ขีดจำกัดของโลก 9 ประการ
เรื่องโลกร้อนเป็นแค่ 1 ใน 9 เท่านั้น ! มีอีก 8 ตัว! คุณพระ!!
-----------------------
เมื่อไม่นานมานี้ได้ดูสารคดีเรื่อง Breaking Boundaries: The Science of Our Planet ใน netflix [ https://www.imdb.com/title/tt14539726/?ref_=nv_sr_srsg_0 ] น่าสนใจมาก
หนังพูดเรื่อง The 9 planetary boundaries หรือขีดจำกัดของโลก 9 อย่างที่มนุษย์กำลังสร้างผลกระทบโดยตรง และถ้าข้ามขีดอันตรายไปเมื่อไหร่ จะเกิดผลกระทบลูกโซ่ที่ทำลายระบบนิเวศของโลกอย่างหวนกลับมาไม่ได้อีกต่อไป
ซึ่งในบรรดา 9 อย่างนี้ เรารู้จักเรื่องโลกร้อนดีที่สุด แต่ที่เหลือ มีหลายอันที่มีคนพูดถึงน้อยมากๆ
ขีดจำกัดทั้ง 9 นี้ มีที่มาจากกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ นำโดย Johan Rockstrom [นามสกุลโคตรเท่] แห่งมหาวิทยาลัย Stockholm และวิล สเตฟเฟน (Will Steffen) จากมหาวิทยาลัย Australian National University เอางานวิจัยยาวนานกว่า 5 ทศวรรษ มาสรุปเป็นกระบวนการรักษาสมดุลของโลกให้เราเห็นชัดเจน 9 ประการ โดย Rockstrom เองเป็น presenter ของสารคดีชิ้นนี้ด้วย
นอกจากจะทำความรู้จักขีดจำกัดทั้ง 9 อย่างนี้แล้ว งานวิจัยก็ยังบอกเราด้วยว่าตอนนี้มนุษย์อยู่ในขีดอันตรายระดับไหนแล้วในแต่ละหัวข้อ
-----------------------
สถานการณ์: [Code Red] วิกฤติแล้วจ้า ฉิบหายแล้ว มี 2 ข้อ
1. Biodiversity loss [การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ] : สถานการณ์ วิกฤติ
- ว่าด้วยการสูญพันธ์ของสัตว์และพืช ใช่ 50 ปีที่ผ่านมา อัตราการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตเพิ่มขึ้นสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ หลักๆมาจากการสูญเสียที่อยู่อาศัยจากการกระทำของมนุษย์ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เพื่อผลิตอาหาร น้ำ และทรัพยากร
- ต่อปี อัตราการสูญพันธุ์ในปัจจุบัน อยู่ที่ 1,000 ต่อ 1,000,000 ชนิด ต่อปี [0.1%] โดยอัตราการสูญพันธุ์ที่ปลอดภัย อยู่ที่ ไม่เกิด 10 ต่อ 1,000,000 ชนิดต่อปี [ 0.001%] เท่ากับเราเลย limit ที่ปลอดภัยมาแล้ว 100 เท่า!
2. Nitrogen Cycle and Phosphorus Cycle [ วงจรไนโตรเจนและฟอสฟอรัส] : สถานการณ์ วิกฤติ
- ใช้แล้วครับ ไนโตรเจนกับฟอสฟอรัส ในปุ๋ยเคมี NPK นี่แหล่ะ
- เรื่องนี้มีคนรู้น้อยมาก หลักๆคือการที่มนุษย์ผลิตอาหารมากขนาดนี้ เราต้องใช้ปุ๋ยจำนวนมหาศาล เราไปเก็บไนโตรเจนมาจากชั้นบรรยากาศ และขุดฟอสฟอรัสมาจากในดิน แล้วในกระบวนการเกษตร สารเหล่านี้โดนเก็บไว้ในพืชแค่นิดเดียว ที่เหลือไหลลงน้ำลงทะเล หรือกลายเป็นมลพิษในอากาศ
- ซึ่งผลพวงก็มีเช่น ปุ๋ยลงน้ำไปทำให้เกิด Algae Bloom [สาหร่ายเติบโต] ซึ่งพอตายทับถมกัน ก็ทำให้ออกซิเจนในน้ำลดลงเรื่อยๆ จนบางที่กลายเป็น "Dead Zone" หรือจุดที่สิ่งมีชีวิตไม่สามารถอยู่ได้อีกแล้ว เพราะขาดออกซิเจน ซึ่งทั่วโลกพบอยู่หลายร้อยแห่งแล้ว ปล่อยไปเรื่อยๆจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ทำระบบนิเวศพังทั้งระบบ
- ตอนนี้เราใช้ไนโตรเจนกับฟอสฟอรัสเพื่อผลิตอาหาร เกิดขีดจำกัดที่นักวิทยาศาสตร์กำหนดไว้ ประมาณ 2 เท่าในทุกๆปี
-----------------------
สถานการณ์: [Code Yellow] ต้องเฝ้าระวัง หากไม่เปลี่ยนแปลง วิกฤติแน่
3. Deforestation Land use Changes การตัดไม้ทำลายป่า และการเปลี่ยนแปลงผืนโลก : สถานการณ์ เฝ้าระวัง
- คือการเปลี่ยนป่าเป็นพื้นที่การเกษตรหรือเลี้ยงสัตว์[การผลิตเนื้อ ใช้ที่ดินเยอะมาก] ซึ่งนำไปสู่ทั้งความสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ [ข้อ 1. ] และเป็นการปล่อยคาร์บอนที่ถูกกักเก็บไว้ในต้นไม้กลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งก็ไปสร้างปัญหาภาวะโลกร้อนต่อ รวมถึงการเปลี่ยนน้ำทะเลให้เป็นกรดอีกด้วย
- ป่าคือ Carbon Sink หรือตัวดูดซับคาร์บอนที่ดีที่สุดที่เรามีอยู่ในธรรมชาติ การสูญเสียป่า คือการสูญเสียระบบจัดการคาร์บอนของดาวโลก
- การสูญเสียพื้นที่ป่าในประเทศหนึ่ง อาจสร้างผลกระทบต่อระบบนิเวศในระดับโลก (เช่นป่า Amazon เป็นต้น)
4. Climate Change ภาวะโลกร้อน : สถานการณ์ เฝ้าระวัง
- ตัวโหดที่ทุกคนรู้จักดี ตอนนี้เราผ่านจุดที่คาร์บอนในชั้นบรรยากาศ อยู่ที่ 418 ppm [Parts per million] ซึ่งอาจจะนำไปสู่โลกที่อุณหภูมิสูงขึ้นประมาณ 2 องศา ซึ่งเป็นสิ่งที่ Paris Agreement ในปี 2015 ตั้งใจจะทำให้ได้ แต่อย่างไรระดับคาร์บอนได้ออกไซด์ก็ไม่มีทีท่าจะลดลงมาสักกะที ถ้าหากว่าเกิน 500 ppm ขึ้นไป และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราอาจจะจบที่ร้อนชึ้น 4-8 องศา ซึ่งนั่นคือ Game Over แน่นอน
- ตอนนี้น้ำแข็งทะเลในขั้วโลกเหนือลดลงจนไม่น่าจะหวนกลับมาได้แล้ว ทำให้เรายิ่งไม่มีพื้นที่สีขาวมาสะท้อนแสงอาทิตย์กลับไป
- น้ำแข็งในกรีนแลนด์ละลายเร็วขึ้นกว่าที่คาดการเอาไว้ 3-4 เท่า ถ้ากรีนแลนด์ละลายหมด น้ำทะเลจะสูงขึ้น 7 เมตร
- ตอนนี้ขั้วโลกได้ที่เชื่อว่าละลายได้ยากมาตลอด เริ่มมีอาการแปรปรวนให้เห็น ถ้าละลายหมด น้ำจะสูงขึ้นหลายสิบเมตร
- จุดที่เราจะย้อนกลับไม่ได้ ใกล้เข้ามาทุกที
-----------------------
สถานการณ์: [Code Green] ยังปลอดภัยอยู่ ต้องรักษาระดับเอาไว้
5. Freshwater Use การใช้น้ำจืด : สถานการณ์ ยังปลอดภัย
- เป็นตัวแปรที่ link กับเรื่อง climate change + ระบบการจัดการน้ำของมนุษย์ ซึ่งได้เปลี่ยนวงจรที่น้ำจืดแปรสภาพและไหลเวียนตามธรรมชาติไปโดยสิ้นเชิง การชลประทานนำไปสู่การเปลี่ยนในการไหลของแม่น้ำ การถางป่านำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงของวงจรไอน้ำ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและส่วนใหญ่เปลี่ยนแล้วแก้คืนไม่ได้
- ถึงแม้ว่าตอนนี้จะยังไม่วิกฤติ แต่ก็ต้องระวังดีๆ หากเราเปลี่ยนวงจรน้ำจืดไปเรื่อยๆอย่างไม่คิดถึงผลกระทบที่ตามมา อาจจะส่งผลลูกโซ่ต่อเนื่อง สร้างความเสียหายในแบบที่เรายังคาดไม่ถึงได้
6. Ocean Acidification การเป็นกรดของมหาสมุทร : สถานการณ์ ยังปลอดภัย
- ประมาณ 25-30% ของคาร์บอนที่เราปล่อยออกมา ถูกดูดซับโดยน้ำในมหาสมุทร ซึ่งผลพวงของมันก็คือทำให้น้ำทะเลมีความเป็นกรดมากขึ้น ซึ่งก็ไปทำให้ในน้ำมี แคลเซียมคาร์บอเนต ลดลงเรื่อยๆ ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งสำคัญที่สิ่งมีชีวิตในทะเล ทั้งปะการัง ทั้งกุ้ง หอย ปู แพลงตอนบางประเภท หรืออะไรก็ตามที่มีเปลือก ใช้ในการสร้างเปลือกป้องกันตนเอง
- พอสัตว์เหล่านี้โตไม่ได้ ก็กระทบบ่วงโซ่อาหาร ในทะเลก็มีปลาน้อยลงเรื่อยๆ
- ตอนนี้น้ำทะเลของเรา มีความเป็นกรดมากขึ้น 30% เมื่อเทียบกับตอนก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม
- อันนี้ link กับเรื่อง Climate change ในเชิงมีสาเหตุร่วมกัน แต่ถือเป็นคนละมาตรวัดกัน
- ถึงยังปลอดภัยอยู่ แต่ถ้าไม่เปลี่ยนเรื่องปล่อยคาร์บอนกัน มันก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆต่อไป
7. Stratospheric ozone depletion การสลายตัวของชั้นโอโซน : สถานการณ์ ยังปลอดภัย
- อย่างที่รู้กัน โอโซนช่วยกัน UV [ultraviolet] ไม่ให้เข้าสู่บรรยากาศโลก ถ้าไม่มีโอโซนเราก็จะเป็นมะเร็งผิวหนังกันหมด และระบบนิเวศโลกก็จะพัง
- อันนี้เป็นข้อเดียวที่สถานการณ์ดีขึ้นมาก นับตั้งแต่มีการค้นพบปัญหารูโอโซนบริเวณขั้วโลก และมีการระบุชัดเจนว่าสารเคมีชนิดไหนที่เป็นต้นเหตุ นานาชาติก็มีการตกลงแบนสารเหล่านั้นร่วมกันผ่าน Montreal Protocol จนได้ผลนำสถานการณ์อันตรายมาสู่ระดับที่ปลอดภัยได้
- เป็นความหวังของหมู่บ้าน ว่ามนุษย์สามารถรวมตัวกันแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ
-----------------------
สถานการณ์: [Unknown] รู้ว่าเป็นปัญหา แต่ยังไม่สามารถกำหนดขอบเขตที่เกินขีดอันตรายไปได้
- 2 ข้อนี้ คือตัวแปรที่นักวิทยาศาสตร์เห็นตรงกันว่าจะมีผลกระทบกับระบบนิเวศของโลกอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่ว่ายังหาคำตอบไม่ได้ว่าขีดอันตรายอยู่ที่จุดไหน
8. Particle Pollution [Atmospheric aerosol loading] สารแขวนลอยในชั้นบรรยากาศ : สถานการณ์ (ไม่รู้)
- ง่ายๆก็คือพวก pm10/ pm2.5 นั่นแหล่ะครับ + สารเคมีต่างๆที่มนุษย์ปล่อยขึ้นไปในชั้นบรรยากาศ สิ่งเหล่านี้นอกจากจะมีผลกับสุขภาพของมนุษย์แล้ว คือมีผลกับอุณหภูมิของโลกด้วย
- ในขณะที่ก๊าซเรือนกระจก ทำให้โลกร้อนขึ้น สารแขวนลอยและมลพิษในอากาศ มีผลกระทบในการสะท้อนแสงอาทิตย์ออกนอกชั้นบรรยากาศ พูดง่ายๆยิ่งอากาศขุ่นมัวมาก อุณหภูมิก็ยิ่งลดลง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป เพราะต้องแลกมากับคุณภาพอากาศที่ย่ำแย่มากๆ เป็นผลกับสิ่งมีชีวิตทุกชนิด
- นอกจากนั้น สารแขวนลอยเหล่านี้ยังสามารถจับตัวกับไอน้ำ มีผลกับการจับตัวของก้อนเมฆและการเปลี่ยนแปลงของอากาศอีกด้วย
- ซึ่งผลกระทบตรงนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาเพิ่มเติม ทำให้ยังไม่สามารถทราบผลกระทบทั้งหมดได้
9. Chemical Pollution การปนเปื้อนของสารสังเคราะห์ : สถานการณ์ (ไม่รู้)
- มนุษย์เราสร้างสารสังเคราะห์ชนิดใหม่ขึ้นมากว่า 100,000 ชนิด ซึ่งมีทั้งโลหะหนักต่างๆ สารกัมมันตภาพรังสี ไมโครพลาสติก ฯลฯ ซึ่งผ่านอุตสาหกรรมและกิจกรรมต่างๆของมนุษย์ สารเหล่านี้ก็ถูกปล่อยกลับสู่ธรรมชาติ โดยที่เรายังไม่เข้าใจผลกระทบที่พวกมันมีต่อสัตว์ พืช และระบบนิเวศเลย รวมไปถึงผลกระทบที่มันมีต่อคนด้วย [ยกตัวอย่าง จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ ว่าการกินไมโครพลาสติกเข้าไป มีผลอะไรกับร่างกายคนบ้าง]
- ทำให้การกำหนดขอบเขตในเรื่องนี้ เป็นไปได้ยากมาก แต่นักวิทยาศาสตร์ก็เห็นพ้องกันว่า เป็นตัวแปรที่มีผลต่อระบบนิเวศของโลกแน่นอน
-----------------------
นอกจาก 9 ข้อนี้ ขอฝากคำศัพท์ไว้อีกคำ คือคำว่า [Antropocene]=แอนโทรโพซีน คือชื่ออย่างไม่เป็นทางการของโลกยุคปัจจุบัน โดยยุคก่อนหน้านี้คือยุค Holocene [โฮโลซีน] ที่เริ่มต้นประมาณ 11,700 ปีที่แล้ว หลังยุคน้ำแข็งรอบสุดท้ายจบลง เป็นยุคที่อุณหภูมิของโลกเริ่มคงที่ ทำให้สภาวะที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของสังคมมนุษย์เกิดขึ้นได้ เป็นสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
แต่มาตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์บอกว่ายุค Antropocene ได้มาถึงแล้ว มาจากคำว่า Anthropo ที่แปลว่า "คน" ในภาษากรีก ซึ่งอธิบายง่ายๆก็คือ นี่คือยุคที่มนุษย์กลายเป็นตัวแปรหลักในการเปลี่ยนแปลงสภาวะภูมิอากาศและระบบนิเวศของโลก จากที่ก่อนหน้านี้ ไม่เคยมีสปีชีส์ไหนทำแบบนี้ได้มาก่อน สัตว์ทุกชนิดต้องยอมรับสภาวะที่โลกหยิบยื่นให้ มีเราเป็นสปีชีส์แรกที่สามารถเปลี่ยนระบบของโลกได้ด้วยการกระทำของเรา
ขึ้นอยู่กับว่าจะเปลี่ยนไปทางไหนเท่านั้นเอง
Ref
http://www.salforest.com/blog/planetary-boundary
https://en.wikipedia.org/wiki/Planetary_boundaries#/media/File:Planetary_Boundaries.png
https://www.stockholmresilience.org/research/planetary-boundaries/the-nine-planetary-boundaries.html
https://www.nationalgeographic.org/encyclopedia/anthropocene/
https://www.imdb.com/title/tt14539726/
同時也有3部Youtube影片,追蹤數超過11萬的網紅ลงทุนแมน,也在其Youtube影片中提到,Daikin พัฒนาอีกขั้นของเทคโนโลยีที่ช่วยจัดการไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้ถึง 99.9% เพื่อส่งมอบอากาศสะอาดสู่คนไทย ได้อย่างไร? --------------------------------...
nitrogen cycle 在 Heliza Helmi Facebook 的最讚貼文
hari rabu bebaru ni.. bila bangun subuh.. kepala berputar2.. oh nooo.. cam nak termunnn.. dah siap2 nak gie skull tp x pat nak gerak.. sob2.. kepala rase nak tercabut jer.. malamnyer gie jumpe dr.. dr kate ada temam n sore throat.. loh. camne tu.. tadi baru habis ngajor pasal useful microorganism.. pasal nitrogen cycle..
nitrogen cycle 在 ลงทุนแมน Youtube 的最讚貼文
Daikin พัฒนาอีกขั้นของเทคโนโลยีที่ช่วยจัดการไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้ถึง 99.9% เพื่อส่งมอบอากาศสะอาดสู่คนไทย ได้อย่างไร?
-------------------------------------------------------------
ปีนี้ เป็นปีที่สาหัสมาก
ตั้งแต่ Coronavirus หรือว่าเชื้อ COVID-19
เจอทั้งเชื้อ RSV ที่ระบาดในกลุ่มเด็ก
ไวรัสสองตัวนี้เราสามารถป้องกันได้โดยการที่ไม่ออกไปพื้นที่แออัด
แต่สิ่งที่ใกล้ตัวเราที่สุดคือ ฝุ่น PM2.5 เป็นตัวการทำให้เกิดทั้ง มะเร็งปอด ทั้งโรคภูมิแพ้
ต่อให้เราอยู่ในบ้าน ฝุ่นก็สามารถเล็ดลอดเข้ามา
การที่หาตัวช่วย เพื่อเป็นการป้องกัน PM2.5 ไม่ให้ทำอันตรายต่อสุขภาพของเรา ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
ไดกิ้น เรามองเห็นล่วงหน้า เรื่องเทรนด์ของคุณภาพอากาศที่จะเปลี่ยนไปตั้งแต่ 10 กว่าปีที่แล้ว
และนั่นก็เป็นสาเหตุว่า เราคิดค้นและพัฒนาตัวเทคโนโลยี Streamer สำเร็จตั้งแต่ปี 2004
และก็ได้นำมาใช้กับผลิตภัณฑ์ของไดกิ้น
เพื่อที่จะทำให้ผู้ใช้งานได้รับ นอกจากความเย็น ก็คือคุณภาพอากาศที่ดี
อันดับแรก Streamer เป็นเทคโนโลยี ที่มีเฉพาะในไดกิ้นเท่านั้น
และตอนนี้ผลทดสอบ ไวรัสและแบคทีเรียมากกว่า 60 ชนิด
ได้ผ่านการทดสอบกับมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศญี่ปุ่น
ผลการทดสอบออกมาว่าเทคโนโลยี Streamer สามารถยับยั้งไวรัสและแบคทีเรียได้ทั้งหมด
Streamer เทคโนโลยี ก็คือ เทคโนโลยีที่ปล่อยอิเล็กตรอนความเร็วสูงไปสู่อากาศ
มีความสามารถในการย่อยสลายเชื้อโรคที่เข้าไปจับ
โดยเทคโนโลยี Streamer ของไดกิ้น ทำให้เกิดโมเลกุลที่แตกตัวออกมา 4 ชนิด
ก็คือตัว Charged Nitrogen, Charged Oxygen, OH radical แล้วก็ O radical
ตัวที่เป็นฮีโร่โมเลกุลของเราเลยก็คือ ตัว Charged Nitrogen ซึ่งมีพลังงานที่สูงมาก ๆ
ด้วยความที่มีพลังงานสูงมาก ก็จะทำให้เวลาที่เจอกับเชื้อโรค จับกับเชื้อโรค
ก็สามารถสลายเชื้อโรคได้ถึงแก่น
ทีนี้ไดกิ้นก็นำเทคโนโลยี Streamer เข้ามาใส่ในเครื่องฟอกอากาศ
ทำให้เกิดประสิทธิภาพขึ้น 3 อย่างด้วยกัน หรือเราจะเรียกว่า 3C Effect
C แรกก็คือ Clash หรือว่าพุ่งชน มาจากการที่โมเลกุลพลังงานสูงพวกนี้
พุ่งไปจับเป้าหมาย เชื้อโรคบนแผ่น HEPA filter
ปกติ HEPA filter จะถูกใส่ไว้ในเครื่องฟอกอากาศ แล้วก็จะดักจับฝุ่นละเอียด ดักจับเชื้อโรค
แต่ว่าสสารอันตรายก็จะยังค้างอยู่บนแผ่น HEPA filter อยู่แบบนั้น
เทคโนโลยี Streamer ก็จะช่วยให้โมเลกุล ไปสลายสสารอันตรายบน HEPA filter
และก็ทำให้ HEPA filter มีอายุการใช้งานได้นานขึ้น
C ที่สองก็คือ Cycle
ในเครื่องฟอก นอกจากจะมีแผ่นกรองฝุ่น หรือที่เรียกว่า HEPA filter ก็ยังมีแผ่นกรองกลิ่นด้วย
ซึ่งปกติ แผ่นกรองกลิ่นเมื่อดูดซับกลิ่นจนเต็มแล้ว จะไม่สามารถดูดซับกลิ่นได้อีก
และซ้ำร้ายไปกว่านั้นก็คือ จะส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ ที่ดูดซับไว้
ก็จะทำให้เราได้อากาศที่มีกลิ่นไม่สะอาด
ด้วยเทคโนโลยี Streamer ก็จะทำการสลายกลิ่น ที่โดนดูดซับไว้บนแผ่นกรองกลิ่น
ทำให้เครื่องฟอกอากาศไดกิ้น ที่มีเทคโนโลยี Streamer
ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแผ่นกรองกลิ่นเลยตลอดอายุการใช้งาน
และ C สุดท้ายก็คือ Clean หรือว่าความสะอาด
ภายในเครื่องสะอาดหมดจด
แล้วอากาศที่จะออกผ่านเครื่อง ก็สะอาดหมดจดด้วยเช่นกัน
ตอนนี้อย่างที่ทราบดีว่ามีสถานการณ์ COVID-19
ทางไดกิ้นที่ญี่ปุ่นก็ได้นำเทคโนโลยี Streamer ไปทดสอบกับเชื้อ Coronavirus
กับมหาวิทยาลัยโตเกียว และมหาวิทยาลัยโอคายามะ
ในขั้นตอนของการทดสอบ เราไม่ได้นำเครื่องฟอกอากาศเข้าไป
แต่ใช้ตัวปล่อยโมเลกุลของเทคโนโลยี Streamer ไปทดสอบกับเชื้อ Coronavirus
และผลที่ได้จากการทดสอบร่วมกันของมหาวิทยาลัยโตเกียว มหาวิทยาลัยโอคายามะ และไดกิ้น
พบว่าตัวปล่อยโมเลกุลเทคโนโลยี Streamer ที่ไดกิ้นนำไปทดสอบ สามารถยับยั้งเชื้อ Coronavirus ได้
หลังจากที่เราฉายประจุอิเล็กตรอนความเร็วสูง จากเทคโนโลยี Streamer ต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ชั่วโมง
สามารถยับยั้งเชื้อ Coronavirus ได้ 99.9%
ตอนนี้ในประเทศญี่ปุ่น สินค้าที่มี Streamer มีทั้ง เครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง เครื่องปรับอากาศแบบฝังใต้ฝ้า รวมไปถึงระบบปรับอากาศ (Ventilation Systems) เรียกได้ว่า มีแทบจะทุกผลิตภัณฑ์สินค้า
แต่ในประเทศไทย ณ ตอนนี้ ผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยี Streamer ก็คือเครื่องฟอกอากาศ ซึ่งมีด้วยกัน 3 รุ่น
แต่ในอนาคต เราวางแผนว่าจะนำผลิตภัณฑ์ที่มีเทคโนโลยี Streamer เข้าสู่ตลาดเมืองไทย และให้ผู้บริโภคเมืองไทยได้ใช้ และได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้อย่างสูงที่สุด
ในฐานะที่เป็นผู้ใช้งานจริง ที่บ้านมีเครื่องฟอกอากาศไดกิ้น ซึ่งมีเทคโนโลยี Streamer ด้วย
ต้องบอกว่าอย่างแรก ตั้งแต่เปิดเครื่องเลยคือ เสียงเงียบ และกำจัดฝุ่นได้ค่อนข้างเร็ว
และนอกจากนั้น ที่บ้านมีเลี้ยงสัตว์มีเลี้ยงแมวด้วย กลิ่นจากสัตว์เลี้ยงก็เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่คนเลี้ยงสัตว์จะต้องเจอ
แต่ว่า ตั้งแต่มีเครื่องฟอกอากาศไดกิ้นตัวนี้ กลิ่นลดลงจนแทบไม่ได้กลิ่นเลย
นอกจากนี้ ตอนนี้มนัญตั้งครรภ์อยู่ ด้วยความเป็นคนท้องก็จะ Sensitive และก็มีอาการภูมิแพ้บ่อย ๆ
ตั้งแต่ที่มีเครื่องฟอกอากาศไดกิ้น พบว่าอาการภูมิแพ้หายไป เราใช้แล้วเราก็รู้สึกมั่นใจ
ว่าเครื่องฟอกอากาศตัวนี้ ทำให้เราได้อากาศบริสุทธิ์ที่แท้จริง
สำหรับผมเองที่ตอนนี้มีลูก 3 คน สิ่งสำคัญคืออยากให้ลูก ๆ ได้รับอากาศที่บริสุทธิ์
การที่มีเครื่องฟอกอากาศ ที่มีเทคโนโลยี Streamer อยู่ในห้อง ก็ทำให้สบายใจ และอุ่นใจมากขึ้น
โดยเฉพาะประเทศไทย ที่ตอนนี้มีปัญหาเรื่องมลภาวะอากาศเป็นช่วง ๆ รวมถึงตึก อาคารบ้านเรือน ไม่ค่อยมีช่องระบายอากาศมากนัก ดังนั้นการมีเครื่องฟอกอากาศที่มีเทคโนโลยี Streamer ติดบ้านไว้ซักเครื่อง ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี
nitrogen cycle 在 358TV Youtube 的精選貼文
ARGON18 NITROGEN ZIPP Wheel! / アルゴン18のナイトロジェンスーパーカーバージョンの登場です!これぞ最高の機械美!
名古屋サイクルトレンド2017
http://cycle-trend.jp
★お仕事やレビューのご依頼は
358tvshow@gmail.com までお願い致します
▼358の【ロードバイク紹介】再生リストです。https://www.youtube.com/playlist?list=PLbC5Wey7yFL-FwROnAD35ZcZH98Rys3LR
▼この機会にチャンネル登録と評価をお願いします
https://www.youtube.com/user/31tvshow
▼【Twitter】
https://twitter.com/358TV
▼【Instagram】
https://www.instagram.com/358tv/
▼【Blog】
http://kounomiya.hatenadiary.jp/
▼【Facebook】
https://www.facebook.com/358tvshow/
▼【国府宮自転車倶楽部】
http://jmty.jp/aichi/com-spo/article-15rtb
http://www.net-menber.com/look/data/30994.html
#ロードバイク #roadbike #cycling #サイクリング #ポタリング
nitrogen cycle 在 一二三渡辺 Youtube 的最佳解答
HONDA dream CB450 is discovered with the triple world.
November 1, 1968
Design changing and output improvements.
?King of gorgeous motorcycle?
New HONDA dream CB450
Nationwide standard cash fixed price \268000 sale November 1 in time
High-speed, efficient, large-scale motor cycle when peculiar DOHC engine was installed. Distinctive character of king who has dynamic, dynamic power with whom design and mobility overflow. The engine, the frame, and everything were polished further.
HONDA dream CB450 is evaluated export from all parts of the world high with the domestic sale in April, 1965 as beginning and "King of the motorcycle", and makes the name of "Star of export" at will for the speed-cop's motorcycle of the each country police for which the most needs mobility most.
- Max power 45 horsepower. Maximum speed 180 km/h.
Marvelous output for each liter of 101 horsepower. Only this is a result of crystal four cycle two cylinder DOHC engine of the technology of HONDA.
- 0?400m 13.2 acceleration second.
Acceleration that is the highest in the world and marvelous. Demonstrating of being that doesn't go in technology of world GP participation. It is mobile power not to permit the follow of another car even to the outstripping acceleration.
- Five return type step mission
An ideal gear ratio can be chosen at any time according to the running condition, and the engine characteristic of E of high power is demonstrated full.
- Oil and type of high-pressure nitrogen using together rear suspension of new type
It starts at the motor cycle, a preeminent road holding is demonstrated in appearance, a high-speed cornering, and running in the bad road, etc. , and the riding quality has improved rapidly, too.
Animation to love each other
http://jp.youtube.com/watch?v=KJD-THocumA&feature=channel_page
It is lovely.
http://jp.youtube.com/watch?v=1gdeAoOvyEo&feature=channel_page
It is a beautiful woman dog.
http://jp.youtube.com/watch?v=rmQISVaOmSw&feature=channel_page
トリプルワールドにてHONDA ドリームCB450を発見
1968年11月1日
デザイン一新・出力向上!
―豪華なオートバイの王様―
新型 ホンダドリームCB450
全国標準現金正価 ¥268000 発売時期 11月1日
独得のDOHCエンジンを塔載した、高速、高性能の大型モーターサイクル。豪快でダイナミッ クな迫力を持つデザイン、機動性あふれる王者の風格。エンジン、フレームともすべてに一段と磨きをかけました。
ホンダドリームCB450は、昭和40年4月の国内販売とともに輸出を開始、「オートバイの 王様」として全世界から高く評価され、そのほとんどが最も機動性を必要とする各国警察の白バイ用として、「輸出の花形」の名をほしいままにしております。
◇最高出力45馬力! 最高速度180km/h!
リッター当り101馬力の驚異的出力。これこそホンダの技術の結晶4サイクル2気筒DOHC エンジンの成果です。
◇0-400m加速13.2秒!
世界最高の驚異の加速。世界GP出場の技術をいかんなく発揮。追越し加速にも他車の追従を許 さない機動力です。
◇リターン式5段ミッション
あららゆる走行条件に合わせ、常に理想的なギアレシオが選べ、高出力のエのエンジン特性をフ ルに発揮します。
◇ニュータイプのオイル、高圧窒素併用式リアサスペンション
モーターサイクルに始めて登場、高速コーナリング、悪路走行などには抜群のロードホールディ ングを発揮、乗心地も飛躍的に向上しました。
愛し合っている動画、
http://jp.youtube.com/watch?v=KJD-THocumA&feature=channel_page
可愛いです、
http://jp.youtube.com/watch?v=1gdeAoOvyEo&feature=channel_page
美女犬です、
http://jp.youtube.com/watch?v=rmQISVaOmSw&feature=channel_page
nitrogen cycle 在 nitrogen cycle | Definition & Steps | Britannica 的相關結果
Nitrogen fixation, in which nitrogen gas is converted into inorganic nitrogen compounds, is mostly (90 percent) accomplished by certain bacteria and blue-green ... ... <看更多>
nitrogen cycle 在 The nitrogen cycle (article) | Ecology | Khan Academy 的相關結果
Bacteria play a key role in the nitrogen cycle. ... Nitrogen enters the living world by way of bacteria and other single-celled prokaryotes, which convert ... ... <看更多>
nitrogen cycle 在 What Is the Nitrogen Cycle and Why Is It Key to Life? - Frontiers 的相關結果
To be used by plants, the N2 must be transformed through a process called nitrogen fixation. Fixation converts nitrogen in the atmosphere into ... ... <看更多>