“ยูนิคอร์น”ความสำเร็จอีกขั้นของธุรกิจสตาร์ทอัพ! หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า Startup หรือธุรกิจสตาร์ทอัพ มากันจนคุ้นหูแล้ว แต่สำหรับ Unicorn (ยูนิคอร์น) อาจจะเป็นอะไรที่ค่อนข้างแปลกไปบ้าง อธิบายให้เข้าใจง่าย ยูนิคอร์น ก็คือ ธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1,000 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 31,000 ล้านบาท ยกตัวอย่าง ยูนิคอร์น ที่ประสบความสำเร็จในสหรัฐอเมริกา ก็จะมี Uber, Airbnb, Snapchat หรือในด้านฝั่งเอเชียก็จะมี Xiaomi จากประเทศจีนแผ่นดินใหญ่นั่นเอง
.
และสำหรับประเทศในกลุ่มอาเซียน (ASEAN) ก็ไม่ได้น้อยหน้าแต่อย่างใดเพราะวงการสตาร์ทอัพก็กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนมีหลายบริษัทสามารถเติบโตจนถึงระดับยูนิคอร์นได้สำเร็จ มาดูกันว่าเหล่ายูนิคอร์นตัวแทนจากภูมิภาคอาเซียนที่เป็นที่รู้จักและให้บริการในไทยจะมีใครกันบ้าง
.
1. Grab (2555)
ธุรกิจ : บริการโลจิสติกส์
มูลค่าบริษัท : 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
สตาร์ทอัพที่เป็นที่คุ้นเคยของคนไทยกันอย่างดี ก่อตั้งขึ้นโดยอดีตนักศึกษาจากประเทศมาเลเซีย เพราะต้องการแก้ไขปัญหาการเรียกแท็กซี่ที่ไม่สะดวกสบายในประเทศของตน ถือเป็นสตาร์ทอัพที่เติบโตไปไวอย่างมากเพราะใช้เวลาเพียงแค่ 2 ปี ก็สามารถขยายฐานการใช้งานไปยังเพื่อนบ้านอย่างฟิลิปินส์ สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม และ อินโดนีเซียในเวลาอันรวดเร็ว อีกทั้งได้รับเสริมความแข็งแกร่งจากการลงทุนจากบริษัทจีนและญี่ปุ่นอีก 2 พันล้านดอลลาร์ จนทำให้ Uber ถึงกับต้องถอยทัพขายกิจการในภูมิภาคยุบรวมกับ Grab ส่งผลทำให้คว้าตำแหน่งผู้ให้บริการที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคได้สำเร็จ ในปัจจุบันนี้ Grab ได้ให้บริการไปแล้วกว่า 168 เมือง ใน 8 ประเทศ
.
2. SEA (2552)
ธุรกิจ : เกมออนไลน์และอีคอมเมิร์ซ
มูลค่าบริษัท : 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
หรือชื่อเดิม Garena บริษัทสัญชาติสิงคโปร์ ผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียงโดเด่นด้านเกมออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Heroes of Newearth (HON), League of Legends (LOL) หรือเกมออนไลน์บนมือถือที่ฮิตที่สุดในไทยอย่าง Realm of Valor (ROV) ก่อนที่จะขยายธุรกิจไปในด้าน e-wallet อย่าง AirPay เพื่อรองรับการเติมเงินเข้าในเกมให้สะดวกมากยิ่งขึ้น และพัฒนาสู่การชำระเงินสินค้าอื่นๆ และกับอีกหนึ่งความสำเร็จในการก้าวเข้ามาสู่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ในชื่อที่เรารู้จักกันดีอย่าง “Shopee” นั่นเอง โดยที่ SEA รีแบรนด์จาก Garena เมื่อปี 2560 ที่ผ่านมานี้ หลังจากระดมทุนได้กว่า 550 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมี Tencent เป็นผู้ถือหุ้นหลัก (ณ ปัจจุบันนี้ได้เข้าตลาดหุ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว)
.
3. Gojek (2553)
ธุรกิจ : บริการโลจิสติกส์
มูลค่าบริษัท : 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
เป็นธุรกิจสัญชาติอินโดนีเซียในรูปแบบเดียวกันกับ Grab และผู้ก่อตั้งก็ยังเป็นเพื่อนร่วมรุ่น MBA เดียวกันกับสองผู้ก่อตั้งของ Grab อีกด้วย จุดเริ่มต้นอาจจะต่างกันไปเล็กน้อยเพราะเกิดจากการต้องการยกระดับมาตรฐานของมอเตอร์ไซค์รับจ้างในประเทศอินโดนีเซีย และพัฒนาต่อยอดไปเป็นบริการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น การส่งอาหาร สินค้า ล้างรถ เป็นต้น โดยหลังจากที่เปิดบริการแค่ในประเทศ ก็ได้ทำการขยายไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ฟิลิปินส์, เวียดนาม, สิงคโปร์ และไทย หลังจากที่ได้รับเงินสนับสนุนจากเหล่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google, Tencent, JD.com และ Temasek เป็นต้น จุดมุ่งหมายนอกจากการอุดช่องว่างของ Uber ก็คือการเข้ามาชิงพื้นที่ทางการตลาด และโค่น Grab ลงจากบัลลังก์อันดับ 1 นั่นเอง
.
4. Traveloka (2555)
ธุรกิจ : บริการจองที่พักและตั๋วเครื่องบิน
มูลค่าบริษัท : 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
บริการสัญชาติอินโดนีเซียอีกเจ้าที่พบกับปัญหาจากจองเครื่องบินจากสหรัฐกลับบ้านเกิดที่แสนจะยากลำบาก ต้องมานั่งหาข้อมูลเอาเองโดยที่ไม่มีใครรวบรวมข้อมูลเหล่านั้นมาไว้ด้วยกัน จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการทำ Traveloka ออกมาในรูปแบบ Search engine ก่อนจะพัฒนาให้สามารถของตั๋วเครื่องบิน โรงแรม ที่พักต่างๆ รวมถึงบริการเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยวทั้งหมด นอกจากนี้ก็ยังได้ระดมทุนก้อนใหญ่กว่า 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จนเลื่อนขั้นเป็นสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นอีกราย
.
5. VNG (2546)
ธุรกิจ : เกมออนไลน์และโซเชียลมีเดีย
มูลค่าบริษัท : 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
สตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นรุ่นบุกเบิกของดินแดนแถบอาเซียนจากเวียดนาม (พร้อมกับ Garena) ดำเนินธุรกิจมามากกว่า 17 ปี ในชื่อ VinaGame มาก่อน โดยดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเกมซึ่งนั่นก็คือ MMORPG (Massively Multiplayer Online Game) หลังจากนั้นทำการขยายมาทำธุรกิจในด้านโซเชียลมีเดียโดยการผลิตแอปฯแชทอย่าง Zalo แอปฯ แชทอันดับ 1 ของประเทศเวียดนาม ที่มียอดดาวน์โหลดกว่า 15 ล้านครั้ง ความน่าสนใจคือ VNG คือบริษัทสตาร์ทอัพที่สามารถก้าวขึ้นระดับยูนิคอร์นได้อย่างรวดเร็วในขณะที่เน้นการทำธุรกิจภายในประเทศเป็นหลักไม่เหมือนกับเจ้าอื่นๆ ที่มีการขยายฐานไปยังประเทศอื่นๆ
.
นอกจาก 5 สตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นที่ได้กล่าวไปข้างต้น ในประเทศกลุ่มอาเซียนก็ยังมีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นอยู่อีกเพียงแต่ไม่ได้เป็นที่รู้จักและให้บริการในพื้นที่ประเทศไทย นั่นก็คือ คือ Tokopedia ธุรกิจอีคอมเมิร์ซจากประเทศอินโดนีเซีย, Bukalapak ธุรกิจอีคอมเมิร์ซจากประเทศอินโดนีเซีย และ Revolution precrafted ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากประเทศฟิลิปปินส์
.
โดยที่ประเทศอินโดนีเซียถือว่าเป็นประเทศที่มีสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นเยอะที่สุดในภูมิภาคอาเซียนถึง 4 เจ้า นั่นก็คือ Gojek, Traveloka, Tokopedia และ Bukalapak นั่นอาจเป็นเพราะรัฐบาลของอินโดนีเซียมีการสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพเพราะปัญหาทางเศรษฐกิจเลยต้องฉีกกฎหนีการทำธุรกิจรูปแบบเดิมเพื่อสร้างเศรษฐกิจในเชิงสร้างสรรค์ ลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯและจีนที่อาจะเป็นสาเหตุทำให้ประเทศอินโดนีเซียขาดเสถียรภาพ รวมถึงประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม มีสตาร์ทอัพที่ถึงระดับยูนิคอร์นแล้วเช่นเดียวกัน
.
สำหรับสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้ล้วนแล้วแต่สามารถตอบโจทย์ปัญหาของผู้คนได้อย่างตรงจุด ทั้งสร้างสรรค์และแปลกใหม่ ซึ่งนั่นเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญของธุรกิจสตาร์ทอัพอยู่แล้ว นอกจากนี้ธุรกิจสตาร์ทอัพนั้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออุดช่องว่างของธุรกิจแบบดั้งเดิมส่งผลให้เศรษฐกิจมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยการที่อาเซียนของเรามีสตาร์ทอัพในระดับยูนิคอร์นเป็นสัญญาณที่ดีว่าเศรษฐกิจในระดับภูมิภาคอาเซียนนั้นสามารถที่จะแข่งขันกับตลาดโลกได้
.
อย่างไรก็ดีการที่จะสามารถก้าวขึ้นสู่ระดับยูนิคอร์นได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากจะต้องอาศัยไอเดียที่สามารถตอบโจทย์ได้ดี ใหม่ และสร้างสรรค์แล้ว ก็ยังต้องมีเงินทุนจำนวนมากในการสนับสนุนไอเดียเหล่านี้ให้เกิดขึ้นได้จริงอีกด้วย สำหรับวงการสตาร์ทอัพประเทศไทยที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และมีสตาร์ทอัพที่มีไอเดียและเทคโนโลยีที่น่าจับตามองอยู่ไม่น้อย ไม่แน่ว่าในอนาคตอาจจะมียูนิคอร์นตัวใหม่ของอาเซียนที่ติดธงชาติไทยวิ่งไปสู่ระดับโลกก็เป็นได้
.
ที่มา : https://www.bangkokbanksme.com/en/unicorn-startup-indonesia
https://techsauce.co/tech-and-biz/what-is-unicorn
https://techcrunch.com/2016/01/02/the-unicorns-of-southeast-asia/
https://ahead.asia/2018/05/31/8-unicorns-of-sea/
https://www.thairath.co.th/news/tech/startup/1694640
.
#อายุน้อยร้อยล้าน #ryounoi100lan #อายุน้อยร้อยล้านNEWS #Startup #Unicorn #ASEAN #สตาร์ทอัพยูนิคอร์น #Business
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過147萬的網紅Kento Bento,也在其Youtube影片中提到,Get ‘Asiany’ Merch at our new merch store!: https://standard.tv/kentobento Download Dashlane for free to manage all your passwords: https://dashlane...
「indonesia search engine」的推薦目錄:
- 關於indonesia search engine 在 อายุน้อยร้อยล้าน Facebook 的最讚貼文
- 關於indonesia search engine 在 Adli Shinichi Facebook 的最佳解答
- 關於indonesia search engine 在 Zyzool Mira Travel Facebook 的最佳解答
- 關於indonesia search engine 在 Kento Bento Youtube 的最佳貼文
- 關於indonesia search engine 在 Viral Soal "Gatotkaca". Butuh Berapa Duit Bikin Search Engine? 的評價
indonesia search engine 在 Adli Shinichi Facebook 的最佳解答
Who am I?
You can search that keyword on Search Engine.
Let's see what appears there..
.
.
.
#actor #artismalaysiaofficial #voiceactor #adlishinichi #pelakonmalaysia #instaseleb #seniman #illgrammers #dramasangat #dfkl #megadrama #actors #rtm #primeworks #astro #indonesia #malaysia #instafamous #actorslife #filmmaker #astrogempak
indonesia search engine 在 Zyzool Mira Travel Facebook 的最佳解答
Hai semua.
Ramai yang mesej mira tanya percutian ke Tokyo Jepun baru-baru ni.
Ok baru ada kesempatan nak share.. 🙏😅
Kami acah-acah backpack ke negara matahari terbit pula kalini.
Percutian ke Tokyo Jepun ni ada pertambahan ahli 😆. First time bawa Afya naik kapal terbang nervous jugeee... Dulu anak sorang. Kalinih 2 anak huhu... Hehehe alhamdulillah kami berempat (Zyzool, Mira, Ayra 4 tahun & Afya 7 bulan) berjaya redah kasi pecah tumit kaki di bandaraya Tokyo Jepun selama 7 hari 6 malam! (serius tak cukup hahaha)
Berikut mira senaraikan sebahagian PERBELANJAAN kami untuk Tokyo, Jepun 2017.
Flight Ticket : Return Ticket RM703 seorang kecuali Afya (Infant) RM250
Penginapan : RM1055.30 (7 hari 6 malam) Purata RM175.88 per night
Pengangkutan : ¥7,500 (~RM281) seorang (Ayra free)
Travel Insurance : RM97.50 satu family
Tokyo Disneyland + Tokyo Disneysea : Dewasa ¥13,200 (~RM494) Kanak-kanak ¥8,600 (~RM323)
Sanrio Puroland : RM73 seorang
Fujiko F. Fujio Museum : Dewasa ¥1,000 (~RM38) Kanak-kanak ¥500 (~RM19)
Tokyo Tower + One Piece : Dewasa ¥2,900 (~RM108) Kanak-kanak ¥900 (~RM34)
Semua tiket Ayra berbayar kali ni sebab dah 4 tahun huhuhu mohon bertabah ayah 💸#zyzooljanganbotakpliss 😅😆. Manakala tiket Afya masih free kecuali tiket kapal terbang hihi
INFO PENTING
1. VISA : Tak perlu mohon visa untuk ke Jepun tapi dalam kapal terbang pramugari/ra akan edarkan DISEMBARKATION CARD & CUSTOMS DECLARATION pada setiap pelancong untuk Visa on Arrival. Tulis dengan lengkap supaya tiada keraguan hohoho..
2. INTERNET : Internet mira beli siap-siap simkad Hello 1010. Kami beli yang 5GB 7 Days. Coverage terbaik dan untuk mira yang heavy user internet nih hihihi 5GB memang cukup. Actually siap beli extra risau tak cukup tapi sepanjang 7 hari tu 3GB je guna rupanya. So ada 1 simkad tak gune lagi nih.. hohoho.. Kat dalam kapal terbang sebelum mendarat Zyzool dah siap-siap masukkan simkad Hello 1010. So touch down DISABLE kan Airplane Mode so kat airport dah boleh dapat signal terus. hehe ouh jangan lupa ON kan DATA ROAMING. Kat tempat kami tinggal ada FREE WIFI. Di Haneda Airport pon ada FREE WIFI. Kat certain train station pon ada FREE WIFI termasuk dalam train.
3. KAD DEBIT/KREDIT : Sebelum ke Jepun cuak jugak kot-kot kad debit/kredit tak diterima di sana sebab pernah baca negara jepun ni cash oriented society dan tak terima kad lebih-lebih lagi ada kes pelancong tipu kad kredit mereka di sana. Tukar cash pulak ciput jer (yeke?🙊).. But don't worry Alhamdulillah kesemua tempat mostly memang accept credit card waima kiosk kecik jual mainan, jajan dan ais krim pon. Sebelum melancong confirmkan kad debit anda boleh digunakan di luar negara.
4. PENGANGKUTAN : Kat sana kami naik train je. Boleh beli tiket untuk setiap perjalanan atau lagi mudah terus beli kad Pasmo/Suica. Pasmo & Suica nih macam Touch & Go la kat Malaysia. Dua-dua sama je IC Card cuma nama je lain sebab syarikat lain-lain. Hasil pembacaan & research dari mereka yang pernah ke jepun maka kami memilih kad Pasmo sebab?? Sebab kalau pulangkan balik kad Pasmo dapat duit baki dalam kad + 500 yen deposit. (tapi tak pulangkan pon sebab nak buat kenangan + valid 10 years.. hehe) Manakala kalau kad Suica ada cas return fee jika duit baki dalam kad melebihi 220 yen. Jelas tak?? huhu Tapi kalau tanya mira, PASMO or SUICA? Mira akan pilih SUICA.. sebab?? rahsia hehehe.. Kalau korang memang nak pergi banyak tempat dalam 1 hari boleh ambil day pass. Yang ni hanya untuk pelancong (kitalah pelancong tu 😅). Ada 24h, 48h, 72h ikut kesesuaian la korang nak pilih yang mana. Tunjukkan passport anda ya. Gunakan tiket pas ni di laluan Tokyo Metro dan Toei Subway sahaja. Selain dari laluan ni guna Pasmo/Suica.
5. PENGINAPAN : Yang nih serius kena booked awal. Kalau makin lambat korang booked makin mahal la atau dapat bilik yang tak bape best atau jauh dari attraction.. hehehe nasib... Ok ni ada satu apps search engine untuk hotel yang best mira nak share dengan korang. Korang bolehlah install apps HotelsCombined.com untuk cari tempat tinggal yang sesuai dengan anggaran bajet korang. Just pilih je range price per night dan HotelsCombined akan senaraikan hotel yang bersesuaian. Pilih hotel pilihan anda dan HotelsCombined banding harga dari Booking, Expedia, Agoda dll. Mudah bukan? Kami booked awal 3 bulan sebelum.. 2 malam pertama Zyzool booked melalui airbnb di area Arakawa-ku. 4 malam terakhir pula kami stay area Tokyo Skytree dengan hanya RM160 semalam. Siap boleh masak, basuh baju, dan ada bath tub lagik.. hihi best-best
6. APPS : Jangan lupa untuk download sesiap MAPS.ME atau google maps apps dan pointkan tempat-tempat bakal korang pergi atau download mana-mana map apps yang korang suka…Install juga apps NAVITIME untuk check train semasa yang korang akan naik. Alhamdulillah memang mudah dan sentiasa di jalan yang benar. hehe. Kalau nak tengok www.HyperDia.com pon boleh juga.. terpulang pada korang yang mana selesa. Kalau pergi ke Tokyo Disneyland/ Tokyo Disneysea bolehlah install apps TDR Alert agar memudahkan perjalanan anda dalam taman tema tersebut.
7. TRAVEL INSURANCE : Lindungilah perjalanan anda dengan travel insurance. hihi.. Yang ni Zyzool belikan travel insurance AXA Smart Traveller VIP. RM97.50 cover untuk kami berempat. Nih pakej untuk 1 family. Insuran ini meliputi trip cancellation, travel delay, missed departure, lost luggage dll. So boleh travel with peace of mind 😊
8. TAMAN TEMA : Actually percutian kali ni memang fokus untuk Ayra. Dulu dia kecik masa pergi Korea, Indonesia & Hong Kong so tak berapa faham.. Tengok gambar, barulah senyum-senyum tanya nih masa Ayra kecik ya ummi? hihi di Hong Kong Disneyland dia ingat tapi terkejut sebab tak sangka jumpa Mickey Mouse dan Sofia the First depan-depan tu yang muka ambil gambar muka macam tak percaya.. hahaha
Tokyo Disney Resort : Pada mulanya nak pilih salah satu je tapi memandang Tokyo Disneysea hanya ada di Jepun sahaja manakala permainan kanak-kanak banyak di Tokyo Disneyland maka terpaksalah kami kerja keras untuk masuk kedua-dua taman tema tersebut. hohohoho.. #zyzoolmohontabah 💸😅. Tiket nih boleh beli kat main entrance tapi kami nak secure tiket confirm dapat so beli kat Disney Store area Shibuya. Beli terus 2 day pass. Kena pilih siap-siap hari pertama dan kedua dan haruslah berturut. Kami pilih Disneysea hari pertama diikuti Disneyland. Makanan boleh bawa masuk just inform HALAL FOOD kat staff yang check tu. Untuk Ayra kami dah siap pakaikan costume Snow White di Disneysea & Princess Belle from Beauty & the Beast di Disneyland.. Untuk dewasa boleh pakai costume pada hari yang ditetapkan musim Halloween. Dan costume tu haruslah tema disney karektar. Selain dari hari tersebut orang dewasa TAK BOLEH pakai costume dalam Tokyo Disney Resort kecuali kanak-kanak. Time kami pergi tu jatuh pada hari orang dewasa boleh pakai costume so jumpe la pakcik pakai outfit Donald Duck, makcik pakai baju Evil Queen (mak tiri Snow White) siap makeup garang & in characterx 😅 dan banyak la lagi karektar seperti Rapunzel, Aurora Sleeping Beauty, Elena of Avalor pon adoo 😱
Tips: Masuk je Tokyo Disneyland/Disneysea minta suami lari ke permainan yang FAST PASS.
Sanrio Puroland : Ayra & Ummi peminat Hello Kitty 😅 so kami decide ke Sanrio Puroland. Tiket ni boleh beli di main entrance. Tapi saja mira nak try beli melalui Klook.com. Harga jauh lebih murah pulak tu. Hanya RM73 seorang berbanding beli di entrance 3,800 yen. Just print email yang Klook.com send untuk tiket masuk. Tiada makanan halal. Kami bawak instant bubur. Just tuangkan air panas dan siap dimakan 😅.. Air panas ada di Baby Room.
Tips: Naik tingkat 2F dulu untuk berjumpe dengan Hello Kitty di Lady Kitty House
Fujiko F. Fujio Museum : Yang ni kalau peminat Doraemon kena pergi nih. Kamilah tu hihi. Tiket tak jual kat entrance. Kena beli siap-siap kat mana-mana kedai Lawson di Jepun. Ada mesin untuk beli tiket Doraemon ni just minta staff Lawson untuk bantu belikan tiket Doraemon tu. Ada 4 waktu pilihan tiket iaitu pukul 10 pagi, 12 tengahari, 2 petang atau 4 petang. Dan kena masuk paling lambat dalam setengah jam waktu reserve tiket tu. Contoh 10 pagi paling lewat masuk 10:30 pagi.
Tips: Kalau masuk sini pergi tingkat 2 dulu tengok cerita Doraemon sebab awal pagi tak ramai orang.
Tokyo Tower + One Piece : Memandangkan ada peminat One Piece dalam group bekpek kami 😅 so kite beli tiket pakej terus. Hehe.. Boleh beli di main entrance dan terpulang lah pada korang nak naik Tokyo Tower dulu atau layan One Piece dulu. Tak kisah.
Tips: Kumpulkan kesemua stamp dalam One Piece Museum sebanyak 11 stamp dan korang bakal dapat hadiah misteri.
9.TAX FREE : Ok yang ni kalau korang nampak kedai tu TAX FREE jangan lupa bagi passport korang kat kaunter pembayaran. So tak perlu bayar cukai 8% tu dan mereka akan klip dan cop resit barang tanpa cukai yang korang beli tu di passport. Mostly masa nak bayar mereka tanya dulu korang nak tax free ya? Contoh kat Disney Store di kaunter pembayaran dia mintak passport mira dan terus buat record of purchase yang tax free tu. Manakala di Sanrio Puroland korang kena pergi tingkat atas ke kaunter Tax Free untuk tuntut balik duit cukai tu.
10. TANDAS : Kalau nak membuang nih toilet kotor & takde pili air pon tak best kan hehe.. Don't worry tandas di jepun ada automatik cebuk & pengering. hehehe.. Super Toilet ni ada yang siap hangatkan kerusi toilet tu lagik. hehe just tekan je gambar kat control panel tepi toilet tu untuk membersihkan pape yang patut hehe. Kalau anda ada baby, boleh masuk toilet yang ada baby rest. Just letakkan baby di baby rest dan selesaikan urusan anda.. hehehe..
11. SOLAT : Kat area Shibuya ada masjid Tokyo Camii. Di Disneyland boleh tanya kat Guest Information nanti staff kat situ bagi bilik untuk solat. Kat Sanrio Puroland kami solat di tingkat 2 menghala ke lift.. kawasan tu kosong dan area staff. Di Fujiko F. Fujio Museum kami solat dalam baby room. Malam di bilik memasing! 😊
Jangan lupa solat di mana saja anda berada 😊.
Semoga dimurahkan rezeki untuk melihat keindahan negara orang ❤️
Buat masa ni dulu eh, Tokyo sendiri besar hihihi nanti mira update details setiap tempat kami pergi & more gambar dalam blog kami ya
http://zyzoolmiratravel.com
Youtube Channel: http://tiny.cc/ZMT_Channel
Akhir kata, “hujan emas di negeri orang.. 😅😜
Semoga bermanfaat & Salam Maal Hijrah 🙂
indonesia search engine 在 Kento Bento Youtube 的最佳貼文
Get ‘Asiany’ Merch at our new merch store!: https://standard.tv/kentobento
Download Dashlane for free to manage all your passwords: https://dashlane.com/kentobento
The first 200 people who use the promo code "KENTOBENTO" get 10% off Dashlane Premium!
Support Kento Bento on Patreon: https://patreon.com/kentobento
Other videos you may like:
These Events Will Happen in Asia in 2020: https://youtu.be/qrataK7FxRA
Where Are The Asian Borders?: https://youtu.be/vPupwlZlNMY
Has KFC Conquered Asia?: https://youtu.be/4iYt9eINS8M
The $1,000,000,000 North Korean Bank Heist: https://youtu.be/Usu9z0feHug
How Would You Take Down North Korea? (The 7 Choices): https://youtu.be/VM_fzaWAybw
This Is The CIA's Secret Toy Operation in South Asia: https://youtu.be/ALf-jO5pyfY
Available Subtitles so far: English, Indonesian, Vietnamese, Chinese, Arabic (click 'CC')
Help us with subtitles in your language!
http://www.youtube.com/timedtext_video?ref=share&v=HkUksxJrdmc
Music:
Epidemic Sound: http://epidemicsound.com
Ross Bugden: https://youtube.com/channel/UCQKGLOK2FqmVgVwYferltKQ
Brandon Maahs: http://brandonmaahs.com
Our Great Patrons:
Michael Zeckner, Alex Tang, TonyTimeTable, Jasper Capel, Christian Bläul, Marco de Abreu, Vijayankesh Bariar, Pete, Nicklas Ulvnäs, Björn Schneider, Solana Avila, DoodLbot, Life Where I'm From, Mark Lefkowitz, Nathanial Philip, Nina Bergold, Chad Austin, Bruce Clezy, Laura A., Heise Huntington, Coke, Eric Schmitt, Greg Baker, Sid Olav Skar, Michael the Excalipoor
Channel Description:
We do videos on intriguing & thought-provoking Asiany topics, including stereotypes, history, culture & geography.
Team KB:
Kento Bento - Director, researcher, script writer, narrator, video editor, motion graphics, audio & music
Isambard Dexter: Assistant researcher
Nina Bento: Cheerleader
★★ Interested in working with us? We are currently looking for a general assistant, video editor, motion graphics editor, assistant illustrator, script editor, & animations director. Familiarity with our style is crucial. If you're someone who's passionate about 'Asiany' topics, above the age of 22, fluent in English & with great attention to detail (perfectionist personality!), send a short introductory email and examples of your relevant works to kentobentoworks@gmail.com with the position, age, & your desired start date noted in the email title. (Note: If above conditions are not met, you may not get a response)
Twitter: https://twitter.com/kentobento2015
Facebook: https://facebook.com/kentobento2015
Patreon: https://patreon.com/kentobento
Business Inquiries: kentobento@standard.tv
---------------------
THESE EVENTS WILL HAPPEN IN ASIA IN 2019
This video will be different from normal, because it won’t just be about one event, but 42 events in the near future, all happening in Asia in 2019. Now of course predicting such events is extremely difficult, but we can always give our best estimates based on the information we currently have.
Some of the events covered:
- India's Chandrayaan-2 will be the first spacecraft to land on the moon
- Mister World competition held in Philippines
- Google developing new censored version of search engine for China ('Dragonfly')
- India's T-Series will defeat Pewdiepie to become the most subscribed YouTube channel of all time
- Kim Jong-un is expected to meet Vladimir Putin in Moscow, as well as Donald Trump for a second time
- South Korea's Samsung will release the first foldable smartphone (Samsung Galaxy X)
- Thailand, North Korea, Afghanistan, Indonesia & India will hold their elections
- Japanese Emperor Akihito will abdicate his throne
- Eurovision Song Contest will be held in Israel
- Taiwan will be the first Asian state to legalize samesex marriage
- New $1.4 billion port city to begin construction in Sri Lanka
- Singapore will complete world's first air taxi trials
- ASEAN countries & US will hold maritime exercises, the biggest display of combined force against China
- Japan hosts the first Rugby World Cup in Asia
- Turkey may start construction on the Canal Istanbul
- China will complete the Beijing Daxing International Airport, busiest in the world.
- India will finish building 111 million toilets nation-wide
- Russia will send humanoid robots to space
- Russia will offer commercial spacewalks to tourists
- Tesla will open factories in Shanghai, China
- Eurovision Asia will be launched
- Huawei consolidates its lead over Apple in smartphone sales
- North Korea will increase their cybercrime activities worldwide
indonesia search engine 在 Viral Soal "Gatotkaca". Butuh Berapa Duit Bikin Search Engine? 的推薦與評價
Mungkinkah kita punya mesin pencari lain selain Google? Buatan sendiri dan diberi nama, Gatotkaca, gitu? Tapi bukan yang kalau ditanya ... ... <看更多>