Review : แชร์ประสบการณ์ผิวพังที่สุดในชีวิตกับการเป็น “เซ็บเดิร์ม” ครั้งแรก! (ปัจจุบันหายแล้วเด้อ)
เมื่อกลางตุลาปี 2018 เค้าเพิ่งกลับมาจากเที่ยวทริปยาวครึ่งเดือน ถึงไทยเจออากาศร้อนแค่วันสองวันลูบหน้าแล้วรู้สึกว่า...เฮ้ย!เกิดอะไรขึ้น หน้าเป็นผดหยาบๆ มีความเป็นไตแข็งๆเต็มหน้าแก้มเลย เล่าย้อนอีกนิดว่าเมื่อก่อนผิวเค้าไม่เคยมีสิวอุดตันใดๆเลย แต่พออายุเข้าสู่เลขสามอยู่ๆก็มีสิวอุดตันประปราย มักมีช่วงมีรอบเดือนประมาณ 2-4 เม็ดส่วนใหญ่ขึ้นหน้าแก้ม เค้าเคยปรึกษาคุณหมอได้คำตอบว่าน่าจะเกิดจากวัยและฮอร์โมน
รอบนี้เลยไม่แน่ใจว่าเป็นสิวอุดตันหรือเปล่า แต่มันขึ้นเป็นแพเต็มหน้าแก้ม ก็เลยเข้าไปหาคุณหมอ สรุปว่าไม่ใช่สิวอุดตันแต่เป็น "เซ็บเดิร์ม" จร้าาาา!!! จากใจก็ช็อคไปเบาๆ แต่อ้ะเป็นแล้วก็ต้องรักษากันไป ก่อนรักษาก็มาทำความรู้จักก่อนเลยว่าเซ็บเดิร์มนี่คืออะไร
📍เซ็บเดิร์ม (Seb Derm : Seborrheic Dermatitis)
คือ โรคผื่นแพ้ผิวหนังจากต่อมไขมันใต้ผิว เกิดได้ทุกส่วนของร่างกายเลย รังแคหนังศีรษะบางประเภทก็ใช่ แต่มักสังเกตเห็นเวลาเป็นที่หน้า ซึ่งอาการเอาจริงๆก็ดูยากหล่ะเพราะหน้าตาจะเหมือนผด แต่เป็นเรื้อรัง ถ้าเป็นมากก็จะมีอาการแดง ลอก เป็นขุย เวลาลูบไปจะสากๆผิวชวนให้เอามือไปแคะแกะเกายิ่งนัก แต่ความต่างจากสิวอุดตันคือกดไม่ออกนาจา ยิ่งไปกดยิ่งทำให้อักเสบ
📍สาเหตุการเกิดเซ็บเดิร์ม
ยังหาสาเหตุแน่ชัดไม่ได้แต่จากการศึกษาวิจัยพบว่ายีสต์บนผิวมีส่วนทำให้เกิดโรค ซึ่งการรักษาด้วยยาฆ่าเชื้อยีสต์นั้นให้ผลที่ดี โดยปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดเซ็บเดิร์มมันเยอะมากกกกกก นอนดึก พักผ่อนน้อย อากาศร้อน/เย็น ฝุ่นควัน มลภาวะ ความเครียด ฯลฯ สรุปว่าการใช้ชีวิตทุกอย่างที่ไม่เฮลท์ตี้สามารถกระตุ้นให้เกิดเซ็บเดิร์มได้หมดเลยจ้า
📍วิธีการรักษา
ถ้าเป็นน้อยจริงๆก็หายเองได้ แต่ส่วนใหญ่จะรู้ว่าเป็นเซ็บเดิร์มก็มักเกินระยะเป็นน้อยมาแล้วหล่ะ ดังนั้นเมื่อเกิดผดที่ไม่แน่ใจขึ้นแนะนำเลยค่ะให้ไปพบแพทย์ผิวหนัง การพบแพทย์คือทางออกที่ดีที่สุดในการรักษาเซ็บเดิร์มจริงๆ ไม่มั่นใจอาการที่เป็นไม่ควรวินิจฉัยโรคเอง ซึ่งเซ็บเดิร์มสามารถตรวจได้ด้วยการขูดรอยโรคไปตรวจหาค่ายีสต์/เชื้อราบนผิวหนัง โดยเข้าไปตรวจกับแพทย์ผิวหนังตามโรงพยาบาลได้เลย
การรักษาหลักๆก็คือการใช้ยาทาหรือยาทานร่วมกัน และทำการฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรงด้วยสกินแคร์หรือการใช้เลเซอร์บางประเภทร่วมด้วย
ตอนที่เค้ารักษาคือได้รับยาที่มีส่วนผสมของ Ketoconazole ที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อยีสต์เชื้อรา เพื่อปรับสมดุลปริมาณยีสต์บนผิวหนังให้กลับสู่ภาวะปกติ และมีการทานยาที่ช่วยลดการอักเสบของผิวในช่วงแรก ซึ่งปริมาณของยาและระยะเวลาที่ใช้ต้องอยู่ใต้การดูแลของแพทย์ ไม่ควรซื้อมาใช้เอง! และของเค้ามีการใช้เลเซอร์ Isolaz + V Beam เพื่อลดการอักเสบร่วมด้วย เค้ารักษากับคุณหมอโจ้ที่ The Demis Clinic ใช้เวลาทั้งหมด 4-5 เดือน ปัจจุบันผดหายหมดแล้ว สิวอุดตันก็แทบไม่เป็น เหลือแค่รอยสิวนิดหน่อยฮะ
📍การดูแลผิวในช่วงที่เป็นเซ็บเดิร์ม
ใช้สกินแคร์ให้น้อยชิ้นที่สุด โดยเลือกใช้สกินแคร์สำหรับผิวแพ้ง่ายที่ไม่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองโดยเฉพาะ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะไปก่อให้เกิดการอักเสบของผิวเพิ่ม แต่ไม่ใช่ไม่ใช้ไม่ทาอะไรเลยนะฮะ ต้องบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นไว้ ถ้ายิ่งปล่อยให้ผิวแห้งผิวจะอ่อนแอและระคายเคืองง่ายขึ้นทีนี้ก็ไม่หายซักที ส่วนด้านอื่นก็คือดูแลสุขภาพให้ดีเพื่อลดปัจจัยที่จะไปกระตุ้นด้วยการพักผ่อนเพียงพอ ทานน้ำเยอะๆ เลี่ยงที่มีฝุ่นมลภาวะ ฯลฯ สิ่งสำคัญอีกอย่างคือทำใจปล่อยวางมันไปอย่าใส่ใจมาก พยายามไม่ส่องกระจก ไม่เอามีไปลูบไปคลำ ยิ่งเครียดยิ่งนอยยิ่งหายช้านะเออ!
📍ข้อควรระวัง!!!
เมื่อเป็นผดช่วงแรกถ้าไม่แน่ใจว่าเป็นผดอะไรห้ามซื้อยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์อย่างพวก TA มาทาเด็ดขาด เพราะการทาสเตียรอยด์ผื่นจะยุบลงแบบทันใจมากแต่เมื่อหยุดทาอาการอักเสบจะเห่อหนักขึ้น ทำให้รักษายากและใช้เวลานานยิ่งขึ้นไปอีก
ผิวบริเวณที่เคยเป็นเซ็บเดิร์มจะอ่อนแอลงทำให้เกิดเป็นสิวง่ายขึ้น ก็ต้องค่อยๆบำรุงและฟื้นฟูผิวให้ค่อยๆกลับมาแข็งแรงกันไป และบอกตามตรงเลยว่าเซ็บเดิร์มรักษาแล้วไม่ได้แปลว่าไม่หายขาด ถ้ามีปัจจัยกระตุ้นก็สามารถกลับมาเป็นได้อีก ซึ่งการรักษาทุกครั้งต้องใช้เวลาและความอดทน ไม่มียาหรือสกินแคร์ใดแก้ปัญหาเซ็บเดิร์มได้ทันตา ต้องดูแลพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงจึงจะเป็นการป้องกันการเกิดเซบเดิร์มได้ดีที่สุด
#MhunoiiiReview #MhunoiiiSkin
