BMW คือ รถในฝันของผมตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย และในวันนี้ความฝันของผมก็เป็นจริงแล้วในวัย 24 ปี ถือว่าเร็วเกินฝัน เพราะถ้าย้อนกลับไปสมัยเรียน หรือ ปีที่แล้ว ด้วยราคาของรถ และ ความเป็นไปได้ของรายได้ ณ ตอนนั้น ผมคิดว่าตัวเองจะได้นั่งรถ BMW อย่างเร็วสุดก็คงอายุ 40 ปี ที่สำคัญ คือ ผมถอยมันออกมาในวันที่ 13 สิงหาคม ซึ่งตรงกับวันคนถนัดซ้ายสากลพอดี (เพราะผมถนัดซ้าย)
.
อย่างไรก็ตาม หากการซื้อรถ BMW คันนึง เป็นเพียงแค่การได้เป็นเจ้าของรถหรู ก็คงไม่ใช่ สมองไหล เพราะแน่นอนว่าการพิชิตรถในฝันในครั้งนี้ มันได้ให้บทเรียนทั้งในด้าน การเงิน ธุรกิจ การตลาด และ แรงบันดาลใจ กับผมมากมาย ผมจึงกลั่นออกมาเป็น 3 ข้อคิด มาเล่าให้ทุกคนฟังในบทความนี้ครับ
.
1. เมื่อไหร่ที่คุณบอกตัวเองว่า “คุณจ่ายไหว” นั่นคือ สัญญาณว่า “คุณจ่ายไม่ไหว” เพราะถ้าคุณจ่ายไหวจริงๆ คุณต้องสามารถซื้อของสิ่งนั้นได้เลยทันทีโดยไม่ต้องถามคำถามนี้กับตัวเอง เพราะมันไม่ได้มีผลอะไรต่ออนาคตของคุณ เหมือนกับที่เวลาที่คุณซื้อหมากฝรั่งนั่นแหละ คุณไม่มานั่งคิดหรอก ว่าคุณจะจ่ายค่าหมากฝรั่งไหวไหม
.
นี่คือ คำพูดที่ M.J. DeMarco ได้กล่าวเอาไว้ในหนังสือ The Millionaire Fastlane ซึ่งผมคิดว่าจริงมากๆ เพราะผมเคยมีประสบการณ์ถามตัวเองว่า “จ่ายไหวไหม คงจ่ายไหวแหละ” เวลาจะซื้อของ โดยเฉพาะการซื้อผ่อน และ สุดท้ายก็ต้องผ่อนแบบทุลักทุเลจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดทุกที
.
นับตั้งแต่ผมอ่านหนังสือเล่มนี้จบ ทุกครั้งที่ผมมีคำถามในหัวระหว่าง “จ่ายไหว” กับ “จ่ายไม่ไหว” (ซึ่งก็มักจะลงเอยด้วยการหลอกตัวเองว่า “จ่ายไหว”) ผมจะไม่ซื้อของสิ่งนั้นอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะอะไรที่ไม่ใช่ทรัพย์สิน หรือ การลงทุน
.
ดังนั้น ทุกครั้งที่ผมจะซื้อของ ไม่ว่าของสิ่งนั้น จะเล็ก จะใหญ่ จะถูก หรือ จะแพง ผมจะต้องมีเงินสดพร้อม และ ไม่มีคำถามว่าจ่ายไหวไหม
.
ทุกครั้งที่ผมจะซื้ออะไรก็ตาม ผมจะต้องเลือกระหว่าง “ซื้อสด” หรือ “ซื้อผ่อน” เท่านั้น ไม่ใช่ เลือกได้แค่ “ซื้อผ่อน” แล้วมานั่งคิดว่าผ่อนไหวไหม เพราะจุดจบ คือ การใช้ชีวิตด้วยความกังวลทุกที ฉะนั้น ถ้าเป็นแบบนี้อย่าฝืนครับ ถ้าวิธีทำเงินเดิมมันซื้อไม่ได้ ก็ไปเปลี่ยนวิธีทำเงินก่อน แล้วค่อยมาซื้ออีกที
.
การซื้อรถ BMW ในครั้งนี้ก็เช่นกัน ผมมีเงินพร้อมสำหรับซื้อสดได้ทันทีโดยไม่เดือดร้อนชีวิตในอนาคต ไม่ว่าจะเจอวิกฤตอะไรก็ตาม ซึ่งผมก็ใช้วิธีนี้มาตั้งแต่ซื้อคอมพิวเตอร์ ซื้อกล้อง และ ทุกอย่างในชีวิตแล้ว
.
ผมจึงเดินเข้าไปในโชว์รูม แล้วถามเซลล์ว่า “ช่วยอธิบายข้อเสนอ ระหว่าง ซื้อสด กับ ซื้อผ่อน (ผมขอดาวน์ 60%)ให้ผมหน่อย เพราะผมอยากรู้ว่า แบบไหนดีกว่ากัน”
.
ปรากฎว่า
- ข้อเสนอในการซื้อเงินสด คือ ได้ส่วนลด 100,000 บาท
- ส่วนข้อเสนอในการซื้อผ่อน คือ ได้ส่วนลด 50,000 บาท และ ผ่อน 0%
.
ซึ่งปกติ เวลาเราผ่อน เราจะต้องเสียดอกเบี้ยประมาณ 2-3 % ซึ่งผมอยากจะขอผ่อนแค่ 4 ปี นั่นหมายความว่า ผมสามารถประหยัดเงินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงสุด 120,000 บาท และ ได้ส่วนลดอีก 50,000 บาท
.
คำถาม คือ ถ้าผ่อนไม่ต้องเสียดอก แถมได้ส่วนลดน้อยกว่าซื้อสดแค่ครึ่งเดียว แล้วจะจ่ายเงินสดไปทำไม ?
.
ผมจึงเลือกซื้อผ่อน โดยขอดาวน์ 60% เพราะไม่อยากผ่อนต่อเดือนสูง (ประมาณ 2X,XXX) และ ขอผ่อน 4 ปี 1,000,000 บาท เพราะไม่อยากผ่อนยาว
.
และ แน่นอนว่า เมื่อเราซื้อของในจุดที่เราเลือกได้ว่าจะซื้อสด หรือ ซื้อผ่อน และ ไม่มีคำถามในหัวว่า จ่ายไหวไหม เราก็จะได้เป็นเจ้าของมันแบบสบายใจ ไม่ห่วงหน้าพะวงหลัง และ ใช้ชีวิตต่อไปด้วยความมั่นใจ
.
2. พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอะไรก็ตาม มันจึงทำให้บทบาทหน้าที่ของธุรกิจ โดยเฉพาะฝ่ายขาย หรือ เซลล์ ต้องเปลี่ยนตามไปด้วย ซึ่งหากใครดื้อด้าน ยึดติดกับความสำเร็จเดิมๆ ทำธุรกิจแบบเดิมๆ ทำงานแบบเดิมๆ ก็เตรียมตัวหายไปจากชีวิตของลูกค้าได้เลย
.
ยกตัวอย่าง การตัดสินใจซื้อรถ BMW ซึ่งในครั้งนี้ตัวผมได้ใส่หมวกเป็นลูกค้าและสัมผัสมันโดยตรง
.
คือ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีก่อน ถ้าคุณจะซื้อรถสักคันหนึ่ง สิ่งที่คุณทำก็คือ การถามข้อมูลจากเพื่อน ถามพ่อแม่ ถามคนใกล้ตัวที่มีความรู้ จากนั้นก็ตระเวณไปตามโชว์รูมต่างๆ เพื่อตัดสินใจอีกครั้ง
.
ซึ่งตัวแปรที่มีผลในการตัดสินใจซื้อรถของลูกค้า ก็คือ เซลล์
.
ดังนั้น โชว์รูมไหน มีเซลล์ที่ขายเก่ง พูดเก่ง นำเสนอเก่ง ให้รายละเอียดเก่ง ปกปิดจุดอ่อนเก่ง ก็จะได้เงินของลูกค้าไป ยิ่งถ้าเซลล์สามารถทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ก่อนโดยที่ไม่ยอมให้เขาไปเจอข้อเสนออื่นที่ดีกว่าจากคู่แข่งด้วยยิ่งดี
.
แต่ปัจจุบันมันไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว เพราะก่อนที่ลูกค้าจะซื้ออะไร เขาจะ “ค้นหาข้อมูล” จากออนไลน์ก่อนเสมอ ทั้งรุ่นรถ เปรียบเทียบราคา จุดเด่น จุดด้อย และ ข้อเสนอต่างๆ
.
ส่วนตัวก่อนที่ผมจะตัดสินใจซื้อ ผมได้ศึกษาข้อมูล ดูรีวิวมาเป็นเดือน บอกเลยครับว่า ไม่มีข้อมูลจากเว็บไหน หรือ คลิปไหนจากยูทูปที่ผมยังไม่ดู แต่ละคลิปผมดูซ้ำมากกว่า 5 ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลรายละเอียดตัวรถ ความรู้สึกในการขับขี่ ความปลอดภัย ข้อดี ข้อเสีย ราคา และ ข้อเสนอต่างๆ ผมดูมาหมดแล้ว จนมาจบที่รถรุ่น Bmw 220i gran coupe m sport
.
เห็นไหมครับว่า ลูกค้าตัดสินใจซื้อตั้งแต่บนออนไลน์แล้ว เขาไม่เดินไปฟังเซลล์แล้วตัดสินใจที่หน้าร้านอีกแล้ว ที่สำคัญคือ เซลล์ที่เราเลือกจะติดต่อไป ก็คือ คนที่เขาทำคอนเทนต์ ให้ข้อมูล รีวิว ให้กับเราได้ดีที่สุด ละเอียดที่สุด น่าเชื่อถือที่สุด โดยเฉพาะคนที่บอกข้อเสียด้วย ไม่ใช่อวยอย่างเดียว
.
นั่นหมายความว่า ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไรอยู่ ถ้าคุณไม่ทำ “ออนไลน์” คุณก็จะไม่สามารถเข้าไปอยู่ในช่วงเวลาที่ลูกค้ากำลังตัดสินใจได้ และ ถ้าคุณไม่เข้าไปอยู่ในช่วงที่ลูกค้าตัดสินใจ มันก็ไม่มีทางเลยที่ลูกค้าจะเดินไปหาคุณที่หน้าร้าน เพื่อจ่ายเงินให้กับคุณ
.
เพราะคนเราจะซื้อของกับคนที่เรา รู้จัก ไว้ใจ และ เห็นว่าเขาโปร่งใส เท่านั้น ซึ่งการทำคอนเทนต์บนออนไลน์ ก็เหมือนการทำความรู้จักลูกค้า ที่สำคัญคือ การทำความรู้จักบนออนไลน์ มันง่ายกว่าต่อหน้า เพราะลูกค้าจะไม่มีกำแพงปิดกั้นคุณ เพราะเขาไม่ต้องกลัวว่าจะโดนคุณขายของ หรือ จะโดนคุณหลอก เขาสามารถเลือกได้ว่าจะดูคุณไหม ถ้าดีก็ดูต่อ ไม่ดีก็แค่เปลี่ยนไปดูคนอื่น มันจึงทำให้ลูกค้าเปิดใจง่ายกว่า
.
แต่การทำความรู้จักต่อหน้า ลูกค้าจะตั้งกำแพงขึ้นมาก่อน เขาจะมีอคติกับทุกคำพูดของคุณว่าจะเชื่อ หรือ ไม่เชื่อดี เขาจะมีข้อโต้แย้งในหัวขึ้นมาตลอดเวลา และ ไม่เปิดใจง่ายๆ
.
ถ้าลูกค้าเขาเข้ามาดู ฟัง อ่าน คอนเทนต์ของคุณในออนไลน์มากๆ มันก็เหมือนเขารู้จักคุณ คุณเป็นเพื่อนเขา ในระดับนึงแล้ว แล้วมันจะมีเหตุผลอะไรที่เขาจะไม่จ่ายเงินให้กับคุณล่ะ จริงไหม ?
.
ต่อมาในหมวกของเซลล์ ต้องบอกว่าเมื่อพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าเปลี่ยนไป บทบาทหน้าที่ของเซลล์ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน คือ เซลล์ไม่ได้มีหน้าที่ขายเหมือนแต่ก่อนแล้ว เพราะหน้าที่ขาย หน้าที่นำเสนอ หน้าที่โน้มน้าว ให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อมันได้ย้ายไปอยู่ในคอนเทนต์บนออนไลน์แล้ว
.
แต่หน้าที่ของเซลล์ คือ
.
(1) อำนวยความสะดวก คือ คุณไม่ต้องพูดโน้มน้าวใดๆ เพราะลูกค้าเขาตัดสินใจมาตั้งแต่ที่บ้านแล้ว คุณไม่ต้องนำเสนอข้อมูลใดๆ เพราะเขาดูมาหมดแล้ว คุณไม่ต้องปกปิดข้อเสียใดๆ เพราะมันจะยิ่งทำให้เขาเห็นว่าคุณไม่จริงใจ เพราะไม่มีอะไรเกี่ยวกับสินค้าของคุณที่ลูกค้าไม่รู้
.
คุณมีหน้าที่แค่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าซื้อได้ง่ายที่สุด บริการให้ประทับใจที่สุด ให้ข้อเสนอที่ดีที่สุด
.
อย่างตัวผม เมื่อเดินเข้าไปใน โชว์รูม สิ่งที่ผมถามเซลล์ คือ ได้ส่วนลดเท่าไหร่ ซื้อสดมีข้อเสนออะไรบ้าง หรือ ถ้าซื้อผ่อนมีข้อเสนออะไรบ้าง สามารถเปลี่ยนขุดแต่งให้ผมพร้อมวันออกรถได้ไหม ผมรู้จักกับร้าน ติดฟิล์ม และ เคลือบแก้วดีๆ อยู่แล้ว สามารถให้เขาเอารถไปติดฟิล์ม และ เคลือบแก้วเลยโดยที่ผมไม่ต้องมาโชว์รูมเองหลายรอบได้ไหม ทำให้เสร็จทุกอย่างเลย ผมมาโชว์รูมอีกครั้ง คือ วันขับรถออกเลย สามารถจัดการให้ได้ไหม ?
.
หน้าที่ของเซลล์ คือ อำนวยความสะดวกตามที่ผมขอให้ได้ และ บริการให้ผมประทับใจที่สุด
.
เห็นไหมครับว่า คำถาม มันไม่ใช่ รถรุ่นไหนดี รุ่นนี้ขับเป็นยังไง ราคาเท่าไหร่ มีข้อดี ข้อเสียตรงไหนบ้าง แบบสมัยก่อนแล้ว
.
(2) Upsell ให้ลูกค้าจ่ายเงินเพิ่ม คือ เวลาลูกค้าดูข้อมูลมา ลูกค้าดูแค่สิ่งที่เขารู้ว่าเขาต้องการเท่านั้น แต่เมื่อลูกค้าเดินมาหน้าร้าน หน้าที่ของเซลล์ คือ ทำให้เขาจ่ายเงินเพิ่มขึ้นอีก ในสิ่งที่เขาไม่รู้ว่าเขาต้องการ โดยแลกกับความคุ้มค่าที่ลูกค้า (อาจจะ) ไม่รู้มาก่อน
.
อย่างตัวผม ตอนแรกราคารถอยู่ที่ 2,169,000 บาท แต่พอมาซื้อจริงๆ เซลล์เสนอว่าจะเพิ่มการรับประกันรถ หรือ BSI จากเดิม 3 ปี 60,000 กิโลเมตร เป็น 5 ปี 100,000 กิโลเมตร โดยเพิ่มเงินอีกแค่ 80,000 บาทไหม เพราะรถยุโรปเวลาเข้าเช็คระยะที่ศูนย์แต่ละครั้ง ต้องเสียเงินหลักหมื่น แต่ถ้ายังอยู่ใน BSI จะเข้าศูนย์ และ ซ่อมกรณีเกิดจากตัวรถฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ที่สำคัญรถส่วนใหญ่ 3 ปีแรกไม่ค่อยเข้าศูนย์หรอก มันจะไปหนักช่วงปีที่ 4 เป็นต้นไปมากกว่า
.
ซึ่งเมื่อผมคิดคำนวณแล้ว คือ “ตกลง” ผมได้ความคุ้มค่า เซลล์ได้เงินเพิ่ม Win Win และยังไม่รวมพวกชุดแต่ง และ อื่นๆ อีก ที่ผมต้องจ่ายเงินเพิ่มจากเดิมที่ไม่ได้คิดตรงนี้ เพราะผมไม่รู้ว่าตัวเองต้องการมาก่อน ซึ่งเป็นหน้าที่ของเซลล์ที่จะต้องยื่นข้อเสนอ เพื่อ Upsell ให้ลูกค้าจ่ายเงินเพิ่มให้ได้ กลายเป็นว่าสุดท้ายผมต้องจ่ายเงินไปรวมๆ ประมาณ 2,2XX,XXX บาท
.
สรุปคือ คอนเทนต์ก็เหมือนเซลล์แมนที่ทำหน้าขายแทนคุณ เมื่อเขาปิดการขายลูกค้าคนไหนได้ คอนเทนต์ก็จะส่งลูกค้าที่ ตัดสินใจแล้ว และ พร้อมซื้อ มาให้คุณ ส่วนคุณมีหน้าที่แค่นั่งอยู่เฉยๆ ให้ลูกค้าเดินเข้ามาหาเอง จากนั้นก็อำนวยความสะดวก บริการ และ Upsell ให้ลูกค้าจ่ายเงินเพิ่มด้วยความพอใจแบบ Win Win ซึ่งผมเรียกหลักการนี้ว่า “Inbound Content Marketing หรือ การตลาดโดยใช้คอนเทนต์แบบแรงดึงดูด”
.
ซึ่งผมได้สอนแบบเจาะลึกถึงรายละเอียด และ กระบวนการ เอาไว้ในคลาส Online Signature 2021 ทั้งหมดแล้ว หากคุณอยากจะนั่งเฉยๆ แล้วให้ลูกค้าวิ่งเข้าหาเองได้ ก็สามารถเข้ามาลุยด้วยกันได้ครับ
.
3. เหตุผลที่ผมเลือกซื้อ BMW ไม่ใช่แค่เพราะมันเป็นรถยุโรป ขับแล้วเท่ สมรรถนะเยี่ยม ที่อยากมีไว้ในครอบครองเท่านั้น แต่มันมีผลกับการทำงานในเชิงจิตวิทยาของผมด้วย
.
หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่า BMW ไม่ได้เริ่มต้นธุรกิจจากการผลิตรถยนต์ แถมยังเคยตกอับถึงขนาดเอาเศษเหล็กมาทำเครื่องครัวขายเพื่อความอยู่รอดมาแล้ว
.
ย้อนกลับไปในปี 1916 ก่อนจะมาเป็น BMW บริษัทมีชื่อว่า Rapp Motorenwerke ทำธุรกิจผลิตเครื่องยนต์สำหรับเครื่องบิน จากนั้นไม่กี่ปีต่อมาก็เปลี่ยนชื่อเป็น Bayerische Motoren Werke ซึ่งเป็นชื่อเต็มของ BMW โดยโลโก้ที่เราเห็นกันทุกวันนี้จนจำขึ้นใจ ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากลักษณะการหมุนของใบพัดเครื่องบิน รวมเข้ากับสีฟ้าและขาว ซึ่งเป็นสีประจำแคว้นบาวาเรีย (Bavaria) ที่ตั้งของบริษัท BMW โดยเครื่องยนต์ของเครื่องบิน BMW IIIA เป็นเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดในยุคนั้น ต่อมา เครื่องยนต์ BMW IV ก็สามารถสร้างสถิติโลกเพดาลบินสูงสุดได้
.
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า BMW กำลังไปได้ดี แต่ทุกอย่างก็พังลง เมื่อเยอรมนีแพ้สงครามโลกครั้งที่ 1 ผลจากสงครามทำให้การผลิตเครื่องยนต์เครื่องบินกลายเป็นเรื่องผิดกฎหมายในเยอรมนี จากผลของสนธิสัญญาแวร์ซาย
.
BMW ที่เคยผลิตแต่เครื่องยนต์เครื่องบินมาโดยตลอด ต้องหันไปผลิตเครื่องมือทำฟาร์ม และเบรกรถไฟ ซึ่งในระหว่างนั้นเอง Max Friz หัวหน้านักออกแบบของ BMW ก็ได้วางแผนออกแบบ รถมอเตอร์ไซค์ ควบคู่ไปด้วย
.
จนในปี 1923 BMW ก็เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์คันแรก ที่มีชื่อรุ่นว่า R32 ซึ่งเปิดตัวในงาน Berlin Motor Show
.
หลังจากนั้นในปี 1928 ธุรกิจผลิตรถยนต์ของ BMW ก็เริ่มต้นขึ้น โดย BMW 3/15 PS คือรถยนต์รุ่นแรกที่ใช้ชื่อของ BMW และกลายเป็นที่ฮือฮาทันที เพราะสามารถชนะการแข่งขันรายการ Alpine Rally ตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าร่วมแข่งขัน
.
หลังจากนั้นในปี 1933 ก็ได้เปิดตัว BMW 303 ซึ่งเป็นรถรุ่นแรกที่มาพร้อมกับกระจังหน้าแบบไตคู่ (Kidney Grille) จนรูปแบบดังกล่าวได้กลายมาเป็นเอกลักษณ์ของรถ BMW ทุกรุ่นในปัจจุบัน
.
แต่ก็เหมือนเดจาวู เมื่อทุกอย่างกำลังไปได้สวย BMW ก็ล้มลงอีกครั้ง เมื่อเยอรมมีแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 อีกครั้ง ทั้งโรงงานรวมถึงเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ พังเกือบหมด
.
BMW ต้องกลับไปผลิตของใช้ในครัวเรือน ก่อนจะกลับมาสร้างมอเตอร์ไซค์ได้อีกครั้งในปี 1948 และรถยนต์ในปี 1951
.
หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง BMW กลับมาขายรถที่จัดเต็มเรื่องสมรรถนะ ซึ่งถือว่าเป็นรถที่มีเทคโนโลยีล้ำสุดในช่วงเวลานั้น
.
แต่ดูเหมือนว่า จุดสูงสุดของวิศวกรรมจะเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับจุดต่ำสุดของ BMW
.
เนื่องจากช่วงหลังสงคราม คนสนใจแต่ปากท้องของตัวเอง และคงไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อรถคันใหญ่ที่มีวิศวกรรมล้ำหน้าราคาแพง ทำให้รถของ BMW ขายได้ไม่ค่อยดี ส่วนตลาดมอเตอร์ไซค์ก็เริ่มซบเซา
.
สุดท้ายบริษัทมีปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก จนถึงขั้นที่ว่าบอร์ดของบริษัท ตอบรับข้อเสนอการควบรวมกิจการกับทาง Daimler-Benz อย่างไรก็ตาม ดีลนี้ไม่เกิดขึ้น เพราะถูกต่อต้านจากทั้งคนงานและผู้ถือหุ้นรายย่อย
.
Herbert Quandt หนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัท ตัดสินใจหาเงินมาซื้อหุ้นในส่วนที่จะขายให้ทาง Daimler-Benz นั้นเอาไว้เอง ทำให้ BMW ยังคงเป็นบริษัทคู่แข่งกับ Benz ต่อไป ซึ่งผ่านมา 59 ปี ปัจจุบันคนตระกูล Quandt ก็ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน BMW Group อยู่
.
ต่อมากิจการของ BMW ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ BMW มีการปรับเปลี่ยนให้รถที่ทำออกมามีขนาดเล็กลง สามารถตอบโจทย์คนทั่วไปมากขึ้น และ เติบโตขึ้นผ่านการซื้อขายบริษัทอื่นๆ ตามมาอีกหลายครั้ง ทั้งแบรนด์ MINI และ Rolls-Royce จนปัจจุบัน BMW มีมูลค่ากว่า 1.4 ล้านล้านบาท
.
หลายคนอาจจะคิดว่า ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ เส้นทางของเขาคงจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ ไม่เคยล้มเหลว ไม่เคยเจอวิกฤตอะไรมาก่อน
.
แต่สำหรับ BMW พวกเขาต้องดิ้นรนถึงขนาดต้องทำหม้อทำกระทะขายเพื่อความอยู่รอดมาแล้ว
.
แต่ไม่ว่า BMW จะเจอกับสงครามโลกกี่ครั้ง จะเจอวิกฤตกี่หน แต่เขาก็ “ไม่ยอมแพ้” และ ต่อสู้จนกลับมาเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จได้เสมอ
.
ชีวิตคนเราก็เช่นกัน ผมทั้งเคยทำธุรกิจเจ๊ง ถึงกับต้องขอยืมเงินเพื่อน 100 บาท เพื่อมาซื้อมาม่า กับ ไข่ไก่กินประทังชีวิต 1 สัปดาห์ ดิ้นรนอีกหลายเดือน และ ไปขออาศัยอยู่บ้านเพื่อน เมื่อตอนสมัยเรียน นอกจากนี้ธุรกิจของผมก็เจ๊งเพราะโควิด-19 ไม่ต่างกับใครอีกหลายคน
.
เราทุกคนล้วนมีวันที่ดี และ มีวันที่ร้ายสลับกันไป ดังนั้น ทุกครั้งที่ผมขึ้นไปนั่งบนรถของ BMW หน้ามองตรง มือจับพวงมาลัย แล้วสูดลมหายใจลึกเข้าเต็มปอด
.
มันเหมือนเป็นเครื่องเตือนใจผมว่า “ต่อให้จะเจอวิกฤตอะไร เจอวันที่แย่แค่ไหน จงอย่ายอมแพ้ จงสู้ต่อไป ก้าวไปข้างหน้า แล้วเราจะประสบความสำเร็จได้ เหมือนกับ BMW …”
.
และนี่คือ เหตุผลที่ผมเลือก BMW เพราะทุกครั้งที่ผมเหยียบคันเร่งของรถ มันก็เหมือนผมกำลังเหยียบคันเร่งให้ชีวิตของตัวเอง
.
ปล. หากคุณเป็นคนหนึ่งที่เคยเจอวิกฤต และไม่ยอมแพ้ BMW คือ รถที่เหมาะสมกับคุณที่สุดครับ ถ้าคุณอยากเป็นเจ้าของรถอย่าง BMW ก็ทักไปหาคุณปุ๋ย ที่ดูแลผมอยู่ได้เลย เขาดูแลดีมากๆ ครับ
.
โทร 090-6786187 | ID Line : pueybmw | เพจ : ปุ๋ย เซลรถหรู ภาคใต้ | Facebook : ปุ๋ย บี้เอ็ม ภาคใต้
.
ปล.2 ส่วนใครอยากนั่งอยู่เฉยๆ แล้วให้คอนเทนต์บนออนไลน์ ดึงดูดลูกค้าวิ่งเข้าหา ก็เข้ามาลุยกับผมและพี่น้องอีกมากกว่า 300 คน ในคลาส Online Signature 2021 ได้ครับ
.
ทักไลน์มาได้ที่ @samounglai
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過91萬的網紅Phạm Thành Long Official,也在其Youtube影片中提到,Đây là những chiến lược mà Nhà thuốc Trung Sơn đã triển khai để tạo ra sự đột phá trong thời gian qua. Trong chuyến đi Eagle Caravan Miền tây, chúng t...
「upsell」的推薦目錄:
- 關於upsell 在 สมองไหล Facebook 的最佳解答
- 關於upsell 在 Đào Minh Châu Facebook 的最讚貼文
- 關於upsell 在 AppWorks Facebook 的最佳貼文
- 關於upsell 在 Phạm Thành Long Official Youtube 的最讚貼文
- 關於upsell 在 Staged For Upsell - Home Stagers & Redesigners - 首頁 的評價
- 關於upsell 在 How to get started with Bold Upsell - YouTube 的評價
- 關於upsell 在 Upsell - Gestalt 的評價
upsell 在 Đào Minh Châu Facebook 的最讚貼文
Khoá đào tạo dành riêng cho các #CEO #MAGICSKIN!
👉ĐÀO TẠO PHƯƠNG PHÁP UPSELL BÁN HÀNG SHOWROOM từ Chuyên gia: Vũ Hương Mai
Có phải bạn đang BỎ LỠ cơ hội để gia tăng đơn hàng và đột phá doanh thu showroom? Nếu bạn không biết áp dụng bán Upsell với khá.ch hà.ng, thì câu trả lời CHẮC CHẮN LÀ CÓ !
Tại Live Stream này ! Tư duy của bạn sẽ được khai mở với phương pháp Upsell bá.n hà.ng showroom từ Chuyên gia Vũ Hương Mai ! Điều này hoàn toàn có thể giúp showroom kinh doanh của bạn tăng ít nhất 30% lợi nhuận chỉ từ tệp khá.ch hà.ng quen thuộc💸💸
👇🏻Live Stream vào 22H00 NGÀY MAI (7/8/2021)
Tại: https://www.facebook.com/groups/581534733224625/?ref=share
Bạn đã sẵn sàng ?
#MagicSkin
upsell 在 AppWorks Facebook 的最佳貼文
[ 我的成長速度夠快嗎? ]
收入成長,是創業者在找到 Product Market Fit 以後非常核心的指標,專注這個指標,可以幫助創業者持續優化產品與策略,並且確認自己是在對的方向上。本篇探討如何觀察主要核心收入的細節,幫助創業者反思自己的經營狀態。
#可持續性的收入成長
關於營收 (Revenues),會計準則會有自己的認列方法,對創業者而言,更重要的是如何能夠檢視可持續性收入 (Recurring Revenues) 的成長狀況。這邊所指的 Recurring Revenues 不一定只代表訂閱型的 SaaS 服務,就算是一般的產品銷售、或是單次性的消費行為,都可以被分析。核心概念是觀察有多大的收入比重是可重複的,其實也就意味著是觀察你跟用戶之間的關係,用戶的黏度、重複消費的頻率、在用戶心中的品牌影響力 (Mindshare) 等等。
#淨收入留存率
對 SaaS 的模式來說,Recurring Revenues 的本質就是扣除一次性的收入:比如一次性的專案、搭配銷售的硬體收入、一次性的諮詢費用、等等,按每個公司狀況不同。扣除以後,用月度的 MRR 或年度的 ARR 來計算成長率。而淨收入留存率 (Net Dollar Retention Rate) 的概念則是把 MRR 進一步拆細,不看這一年的新客戶,只看舊的客戶在一年前的 MRR,與現在的 MRR 相比看年成長狀況,如此更可以看出產品的訂閱狀況,以及向上銷售 (Upsell) 的擴張性。依照每個公司不同,如果想要換成 ARR 來計算也可以。
許多人可能會想知道,多快才是快。如果把近十年來在美國上市的 SaaS 公司拿來分析,我們可以看到 90-100% 是許多美國 SaaS 公司上市前的基本速度,2020 年的 Snowflake 是 158%,大家比較耳熟能詳的 Dropbox 在 2017 年上市時是 90%。
#觀察公司的成長重心
上述的數字只是參考,對創業者來說更重要的是利用這個指標重新思考自己的經營策略。如果 Recurring Revenues 的成長速度比營收來得慢,或者 Recurring Revenues 在整個公司營收中的占比在下降,意味著公司的方向可能漸漸偏離訂閱的模式,主要的成長不是來自核心的服務。這時候創業者可以重新思考,是否這是公司想要的策略變化。
#訂閱收入的細節看客戶變化
在計算收入留存率的時候,同時可以檢視客戶留存的變化,把 Recurring Revenues 進一步拆分 = 新客戶訂閱收入+舊客戶期初訂閱收入+舊客戶升級收入 - 舊客戶取消預訂 - 舊客戶降級方案的流失。一個小技巧,可以把前面講的這些細項用線條圖呈現,可以看出隨著時間的新舊客戶變化:透過新客戶的成長速度,檢視現在的獲客策略;舊客戶的收入提升速度,可以看出產品 upsell 的能力;而觀察舊客戶的流失速度,則可以幫助創業者重新檢視產品的本質是不是出現競爭力的問題。
今天就寫到這邊,下週見! - Sophie 編
upsell 在 Phạm Thành Long Official Youtube 的最讚貼文
Đây là những chiến lược mà Nhà thuốc Trung Sơn đã triển khai để tạo ra sự đột phá trong thời gian qua.
Trong chuyến đi Eagle Caravan Miền tây, chúng tôi đã nhận được lời mời từ anh Trương Trung Sơn, chủ tịch của Trung Sơn Pharma. Anh Sơn cũng là học viên của khóa học cao cấp của tôi.
Nhờ hành động và ứng dụng nhanh chóng kiến thức, anh ấy đã trở thành chuỗi cửa hàng thuốc số 1 ở Miền tây từ 6 đã thành 65 cửa hàng, mỗi ngày phục vụ lên tới 20.000 khách hàng và tạo ra doanh số lên đến 75 tỷ/tháng.
Trong video, anh ấy cũng nói sử dụng những chiến lược như Upsell, Downsell, Khách hàng là trung tâm, sử dụng phương pháp sáng tạo để tạo ra combo sản phẩm phục vụ khách hàng..
Hãy cùng xem video này và xem anh ấy đã dùng những chiến lược nào nhé, comment những chiến lược bạn học được, những hành động mà bạn có thể áp dụng cho công việc kinh doanh của mình bên ở bình luận bên dưới (tôi hứa sẽ đọc hết).
Và đừng bỏ lỡ một giây phút nào của đoạn video này, vì nếu chỉ 25 phút không xem được hết, thử hỏi bạn thành công làm sao?
Vì sự thành công của bạn,
Phạm Thành Long
---------------------------
Kết nối với Phạm Thành Long:
Hotline: 0947428338
Website: http://long.vn
Radio: http://radio.long.vn/
Fanpage facebook: http://long.vn/facebook
Twitter: https://twitter.com/longpt
Instagram: https://www.instagram.com/pham.thanh.long
Youtube: http://long.vn/youtube #kinhdoanh #banhang #doanhso
Đăng ký kênh Phạm Thành Long Official: http://long.vn/youtube để cập nhật video mới nhất.
Xem video TOP 5 những video nhiều lượt xem nhất trên kênh Phạm Thành Long năm 2020: https://youtu.be/cZuW8X_PkoU
upsell 在 Upsell - Gestalt 的推薦與評價
Upsells are banners that display short messages that focus on promoting an action or upgrading something the user already has. ⚠️ Please note: Upsell is not ... ... <看更多>
upsell 在 Staged For Upsell - Home Stagers & Redesigners - 首頁 的推薦與評價
Staged For Upsell - Home Stagers & Redesigners. 室內設計工作室在 哈利法克斯. 24 小時營業. 社群查看全部. Highlights info row image. 2,779 人說這讚. ... <看更多>