關於 franciscan ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

Route: โคโซโว+มาซิโดเนียเหนือ+แอลเบเนีย+มอนเตเนโกร+โครเอเชีย+สโลวีเนีย+อิตาลี 14 ว้น (13 คืน)/2,250 €
คุณกำหนดวันเดินทางเองได้เลย
# เที่ยวเมือง Prizren เป็นเมืองโบราณแห่งประวัติศาสตร์ของประเทศโคโซโว ที่ยังครบรสชาติแบบฉบับออตโตมัน ในอดีตเคยเป็นเมืองศูนย์กลางแห่งประวัติศาสตร์ของอาณาจักรเซอร์เบียซึ่งอยู่ติดกับมาซีโดเนียเหนือและแอลเบเนีย ประชาชนส่วนใหญ่จะเป็นชาวแอลเบเนียน ตัวเมืองตั้งอยู่บนส่วนลาดชันของภูเขาซาร์ เยี่ยมชมย่านใจกลางเมืองเก่า, มัสยิด Sinan Pasha Mosque สร้างตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 17, สะพานข้ามเเม่น้ำ Bistrica สร้างตามสถาปัตยกรรมแบบชาวออตโตมัน, จัตุรัส Shadërvan, โบสถ์ Church of Our Lady เป็นโบสถ์ไบแซนไทน์ที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง Prizren และได้รับการรับรองว่าเป็น UNESCO World Heritage สมัยที่ถูกออตโตมันปกครอง โบสถ์แห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นสุเหร่า และถูกเปลี่ยนกลับมาเป็นเหมือนเดิมเมื่อออตโตมันได้สลายออกไปในปี ค.ศ. 1912
+ เที่ยวเมือง Prishtina เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศโคโซโว เยี่ยมชมอาคาร Eminjik เป็นบ้านของชาวนาที่รุ่งเรืองในศตวรรษที่ 19, หอสมุดแห่งชาติที่มีชื่อเสียงของเมือง Pristina ตั้งอยู่บนถนน Mother Teresa และมีชื่อเสียงด้านความงดงามของอาคารและของสะสมหนังสือ ห้องสมุดแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นงานศิลปะที่โดดเด่นเนื่องจากมีลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนใคร
+ เที่ยวเมือง Skopje เป็นเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศมาซิโดเนียเหนือ เป็นศูนย์กลางทางการเมือง ทางวัฒนธรรม และทางเศรษฐกิจของประเทศ เคยเป็นเมืองหลวงของเซอร์เบียและบัลแกเรียในอดีต สันนิษฐานว่ามีการตั้งถิ่นฐานที่เมือง Skopje ตั้งแต่ 4,000 ปีก่อนคริสตกาล
+ เที่ยวเมือง Ohrid เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทิศตะวันตกของทะเลสาบ Ohrid ในประเทศมาซิโดเนียเหนือ เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 7 ของประเทศ เคยมีโบสถ์มากถึง 365 แห่ง ได้รับฉายานามว่าเเป็น "เยรูซาเลมแห่งบอลข่าน" เมืองเต็มไปด้วยบ้านและประติมากรรมที่งดงาม มีความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยว และเมือง Ohrid ได้รับเลือกเป็นเมืองมรดกโลกด้านวัฒนธรรมและธรรมชาติจากองค์การ UNESCO เป็นหนึ่งใน 28 แห่งที่ได้รับเลือกเป็นมรดกโลกทั้งด้านวัฒนธรรมและธรรมชาติ
+ เที่ยวชม St. Naum เป็นหนึ่งในผลงานจิตรกรรมทางศาสนาที่สวยงามที่สุดในคาบสมุทรบอลข่าน โบสถ์ดั้งเดิมก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 905 โดยนักบุญศักดิ์สิทธิ์ Sint Naum ในสมัยศตวรรษที่ 9 และ 10 ตั้งอยู่บนริมทะเลสาบ Ohrid ของประเทศมาซิโดเนียเหนือ หลังจากนักบุญท่านนี้เสียชีวิตลง ร่างของท่านได้ถูกฝังอยู่ในโบสถ์แห่งนี้ มีเรื่องเล่าขานกันว่า ถ้าคุณวางหูแนบไว้บนหลุมฝังศพของท่าน คุณจะได้ยินเสียงหัวใจเต้นของท่าน ทะเลสาบ Ohrid และโบสถ์ Saint Naum เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศมาซิโดเนียเหนือ
+ เที่ยวเมือง Tirana เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศแอลเบเนีย อยู่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมืองก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1614 โดย Sulejman Pasha เยี่ยมชมจัตุรัส Skanderbeg Square, หอคอยนาฬิกาซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีอายุมากและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง, สุเหร่า Et’hem Bey Mosque ใช้เวลาก่อสร้างถึง 28 ปีจนสำเร็จเรียบร้อย ซึ่งถือได้ว่าเป็นสุเหร่าที่มีความสวยงามที่สุดในแอลเบเนีย อาคารรัฐสภาของแอลเบเนียตั้งอยู่ในใจกลางของเมืองและโบสถ์วิหารสไตล์ออร์โธดอกซ์
+ เที่ยวเมือง Durrës เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศแอลเบเนีย เป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่และมีความสำคัญที่สุดของแอลเบเนีย ตั้งอยู่บนฝั่งทะเล Adriatic Sea เป็นเมืองท่าที่สำคัญ สร้างขึ้นเมื่อประมาณ 625 ปีก่อนคริสต์ศักราชและได้เปลี่ยนผู้ปกครองหลายทอดจนกระทั่งชาวเซิร์บเข้าปกครองระหว่างปี ค.ศ. 1912-1913 จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรแอลเบเนีย ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ถูกยึดครองโดยอิตาลีและออสเตรีย เยี่ยมชมป้อมปราการเก่าแก่ Durrës, โรงละคร Amfitheater
+ เที่ยวเมือง Podgorica เมืองหลวงของประเทศมอนเตเนโกร ตั้งซึ่งอยู่บนที่ราบระหว่างเทือกเขา Dinaric Alps และทะเลสาบ Lake Scutari เยี่ยมชมอนุสาวรีย์กษัตริย์ Monument of King Nikola, อาคารรัฐสภา Montenegro`s Parliament, ย่านจัตุรัส Trg Republike เป็นจัตุรัสใจกลางเมือง, โบสถ์ The Cathedral of the Resurrection of Christ เป็นโบสถ์ออโทด็อกซ์ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1993 โดยความร่วมมือระหว่างประเทศมอนเตเนโกรและประเทศเซอร์เบีย
+ เที่ยวเมือง Kotor ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทะเลเอเดรียติค เมืองชายฝั่งทะเลแสนสวยอีกเมืองของประเทศมอนเตเนโกร ประเทศซึ่งได้รับการขนานนามว่าไข่มุกแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การ UNESCO เป็นมรดกโลกด้านธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ.1979 เป็นเมืองที่สร้างภายในกำแพงสูง City Wall โดยกำแพงเมืองแห่งนี้สร้างโดยชาวเวนิส อีกทั้งสถาปัตยกรรมในเมืองส่วนใหญ่ยังได้รับอิทธิพลจากชาวเวนิสเช่นกัน เยี่ยมชมโบสถ์ Cathedral of Saint Tryphon ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1166 และเดินเล่นในย่านตัวเมืองเก่า
+ เที่ยวเมือง Budva เมืองโบราณของประเทศมอนเตเนโกร ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเอเดรียติก เป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของประเทศมอนเตเนโกร เมืองเก่าสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 5 เคยเป็นเมืองขึ้นของชาวเวนิสกว่า 400 ปี จึงได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมของชาวเวนิส และในปี ค.ศ.1918 เมือง Budva เคยตกเป็นของประเทศยูโกสลาเวีย เยี่ยมชมเขตเมืองเก่า หรือ Stari Grad, โบสถ์ Church of Saint John
+ เที่ยวเมือง Zagreb เมืองหลวงของโครเอเชีย ศูนย์กลางการปกครอง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศโครเอเชีย ตัวเมืองตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Sava และไหล่เขา Medvednica เยี่ยมชมเมืองเก่า Upper Town และ Lower Town, ตลาดพื้นเมืองเก่าแก่ Dolac Market, โรงละครแห่งชาติในสไตล์นีโอบาร็อค, จัตุรัสกลางเมือง Trg Ban Jelacic Square, อนุสาวรีย์ Ban Josip Jelacic, อาคารรัฐสภา Sabor ที่บอกเล่าถึงความเป็นมาของชนชาติโครแอตที่แยกตัวเองจากยูโกสลาเวียในอดีต, มหาวิหาร St. Stephen's Cathedral สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 800 ปี และปัจจุบันได้บูรณะปฏิสังขรณ์ในสไตล์นีโอ-โกธิค, กำแพงหินโบราณยุคคริสต์ศตวรรษที่ 13, โบสถ์ Church of St. Mark ที่โดดเด่นด้วยหลังคาที่มีการปูกระเบื้องเป็นสีสันลวดลายตราหมากรุกแดงขาวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศโครเอเชีย
+ เที่ยวเมืองมรดกโลก Dubrovnik ได้รับการขึ้นทะเบียนประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO ในปี ค.ศ.1979 เดินชมกำแพงเมืองโบราณคริสต์ศตวรรษที่ 13 ที่มีความยาวประมาณ 1,940 เมตร สูง 25 เมตร เยี่ยมชมจัตุรัสกลางเมืองเก่า, วิหาร Franciscan Monastery, โบสถ์ Fort of St.John, ประตู Pile Gate, นํ้าพุโบราณทรงกลม Onfrio Fountain, เสาหินอัศวิน Orlando Column, หอนาฬิกา Bell Tower และเมืองเก่า Dubrovnik
+ เที่ยวเมือง Zadar เมืองท่าสำคัญของโครเอเชียทางฝั่งทะเล Adriatic Sea เยี่ยมชมประตูเมืองโบราณ Kopnena Vrata, โบสถ์ประจําเมือง The Cathedral of St. Anastasia, โบสถ์ St. Donatus สิ่งก่อสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 9, สถาปัตยกรรมการก่อสร้างเครื่องดนตรี Sea organ โดยอาศัยเกลียวคลื่นที่ซัดเข้ากระทบกับบันไดหินอ่อนและท่อใต้ขั้นบันไดก่อให้เกิดเป็นท่วงทำนองเสียงดนตรี เป็นผลงานการออกแบบของสถาปนิก Nikola Basic
+ เที่ยวเมือง Split เป็นเมืองชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนที่ใหญ่ที่สุดในโครเอเชีย อีกทั้งเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดอีกด้วยนับอายุได้กว่า 1,700 ปี เยี่ยมชมศาลาว่าการเมืองสไตล์เรอเนสซองซ์ สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15 อาคารบ้านเรือนเก่าแก่ต่างๆ และย่าน People Square, มหาวิหาร Cathedral of St. Domnius, พระราชวัง Diocletian Palace เป็นโบราณสถานที่ได้รับความคุ้มครองและขึ้นทะเบียนประกาศเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO ในปี ค.ศ.1979
+ เที่ยวเมือง Bled เมืองตากอากาศเล็กๆ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ Bled ที่งดงามแวดล้อมด้วยธรรมชาติและเทือกเขา Julian Alps Mountain เป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศสโลเวเนีย และได้รับการขนานนามว่าเป็นไข่มุกแห่งเทือกเขาแอลป์ เยี่ยมชมปราสาท Bled Castle เป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดในสโลวีเนีย ตั้งอยู่บนริมผาติดทะเลสาบ สัมผัสทัศนียภาพอันโดดเด่นของเกาะกลางทะเลสาบที่ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีเขียวมรกต บนเกาะเป็นที่ตั้งของโบสถ์ประจำเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ สร้างในศตวรรษที่ 11
+ เที่ยวเมือง Ljubijana เมืองหลวงของประเทศสโลวีเนีย และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสโลวีเนีย เยี่ยมชมร่องรอยของสถาปัตยกรรมโบราณและอิทธิพลของศิลปะสไตล์บาโรก จัตุรัสกลางเมือง, สะพานมังกร, ศาลาวําการเมือง, มหาวิหารเซนต์นิโคลัส, ตลาดสินค้าพื้นเมือง
+ เที่ยวเมืองเวนิส Venice เมืองที่ไม่มีรถยนต์วิ่งผ่าน เมืองเวนิสได้รับสมญานามว่า ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก (Queen of the Adriatic) ล่องเรือสู่เกาะเวนิส, ชมจัตุรัส St Mark's Square ศูนย์กลางของเกาะเวนิส, สะพานถอนหายใจ Ponte Dei Sospiri, โบสถ์ Basilica di San Marco, โบสถ์ Church of San Giorgio Maggiore, หอระฆัง St Mark's Campanile, คลองที่มีชื่อเสียง Grand Canal Venice, สะพานเก่าแก่ Bridge of Sighs
...................................
# ค่าทริปประกอบไปด้วย
(ห้องพักส่วนตัว+ห้องน้ำ)
- ค่าที่พัก Hotel @ประเทศอิตาลี
- ค่าที่พัก Hotel @ประเทศสโลวีเนีย
- ค่าที่พัก Hotel @ประเทศโครเอเชีย
- ค่าที่พัก Hotel @ประเทศมอนเตเนโกร
- ค่าที่พัก Hotel @ประเทศแอลเบเนีย
- ค่าที่พัก Hotel @ประเทศมาซิโดเนียเหนือ
- ค่าที่พัก Hotel @ประเทศโคโซโว
- ค่าเรือเมล์เกาะ Venice
- ค่าเรือล่องทะเลสาบ Ohrid
- ค่ารถไฟความเร็วสูง
- ค่าเดินทางท่องเที่ยวต่างๆ รถไฟ รถแทรม รถเมโทร รถไฟใต้ดิน รถราง รถเมล์ รถบัส
- ค่าฝากกระเป๋าเดินทางไว้ที่สถานีรถไฟในบางวัน
- ค่าพาเที่ยว
- ค่าบริการอื่นๆ
..........................................
หมายเหตุ: ค่าทริปนี้ไม่ได้รวม
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับประเทศไทย
- ค่า Visa เชงเก้นและประกันการเดินทาง
- ค่าอาหาร
.......................................................................
# สมาชิกเริ่มต้น 4 คน ออกท่องเที่ยวได้เลยตามราคาที่แจ้งไว้แล้ว
- ถ้าสมาชิก 3 หรือ 2 คน..เราก็พาคุณเที่ยว..แต่ราคาจะปรับเพิ่มขึ้น
- เรายืนรอรับคุณที่สนามบินต้นทางในยุโรปและพาส่งกลับจากสนามบินปลายทางในยุโรป
- เราทำเอกสารการสำรองที่พักและตารางการเดินทางให้เพื่อใช้ยื่นประกอบคำร้องการขอวีซ่า
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาส่ง message/inbox

( ปล. หรือคุณกำหนดทริปเอง กำหนดประเทศและจำนวนวันตามที่คุณต้องการ จากนั้นเราจะวางแผนโปรแกรมท่องเที่ยวและนำเสนอราคาเพื่อคุณนำไปพิจารณาตัดสินใจกัน / เรารับจ้างจัดทริปพาท่องเที่ยวทั่วทุกประเทศใน Europe & UK )

Route: มาซิโดเนียเหนือ+แอลเบเนีย+มอนเตเนโกร+โครเอเชีย+สโลวีเนีย+อิตาลี+กรีซ 12 ว้น (11 คืน)/2,000 €
คุณกำหนดวันเดินทางเองได้เลย
# เที่ยวเมือง Ohrid เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทิศตะวันตกของทะเลสาบ Ohrid ในประเทศมาซิโดเนียเหนือ เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 7 ของประเทศ เคยมีโบสถ์มากถึง 365 แห่ง ได้รับฉายานามว่าเเป็น "เยรูซาเลมแห่งบอลข่าน" เมืองเต็มไปด้วยบ้านและประติมากรรมที่งดงาม มีความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยว และเมือง Ohrid ได้รับเลือกเป็นเมืองมรดกโลกด้านวัฒนธรรมและธรรมชาติจากองค์การ UNESCO เป็นหนึ่งใน 28 แห่งที่ได้รับเลือกเป็นมรดกโลกทั้งด้านวัฒนธรรมและธรรมชาติ
+ เที่ยวชม St. Naum เป็นหนึ่งในผลงานจิตรกรรมทางศาสนาที่สวยงามที่สุดในคาบสมุทรบอลข่าน โบสถ์ดั้งเดิมก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 905 โดยนักบุญศักดิ์สิทธิ์ Sint Naum ในสมัยศตวรรษที่ 9 และ 10 ตั้งอยู่บนริมทะเลสาบ Ohrid ของประเทศมาซิโดเนียเหนือ หลังจากนักบุญท่านนี้เสียชีวิตลง ร่างของท่านได้ถูกฝังอยู่ในโบสถ์แห่งนี้ มีเรื่องเล่าขานกันว่า ถ้าคุณวางหูแนบไว้บนหลุมฝังศพของท่าน คุณจะได้ยินเสียงหัวใจเต้นของท่าน ทะเลสาบ Ohrid และโบสถ์ Saint Naum เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศมาซิโดเนียเหนือ
+ เที่ยวเมือง Athens เดินชมจัตุรัส Syntagma Square, ที่ตั้งของอาคารรัฐสภาแห่งชาติ, อนุสรณ์ทหารนิรนาม, ลานหน้าทำเนียบประธานาธิบดีซึ่งเดิมเป็นพระราชวังหลวง และชมทหารกรีซแต่งกายชุดโบราณเดินสวนสนาม และชมสนามกีฬาโอลิมปิค Pan Athenaic Olympic ในอดีตชาวกรีซโบราณเคยใช้แข่งกีฬาเมื่อ 400 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ และใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1896
+ เที่ยวชม Acropolis อันยิ่งใหญ่อลังการ เดินชมวิหาร Parthenon วิหารที่สร้างขึ้นเมื่อปี 447- 432 ก่อนปีคริสตกาลเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเทพีอธีนาในฐานะเป็นเทพีผู้พิทักษ์กรุงเอเธนส์ สัมผัสความยิ่งใหญ่ อลังการของวิหารที่สร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง รายล้อมด้วยเสาหินแบบดอริค ด้านหน้า 8 ต้น ด้านข้าง 18 ต้น รองรับมุมจั่วต่างๆได้อย่างกลมกลืน ภายในวิหารมีรูปปั้นเทพีองค์นี้ซึ่งมีความสูงถึง 12 เมตร ทำด้วยงาช้างและแผ่นทอง ส่องแสงเรืองรอง วิหารแห่งนี้ได้ถูกดัดแปลงเป็นโบสถ์คริสต์ศาสนานิกายกรีกออร์โธดอกซ์ในคริสต์ศตวรรษที่ 6 และยังถูกดัดแปลงเป็นสุเหร่าเมื่อครั้งกรีซตกเป็นเมืองขึ้นของอิสลาม ปัจจุบันนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของโลกที่สร้างขึ้นในยุคคลาสสิก (ยุคทองของกรีซ) ที่งดงามและสมบูรณ์ที่สุดในโลกศิลปะ
+ เที่ยวเมืองเก่า Plaka ย่านเก่าแก่ซึ่งตั้งอยู่เชิงเขา Acropolis เคยเป็นย่านที่พบปะของเหล่าบุบผาชนและนักคิดของกรีซในอดีต ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของเหล่าพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์และ Art Gallery มากมาย ถนนซอกซอยของย่านนี้มีขนาดเล็ก ปูด้วยหินก้อนคล้ายในอดีต บรรยากาศโดยรอบย้อนระลึกไปถึงเอเธนส์ในอดีต ที่มีบ้านเรือนหลังเล็กๆปลูกติดกัน มีระเบียงเหล็กดัดสวยงามสไตล์นีโอคลาสิค
+ เที่ยวเมือง Tirana เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศแอลเบเนีย อยู่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมืองก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1614 โดย Sulejman Pasha เยี่ยมชมจัตุรัส Skanderbeg Square, หอคอยนาฬิกาซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีอายุมากและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง, สุเหร่า Et’hem Bey Mosque ใช้เวลาก่อสร้างถึง 28 ปีจนสำเร็จเรียบร้อย ซึ่งถือได้ว่าเป็นสุเหร่าที่มีความสวยงามที่สุดในแอลเบเนีย อาคารรัฐสภาของแอลเบเนียตั้งอยู่ในใจกลางของเมืองและโบสถ์วิหารสไตล์ออร์โธดอกซ์
+ เที่ยวเมือง Shkodër ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศแอลเบเนีย เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่อันยาวนานตั้งแต่ยุคสำริด 2,000 ถึง 3,000 ปีมาจนถึงปัจจุบัน และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่สุดแห่งหนึ่งในคาบสมุทรบอลข่าน รวมทั้งเป็นเมืองศูนย์วัฒนธรรมและเศรษฐกิจที่สำคัญ
+ เที่ยวเมือง Podgorica เมืองหลวงของประเทศมอนเตเนโกร ตั้งซึ่งอยู่บนที่ราบระหว่างเทือกเขา Dinaric Alps และทะเลสาบ Lake Scutari เยี่ยมชมอนุสาวรีย์กษัตริย์ Monument of King Nikola, อาคารรัฐสภา Montenegro`s Parliament, ย่านจัตุรัส Trg Republike เป็นจัตุรัสใจกลางเมือง, โบสถ์ The Cathedral of the Resurrection of Christ เป็นโบสถ์ออโทด็อกซ์ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1993 โดยความร่วมมือระหว่างประเทศมอนเตเนโกรและประเทศเซอร์เบีย
+ เที่ยวเมือง Kotor ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทะเลเอเดรียติค เมืองชายฝั่งทะเลแสนสวยอีกเมืองของประเทศมอนเตเนโกร ประเทศซึ่งได้รับการขนานนามว่าไข่มุกแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การ UNESCO เป็นมรดกโลกด้านธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ.1979 เป็นเมืองที่สร้างภายในกำแพงสูง City Wall โดยกำแพงเมืองแห่งนี้สร้างโดยชาวเวนิส อีกทั้งสถาปัตยกรรมในเมืองส่วนใหญ่ยังได้รับอิทธิพลจากชาวเวนิสเช่นกัน เยี่ยมชมโบสถ์ Cathedral of Saint Tryphon ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1166 และเดินเล่นในย่านตัวเมืองเก่า
+ เที่ยวเมือง Budva เมืองโบราณของประเทศมอนเตเนโกร ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเอเดรียติก เป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของประเทศมอนเตเนโกร เมืองเก่าสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 5 เคยเป็นเมืองขึ้นของชาวเวนิสกว่า 400 ปี จึงได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมของชาวเวนิส และในปี ค.ศ.1918 เมือง Budva เคยตกเป็นของประเทศยูโกสลาเวีย เยี่ยมชมเขตเมืองเก่า หรือ Stari Grad, โบสถ์ Church of Saint John
+ เที่ยวเมือง Zagreb เมืองหลวงของโครเอเชีย ศูนย์กลางการปกครอง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศโครเอเชีย ตัวเมืองตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Sava และไหล่เขา Medvednica เยี่ยมชมเมืองเก่า Upper Town และ Lower Town, ตลาดพื้นเมืองเก่าแก่ Dolac Market, โรงละครแห่งชาติในสไตล์นีโอบาร็อค, จัตุรัสกลางเมือง Trg Ban Jelacic Square, อนุสาวรีย์ Ban Josip Jelacic, อาคารรัฐสภา Sabor ที่บอกเล่าถึงความเป็นมาของชนชาติโครแอตที่แยกตัวเองจากยูโกสลาเวียในอดีต, มหาวิหาร St. Stephen's Cathedral สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 800 ปี และปัจจุบันได้บูรณะปฏิสังขรณ์ในสไตล์นีโอ-โกธิค, กำแพงหินโบราณยุคคริสต์ศตวรรษที่ 13, โบสถ์ Church of St. Mark ที่โดดเด่นด้วยหลังคาที่มีการปูกระเบื้องเป็นสีสันลวดลายตราหมากรุกแดงขาวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศโครเอเชีย
+ เที่ยวเมืองมรดกโลก Dubrovnik ได้รับการขึ้นทะเบียนประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO ในปี ค.ศ.1979 เดินชมกำแพงเมืองโบราณคริสต์ศตวรรษที่ 13 ที่มีความยาวประมาณ 1,940 เมตร สูง 25 เมตร เยี่ยมชมจัตุรัสกลางเมืองเก่า, วิหาร Franciscan Monastery, โบสถ์ Fort of St.John, ประตู Pile Gate, นํ้าพุโบราณทรงกลม Onfrio Fountain, เสาหินอัศวิน Orlando Column, หอนาฬิกา Bell Tower และเมืองเก่า Dubrovnik
+ เที่ยวเมือง Zadar เมืองท่าสำคัญของโครเอเชียทางฝั่งทะเล Adriatic Sea เยี่ยมชมประตูเมืองโบราณ Kopnena Vrata, โบสถ์ประจําเมือง The Cathedral of St. Anastasia, โบสถ์ St. Donatus สิ่งก่อสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 9, สถาปัตยกรรมการก่อสร้างเครื่องดนตรี Sea organ โดยอาศัยเกลียวคลื่นที่ซัดเข้ากระทบกับบันไดหินอ่อนและท่อใต้ขั้นบันไดก่อให้เกิดเป็นท่วงทำนองเสียงดนตรี เป็นผลงานการออกแบบของสถาปนิก Nikola Basic
+ เที่ยวเมือง Split เป็นเมืองชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนที่ใหญ่ที่สุดในโครเอเชีย อีกทั้งเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดอีกด้วยนับอายุได้กว่า 1,700 ปี เยี่ยมชมศาลาว่าการเมืองสไตล์เรอเนสซองซ์ สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15 อาคารบ้านเรือนเก่าแก่ต่างๆ และย่าน People Square, มหาวิหาร Cathedral of St. Domnius, พระราชวัง Diocletian Palace เป็นโบราณสถานที่ได้รับความคุ้มครองและขึ้นทะเบียนประกาศเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO ในปี ค.ศ.1979
+ เที่ยวเมือง Bled เมืองตากอากาศเล็กๆ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ Bled ที่งดงามแวดล้อมด้วยธรรมชาติและเทือกเขา Julian Alps Mountain เป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศสโลเวเนีย และได้รับการขนานนามว่าเป็นไข่มุกแห่งเทือกเขาแอลป์ เยี่ยมชมปราสาท Bled Castle เป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดในสโลวีเนีย ตั้งอยู่บนริมผาติดทะเลสาบ สัมผัสทัศนียภาพอันโดดเด่นของเกาะกลางทะเลสาบที่ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีเขียวมรกต บนเกาะเป็นที่ตั้งของโบสถ์ประจำเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ สร้างในศตวรรษที่ 11
+ เที่ยวเมือง Ljubijana เมืองหลวงของประเทศสโลวีเนีย และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสโลวีเนีย เยี่ยมชมร่องรอยของสถาปัตยกรรมโบราณและอิทธิพลของศิลปะสไตล์บาโรก จัตุรัสกลางเมือง, สะพานมังกร, ศาลาวําการเมือง, มหาวิหารเซนต์นิโคลัส, ตลาดสินค้าพื้นเมือง
+ เที่ยวเมืองเวนิส Venice เมืองที่ไม่มีรถยนต์วิ่งผ่าน เมืองเวนิสได้รับสมญานามว่า ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก (Queen of the Adriatic) ล่องเรือสู่เกาะเวนิส, ชมจัตุรัส St Mark's Square ศูนย์กลางของเกาะเวนิส, สะพานถอนหายใจ Ponte Dei Sospiri, โบสถ์ Basilica di San Marco, โบสถ์ Church of San Giorgio Maggiore, หอระฆัง St Mark's Campanile, คลองที่มีชื่อเสียง Grand Canal Venice, สะพานเก่าแก่ Bridge of Sighs
...................................
# ค่าทริปประกอบไปด้วย
(ห้องพักส่วนตัว+ห้องน้ำ)
- ค่าที่พัก Hotel @ประเทศอิตาลี
- ค่าที่พัก Hotel @ประเทศสโลวีเนีย
- ค่าที่พัก Hotel @ประเทศโครเอเชีย
- ค่าที่พัก Hotel @ประเทศมอนเตเนโกร
- ค่าที่พัก Hotel @ประเทศแอลเบเนีย
- ค่าที่พัก Hotel @ประเทศมาซิโดเนียเหนือ
- ค่าที่พัก Hotel @ประเทศกรีซ
- ค่าบัตรเข้าชม Acropolis
- ค่าเรือเมล์เกาะ Venice
- ค่าเรือล่องทะเลสาบ Ohrid
- ค่ารถไฟความเร็วสูง
- ค่าเดินทางท่องเที่ยวต่างๆ รถไฟ รถแทรม รถเมโทร รถไฟใต้ดิน รถราง รถเมล์ รถบัส
- ค่าฝากกระเป๋าเดินทางไว้ที่สถานีรถไฟในบางวัน
- ค่าพาเที่ยว
- ค่าบริการอื่นๆ
..........................................
หมายเหตุ: ค่าทริปนี้ไม่ได้รวม
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับประเทศไทย
- ค่า Visa เชงเก้นและประกันการเดินทาง
- ค่าอาหาร
.......................................................................
# สมาชิกเริ่มต้น 4 คน ออกท่องเที่ยวได้เลยตามราคาที่แจ้งไว้แล้ว
- ถ้าสมาชิก 3 หรือ 2 คน..เราก็พาคุณเที่ยว..แต่ราคาจะปรับเพิ่มขึ้น
- เรายืนรอรับคุณที่สนามบินต้นทางในยุโรปและพาส่งกลับจากสนามบินปลายทางในยุโรป
- เราทำเอกสารการสำรองที่พักและตารางการเดินทางให้เพื่อใช้ยื่นประกอบคำร้องการขอวีซ่า
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาส่ง message/inbox

( ปล. หรือคุณกำหนดทริปเอง กำหนดประเทศและจำนวนวันตามที่คุณต้องการ จากนั้นเราจะวางแผนโปรแกรมท่องเที่ยวและนำเสนอราคาเพื่อคุณนำไปพิจารณาตัดสินใจกัน / เรารับจ้างจัดทริปพาท่องเที่ยวทั่วทุกประเทศใน Europe & UK )

Route: กรีซ+แอลเบเนีย+มอนเตเนโกร+โครเอเชีย+สโลวีเนีย+อิตาลี 12 ว้น (11 คืน)/1,950 €
คุณกำหนดวันเดินทางเองได้เลย
# เที่ยวเมือง Loannina เป็นเมืองหลวงของแคว้น Epirus และยังเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศกรีซ ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สวยงาม และเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความงดงามของทะเลสาบ Pamvotida เมืองนี้มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันยาวนานอีกด้วย มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างแท้จริงซึ่งผสมผสานทัศนียภาพของภูเขาอันงดงามเข้ากับย่านเก่าแก่ที่มีเสน่ห์ซึ่งเต็มไปด้วยบ้านมุงกระเบื้อง ต้นไม้เขียวขจี และหลักฐานของช่วงเวลาที่คริสเตียน มุสลิม และยิวอยู่ร่วมกันในส่วนนี้ของกรีซ เยี่ยมชมใจกลางเมืองเก่าถูกล้อมรอบด้วยกำแพงเมืองยาว ซึ่งเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง คนท้องถิ่นเรียกที่นี่ว่า "ปราสาท" แม้ว่าจะดูไม่เหมือนปราสาทจริงๆ สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18
+ เที่ยวเมือง Athens เดินชมจัตุรัส Syntagma Square, ที่ตั้งของอาคารรัฐสภาแห่งชาติ, อนุสรณ์ทหารนิรนาม, ลานหน้าทำเนียบประธานาธิบดีซึ่งเดิมเป็นพระราชวังหลวง และชมทหารกรีซแต่งกายชุดโบราณเดินสวนสนาม และชมสนามกีฬาโอลิมปิค Pan Athenaic Olympic ในอดีตชาวกรีซโบราณเคยใช้แข่งกีฬาเมื่อ 400 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ และใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1896
+ เที่ยวชม Acropolis อันยิ่งใหญ่อลังการ เดินชมวิหาร Parthenon วิหารที่สร้างขึ้นเมื่อปี 447- 432 ก่อนปีคริสตกาลเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองเทพีอธีนาในฐานะเป็นเทพีผู้พิทักษ์กรุงเอเธนส์ สัมผัสความยิ่งใหญ่ อลังการของวิหารที่สร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง รายล้อมด้วยเสาหินแบบดอริค ด้านหน้า 8 ต้น ด้านข้าง 18 ต้น รองรับมุมจั่วต่างๆได้อย่างกลมกลืน ภายในวิหารมีรูปปั้นเทพีองค์นี้ซึ่งมีความสูงถึง 12 เมตร ทำด้วยงาช้างและแผ่นทอง ส่องแสงเรืองรอง วิหารแห่งนี้ได้ถูกดัดแปลงเป็นโบสถ์คริสต์ศาสนานิกายกรีกออร์โธดอกซ์ในคริสต์ศตวรรษที่ 6 และยังถูกดัดแปลงเป็นสุเหร่าเมื่อครั้งกรีซตกเป็นเมืองขึ้นของอิสลาม ปัจจุบันนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของโลกที่สร้างขึ้นในยุคคลาสสิก (ยุคทองของกรีซ) ที่งดงามและสมบูรณ์ที่สุดในโลกศิลปะ
+ เที่ยวเมืองเก่า Plaka ย่านเก่าแก่ซึ่งตั้งอยู่เชิงเขา Acropolis เคยเป็นย่านที่พบปะของเหล่าบุบผาชนและนักคิดของกรีซในอดีต ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของเหล่าพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์และ Art Gallery มากมาย ถนนซอกซอยของย่านนี้มีขนาดเล็ก ปูด้วยหินก้อนคล้ายในอดีต บรรยากาศโดยรอบย้อนระลึกไปถึงเอเธนส์ในอดีต ที่มีบ้านเรือนหลังเล็กๆปลูกติดกัน มีระเบียงเหล็กดัดสวยงามสไตล์นีโอคลาสิค
+ เที่ยวเมือง Berat ได้รับฉายานามว่า The City of a Thousand Windows เป็นเมืองเขตปกครองตนเองที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศแอลเบเนีย และเป็นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่อย่างต่อเนื่องเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เขตเมืองเก่าถูกเรียกว่าย่าน Mangal ซึ่งได้รับเลือกเป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การ UNESCO World Heritage ในปี ค.ศ. 2008 เป็นเมืองที่ยังคงอนุรักษ์สภาพบ้านเรือนสมัยออตโตมันไว้ได้เป็นอย่างดี เยี่ยมชม The Castle of Berat
+ เที่ยวเมือง Tirana เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศแอลเบเนีย อยู่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมืองก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1614 โดย Sulejman Pasha เยี่ยมชมจัตุรัส Skanderbeg Square, หอคอยนาฬิกาซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่มีอายุมากและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง, สุเหร่า Et’hem Bey Mosque ใช้เวลาก่อสร้างถึง 28 ปีจนสำเร็จเรียบร้อย ซึ่งถือได้ว่าเป็นสุเหร่าที่มีความสวยงามที่สุดในแอลเบเนีย อาคารรัฐสภาของแอลเบเนียตั้งอยู่ในใจกลางของเมืองและโบสถ์วิหารสไตล์ออร์โธดอกซ์
+ เที่ยวเมือง Shkodër ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศแอลเบเนีย เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่อันยาวนานตั้งแต่ยุคสำริด 2,000 ถึง 3,000 ปีมาจนถึงปัจจุบัน และมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่สุดแห่งหนึ่งในคาบสมุทรบอลข่าน รวมทั้งเป็นเมืองศูนย์วัฒนธรรมและเศรษฐกิจที่สำคัญ
+ เที่ยวเมือง Podgorica เมืองหลวงของประเทศมอนเตเนโกร ตั้งซึ่งอยู่บนที่ราบระหว่างเทือกเขา Dinaric Alps และทะเลสาบ Lake Scutari เยี่ยมชมอนุสาวรีย์กษัตริย์ Monument of King Nikola, อาคารรัฐสภา Montenegro`s Parliament, ย่านจัตุรัส Trg Republike เป็นจัตุรัสใจกลางเมือง, โบสถ์ The Cathedral of the Resurrection of Christ เป็นโบสถ์ออโทด็อกซ์ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1993 โดยความร่วมมือระหว่างประเทศมอนเตเนโกรและประเทศเซอร์เบีย
+ เที่ยวเมือง Kotor ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทะเลเอเดรียติค เมืองชายฝั่งทะเลแสนสวยอีกเมืองของประเทศมอนเตเนโกร ประเทศซึ่งได้รับการขนานนามว่าไข่มุกแห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การ UNESCO เป็นมรดกโลกด้านธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ.1979 เป็นเมืองที่สร้างภายในกำแพงสูง City Wall โดยกำแพงเมืองแห่งนี้สร้างโดยชาวเวนิส อีกทั้งสถาปัตยกรรมในเมืองส่วนใหญ่ยังได้รับอิทธิพลจากชาวเวนิสเช่นกัน เยี่ยมชมโบสถ์ Cathedral of Saint Tryphon ซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1166 และเดินเล่นในย่านตัวเมืองเก่า
+ เที่ยวเมือง Budva เมืองโบราณของประเทศมอนเตเนโกร ตั้งอยู่บนชายฝั่งทะเลเอเดรียติก เป็นเมืองท่องเที่ยวตากอากาศที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของประเทศมอนเตเนโกร เมืองเก่าสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 5 เคยเป็นเมืองขึ้นของชาวเวนิสกว่า 400 ปี จึงได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมของชาวเวนิส และในปี ค.ศ.1918 เมือง Budva เคยตกเป็นของประเทศยูโกสลาเวีย เยี่ยมชมเขตเมืองเก่า หรือ Stari Grad, โบสถ์ Church of Saint John
+ เที่ยวเมือง Zagreb เมืองหลวงของโครเอเชีย ศูนย์กลางการปกครอง เศรษฐกิจและวัฒนธรรมของประเทศโครเอเชีย ตัวเมืองตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ Sava และไหล่เขา Medvednica เยี่ยมชมเมืองเก่า Upper Town และ Lower Town, ตลาดพื้นเมืองเก่าแก่ Dolac Market, โรงละครแห่งชาติในสไตล์นีโอบาร็อค, จัตุรัสกลางเมือง Trg Ban Jelacic Square, อนุสาวรีย์ Ban Josip Jelacic, อาคารรัฐสภา Sabor ที่บอกเล่าถึงความเป็นมาของชนชาติโครแอตที่แยกตัวเองจากยูโกสลาเวียในอดีต, มหาวิหาร St. Stephen's Cathedral สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 800 ปี และปัจจุบันได้บูรณะปฏิสังขรณ์ในสไตล์นีโอ-โกธิค, กำแพงหินโบราณยุคคริสต์ศตวรรษที่ 13, โบสถ์ Church of St. Mark ที่โดดเด่นด้วยหลังคาที่มีการปูกระเบื้องเป็นสีสันลวดลายตราหมากรุกแดงขาวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศโครเอเชีย
+ เที่ยวเมืองมรดกโลก Dubrovnik ได้รับการขึ้นทะเบียนประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO ในปี ค.ศ.1979 เดินชมกำแพงเมืองโบราณคริสต์ศตวรรษที่ 13 ที่มีความยาวประมาณ 1,940 เมตร สูง 25 เมตร เยี่ยมชมจัตุรัสกลางเมืองเก่า, วิหาร Franciscan Monastery, โบสถ์ Fort of St.John, ประตู Pile Gate, นํ้าพุโบราณทรงกลม Onfrio Fountain, เสาหินอัศวิน Orlando Column, หอนาฬิกา Bell Tower และเมืองเก่า Dubrovnik
+ เที่ยวเมือง Zadar เมืองท่าสำคัญของโครเอเชียทางฝั่งทะเล Adriatic Sea เยี่ยมชมประตูเมืองโบราณ Kopnena Vrata, โบสถ์ประจําเมือง The Cathedral of St. Anastasia, โบสถ์ St. Donatus สิ่งก่อสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 9, สถาปัตยกรรมการก่อสร้างเครื่องดนตรี Sea organ โดยอาศัยเกลียวคลื่นที่ซัดเข้ากระทบกับบันไดหินอ่อนและท่อใต้ขั้นบันไดก่อให้เกิดเป็นท่วงทำนองเสียงดนตรี เป็นผลงานการออกแบบของสถาปนิก Nikola Basic
+ เที่ยวเมือง Split เป็นเมืองชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนที่ใหญ่ที่สุดในโครเอเชีย อีกทั้งเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดอีกด้วยนับอายุได้กว่า 1,700 ปี เยี่ยมชมศาลาว่าการเมืองสไตล์เรอเนสซองซ์ สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15 อาคารบ้านเรือนเก่าแก่ต่างๆ และย่าน People Square, มหาวิหาร Cathedral of St. Domnius, พระราชวัง Diocletian Palace เป็นโบราณสถานที่ได้รับความคุ้มครองและขึ้นทะเบียนประกาศเป็นมรดกโลกโดยองค์การ UNESCO ในปี ค.ศ.1979
+ เที่ยวเมือง Bled เมืองตากอากาศเล็กๆ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ Bled ที่งดงามแวดล้อมด้วยธรรมชาติและเทือกเขา Julian Alps Mountain เป็นทะเลสาบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประเทศสโลเวเนีย และได้รับการขนานนามว่าเป็นไข่มุกแห่งเทือกเขาแอลป์ เยี่ยมชมปราสาท Bled Castle เป็นปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดในสโลวีเนีย ตั้งอยู่บนริมผาติดทะเลสาบ สัมผัสทัศนียภาพอันโดดเด่นของเกาะกลางทะเลสาบที่ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลสีเขียวมรกต บนเกาะเป็นที่ตั้งของโบสถ์ประจำเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ สร้างในศตวรรษที่ 11
+ เที่ยวเมือง Ljubijana เมืองหลวงของประเทศสโลวีเนีย และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสโลวีเนีย เยี่ยมชมร่องรอยของสถาปัตยกรรมโบราณและอิทธิพลของศิลปะสไตล์บาโรก จัตุรัสกลางเมือง, สะพานมังกร, ศาลาวําการเมือง, มหาวิหารเซนต์นิโคลัส, ตลาดสินค้าพื้นเมือง
+ เที่ยวเมืองเวนิส Venice เมืองที่ไม่มีรถยนต์วิ่งผ่าน เมืองเวนิสได้รับสมญานามว่า ราชินีแห่งทะเลเอเดรียติก (Queen of the Adriatic) ล่องเรือสู่เกาะเวนิส, ชมจัตุรัส St Mark's Square ศูนย์กลางของเกาะเวนิส, สะพานถอนหายใจ Ponte Dei Sospiri, โบสถ์ Basilica di San Marco, โบสถ์ Church of San Giorgio Maggiore, หอระฆัง St Mark's Campanile, คลองที่มีชื่อเสียง Grand Canal Venice, สะพานเก่าแก่ Bridge of Sighs
...................................
# ค่าทริปประกอบไปด้วย
(ห้องพักส่วนตัว+ห้องน้ำ)
- ค่าที่พัก Hotel @ประเทศอิตาลี
- ค่าที่พัก Hotel @ประเทศสโลวีเนีย
- ค่าที่พัก Hotel @ประเทศโครเอเชีย
- ค่าที่พัก Hotel @ประเทศมอนเตเนโกร
- ค่าที่พัก Hotel @ประเทศแอลเบเนีย
- ค่าที่พัก Hotel @ประเทศกรีซ
- ค่าบัตรเข้าชม Acropolis
- ค่าเรือเมล์เกาะ Venice
- ค่ารถไฟความเร็วสูง
- ค่าเดินทางท่องเที่ยวต่างๆ รถไฟ รถแทรม รถเมโทร รถไฟใต้ดิน รถราง รถเมล์ รถบัส
- ค่าฝากกระเป๋าเดินทางไว้ที่สถานีรถไฟในบางวัน
- ค่าพาเที่ยว
- ค่าบริการอื่นๆ
..........................................
หมายเหตุ: ค่าทริปนี้ไม่ได้รวม
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับประเทศไทย
- ค่า Visa เชงเก้นและประกันการเดินทาง
- ค่าอาหาร
.......................................................................
# สมาชิกเริ่มต้น 4 คน ออกท่องเที่ยวได้เลยตามราคาที่แจ้งไว้แล้ว
- ถ้าสมาชิก 3 หรือ 2 คน..เราก็พาคุณเที่ยว..แต่ราคาจะปรับเพิ่มขึ้น
- เรายืนรอรับคุณที่สนามบินต้นทางในยุโรปและพาส่งกลับจากสนามบินปลายทางในยุโรป
- เราทำเอกสารการสำรองที่พักและตารางการเดินทางให้เพื่อใช้ยื่นประกอบคำร้องการขอวีซ่า
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาส่ง message/inbox

( ปล. หรือคุณกำหนดทริปเอง กำหนดประเทศและจำนวนวันตามที่คุณต้องการ จากนั้นเราจะวางแผนโปรแกรมท่องเที่ยวและนำเสนอราคาเพื่อคุณนำไปพิจารณาตัดสินใจกัน / เรารับจ้างจัดทริปพาท่องเที่ยวทั่วทุกประเทศใน Europe & UK )

這次的影片要帶大家來到，杜布羅尼克（Dubrovnik），古稱拉古薩（Ragusa），「亞得里亞海的明珠」這個美譽，杜布羅夫尼克實至名歸。這座美麗的城市位於克羅埃西亞南海岸，是地中海最受歡迎的旅遊目的地之一。這裡以豐富的歷史文化底蘊、迷人的中世紀建築以及如畫的風景聞名。老城區已被列為聯合國教科文組織世界遺產，並充滿了如杜布羅夫尼克古城牆和總督宮等知名歷史景點。近年來，杜布羅夫尼克因熱門影集《權力遊戲》君臨城（King’s Landing）主要在此取景而爆紅。

而另外最受歡迎的行程便是沿著老城區的古城牆散步。杜布羅夫尼克古城牆是巨大高聳的白石灰岩城牆，在12世紀至17世紀持續建造、增建鞏固，被公認為中世紀最偉大的防禦工事，在此期間從未被擊垮過。城牆的某些部分甚至可達到25公尺高，6公尺厚。從杜布羅夫尼克老城區的三個入口走上杜布羅夫尼克古城牆，需要支付HRK 200（約TWD 900）的入場費，大多數人需要大約一到兩個小時才能走完城牆一圈。強烈推薦你放慢腳步，盡情漫步城牆一面波光粼粼的亞得里亞海岸，以及另一面壯觀的歷史名城，感受這接近天堂的美景。

不曉得還有沒有機會再來到這個美麗的城市呢！～～

拍攝器材：
相機-GOPRO6

#君臨城 #權力遊戲 #Dubrovnik

杜布羅尼克亞德里亞海上珍珠｜克羅埃西亞之旅｜權力遊戲拍攝場景【葳葳愛旅遊】

2018年4月，我們來到了位於歐洲的克羅埃西亞旅遊，由於飛機沒有直達克羅埃西亞，所以是在奧地利首都維也納下機，之後再搭乘巴士一路往克羅埃西亞方向前進，中途必須經過斯洛維尼亞，所以首都盧比安納（利比安納）也是景點之一，雖然是首都，但其實是個人口約30萬左右的小城市，但我們卻認為他的環境非常適合居住呢！除此之外，也有幾個景點非常有趣，包括屠夫橋、盧比安納市場、粉色系的聖芳濟教堂、盧比安納城堡、龍橋等等...都是非常值得一看的，未來有機會也很適合開著露營車來趟歐州之旅～～

PS.當時的我們還沒有開始經營頻道，純粹只是想記錄生活，更別提當時的攝影技巧了....自己現在看了之後，還會想我當時到底在拍什麼？😅所以大家別太訝異喔～！

拍攝器材：
相機-SONY a6400、Insta360、GOPRO6、IPhone11
鏡頭-SONY 16-50mm
麥克風-RODE VMICRO全向性機頂麥克風
穩定器：DJI RONIN-SC

#盧比安納 #斯洛維尼亞 #克羅埃西亞

克羅埃西亞10日遊｜斯洛維尼雅首都盧比安納｜小巧精美宜居城市【葳葳愛旅遊】

節錄自"聖經考古"網站:
苦路的來歷可追溯至主後14世紀，由聖方濟會修士Franciscan 為當時的朝聖者設計的。在1335年，聖方濟會成了聖地的管理者。他們的責任有兩方面：
1. 在耶路撒冷聖墓堂和伯利恆的主誕堂定時舉行拉丁文的崇拜；
2. 照顧歐洲而來的朝聖者，特別是發生衝突時，他們是朝聖者和本地權貴的中間人；另一方面，聖地的導遊。
在14世紀時，朝聖者通常會留在耶路撒冷10-14天，他們會遊覽各地點。有見及此，聖方濟會漸漸發展出一套朝聖路程，繞圈子的參觀耶路撒冷多個地點。行程編排方便之餘，又要有系統，加上不同的傳說，行程增加了不少權威性。其中一個傳說，提到馬利亞在晚年時，會沿著這路程，查訪有關她兒子耶穌在耶路撒冷的事蹟。這些的傳說，更使當時的朝聖者難以批判。
當時的苦路，路程是這樣的：
1. 從錫安山的聖方濟修道院開始
2. 先看當時在城西的該亞法院和亞拿院
3. 途中經過聖墓堂，之後往東出城，攀登橄欖山
4. 從橄欖山下山，走到南面的西羅亞池
5. 從西羅亞池再攀上西山，回到錫安山的起點
6. 這個繞圈的路程上，加上聖經的經文和事蹟，幫助朝聖者的屬靈經歷。
現在的Via Dolorosa是中世紀朝聖路之其中一段，當朝聖者離開聖墓堂之後，他們會向東行，路上有不同有關耶穌事蹟的站，例如：耶穌跌倒的石板、審判之門Judgment Gate，在那裡耶穌被判死刑被帶到城外的各各他(這門尤其重要，因為要表明主是死在城外; 希 13:12 )，士兵給耶穌酸酒的蘆葦(可 15:36 )，聖維羅妮卡之家 ，財主之家(路 16:19 -31)，古利奈人西門為耶穌背十架的路口(可 15:21 )；耶穌遇見耶路撒冷女子的地點(路 23:27 -31)；當馬利亞追上去見耶穌時跌倒的石級；耶穌被判罪的拱門；馬利亞小時候的學校；彼拉多之院(可15:1)；希律安提帕之院(路23:6-12)；法利賽人西門的家，那裡是抹大拉馬利亞被赦免(路 7:36 -50)；聖殿美門(徒3:2)；主的聖殿(路 2:27 )；安尼之家，傳說馬利亞出生之處；近羊門的畢士大池(約5:2)；最後，出城門到約沙法谷。朝聖者會停在每一個站祈禱和默想。朝聖者對歷史的真實性不大關注，導遊只是講道者，使旅客感到心靈的感動而已。到了15世紀，朝聖者不約而同地感到聖墓堂和彼拉多之家的一段，應具有特別的地位，因為在這段路程上，主為我們的罪慢長的受死，便將這段路倒轉而行，不但更合情理，更使朝聖者可以親自行在十字架的路上。這樣的做法，正式在1530年開始，當時由一位西班牙的聖方濟修士Antonio of Aranda描寫。只是，這段早期的苦路，只在3個站：
1. 耶穌與跌倒的馬利亞相遇
2. 古利奈人西門為耶穌背十字架，而耶穌同時對耶路撒冷女子說話
3. 聖維羅妮卡為主抹汗
當時是奧托曼Ottoman時期，教徒不能太公開表現信仰，朝聖者會分為小組，在不同的站上默禱思想。這種苦路朝聖感動了不少的朝聖者，他們回到歐洲之後，將之發揚光大，使不能到聖地朝聖的信徒也得到幫助，歐洲沒有禁止基督教，所以漸漸苦路加上了不少的創見，站的數目便加多了。到了14世紀，其中一個歐洲版的苦路─比利時的盧萬(Louvain in Belgium)─漸受歡迎，Jan Pascha得了靈感，寫了一本靈修書Spiritual Journey，之後在1563年由Peter Calentyn出版，這書第一次使用Via Crucis「十架路」一詞。接著在1584年，又引發另一位作者Christian van Adrichom寫了一本耶路撒冷地理的書Description of Jerusalem at the Time of Christ，這書被翻譯成各種歐洲語，非常受歡迎，直到19世紀，一直成為耶路撒冷地理的經典。 Pascha和van Adrichom所列出的苦路站，與現今苦路14站相近，但是當時仍對耶路撒冷的苦路朝聖影響不大。 到了17世紀，Pascha和van Adrichom所寫的苦路14站靈修書深受到廣大歐洲基督徒歡迎。但是，當他們來到耶路撒冷時，發現苦路到了Judgment Gate便完畢，便感到失望，因為他們預期苦路的終站是聖墓堂。耶路撒冷當地的聖方濟修士的解釋不被接受，所以某些修士為了迎合朝聖者的希望，便將苦路路線作修改。最後，到了18世紀，聖方濟修士Elzear Horn在1724-1744年間於聖地事奉，他同時又深受van Adrichom的著作影響。他是第一位把van Adrichom苦路放在當時的地圖上。這就是現在的苦路的最早版本，14站的位置與現今的各站位置大約相同，地圖上的圓形數字是18世紀時各站位置，方形數字是今天苦路各站的位置。苦路本身不是以歷史和考古來定義，而是以信仰為本，所以並不符合考古和歷史的資料。但是，它是歷代信徒響往基督經歷的表達，這正是信徒來朝聖的原因，朝聖之時，在默想和祈禱中找到屬靈的真實，正如Murphy-O'Connor一文標題所說，苦路是「信心的地理」(geography of faith)。但是，因著聖經考古學的發現，我們現在得到更多的考古資料，可以重新的找出耶穌當日苦路的路線。