สรุปประเด็นจากกองทุนบัวหลวง
เปิดสูตรเฟ้นหา หุ้นอนาคตในอเมริกาเข้าพอร์ตระยะยาว
BBLAM x ลงทุนแมน
อังคารที่ 8 กันยายน ที่ผ่านมา ลงทุนแมนได้ชวนผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ คุณมทินา วัชรวราทร CFA®, Head of Investment Strategy กองทุนบัวหลวง
มาพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นการเฟ้นหาหุ้นอนาคตในอเมริกาเข้าพอร์ตระยะยาว
โดยเริ่มตั้งแต่อัปเดตสถานการณ์ล่าสุดในสหรัฐอเมริกา ที่เริ่มเปิดเผยตัวเลขทางเศรษฐกิจในช่วงเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ไปจนถึงผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ ในไตรมาสที่ 2
ตัวเลขเหล่านี้กำลังส่งสัญญาณอะไร ?
เราจะมีวิธีการปรับพอร์ตการลงทุนอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง..
มาเริ่มต้นกันที่ สรุปภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคของสหรัฐอเมริกา เกิดอะไรบ้างในช่วงที่ผ่านมา ?
ที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกา มีการทำ QE หรือ การซื้อสินทรัพย์ เช่น พันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้ เพื่อให้ระบบมีเงินหมุนเวียนมากขึ้น ทำให้ภาพรวมตลาดหุ้นสามารถดำเนินต่อไปได้
โดยประเด็นหลักที่ตลาดยังคงจับตามองในปีนี้คือ การลดขนาดการเข้าซื้อสินทรัพย์ หรือที่เรียกว่า QE Tapering ซึ่งประธาน FED ออกมาพูดว่า การทำ Tapering จะเริ่มขึ้นในปีนี้ และเป็นการตัดสินใจแยกกันกับ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
หมายความว่า หากเริ่มทำ Tapering ดอกเบี้ยก็ไม่จำเป็นจะต้องปรับขึ้นในทันที
นอกจากนี้ สหรัฐอเมริกาจะยังใช้นโยบายการเงินที่ค่อนข้างผ่อนคลายต่อไป ทำให้ตลาดสหรัฐอเมริกา กลับมาเป็นขาขึ้น และเงินก็จะวิ่งเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยงอีกครั้ง
ซึ่งทางกองทุนบัวหลวงคาดว่า FED จะค่อย ๆ ลดการทำ QE ลงโดยจะใช้เวลาประมาณ 8 เดือน และ FED มีแนวโน้มจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในปี 2024 แต่ก็ยังเป็นอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ
ดังนั้น นโยบายโดยรวม จึงยังเอื้ออำนวยให้การลงทุนในตลาดหุ้นยังให้ผลตอบแทนได้ดีกว่าสินทรัพย์อื่น ๆ ไปอีกสักระยะ
แต่ก็ยังมีปัจจัยหลายอย่างที่อาจทำให้ FED ชะลอการทำ QE Tapering ได้ เช่น ตัวเลขการจ้างงาน ที่ต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ไปมาก
อีกหนึ่งประเด็นที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง คือ เงินเฟ้อ ที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 5.4%
ถึงแม้ว่า ราคา สินค้าโภคภัณฑ์บางตัว ลดลงมาแล้ว เช่น ราคาไม้ ทองแดง แต่ราคาบ้านและค่าเช่าบ้านในสหรัฐอเมริกาที่ยังไม่ลดลงมา ก็อาจทำให้เงินเฟ้อยังคงสูงได้
แล้วโหมดการลงทุนช่วงนี้ต้องปรับ หรือจับสัญญาณต่ออย่างไรดี ?
กองทุนบัวหลวงก็เชื่อว่าในระยะสั้น เงินจะยังไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง และเงินยังอยู่ในหุ้นสหรัฐอเมริกา
โดยในเดือนที่ผ่านมา ผู้จัดการกองทุนหลายรายในสหรัฐอเมริกาเข้าลงทุนกลุ่ม Healthcare มากที่สุด
จากความต้องการหาการลงทุนในเชิงคุณภาพ และหุ้นใหญ่ที่ปลอดภัย และที่ผ่านมากลุ่ม Healthcare ยังถือเป็นกลุ่มที่ Laggard หรือเติบโตได้ช้า เมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น
แต่ถ้าหากดูกลุ่มที่ผู้จัดการกองทุนมีการถือครองมากที่สุด ก็ยังคงเป็นกลุ่มเทคโนโลยี
ถ้าเทียบระหว่างเทคโนโลยีที่เป็น Hypergrowth อย่างเช่น หุ้น Tesla, Roku, Shopify กับ ดัชนี Nasdaq ที่ เป็นหุ้นเทคโนโลยีใหญ่ ๆ เช่น Microsoft, Facebook, Amazon ก็จะเห็นว่าในภาพรวม เงินไหลออกจากกลุ่ม Hypergrowth มาเข้าฝั่ง Nasdaq
ซึ่งปริมาณเงินส่วนที่ไหลเข้ามาในตลาด Nasdaq ยังอยู่ที่ประมาณค่าเฉลี่ย ซึ่งหมายความว่า ไม่น่าเกิดฟองสบู่หุ้นเทคโนโลยี อย่างที่หลายคนกังวล
โดย Nasdaq ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีเพิ่มมา 18% ประกอบกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ยังมีผลกำไรที่ยังเติบโตต่อเนื่อง
กองทุนบัวหลวงมองว่า หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีได้ต่อไป แต่อาจต้องใช้วิธี Active Management หรือการบริหารพอร์ตเชิงรุก เพื่อหาบริษัทที่มูลค่ายังไม่สูงเกินไป
นอกจากนั้น กองทุนบัวหลวงยังมองว่าในสามเดือนสุดท้ายของปีนี้ เงินจะยังอยู่ในฝั่งตลาดพัฒนาแล้ว เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น เนื่องจากมีความสามารถในการบริหารจัดการโควิด 19 ได้ดี และมีอัตราการฉีดวัคซีนสูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เศรษฐกิจกลับคืนสู่ภาวะปกติได้เร็ว
สำหรับรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนสหรัฐอเมริกา ในไตรมาสที่ผ่านมา ถือว่าเติบโตได้ดีมาก
ผลกำไรภาพรวมของตลาด ออกมาสูงกว่าตลาดคาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความเสี่ยงและความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ จากห่วงโซ่การผลิตที่มีปัญหาและค่าจ้างที่สูงขึ้น ซึ่งกองทุนบัวหลวงมองว่า เป็นเพียงระยะสั้น และจะคลี่คลายในระยะปานกลางจนกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
คำถามต่อมาคือ S&P 500 จะสามารถไปได้ต่ออีกหรือไม่ และแพงไปแล้วหรือยัง ?
ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นมา ตามกำไรของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้นมาต่อเนื่อง และนักวิเคราะห์มีการปรับประมาณการเป้าหมาย S&P 500 เป็น 4,600 (ตอนนี้อยู่ที่ราว ๆ 4,500) หมายความว่า ดัชนี S&P 500 จะยังคงไปต่อได้
อีกทั้งสหรัฐอเมริกายังเป็นตลาดการเงินที่สภาพคล่องสูงที่สุดในโลก รวมไปถึงมีบริษัทที่มีคุณภาพดีมากที่สุดในโลก ทำให้ P/E ที่ 20 เท่า ก็ยังสามารถลงทุนได้
แล้วควรลงทุนเมื่อไร ดอกเบี้ยขึ้น จับจังหวะอย่างไร ?
ถ้าเราลองย้อนไปดูสถิติ 12 เดือนก่อนที่จะมีการขึ้นดอกเบี้ย จะเห็นว่าตลาดสามารถปรับตัวขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถปรับตัวขึ้นได้อีกหลังจากที่อัตราดอกเบี้ยปรับตัวขึ้นครั้งแรก
โดยกองทุนบัวหลวง แนะนำหนึ่งเทคนิคที่น่าสนใจ คือให้เข้าสะสมแบบมีวินัย ลงทุนแบบสม่ำเสมอ หรือ DCA เนื่องจากการจับจังหวะตลาดสหรัฐอเมริกา หรือไม่ว่าตลาดไหน ๆ เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก
ทีนี้หลายคนคงกังวลว่า เงินทุนเริ่มไหลออกจากกลุ่ม Hypergrowth แล้วเงินส่วนนี้ย้ายไปอยู่ที่ไหน ?
จากที่ได้กล่าวมาข้างต้น คือปัจจุบัน เงินทุนไหลออกจากหุ้นในกลุ่ม Hypergrowth แต่ปรากฏว่าดัชนี Nasdaq นั้นยังคงปรับตัวสูงขึ้น ที่เป็นแบบนี้เพราะเงินกำลังไหลไปยังบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ ๆ นั่นเอง
หลายคนอาจมองว่า บริษัทเหล่านี้น่าจะได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด 19 แต่กลับกลายเป็นว่า จากวิกฤตินี้ทำให้คนหันมาพึ่งเทคโนโลยีกันมากขึ้น
โดยสังเกตได้จากรายได้ของบริษัทเทครายใหญ่ ที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเรื่องของแผนในอนาคตที่น่าจับตามอง ทำให้นักลงทุนยังคงให้ความสนใจ
ยกตัวอย่างเช่น บริษัท Facebook และ Microsoft
Facebook เป็นบริษัทเจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, WhatsApp ที่มีรายได้หลักมาจากค่าโฆษณาออนไลน์
โดยจุดเด่นของ Facebook คือ ความสามารถในการยิงโฆษณาที่ตรงกลุ่มเป้าหมายมากกว่าคู่แข่งรายอื่น ๆ พร้อมทั้งยังมีโอกาสเติบโตไปกับอุตสาหกรรมสื่อออนไลน์อีกมาก เนื่องจากโควิด 19 ก็เป็นตัวเร่งที่ทำให้คนหันมาพึ่งเทคโนโลยีกันมากขึ้น
สำหรับแผนในอนาคตของ Facebook นั้นยังคงเป็นเรื่องของแผนการปรับตัวให้บริษัทเป็น บริษัท “Metaverse” หรือโลกแห่งการผสมผสาน ระหว่างโลกจริงและโลกเสมือน อย่างเต็มตัว
โดย มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก CEO ของ Facebook มองว่า โลกของ Metaverse จะกลายเป็นอนาคตของโลกอินเทอร์เน็ต โดยล่าสุดก็ได้มีการเปิดตัว Horizon Workrooms ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปประชุมได้แบบเสมือนจริง ผ่านตัวละคร Avatar
มาต่อกันที่บริษัทซอฟต์แวร์ที่เราคุ้นเคยกัน อย่าง “Microsoft” ซึ่งในปีที่ผ่านมายังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดยมูลค่าบริษัทยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ก็เนื่องมาจาก ผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมา ที่ยังคงเติบโต 17% จากบริการ Intelligence Cloud ที่เติบโตได้ดี
แต่ที่น่าสนใจคือเรื่องของแผนในอนาคต อย่างการทำโลกเสมือน หรือที่ทาง Microsoft เรียกว่า Digital Twin ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการทำ Metaverse ของ Facebook แต่จะเป็นการก๊อบปี้ของจริงมาไว้บนโลกออนไลน์แทน เช่น จำลองสถานที่ จำลองตึก เพื่อนำมาใช้ทดสอบการบินของโดรนก่อนเอาออกไปใช้งานจริง
ทั้งนี้ในส่วนของ Theme โลกเสมือนนั้น อาจมีความเสี่ยง เรื่องที่จะต้องใช้เวลาอีกไม่น้อย กว่าที่เราจะได้สัมผัสแบบเต็ม ๆ
แต่นี่เป็นเหมือนการส่งสัญญาณว่าบริษัทเทคโนโลยีหลายรายกำลังตื่นตัวกับการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ และมีการเตรียมพร้อม มองหาช่องทางการเติบโตใหม่ ๆ หรือที่เรียกว่า New S-Curve อยู่ตลอดเวลา
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเริ่มสงสัยแล้วว่า แล้วกระแสเงินลงทุนที่ดูมีการเปลี่ยนทิศเปลี่ยนทางเช่นนี้ จะมีผลกระทบกับกองทุน B-USALPHA และ B-FUTURE แค่ไหน ?
สำหรับกองทุน B-USALPHA นั้น หลายคนอาจจะคิดว่ากองนี้มีแต่ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอย่างเดียว
แต่ถ้ามาดูสัดส่วนของหุ้นในพอร์ตการลงทุนนั้นจะพบว่า กองทุนพยายามให้ความสมดุลระหว่างหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี กับกลุ่มวัฏจักรในสหรัฐอเมริกา โดยกองทุนนี้มีแบ่งส่วนการลงทุนด้วยกันหลัก ๆ 3 อย่าง คือ
1. กลุ่ม Digital Advertising เช่น Facebook, Pinterest, Snap
2. กลุ่ม สถาบันการเงิน เช่น Morgan Stanley, PayPal, Square
3. กลุ่ม Technology Enabled หรือก็คือ ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีสร้างนวัตกรรม เช่น Deere & Company, Freeport-McMoRan, Zillow Group
ทั้งกลุ่ม Digital Advertising และ Technology Enabled นั้นยังมีโอกาสเติบโตไปพร้อมกับการเปิดเมือง
ส่วนการลงทุนในกลุ่มสถาบันการเงิน จะช่วยสร้างสมดุล และลดความเสี่ยงของพอร์ตในเรื่องของอัตราเงินเฟ้อที่อาจปรับตัวสูงขึ้น ที่ทำให้กลุ่มของธุรกิจสถาบันการเงินนั้นได้รับประโยชน์ไปด้วย จากอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับสูงขึ้น
ส่วนกองทุน B-FUTURE นั้น มีการกระจายลงทุนในธุรกิจ 3 กลุ่มคือ เทคโนโลยี Hypergrowth, อุตสาหกรรม และกลุ่มธุรกิจ Theme เปิดเมือง
โดยในส่วนของกลุ่ม Hypergrowth นั้น ทางผู้จัดการของกองทุน ก็ได้เน้นอย่างมาก กับการลงทุนในหุ้นที่ยังมี Valuation ไม่สูงจนเกินไป
นอกจากนี้ ทางกองทุนยังเน้นการลงทุนใน Theme อนาคต ไม่ได้เจาะจงในประเทศใดประเทศหนึ่ง โดยมีผู้จัดการกองทุนที่คอยปรับพอร์ตตามสถานการณ์การลงทุนต่าง ๆ
ด้วยนโยบายการบริหารแบบ Active Management ทำให้ B-FUTURE สามารถปรับเปลี่ยนพอร์ตให้เข้ากับสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา
เช่น หากมองว่าในระยะยาว หุ้นกลุ่มเอเชียหรือจีน ยังมีโอกาสเติบโตมาก ความกดดันของรัฐบาลจีนคลี่คลายลง แล้วยังมี Valuation ที่ไม่สูงเกินไป ทางกองทุนก็สามารถปรับน้ำหนักพอร์ตมาลงในหุ้นเอเชียหรือจีนเพิ่มขึ้นได้
ทำให้เห็นว่า B-FUTURE นั้นเป็นกองทุนที่สามารถทยอยสะสมเข้าได้เรื่อย ๆ และเหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลามาก แต่อยากลงทุนในหุ้นแห่งอนาคต
สำหรับใครที่กำลังมองหาโอกาสในการลงทุน จากหุ้นในสหรัฐอเมริกา หรือหุ้นใน Theme อนาคต
ทั้งกองทุน B-USALPHA และ B-FUTURE ก็ยังเป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ ที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทน ได้โดยมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล พร้อมคอยปรับพอร์ตการลงทุนให้ในระยะยาว ซึ่งการใช้กลยุทธ์ DCA ทยอยลงทุนทุกเดือนก็เป็นวิธีการที่น่าสนใจ
คำเตือน
การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น) / ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน / กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด ทั้งนี้อยู่ในดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ดังนั้นผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
同時也有7部Youtube影片,追蹤數超過2,030的網紅數位時代Official,也在其Youtube影片中提到,公司簡介 QT Medical為2013年成立於美國的醫療科技公司,核心業務為醫療級12導程心電圖(ECG)系統和AI即時判讀服務。本公司專注於遠距醫療和居家照護的創新,為醫護人員和心臟病患提供革命性解決方案,可隨時隨地管理心臟健康。本公司旗艦產品QT ECG™已獲得美國FDA及歐盟CE認證,成功應...
「healthcare company」的推薦目錄:
healthcare company 在 Anchor Taiwan Facebook 的最佳解答
🦄 Unicorn from a social enterprise? At Anchor Taiwan's 13th Women in Venture Roundtable, we were so inspired by the sharing of Joan Yao, VP at Kickstart Ventures - CVC of Globe Telecom / Ayala Group. She touched upon:
.
▧ Impact investing: it's a spectrum
▧ Story of #Gojek: tech as an enabler
▧ Opportunities in SE Asia: content, e-commerce, fintech
▧ Corporate Venturing: investment focuses for Kickstart
... and so much more!
.
🎥 What the full replay: https://youtu.be/MAvvs1qlQYE
.
A big shoutout for SEMI 國際半導體產業協會 for supporting diversity and inclusion in our ecosystem. Humbling to gathering a room of investors from leading funds again! Until next time. 🙌
-
-
* Session notes (Chapters on YouTube):
0:00 Intro by Elisa Chiu, Founder & CEO of Anchor Taiwan
3:15 Greetings from Joan Yao, VP at Kickstart Ventures
5:43 Impact investing: what is it?
8:23 Impact investing: it's a spectrum (slide) | LGT Venture Philanthropy
12:24 "Not every business is built to scale" - story of student loan company InvestEd
17:31 Advice for people wanting to get into impact investing
23:04 View on current landscape with impact investing: an enabler, tech
26:23 Example of Gojek: a social enterprise vs. tech startup
29:24 Working with the Ministry of Trade in the Philippines: why, how and lessons learned
35:36 Becoming a Corporate Investor: Kickstart Ventures, Globe Telecom, Ayala Group
40:58 How the President of Kickstart Ventures Minette Navarrete recruit Joan?
43:11 Critical mass for B2C markets; sample investments of Kumu (content), edamama (vertical specific e-commerce), nextpay (Fintech SME solutions)
51:11 Is the Philippines a big enough domestic market?
53:10 Some insights on Southeast Asia: 400M internet users in SEA (slide), 108M people in the Philippines (2nd most populous)
55:34 36% of consumers are new to digital services; 94% of new users will stay (slide)
56:12 Strategic investments for Ayala Group (healthcare, industrials/semiconductor/automotive, renewable energy)
1:00:20 Personal convergence of impact investing and corporate venturing
1:07:46 Q&A: Advice for building the startup / VC ecosystem in Cambodia?
1:10:28 "Raid The Fridge"
1:13:14 Q&A: How do you measure impact?
--
#anchortaiwan #womeninventure #womeninvestors #WomenInSTEM #womeninbusiness #impactinvesting #corporateinnovation #venturecapital #innovation
healthcare company 在 Facebook 的最佳解答
By hiding haptic sensors in everyday clothing, Myant hopes to provide continuous biometric data to its users and their loved ones.
Company founder Tony Chahine tells me: "Textile covering the entire body continuously transmitting data is the best option, especially for someone who is marginalized, who cannot see, who is not a tech expert."
The tech is currently able to collect a broad range of data like the user's heart rate, sleep quality, physical activity and body temperature. Chahine says he hopes that providing holistic, physiological data can help users more intimately monitor their health as well as detect and reduce the severity of chronic conditions.
#Wearables #HealthTech #agingwithfreedom #DigitalHealth #connectedcare #healthcare #caregiving #innovation #health #tech
#CNN #TechForGood #HongKong
healthcare company 在 數位時代Official Youtube 的最佳解答
公司簡介
QT Medical為2013年成立於美國的醫療科技公司,核心業務為醫療級12導程心電圖(ECG)系統和AI即時判讀服務。本公司專注於遠距醫療和居家照護的創新,為醫護人員和心臟病患提供革命性解決方案,可隨時隨地管理心臟健康。本公司旗艦產品QT ECG™已獲得美國FDA及歐盟CE認證,成功應用於醫院、診所、安養院、居家照護、商用航空、以及許多遠距心血管疾病照護等市場。我們的願景是成為新世紀ECG技術的領導者,我們的使命是透過ECG和AI技術,守護所有人心臟健康。
QT Medical is a medtech company with a focus on high quality 12-lead diagnostic electrocardiogram (ECG) for use by healthcare professionals and patients. Cleared by the FDA in 2018 and CE marked in 2020, QT ECG™ is the world’s most compact 12-lead ECG system. With its simplicity, ease of use, mobile technology and cloud management, QT ECG™ brings hospital-grade ECG to homes, and enables doctors to make informed decisions anywhere, anytime. Powered by computer diagnostics and advanced machine learning, QT Medical will revolutionize cardiac care in the 21st century for millions of patients.
公司網站
https://www.qtmedical.com/zh-tw
healthcare company 在 朱學恒的阿宅萬事通事務所 Youtube 的精選貼文
不看不知道,一看嚇一跳,在台灣極缺疫苗,有企業願意出來幫忙拯救人命時,我國政府第一個想到的是透過外媒,扭曲事實真相,把功勞歸在自己身上,把陰謀栽在對方身上。
時代雜誌這一篇,在郭台銘和台積電聯手進了總統府之後,我國政府立刻放話說是政府徵召台積電和富士康(請注意,還刻意把台積電放在前面),然後內文還強調郭台銘之前選過總統?!這不就是暗示他有政治動機嗎?有哪一個在台灣看新聞看報導的路邊的狗會覺得當時都是蔡政府徵召民間單位?事實上就是民間單位主動申請主動爭取,還被擋了好幾十天啊!
問題是當時已經死了六百多人,政府在對國際媒體放話時,考慮的還只是政治鬥爭?這是甚麼樣的司馬昭之心,相信連路邊的狗都看得出來啊!
內容還說這是台灣政府從去年開始努力爭取bnt疫苗的一環,環個屁啦,從林全要買三千萬劑開始擋起結果一劑都買不到這叫做努力?
【Taiwan Recruits TSMC, Foxconn to Secure BioNTech Vaccines】
https://time.com/6074333/taiwan-recruits-tsmc-foxconn-to-secure-biontech-vaccines/ (這篇有多噁心大家都應該看看)
https://www.reuters.com/business/healthcare-pharmaceuticals/exclusive-taiwans-terry-gou-tsmc-reach-initial-agreements-biontech-vaccines-2021-07-02/
另外路透社這篇就是明顯台灣當局放話,想要歸功於都是德國政府施壓談判之後才成功的。
記者一查證德國外交部不予回應,結果轉移焦點失敗,而且提早曝光很有可能破局的狀況之下,bnt也是不予回應。這種一直在放話,只想要看到破局的目的到底是甚麼,是不是很壞心啦!你有沒有看過這種政府自己弄不到疫苗,民間為了救命來弄,最後政府還要鬥爭民間單位的,丟不丟臉的啊!
這件事情我一定要記錄下來,講清楚,免得之後選舉又被認知作戰說又是中共害的,這裡面就是台灣政府一直放話啊,哪裡看到共產黨?
有很多時候
認知作戰不是只有在中文世界
有很多時候台灣也在做認知作戰
你知道我手上的是時代雜誌在6月18號
發的一篇專稿
請各位看
標題寫什麼
Taiwan Recruits TSMC,
Foxconn to Secure BioNTech Vaccines
給各位3秒看一看記住
123好
你知道這真的很妙
這個我們以前常就是偷龍轉鳳
就是名詞替換
各位如果你認為過去兩個月的時間
Foxconn TSMC而且請注意
在這個裡面TSMC排在Foxconn前面
T排在F前面表示這個東西不是照字母順序
而是他認為TSMC佔比較重的比例
看了過去兩個月的新聞
你怎麼會覺得是政府徵召TSMC
徵召Foxconn
how is that possible怎麼可能
你當我們都瞎了嗎
你看這篇文章寫的
真是太妙了
我懷疑這是一個平行世界
我唸第一段就好了
Taiwanese President Tsai Ing-wen
expanded efforts to buy vaccines
from Germany’s BioNTech Friday,
meeting with leaders of
two tech giants in an attempt
to reach a deal hindered by complications
involving China
我想說是不是
我今天這一個罪刑可能更重了
我揭穿台灣政府對時代雜誌的大外宣
你請這位記者去問問全台灣民眾
到底是哪來的膽子變成是
台灣政府徵召台積電跟富士康
來購買BNT疫苗
我再唸第二段
The attempt to recruit high-profile
intermediaries represents the government’s
latest move in long-running efforts
to buy vaccines from BioNTech
光這一句我就想說蛤
這是中華民國政府從去年以來的
購買BNT疫苗的努力之一環嗎
是他們主動徵召富士康跟TSMC
我怎麼知道的完全不一樣
去年10月是我國政府拒絕了林全的
東洋所買的3千萬劑BNT
是我國政府拒絕
10月拒絕12月拒絕
最後從3千萬劑砍到200萬劑
人家不爽賣
然後你說這是中華民國政府一直努力要做的
你知道各位你務必要去查這一份資料
而且這一篇有明顯的偏見
你看它的段落最後一段
Gou, who launched and then abandoned
a presidential campaign in 2019,
offered earlier this month to step
in to help with the government’s vaccine efforts
So far he hasn’t come up with any concrete results
我真希望知道底下的協力者是誰
他最後寫的
With assistance from Miaojung Lin,
Cindy Wang and Debby Wu
我這樣講有眼睛的人都知道
郭台銘沒有
come up with any concrete results
就是沒有實際的結果
是因為政府阻饒啊
你這個意思暗示說郭台銘空口說白話嗎
我整個看不出來到底怎麼寫
時代雜誌這一篇
就很明顯是台灣的大外宣
告訴大家說我台灣政府好棒棒
我努力了那麼多
最後我釜底抽薪
我把台積電跟郭台銘富士康叫來
請他們幫忙去買疫苗
這跟現實生活差多少
這是路透社幾天前寫的報導
Another source said the German government,
which has said it was trying to help Taiwan
obtain the BioNTech vaccines,
had been trying to speed up the talks
“The German government doesn’t
want to leave the impression
請注意這一段是引用的就是那一個
消息來源說的
“The German government doesn’t
want to leave the impression
that they didn’t sell vaccines to
Taiwan due to the Chinese pressure,
so it has been pushing the company
to speed up its talks with Taiwan,”
the source said, referring to BioNTech
好啦這個消息來源講說
我告訴你德國政府很幫我們
他們有施壓BioNTech讓他們加速跟我們的談判
The German Foreign Ministry declined to
immediately comment
結果記者拿這個東西去問德國外交部
德國外交部說我們不予評論
這不就我國外交部一直在唬爛的東西
說我們跟德國關係很好
德國有幫我們
但是6月3號德國駐台代表
也就是德國在台協會的處長王子陶
Thomas Prinz有講
我們注意到近來關於疫苗取得的爭議
請相信德國政府
特別是聯邦經濟部部長Altmaier本人
對於台灣與BioNTech間持續的溝通協調
盡了好一番努力
然而契約簽訂與否與條件
並非在政府的掌控下
而是取決於契約雙方
倘若契約雙方能夠達成共識
聯邦政府自然樂見其成
你看台灣這邊在對路透放話
說什麼我們跟德國關係很好
德國有幫我們
德國外交部不回應
而且6月3號的時候德國駐台代表
就等於駐台大使就講了
契約雙方能夠達成共識
聯邦政府自然樂見其成
然而契約簽訂與否與條件
並非在政府的掌控之下
你看這就是餵的啊
這就是餵的消息你知道
我今天覺得
你疫苗都還沒有進來
然後你就急著在那邊搶功
急著在那邊收割
這個就是假新聞
這個就是餵養消息
德國人的意思是
私人企業要簽合約是你們兩造的事
成不成要看契約雙方政府不能介入
結果你硬是把這個東西扭曲成說
德國政府希望大家趕快加快談判
那加快談判是什麼意思
加快談判就政府介入啊
政府介入是怎麼樣
是要讓他成功還是讓他失敗
我覺得這個東西太糟糕
郭台銘今天早上自己發布了聲明
特別強調路透引述的那個報導說
郭台銘已經跟BNT和上海復星
簽署了購買疫苗的初步協議
郭台銘四日他的辦公室直接回應
轉載國際媒體無法證實的消息來源
請注意這是路透社轉載國內的消息
國內的深喉嚨跟他講的
這是出口轉外銷
出口轉外銷之後又轉內銷
郭台銘說轉載國際媒體無法證實的消息來源
可能妨害台灣取得疫苗的時程
呼籲勿臆測BNT疫苗採購進度
要大家別上當
你看到底是誰案子不確定的時候就想要收割
就想要收割說我好棒棒
我跟德國關係很好 是誰嘛
看看林昶佐你不會覺得這動作很像是
綠營農耕隊的作風嗎
healthcare company 在 Ghost Island Media 鬼島之音 Youtube 的精選貼文
This week, we brought back Emily Cardinali on the show! She was one of our very first producers, and she had really wanted to cover sustainable menstrual products with us. So, after our interview with Isabel Aagard last episode, we reached out to Emily about her own experiences with green tampons.
N8 and Emily discuss the guilt of half of our human population, tips on identifying sustainable products, and the pros and cons of every sort of menstrual product sold on the market.
Support us on Patreon:
http://patreon.com/wastenotwhynot
Subscribe to our newsletter:
https://wastenotwhynot.substack.com/
Follow us on Twitter:
https://twitter.com/wastenotpod
Send your questions to:
ask@wastenotwhynot.com
SHOW CREDIT
Emily Y. Wu (Executive Producer)
https://twitter.com/emilyywu
Nate Maynard (Producer / Host)
https://twitter.com/N8MAY
Yu-Chen Lai (Producer / Editing)
https://twitter.com/aGuavaEmoji
Ghost Island Media (Production Company)
https://twitter.com/ghostislandme
www.ghostisland.media
MB01JWCAEJK3H5L
healthcare company 在 20 largest healthcare companies in the world for 2021 的相關結果
1 company on the list in 2021, with $4.9 trillion in assets. Here are the 20 biggest publicly traded companies in the healthcare industry ... ... <看更多>
healthcare company 在 Largest healthcare companies by market cap 的相關結果
# Name M. Cap Price 1d C
1 UnitedHealth 1UNH $423.19 B $449.32 1.07% 1.07% 🇺🇸 U...
2 CVS Health 2CVS $119.95 B $90.87 0.98% 0.98% 🇺🇸 U...
3 Anthem 3ANTM $95.87 B $395.00‑1.19% ‑1.19% 🇺🇸 U... ... <看更多>
healthcare company 在 10 Biggest Healthcare Companies - Investopedia 的相關結果
10 Biggest Healthcare Companies · #1 CVS Health Corp. (CVS) · #2 UnitedHealth Group Inc. (UNH) · #3 McKesson Corp. (MCK) · #4 AmerisourceBergen Corp. (ABC) · #5 ... ... <看更多>