียที่เธอไม่ยอมเซ็นสัญญา ทีมงานจาก IBM ก็รอต่อไปไม่ไหว
สุดท้ายแล้ว IBM จึงเดินทางกลับไปโดยยังไม่ทันได้เล่ารายละเอียดเรื่องระบบปฏิบัติการให้ฟัง..
หลังจากนั้น IBM เลยติดต่อไปหา Gates อีกครั้ง
Gates เห็นว่าโปรเจกต์ PC ของ IBM กำลังจะเปลี่ยนตลาดคอมพิวเตอร์ทั่วโลกครั้งใหญ่ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้คอมพิวเตอร์ของเราให้มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายมากขึ้นแบบก้าวกระโดด
Gates เลยบอก IBM ไปว่า Microsoft สามารถทำระบบปฏิบัติการให้ได้
ทั้งที่ความจริงแล้ว ในตอนนั้น Microsoft ยังไม่มีอะไรเลย
ทางออกเดียวที่ Microsoft จะมีระบบปฏิบัติการไปเสนอให้ IBM ได้ทันเวลาก็คือ การควานหาผู้ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการไว้แล้วและไปซื้อต่อมา
Microsoft ไปเจอว่ามีโปรแกรมเมอร์ที่ชื่อว่า Tim Paterson ซึ่งทำงานในบริษัทเล็ก ๆ ที่ชื่อ Seattle Computer ได้พัฒนาระบบปฏิบัติการที่ชื่อว่า Q-DOS
หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft จึงเดินทางไปพบ Paterson เพื่อเจรจาขอซื้อ Q-DOS และดึงตัว Paterson มาเพื่อดัดแปลง Q-DOS ให้เป็นระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์เพื่อขายให้ IBM
โดยใช้ชื่อว่า “MS-DOS” โดยที่ Microsoft ไม่รู้ว่า Q-DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ Paterson เลียนแบบและดัดแปลงมาจาก CP/M ของ Kildall
IBM ตกลงซื้อ MS-DOS ของ Microsoft แต่แทนที่ Microsoft จะขายระบบปฏิบัติการแบบครั้งเดียวจบ Gates เสนอกับทาง IBM ว่าให้ Microsoft ได้รับส่วนแบ่งจากทุกเครื่อง PC ที่ทาง IBM ขายได้ ซึ่งเป็นวิธีที่ Gates เคยใช้มาแล้วตอนเขียนซอฟต์แวร์ให้ไมโครคอมพิวเตอร์ Altair 8800
ความนิยมของ PC จาก IBM ก็เป็นไปตามที่ Gates คาด เพราะหลังจากที่ “IBM PC” เปิดตัวในเดือนสิงหาคม ปี 1981 ผ่านไป 2 ปีแรก IBM PC สามารถขายได้กว่า 2 ล้านเครื่อง เกินกว่าที่คาดการณ์เอาไว้เกือบ 10 เท่า
และด้วยความที่ IBM PC มีราคา คิดเป็นเพียง 2 ใน 3 ของ Apple จึงทำให้อุปกรณ์ชิ้นนี้ได้กลายเป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกนำไปใช้กันทั่วไปในสำนักงาน จน IBM สามารถเอาชนะ Apple และกลายมาเป็นผู้ผลิต PC ที่ใหญ่สุดในโลกได้
แต่จุดอ่อนของ IBM PC ก็คือตัวเครื่องไม่มีอะไรซับซ้อนและเลียนแบบได้ง่าย
จึงทำให้ในเวลาต่อมา แบรนด์อื่นอย่างเช่น Compaq และ HP ซึ่งก็เป็นผู้พัฒนาคอมพิวเตอร์เหมือนกันสามารถทำตามได้ ในขณะที่เจ้าของซอฟต์แวร์อย่าง Microsoft ก็ไม่เคยตกลงว่าจะขายระบบปฏิบัติการให้ IBM เจ้าเดียว..
Microsoft เลยสามารถขาย MS-DOS ให้กับคู่แข่งของ IBM ได้ทั้งหมด
ซึ่ง Microsoft ก็ยังใช้วิธีเดิมคือคิดส่วนแบ่งจาก PC ทุกเครื่องที่ขายได้
แต่สุดท้ายแล้ว ของเลียนแบบก็คือของเลียนแบบ
เพราะในภายหลัง MS-DOS ที่ดัดแปลงมาจาก Q-DOS ถูกพบว่าเป็นของที่เลียนแบบมาจาก CP/M ของ Kildall
พอ Kildall รู้ เลยจะฟ้องร้อง IBM และ Microsoft ว่าลอกเลียนแบบผลงาน
IBM ไม่อยากให้เรื่องบานปลาย เลยยอมวางขายระบบปฏิบัติการทั้ง 2 ยี่ห้อไปพร้อมกัน Kildall ดีใจได้เพียงไม่นาน ก็ต้องพบว่าราคาขาย CP/M ของเขา แพงกว่า MS-DOS ถึง 6 เท่า
ของคล้ายกันที่ใช้ทดแทนกันได้ แต่มีราคาต่างกันถึง 6 เท่า แถมคนส่วนใหญ่ได้รู้จักและลองใช้ MS-DOS มาก่อนจึงเริ่มคุ้นเคยและไม่ได้รู้สึกว่าจำเป็นที่ต้องลองอีกยี่ห้อหนึ่ง สุดท้ายแล้ว CP/M จึงหายไปจากตลาด
Microsoft จึงกลายเป็นผู้ชนะไป ซึ่งในเวลาต่อมา MS-DOS ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “Microsoft Windows” ที่ได้เปิดตัวในปี 1983 ก่อนที่จะเริ่มวางขายจริงในปี 1985
หลังจากพลาดโอกาสครั้งสำคัญในชีวิตของ Kildall เขาได้หย่ากับภรรยา และใช้ชีวิตอยู่กับความสิ้นหวัง จนท้ายที่สุด เขาก็ได้จบลงที่กลายเป็นคนติดแอลกอฮอล์ตั้งแต่นั้นมา
ส่วนบริษัท Digital Research ก็ถูกขายให้กับบริษัท Novell ในปี 1991
จนกระทั่งในปี 1994 Kildall ในวัย 52 ปี ก็เสียชีวิตลง จากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในบาร์ ซึ่งเป็นเวลาเพียง 1 ปีก่อนที่ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows 95 จะเปิดตัวและดังระเบิดไปทั่วโลก
ซึ่งก็น่าคิดเหมือนกันว่าหากวันนั้น Kildall ใส่ใจในสิ่งที่ Bill Gates พูดสักนิด
เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกนี้ จะมีเส้นทางที่ต่างจากเดิมมากแค่ไหน
Kildall อาจกลายเป็นมหาเศรษฐีคล้าย Bill Gates
Bill Gates อาจจะไม่ได้โปรเจกต์นั้น และ Windows คงไม่เกิดขึ้น
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม
เส้นทางที่เป็นไปแล้วก็คือ ทุกคนรู้จัก Windows และไม่รู้จัก CP/M..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2004-10-24/the-man-who-could-have-been-bill-gates
-https://www.forbes.com/forbes/1997/0707/6001336a.html?sh=65404ead140e
-https://www.theguardian.com/technology/blog/2004/oct/16/themanwhocou
-https://www.embedded.com/was-dos-copied-from-cp-m/
-https://medium.com/@Harasees_Singh/gary-kildall-the-inventor-of-operating-system-ccae7bb50e46
-https://bookjelly.com/the-tragic-story-of-gary-kildall/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Gary_Kildall
同時也有344部Youtube影片,追蹤數超過15萬的網紅豐富,也在其Youtube影片中提到,主持人:陳鳳馨 來賓:丁學文 主題:一週國際經濟趨勢 📌《經濟學人》The real lessons from 9/11 談 911 二十週年美國外交政策變化 📌《經濟學人》Why nations that fail women fail 談女性問題在全球外交政策的地位 📌《經濟學人》High-wi...
「digital technology」的推薦目錄:
- 關於digital technology 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於digital technology 在 InnoVEX Facebook 的最讚貼文
- 關於digital technology 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於digital technology 在 豐富 Youtube 的最佳貼文
- 關於digital technology 在 數碼捕籠 Youtube 的精選貼文
- 關於digital technology 在 數碼捕籠 Youtube 的最佳解答
- 關於digital technology 在 Digital technology - Home | Facebook 的評價
digital technology 在 InnoVEX Facebook 的最讚貼文
【InnoVEX 2021線上展 每日之星 】📣
一等一科技 ,後疫情居家上班 遠距工作管理專家!⚡
遠距工作趨勢因疫情提前到來! 但各業務性質不同,如何透過網路有效管理? InnoVEX參展商 一等一科技 幫你實現全網路開工!👍 2003年起他們就投入辦公室自動化的軟體發展,至今整合成U-Office Force雲端辦公室! 從前端企業資訊入口站、到後端工作流程與文件管理,每日打卡到工作分配一應具全,讓全網路辦公室不再是夢想! 快來了解!⚡
#tech #technology #cloud #startup #ai #iot #business #trending #ecommerce #Data #CRM #marketing #digital #office #work
digital technology 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
Beryl8 Plus บริษัท Digital Transformation ของคนไทยหนึ่งเดียวในอาเซียนที่ Salesforce บริษัทยักษ์ใหญ่เข้าร่วมลงทุน
Beryl8 Plus x ลงทุนแมน
ทุกวันนี้เทคโนโลยีเข้ามามีส่วนร่วมในแทบทุกแง่มุมของชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนผ่าน Social media แทนการโทรศัพท์ การสั่งซื้อสินค้าผ่าน E-Commerce แทนการไปที่ร้าน การทำธุรกรรมการเงินผ่านทาง Internet Banking แทนการไปธนาคาร และการเรียนผ่าน Video Conference แทนการเจอตัว ไปจนถึงการทำงาน ที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนบนโลก ก็สามารถทำได้ตลอด
เทคโนโลยีอยู่กับเราตลอดเวลาและมีอิทธิพลต่อผู้คนบนโลกที่ทำให้ชีวิตสะดวก และรวดเร็วขึ้น
เช่นเดียวกับในฝั่งของผู้ประกอบการและองค์กรธุรกิจก็จำต้องปรับตัวให้ทันกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป พัฒนาองค์กรไปสู่จุดที่แข็งแกร่งกว่าเดิม รวมไปถึงการปลดล็อกวิธีการทำงานในรูปแบบเดิม สู่การเพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถทางการแข่งขันด้วยเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ระดับโลก
สำหรับวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับผู้เชี่ยวชาญด้าน Digital Transformation อย่าง บมจ. เบริล 8 พลัส หรือ BE8 ผู้ประกอบการไทยในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในการทำ Digital Transformation ให้แก่องค์กรชั้นนำมาแล้วมากมาย
แล้วบริษัทฯ แห่งนี้ทำธุรกิจอะไรบ้าง
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง…
บริษัท เบริล 8 พลัส ก่อตั้งเมื่อปี 2552 ด้วยความเชื่อมั่นว่าเทคโนโลยีจะเป็นพื้นฐานของทุกธุรกิจในอนาคต โดยเป็นบริษัทไทยรายแรก ๆ ที่นำเสนอ Cloud Technology ผ่านการเป็นพันธมิตรกับ Salesforce บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้นำด้าน CRM Software ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดในโลก
บริษัทฯ ให้บริการด้าน Digital Transformation แบบครบวงจรและมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษด้านการบริหารจัดการความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Analytics) และ การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยบริษัทจะทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อวางแผนกลยุทธ์ด้าน Digital รวมถึงการออกแบบและพัฒนาระบบต่าง ๆ ไปจนถึงดูแลการใช้งานจริง เพื่อให้ตอบโจทย์ด้านกลยุทธ์ทางธุรกิจของแต่ละองค์กรลูกค้า
บริษัทเบริล 8 พลัส มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเกือบ 200 คน รองรับลูกค้าองค์กรที่ต้องการทำ Digital Transformation โดยมีซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลกสนับสนุนการให้บริการเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าองค์กร ด้วยประสบการณ์ของทีมผู้บริหารที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องเทคโนโลยี
และ การทำ Digital Transformation ทำให้บริษัทก้าวมา เป็นที่ปรึกษาชั้นนำด้าน Digital Transformation ให้บริการลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ ภายในระยะเวลาเพียง 10 ปี
แล้วกลุ่มลูกค้าทางธุรกิจของ เบริล 8 พลัส มีใครบ้าง
ทำไมถึงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าที่เป็นองค์กรชั้นนำมากมาย
ลูกค้าของเบริล 8 พลัส มีหลากหลายธุรกิจ เช่น สถาบันการเงิน, บริษัทประกัน, บริษัทพลังงาน, บริษัทอสังหาริมทรัพย์, บริษัทค้าปลีก, บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคและบริโภค, บริษัทโลจิสติกส์
โดยให้บริการลูกค้าบริษัทชั้นนำทั้งขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็กกว่า 100 ราย ผ่านกว่า 250 โปรเจกต์ทั้งในและต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม เป็นต้น
การที่บริษัทฯ มีกลุ่มลูกค้าที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่หลายราย สะท้อนถึงศักยภาพการทำงานแบบมืออาชีพด้วยมาตรฐานระดับสากล ที่คู่แข่งลอกเลียนแบบได้ยาก เพราะบริษัทมีทั้งความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีและความเข้าใจในการทำงานของแต่ละอุตสาหกรรม จากการที่บริษัทฯ ได้จับมือกับพันธมิตรที่เป็นซอฟต์แวร์ระดับโลก อย่าง Salesforce บริษัทที่พัฒนา CRM สำหรับธุรกิจ และองค์กร ทำให้บริษัทฯ มีโซลูชันที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับบริการพัฒนาซอฟต์แวร์ ให้แก่ลูกค้า
Salesforce เป็นซอฟต์แวร์ที่บริษัทฯ ชั้นนำหลายแห่งในไทยเลือกใช้บริการ โดยเป็นซอฟต์แวร์ด้านบริหารความสัมพันธ์ของลูกค้า หรือ CRM จากสหรัฐอเมริกา ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดอันดับ 1 ของโลก
ซึ่งเบริล 8 พลัส เป็นพันธมิตรรายแรก ๆ กับ Salesforce ในประเทศไทยและได้รับเลือกเป็นพันธมิตร Summit ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ผ่านการทดสอบทั้งในด้านของความเชี่ยวชาญและความสามารถในการบริหารโครงการให้ประสบความสำเร็จ
นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังเป็นพันธมิตรกับ Tableau แพลตฟอร์มการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบของ Data Visualization ที่เป็นการนำซอฟต์แวร์มาใช้วิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ให้แสดงผลออกมาในรูปแบบภาพ แผนภูมิกราฟ และอื่น ๆ ทำให้องค์กรสามารถเห็น Insight และใช้ข้อมูลในการตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที
รวมถึง Snowflake บริษัท Cloud Data Warehouse ระดับโลก ที่ให้บริการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ โดยเฉพาะข้อมูลที่มีจำนวนมหาศาล กระจายอยู่หลายแหล่ง และยังมีระบบการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ไว้คอยให้บริการอีกด้วย
MuleSoft ผู้นำด้าน Integration Platform ที่ให้บริการนำระบบ แอปพลิเคชัน และฐานข้อมูลต่าง ๆ มาเชื่อมต่อถึงกันแบบไร้รอยต่อ ทำให้สามารถหยิบนำเครื่องมือทางเทคโนโลยีมาสร้างประสบการณ์และบริการใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล
และยังมีอีกหลายแพลตฟอร์มชั้นนำระดับอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ เบริล 8 พลัส พร้อมให้บริการ อาทิ Google Workspace ที่เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยให้การทำงานร่วมกันในองค์กรเกิดความต่อเนื่อง
นอกจากนี้ เบริล 8 พลัส ยังพัฒนานวัตกรรมด้านซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันขึ้นเองเพื่อต่อยอดการให้บริการแก่ลูกค้า
เช่น ซอฟต์แวร์ BE8 Loyalty Management รองรับการสะสมคะแนนเพื่อทำโปรแกรม CRM, ซอฟต์แวร์ BE8 Corporate Banking Solution สำหรับธนาคารเพื่อใช้บริหารความสัมพันธ์กับลูกค้านิติบุคคล,โปรแกรม Omni Channel Package สามารถรวมการทำงานของตัวแทนบริการลูกค้าในพื้นที่การทำงานทั้งหมดไว้ในคอนโซลเดียว
สำหรับรายได้ของ เบริล 8 พลัส มาจากการให้คำปรึกษา ให้บริการด้านซอฟต์แวร์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายและที่พัฒนาขึ้นเอง รวมถึงการดูแลระบบและบริการหลังการขายต่าง ๆ ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ จะมีรายได้ทั้งจากการทำโครงการและรายได้ต่อเนื่อง (Recurring Revenues) จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายสิทธิ์การใช้ซอฟต์แวร์และบริการสนับสนุน เช่น ดูแลหลังการขาย แก้ไขปัญหาด้านเทคโนโลยี จัดหาบุคลากรด้านไอที เป็นต้น
เบริล 8 พลัสยังมีโอกาสเติบโตไปอย่างก้าวกระโดด เพราะมีกลุ่มนักลงทุนที่มีชื่อเสียง อย่าง Salesforce Ventures เข้าร่วมลงทุน ซึ่ง Salesforce Ventures เป็นบริษัทด้านการลงทุนของ Salesforce ที่เลือกลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพชั้นนำทั่วโลกมากมาย การร่วมลงทุนของ Salesforce Ventures จะทำให้เบริล 8 พลัส มีช่องทางการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ ของทั้ง Salesforce เองและบริษัทเทคโนโลยีในเครืออีกกว่า 400 บริษัททั่วโลก รวมทั้งจะช่วยสนับสนุนให้บริษัทขยายธุรกิจและการทำ Digital Transformation ในภูมิภาคได้อย่างแข็งแกร่ง
ที่น่าสนใจคือ เบริล 8 พลัส เป็นบริษัทคนไทยที่เข้าไปปักธงขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน โดยขยายธุรกิจจัดตั้งสำนักงานในเวียดนามเมื่อปี 2562 นับเป็นอีกก้าวหนึ่งของบริษัทไทยที่สามารถนำธงไทยไปโบกสะบัดในระดับภูมิภาค
ทั้งหมดนี้น่าจะทำให้เห็นถึงบริการการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของธุรกิจลูกค้าหรือการดิสรัปชันตัวเองด้วย Digital Transformation กันมากขึ้น
และทำให้ในวันนี้ เบริล 8 พลัส ก้าวขึ้นเป็นบริษัทชั้นนำด้าน Digital Transformation แบบครบวงจรในประเทศไทย ซึ่งวันนี้ได้ก้าวสู่การขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนเป็นที่เรียบร้อย..
References
-https://www.beryl8.com/th/home
-ข้อมูลจาก Beryl8 FactSheet
-https://www.brandbuffet.in.th/2020/09/depa-forcasts-thai-digital-industries-2022-value-to-reach-8-billion-baht/
- https://today.line.me/th/v2/article/JmVy7y
digital technology 在 豐富 Youtube 的最佳貼文
主持人:陳鳳馨
來賓:丁學文
主題:一週國際經濟趨勢
📌《經濟學人》The real lessons from 9/11 談 911 二十週年美國外交政策變化
📌《經濟學人》Why nations that fail women fail 談女性問題在全球外交政策的地位
📌《經濟學人》High-wire act 談全球經濟政策緊縮的影響
📌《經濟學人》China has become a laboratory for the regulation of digital technology 談中國科技監管的背後考量
節目時間:週一至週五 7:00-9:00am
本集播出日期:2021.09.15
#陳鳳馨 #TheEconomist #一週國際經濟趨勢
🔔 圖片取自:The Economist
https://www.economist.com/weeklyedition/2021-09-11
📣 更多 #財經起床號 專題影音:https://bit.ly/2QvBR55
🔍 馨天地
Apple Podcast:https://apple.co/3uVbXdQ
Google Podcast:https://reurl.cc/O0VrrA
KKBOX:https://bit.ly/3bezcYP
-----
▍九八新聞台@大台北地區 FM98.1
▍官網:http://www.news98.com.tw
▍粉絲團:https://www.facebook.com/News98
▍線上收聽:https://pse.is/R5W29
▍APP下載
• Apple App Store:https://news98.page.link/apps
• Google Play:https://news98.page.link/play
▍YouTube頻道:https://www.youtube.com/user/News98radio
▍Podcast
• Himalaya:https://www.himalaya.com/news98channel
• Apple Podcast:https://goo.gl/Y8dd5F
• SoundCloud:https://soundcloud.com/news98
digital technology 在 數碼捕籠 Youtube 的精選貼文
2021年6月24日
呢一日,作為一個正常有良知嘅人,都唔可能會係一個過得開心嘅一日。
正所謂,開心就要打機;唔開心的話更加要去打機,你當係發洩又好,係逃避又好,係調整一下個心理都好,總之乜都好啦!今晚 21:30 不如入嚟陪 Jack一齊玩《Resident Evil Village》,一來買咗好耐未開好似對唔住自己,二來入嚟Chatroom傾下偈都好吖!
「The best is yet to come.
最好的,尚未來臨。」
一個於YouTube上發布嘅數碼節目,
只要係同數碼有關,我哋就會講!
間唔中會開箱,
就算買唔起都叫玩咗!
記得逢星期三及星期六,傍晚 18:30 收睇喇~!
FB:https://www.facebook.com/digitalcatcher
digital technology 在 數碼捕籠 Youtube 的最佳解答
盛夏的戶外活動最驚當然是電話無電影相,之後就是熱到無心情玩。如果去行山良善的成龍最驚比蚊針到HiHi... Conven 新的5款產品應該就幫到我啦啦啦~~~
購買傳送門 https://www.conven.cc/
一個於YouTube上發布嘅數碼節目,
只要係同數碼有關,我哋就會講!
間唔中會開箱,
就算買唔起都叫玩咗!
記得逢星期三及星期六,傍晚 18:30 收睇喇~!
FB:https://www.facebook.com/digitalcatcher
digital technology 在 Digital technology - Home | Facebook 的推薦與評價
The latest digital product information and mobile phone reviews. Telegram:https://t.me/digitalinfo_cc San Francisco, CA. ... <看更多>