เศรษฐีรวยสุดในเอเชีย มีน้องชาย เป็นบุคคลล้มละลาย ได้อย่างไร ? /โดย ลงทุนแมน
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า Mukesh Ambani เจ้าของ Reliance Industries กลุ่มธุรกิจที่ใหญ่สุดในอินเดียและเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในเอเชีย มีน้องชายชื่อ Anil Ambani
สำหรับน้องชายของมหาเศรษฐีคนนี้ ก็เป็นเจ้าของธุรกิจที่แยกตัวออกมาจาก Reliance Industries ของพี่ชาย มีชื่อบริษัทว่า Reliance ADA Group
ในปี 2008 Mukesh Ambani มีทรัพย์สิน 1.4 ล้านล้านบาท รวยเป็นอันดับ 5 ของโลก
ในขณะที่ Anil Ambani ตามมาติด ๆ ด้วยทรัพย์สิน 1.37 ล้านล้านบาท และรวยเป็นอันดับ 6 ของโลก
โดยในปีนั้น เศรษฐี 4 อันดับแรกของโลก ได้แก่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ (อเมริกัน), คาร์ลอส สลิม (เม็กซิโก),
บิลล์ เกตส์ (อเมริกัน) และลักษมี นิวาส มิตตัล (อินเดีย)
หลังจากผ่านไป 13 ปี Mukesh Ambani มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านล้านบาท
กลายมาเป็นมหาเศรษฐีรวยสุดในอินเดียและเอเชีย และรวยเป็นอันดับ 10 ของโลก
แต่ในปี 2019 Ambani คนน้องกลับมีทรัพย์สิน เพียง 5.6 หมื่นล้านบาท
จนล่าสุด มีหลายคนกล่าวว่าความมั่งคั่งตอนนี้ของ Ambani คนน้อง ลดลงจนเกือบเป็นศูนย์
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับน้องชาย ของคนที่รวยสุดในเอเชีย ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ย้อนกลับไปในปี 1948 หรือเมื่อ 73 ปีก่อน ชายชาวอินเดียวัย 16 ปี
ที่ชื่อ Dhirubhai Ambani ได้ตัดสินใจเดินทางออกจากบ้านเกิดไปทำงานที่ประเทศเยเมน
ผ่านไป 10 ปี Dhirubhai กลับมาที่อินเดียพร้อมกับเงินเก็บ เพื่อมาเริ่มสร้างธุรกิจเอง
Dhirubhai เริ่มจากการนำเข้าเส้นใยสังเคราะห์และส่งออกเครื่องเทศ ก่อนจะเริ่มทำธุรกิจสิ่งทอ ซึ่งก็เติบโตอย่างรวดเร็ว จน Dhirubhai ได้ขยายกิจการไปในอุตสาหกรรมอื่น และเปลี่ยนมาใช้ชื่อบริษัทว่า “Reliance Industries” ในปี 1973
Reliance Industries สามารถ IPO ได้ในปี 1977 ซึ่งหุ้นของบริษัทก็มีชาวอินเดียสนใจลงทุนเป็นจำนวนมาก ถึงขนาดเคยจัดประชุมผู้ถือหุ้นที่สเตเดียม
ตั้งแต่ที่กิจการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว Dhirubhai ก็เริ่มให้ลูกชายทั้ง 2 คนของเขา เข้ามาช่วยบริหารงานที่บริษัท
Mukesh Ambani ลูกชายคนโต เป็นประธาน
Anil Ambani ลูกชายคนรอง เป็นกรรมการผู้จัดการ
แต่แล้วในปี 2002 Dhirubhai ได้เสียชีวิตลงและได้ทิ้งกิจการ Reliance Industries ไว้กับลูกชายทั้ง 2 คน
Dhirubhai ที่จากโลกนี้ไปไม่ได้ทำพินัยกรรมและข้อตกลงแบ่งกิจการให้กับลูกแต่ละคนไว้ ซึ่งเขาก็คงไม่คิดว่า จะเกิดปัญหาตามมา
โดยปัญหาที่ว่านั้นเริ่มเกิดขึ้นเพราะลูกชายทั้ง 2 คน ที่เริ่มเข้าทำงานและมีบทบาทในบริษัทมาพร้อม ๆ กัน
กลับตกลงกันไม่ได้ว่าใครจะเป็นเจ้าของและใครจะดูแลและรับผิดชอบบริษัทไหนบ้าง
สุดท้ายแล้ว ในช่วงปี 2004 ถึง 2005 ผู้เป็นแม่ต้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหา
โดยการจ้างบุคคลที่ 3 ให้เข้ามาจัดการเรื่องการแยกบริษัทออกจากกันไปเลย
Mukesh Ambani คนพี่ได้ธุรกิจหลักคือปิโตรเลียม ซึ่งเขามีบทบาทสำคัญในการขยายกิจการในส่วนนี้มาตั้งแต่แรก และยังได้ธุรกิจอื่น ๆ อย่างเช่นปิโตรเคมี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจยุคเก่า โดยกลุ่มบริษัทของ Mukesh ใช้ชื่อว่า Reliance Industries
Anil Ambani คนน้องได้ธุรกิจหลักคือ Reliance Communications ธุรกิจโทรคมนาคมที่เพิ่งเริ่มกิจการได้ไม่นาน แต่ก็กลายเป็นบริษัทเทเลคอมที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอินเดีย ซึ่งแม้ว่า Mukesh จะมีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่ต้น แต่ Anil ก็อยากได้ธุรกิจนี้เช่นกัน
นอกจากธุรกิจเทเลคอมแล้ว กิจการอื่นที่ Anil Ambani ได้รับไปดูแลอีกก็อย่างเช่น ธุรกิจพลังงาน และบริการทางการเงิน ซึ่งส่วนมากจะเป็นธุรกิจยุคใหม่ โดยกลุ่มธุรกิจของ Anil Ambani ใช้ชื่อว่า “Reliance ADA Group”
หลังจากจบเรื่องการแบ่งธุรกิจแล้ว แต่ละคนก็เริ่มต่อยอดธุรกิจตามเส้นทางของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น
Mukesh Ambani เริ่มทำธุรกิจค้าปลีกในปี 2006 จน Reliance Retail กลายมาเป็นธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่สุดในอินเดีย
ในขณะที่ Anil Ambani ก็ได้ต่อยอดทำธุรกิจบันเทิง อย่างเช่นในปี 2005 ได้ซื้อบริษัท Adlabs Films ที่เป็นเจ้าของโรงภาพยนตร์ Big Cinemas ซึ่งกลายมาเป็นโรงภาพยนตร์ที่มีสาขามากสุดในอินเดียในอีก 3 ปีถัดมา
ในปี 2008 Reliance Entertainment ของ Anil Ambani ก็ได้เซ็นสัญญากับบริษัทผลิตภาพยนตร์ DreamWorks ของผู้กำกับ Steven Spielberg ซึ่งได้ร่วมผลิตภาพยนตร์ที่ได้รางวัลมากมาย อย่างเช่น The Help และ Lincoln
และปีเดียวกันนี้ Anil Ambani ก็ได้นำบริษัทพลังงานอย่าง Reliance Power จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยมูลค่าการระดมทุนที่สูงเป็นประวัติการณ์ในขณะนั้น
ผ่านไป 6 ปีหลังจากการเสียชีวิตของ Dhirubhai
ดูเหมือนว่าลูกชายของเขาทั้งคู่ก็ต่อยอดกิจการไปได้อย่างสวยงาม
จนทำให้ในปี 2008 Mukesh มีทรัพย์สิน 1.4 ล้านล้านบาท รวยเป็นอันดับ 5 ของโลก และ Anil มีทรัพย์สิน 1.37 ล้านล้านบาท รวยเป็นอันดับ 6 ของโลก
แต่หลังจากนั้น เส้นทางความมั่งคั่งของพี่น้องคู่นี้ กลับเริ่มมีทิศทางที่สวนทางกัน
คนพี่รวยขึ้น ส่วนคนน้องความมั่งคั่งหายไปเกือบหมด
แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ?
เรื่องทั้งหมดมีจุดเริ่มต้นมาจากเงินที่บริษัท Reliance Power ของ Anil Ambani ได้มาจากการ IPO มีแผนจะใช้สร้างโรงไฟฟ้าที่ส่วนใหญ่จะผลิตจากก๊าซ
โดยก๊าซที่ Reliance Power ใช้ ก็มาจากบริษัทก๊าซธรรมชาติในเครือ Reliance Industries ของ Mukesh นั่นเอง
ซึ่งในตอนที่แยกบริษัทกัน สองพี่น้องก็ได้เซ็นสัญญาว่าบริษัทก๊าซของ Mukesh Ambani จะขายก๊าซให้โรงไฟฟ้าของน้องชายที่ราคาหนึ่ง
แต่ในวันที่โรงไฟฟ้าสร้างใกล้จะเสร็จและถึงเวลาที่พี่ชายจะขายก๊าซให้กับน้อง ราคาก๊าซในตลาดโลกกลับเพิ่มสูงขึ้นไปเกือบเท่าตัว
Anil Ambani จึงต้องการซื้อก๊าซในราคาที่ตกลงกัน เพื่อที่จะไม่ต้องเผชิญต้นทุนก๊าซที่สูงขึ้น
แต่ทาง Mukesh Ambani ไม่สามารถขายก๊าซตามราคาที่ตกลงกันไว้ได้เพราะบริษัทของเขาจะขาดทุน
แต่แทนที่จะเจรจาตกลงกัน Anil Ambani กลับเลือกที่จะยื่นฟ้องบริษัทพี่ชายในปี 2010 เพื่อให้ซื้อก๊าซได้ในราคาเดิมที่เคยตกลงกัน
แต่ศาลก็ได้มีคำสั่งให้ Anil Ambani ซื้อก๊าซในราคาใกล้เคียงกับราคาตลาดโลก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายราคาก๊าซของประเทศ
สุดท้ายแล้ว Anil Ambani ที่ต้องแบกรับต้นทุนก๊าซเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จึงไม่สามารถจัดหาก๊าซเพื่อไปใช้ผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าที่สร้างรอไว้แล้วได้
Reliance Power จึงกลายเป็นบริษัทที่มีหนี้มหาศาล จนต้องขายทรัพย์สินและกิจการบางส่วนออกไป เพื่อเอามาใช้หนี้ ซึ่งรวมถึงกิจการโรงภาพยนตร์ Big Cinemas ที่ซื้อมาเมื่อปี 2008 ด้วย
แต่ความผิดพลาดทางธุรกิจของ Anil Ambani ยังไม่ได้จบลงแค่นี้ เพราะเรื่องราวที่ร้ายแรงกว่านั้น เกิดขึ้นกับธุรกิจโทรคมนาคมอย่าง Reliance Communications (RCom)
ในปี 2002 ซึ่งเป็นช่วงที่ RCom เพิ่งเริ่มทำธุรกิจ RCom เลือกใช้เทคโนโลยีการสื่อสารที่เรียกว่า CDMA ซึ่งใช้เงินลงทุนน้อยกว่า ขณะที่บริษัทคู่แข่งอย่างเช่น Airtel เลือกใช้เทคโนโลยีที่ชื่อ GSM
แม้เทคโนโลยีทั้ง 2 แบบจะใช้ได้ดีกับ 2G และ 3G เหมือนกัน แต่ปัญหาก็คือ CDMA ที่ RCom เลือกใช้ ไม่สามารถรองรับ 4G และ 5G ได้แบบ GSM ที่เหล่าคู่แข่งเลือกใช้
นั่นจึงทำให้ช่วงเวลาที่ทั่วโลกเปลี่ยนผ่านจาก 3G มาเป็น 4G อย่างรวดเร็ว RCom เลยตามคนอื่นไม่ทัน จน RCom กลายเป็นบริษัทที่เริ่มมีหนี้มากขึ้น
และจุดพลิกผันครั้งใหญ่ของ RCom รวมไปถึงทั้งอุตสาหกรรมเทเลคอมของอินเดีย ก็เกิดขึ้นในปี 2016
เมื่อ Mukesh Ambani ได้ก่อตั้งบริษัทย่อยของ Reliance Industries ในชื่อ “Jio” ซึ่งเป็นบริษัท
ที่เน้นบริการด้านเทคโนโลยี รวมถึงการให้บริการโทรคมนาคมแบบเดียวกับ RCom ด้วย
ด้วยชื่อเสียงของ Reliance Industries ก็ทำให้ Jio มีจำนวนผู้ใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้กำไรของบริษัทที่เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอย่าง Airtel ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และทำให้อีก 2 บริษัทที่มีส่วนแบ่งตลาดรองลงมาอย่าง Vodafone และ Idea ต้องควบรวมกิจการกัน
ในเวลาต่อมาบริษัท Jio ของ Mukesh Ambani ก็กลายมาเป็นบริษัทเทเลคอมที่ใหญ่สุดในอินเดีย ส่วน RCom ของ Anil ที่ย่ำแย่อยู่แล้ว ก็หายไปจากการแข่งขันในตลาดเทเลคอม จนทำให้บริษัทขาดทุนและกลายเป็นหนี้มหาศาล
RCom ต้องยอมขายสินทรัพย์ของกิจการบางส่วนให้กับ Jio เพื่อลดหนี้
แต่นั่นก็ยังไม่ช่วยให้สถานการณ์ของ RCom ดีขึ้น
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 RCom ได้ทำข้อตกลงกับ Ericsson โดยจ้างให้ Ericsson มาเป็นผู้บริหารเครือข่ายในบริเวณทางเหนือและตะวันตกของอินเดีย แต่ผลจากการขาดทุนต่อเนื่องก็ทำให้ RCom ไม่มีเงินจ่ายให้ Ericsson ตั้งแต่ปี 2016
RCom ติดหนี้ Ericsson 2.46 พันล้านบาท ซึ่ง RCom ก็ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ตามกำหนด และขอเลื่อนเวลาการจ่ายหนี้ออกไปเรื่อย ๆ ซึ่งสุดท้ายแล้ว RCom จ่ายหนี้ได้เพียง 528 ล้านบาท นำไปสู่การถูกฟ้องร้องในเวลาต่อมา
ศาลสูงสุดจึงมีคำตัดสินว่า ถ้าภายใน 1 เดือน RCom ยังจ่ายหนี้ให้ Ericsson ไม่ได้ Anil จะต้องถูกจำคุก 3 เดือน
สุดท้ายแล้วพี่ชายของ Anil Ambani อย่าง Mukesh ก็เข้ามาช่วย
โดยการจ่ายหนี้ที่เหลือ มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาทให้
ในขณะที่ บริษัท RCom ก็ต้องยื่นล้มละลาย
แต่เรื่องราวยังไม่จบแค่นั้น เพราะ RCom ยังมีหนี้ก้อนใหญ่อีกก้อน ที่กู้ยืมมาจาก 3 ธนาคารขนาดใหญ่ของจีน ทั้ง ICBC, China Development Bank และ EXIM Bank of China เป็นมูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท
ทั้ง 3 ธนาคารจึงยื่นฟ้อง RCom และ Anil Ambani..
ช่วงต้นปี 2020 ที่ผ่านมา ซึ่ง Anil ได้พูดระหว่างพิจารณาคดีออนไลน์กับศาลของประเทศอังกฤษว่า เขาไม่มีเงินใช้หนี้ เพราะความมั่งคั่งของเขาตอนนี้ใกล้จะเป็นศูนย์แล้ว.. ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าเขาจะหาเงินจากไหนมาใช้หนี้
จากความขัดแย้งเพื่อแย่งกิจการกันเองในครอบครัว บวกกับการบริหารธุรกิจที่ผิดพลาด การทุ่มเงินลงทุนขนาดใหญ่แต่ได้ผลลัพธ์แย่กว่าที่คาด ทำให้บริษัทก่อหนี้ก้อนโต
ทั้งหมดนี้ก็ได้ส่งผลไปยังทรัพย์สินของผู้ที่เคยรวยติดอันดับ 6 ของโลกอย่าง Anil Ambani ได้หายไปเกือบหมด ในขณะที่พี่ชายที่เติบโตมาพร้อมกัน กลับเดินสวนทางกัน เพราะประสบความสำเร็จในธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นเศรษฐี ที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย นั่นเอง
ถ้าใครเชื่อว่าชีวิตของเราถูกกำหนดมาแล้วตั้งแต่เกิด
เกิดมาในครอบครัวที่รวย ก็ย่อมมีแรงส่งให้พวกเขารวยขึ้น
ซึ่งมันก็เป็นจริงในหลายกรณี
แต่ในบางกรณี มันก็อาจเป็นตรงกันข้าม
ซึ่งอย่างน้อย มันก็เกิดขึ้นแล้วกับ Anil Ambani น้องชายของ มหาเศรษฐี ที่รวยสุดในเอเชีย นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.businessinsider.in/thelife/personalities/news/anil-ambanis-journey-from-42-billion-net-worth-to-claiming-poverty/articleshow/74028627.cms
-https://www.scmp.com/magazines/style/celebrity/article/3093874/mukesh-vs-anil-why-did-one-ambani-brother-go-bankrupt
-https://economictimes.indiatimes.com/industry/telecom/telecom-news/from-glory-to-dust-an-ambani-brands-journey-to-bankruptcy/articleshow/67837769.cms?from=mdr
-https://www.businesstoday.in/latest/economy-politics/story/anil-ambani-road-to-bankruptcy-how-the-brother-of-indias-richest-man-lost-his-way-271119-2020-08-25
-https://www.moneycontrol.com/news/business/a-timeline-of-reliance-communications-versus-ericsson-case-3661261.html
-https://youtu.be/dBH0E20kc30
-https://www.forbes.com/forbes/2008/0324/080.html?sh=3e185f910f2e
-https://en.wikipedia.org/wiki/Reliance_Industries
-https://en.wikipedia.org/wiki/Reliance_Group
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過83萬的網紅serpentza,也在其Youtube影片中提到,What is the best way of getting money in and out of China? If you are coming to China, should you bring cash or credit cards? Will your bank card work...
「icbc china」的推薦目錄:
- 關於icbc china 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於icbc china 在 Jane黄明慧 Facebook 的精選貼文
- 關於icbc china 在 Jane黄明慧 Facebook 的精選貼文
- 關於icbc china 在 serpentza Youtube 的最讚貼文
- 關於icbc china 在 Asia Earnings Week Ahead: Bank of China, ICBC, BYD 的評價
- 關於icbc china 在 Industrial and Commercial Bank of China (ICBC) is one of the ... 的評價
icbc china 在 Jane黄明慧 Facebook 的精選貼文
【#不同凡飨】中国国宴上的淮扬菜讲究精湛刀工,不仅刀工精细,菜品形态精致更是享誉天下。来自江苏南通的王宏建,曾学习这门厨艺,特别在节目中展现刀功,烹煮精细清鲜的大煮干丝、文思豆腐以及清炖蟹粉狮子头。
而要追溯淮扬菜的发源地,更不能错过"水韵江苏"的醉人景致。这里不仅有历史上与长城齐名的京杭大运河,还有江南最迷人的园林艺术,江苏每一座城市都散发着独特魅力!
《不同凡飨》第8集,让我们跟随主持人黄明慧与嘉宾王宏建,一起品一品碧螺春,大啖淮扬菜,畅聊江南之美。
▌出品:吉隆坡中国文化中心 China Cultural Centre in Kuala Lumpur
▌制作:访问The Interview
▌合作支持:中国工商银行、马来西亚中国餐饮业协会
▌媒体支持:畅游行
【看节目 送奖品】
记得一定要把节目看完哦~因为每一集我们有总值超过RM2000 的餐券,以及一份为期1年的《畅游行》月刊杂志(共12期)要送给你哦!
参加规则:
1. 关注 “China Cultural Centre in Kuala Lumpur” 面子书或“吉隆坡中国文化中心”微信公众号;
2. 按赞并分享此视频(记得要将帖子设为公开哦!)
3. 到“China Cultural Centre in Kuala Lumpur”面子书或“吉隆坡中国文化中心”微信公众号留言告诉我们:
a)节目里提到的大煮干丝、文思豆腐、清炖蟹粉狮子头属于哪一种菜系?
A. 淮扬菜
B. 川菜
b)有机会我想到江苏旅游,因为......(不超过120字)
**参赛截止日期为5月19日午12时
#旅游 #美食 #文化 #家乡 #吉隆坡中国文化中心 #访问TheInterview Jane黄明慧 #黄明慧 #王宏建 #江苏 #淮安 #扬州 #淮扬菜 #京杭大运河 #瘦西湖 #江南园林 #大煮干丝 #文思豆腐 #清炖蟹粉狮子头 #水韵江苏
It not only has an excellent cutting skill but the dishes are also well-known for the outstanding presentation Wang Hongjian from Nantong, Jiangsu Province, once learned this culinary art. Therefore, he especially showed his cutting skills in the show, cooking ‘Dazhu gansi’, ‘Wensi tofu’, and stewed pork balls with crab roes.
If you want to trace the birthplace of Huaiyang cuisine, you can't miss the intoxicating scenery of "Charm of Jiangsu". There is not only the Beijing-Hangzhou Grand Canal, which is as famous as the Great Wall in history but also has the most fascinating garden art in Jiangnan. Every city in Jiangsu exudes its unique charm!
In the 8th episode of ‘Taste of Home’, let us follow the host Huang Minghui and guest Wang Hongjian to drink Biluochun and eat Huaiyang dishes while talking about the beauty of the south of the Yangtze River.
▌Publisher: China Cultural Centre in Kuala Lumpur
▌Producer: The Interview
▌Supported by:Industrial and Commercial Bank of China (ICBC) & Kuala Lumpur and Selangor Chinese Restaurant Association (KASCRA)
▌Media Partner: Travellution Singapore
[Watch & Win Amazing Prizes!]
Remember to finish viewing the show because we have cash vouchers worth up to RM2000 and a Special Prize of a complimentary one-year subscription to “TRAVELLUTION” for the lucky winners.
Eligible participants are to follow and complete all the steps below:
1. Like and Follow the Facebook page of “China Cultural Centre in Kuala Lumpur” Facebook or follow the official Wechat account of “吉隆坡中国文化中心”
2. Like and Share the event post of video on Facebook (Edit Audience > Select
Privacy > set as “PUBLIC”)
3. Leave a comment by answering the questions below on the Facebook post or
official Wechat account of “China Cultural Centre in Kuala Lumpur”.
a) The dishes mentioned in the programme, such as ‘Dazhu gansi’ , ‘Wensi tofu’, and stewed pork balls with crab roes, belong to which type of cuisine?
A. Huaiyang cuisine
B. Sichuan cuisine
b) Given an opportunity, I wish to travel to Jiangsu because ...... (no more than 120 words).
* * The deadline for entry is 12:00 noon on May 19, 2021
Entry Deadline: May 19 (Wed), 12PM.
Attention please:
1. There are a total of 21 lucky winners will be selected in each episode. 20 of them will be rewarded a cash voucher worth RM100 each, and a (one) lucky winner of Special Prize will be rewarded a complimentary one-year subscription to "TRAVELLUTION" magazine;
2. China Culture Centre in Kuala Lumpur reserves all rights to change, amend, terminate, delete or add to these event terms & conditions without prior notice at any time.
icbc china 在 Jane黄明慧 Facebook 的精選貼文
【#不同凡飨】中国国宴上的淮扬菜讲究精湛刀工,不仅刀工精细,菜品形态精致更是享誉天下。来自江苏南通的王宏建,曾学习这门厨艺,特别在节目中展现刀功,烹煮精细清鲜的大煮干丝、文思豆腐以及清炖蟹粉狮子头。
而要追溯淮扬菜的发源地,更不能错过"水韵江苏"的醉人景致。这里不仅有历史上与长城齐名的京杭大运河,还有江南最迷人的园林艺术,江苏每一座城市都散发着独特魅力!
《不同凡飨》第8集,让我们跟随主持人黄明慧与嘉宾王宏建,一起品一品碧螺春,大啖淮扬菜,畅聊江南之美。
▌出品:吉隆坡中国文化中心 China Cultural Centre in Kuala Lumpur
▌制作:访问The Interview
▌合作支持:中国工商银行、马来西亚中国餐饮业协会
▌媒体支持:畅游行
【看节目 送奖品】
记得一定要把节目看完哦~因为每一集我们有总值超过RM2000 的餐券,以及一份为期1年的《畅游行》月刊杂志(共12期)要送给你哦!
参加规则:
1. 关注 “China Cultural Centre in Kuala Lumpur” 面子书或“吉隆坡中国文化中心”微信公众号;
2. 按赞并分享此视频(记得要将帖子设为公开哦!)
3. 到“China Cultural Centre in Kuala Lumpur”面子书或“吉隆坡中国文化中心”微信公众号留言告诉我们:
a)节目里提到的大煮干丝、文思豆腐、清炖蟹粉狮子头属于哪一种菜系?
A. 淮扬菜
B. 川菜
b)有机会我想到江苏旅游,因为......(不超过120字)
**参赛截止日期为5月19日午12时
#旅游 #美食 #文化 #家乡 #吉隆坡中国文化中心 #访问TheInterview Jane黄明慧 #黄明慧 #王宏建 #江苏 #淮安 #扬州 #淮扬菜 #京杭大运河 #瘦西湖 #江南园林 #大煮干丝 #文思豆腐 #清炖蟹粉狮子头 #水韵江苏
It not only has an excellent cutting skill but the dishes are also well-known for the outstanding presentation Wang Hongjian from Nantong, Jiangsu Province, once learned this culinary art. Therefore, he especially showed his cutting skills in the show, cooking ‘Dazhu gansi’, ‘Wensi tofu’, and stewed pork balls with crab roes.
If you want to trace the birthplace of Huaiyang cuisine, you can't miss the intoxicating scenery of "Charm of Jiangsu". There is not only the Beijing-Hangzhou Grand Canal, which is as famous as the Great Wall in history but also has the most fascinating garden art in Jiangnan. Every city in Jiangsu exudes its unique charm!
In the 8th episode of ‘Taste of Home’, let us follow the host Huang Minghui and guest Wang Hongjian to drink Biluochun and eat Huaiyang dishes while talking about the beauty of the south of the Yangtze River.
▌Publisher: China Cultural Centre in Kuala Lumpur
▌Producer: The Interview
▌Supported by:Industrial and Commercial Bank of China (ICBC) & Kuala Lumpur and Selangor Chinese Restaurant Association (KASCRA)
▌Media Partner: Travellution Singapore
[Watch & Win Amazing Prizes!]
Remember to finish viewing the show because we have cash vouchers worth up to RM2000 and a Special Prize of a complimentary one-year subscription to “TRAVELLUTION” for the lucky winners.
Eligible participants are to follow and complete all the steps below:
1. Like and Follow the Facebook page of “China Cultural Centre in Kuala Lumpur” Facebook or follow the official Wechat account of “吉隆坡中国文化中心”
2. Like and Share the event post of video on Facebook (Edit Audience > Select
Privacy > set as “PUBLIC”)
3. Leave a comment by answering the questions below on the Facebook post or
official Wechat account of “China Cultural Centre in Kuala Lumpur”.
a) The dishes mentioned in the programme, such as ‘Dazhu gansi’ , ‘Wensi tofu’, and stewed pork balls with crab roes, belong to which type of cuisine?
A. Huaiyang cuisine
B. Sichuan cuisine
b) Given an opportunity, I wish to travel to Jiangsu because ...... (no more than 120 words).
* * The deadline for entry is 12:00 noon on May 19, 2021
Entry Deadline: May 19 (Wed), 12PM.
Attention please:
1. There are a total of 21 lucky winners will be selected in each episode. 20 of them will be rewarded a cash voucher worth RM100 each, and a (one) lucky winner of Special Prize will be rewarded a complimentary one-year subscription to "TRAVELLUTION" magazine;
2. China Culture Centre in Kuala Lumpur reserves all rights to change, amend, terminate, delete or add to these event terms & conditions without prior notice at any time.
icbc china 在 serpentza Youtube 的最讚貼文
What is the best way of getting money in and out of China? If you are coming to China, should you bring cash or credit cards? Will your bank card work in ATMs and Chinese banks? What is the exchange rate in China? Can you use USD in China? Want to survive in China? Let me show you how.
Join me on Facebook: http://www.facebook.com/winstoninchina
Support me on Patreon: http://www.patreon.com/serpentza
Twitter: @serpentza
Music used: starlitdeception.s3m
icbc china 在 Industrial and Commercial Bank of China (ICBC) is one of the ... 的推薦與評價
#world's largest · with regards to ; #market capitalization. It provides corporate clients and financial institutions with ; # ICBC can leverage on ... ... <看更多>
icbc china 在 Asia Earnings Week Ahead: Bank of China, ICBC, BYD 的推薦與評價
China banks may prove they remain on solid ground this week with the release of results. Their global counterparts, in the meantime, ... ... <看更多>