*** ตำนานคอร์กี้ หมาเวทมนต์ ***
วันนี้ผมมีนิทานมาเล่าให้ฟังครับ เป็นเรื่องราวจากดินแดนเวลส์ซึ่งเชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดตำนานแฟนตาซีดังๆ มากมาย…
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีสงครามระหว่างภูตจิ๋วสองเผ่า ได้แก่ เผ่า ทาวุยท์ เทก (Tywyth Teg) ซึ่งเป็นเผ่าภูตแฟรี่ที่สวย และปกติจะเป็นฝ่ายดี กับ เผ่ากวุยชิออน (Gwyllion) ซึ่งเป็นเผ่าภูตที่ดาร์คๆ และปกติจะเป็นฝ่ายร้าย
พวกเขาสู้รบกันอย่างดุเดือด สุดท้ายเมื่อการต่อสู้สงบ เผ่าทาวุยท์ เทก พบว่าฝ่ายตนเสียนักรบไปสองนาย จึงมีการจัดงานศพขึ้น
บังเอิญมีเด็กมนุษย์สองคนหลงป่ามาพบกับภูตทาวุยท์ เทกขณะจัดงานศพ เหล่าภูตรู้สึกเอ็นดูจึงยกสัตว์พาหนะของสมาชิกที่ล่วงลับไปให้แก่เด็กๆ
ภูตตนหนึ่งบรรยายสรรพคุณว่าปกติสัตว์พาหนะนี้จะทำหน้าที่เทียมรถ ลากเกวียน และใช้ขี่ออกศึกได้ด้วย มันพวกมันมีนิสัยกล้าหาญ เป็นนักรบ และชอบช่วยเหลือผู้เดือดร้อน
“สัตว์พาหนะ” นั้นเป็นหมาตัวเตี้ยขาสั้นนั่นเอง…
::: ::: :::
เด็กทั้งสองคนได้พาหมาขาสั้นกลับบ้าน และคิดหาทางตั้งชื่อมัน
...เนื่องจากในภาษาเวลส์นั้น คำว่า gi แปลว่า “สุนัข” และคำว่า cor แปลว่า “สภาวะแคระแกรน”
รวมๆ กันแล้วพวกเด็กจึงเรียกหมาพันธุ์นี้ คอร์กี้ (Corgi) หรือ “หมาแคระ”
...ใช่แล้วครับ นี่แหละคือนิทานต้นกำเนิด หมาคอร์กี้!
...และตั้งแต่นั้นมา มนุษย์ก็ใช้หมาคอร์กี้ในการคุมฝูงปศุสัตว์
ความกล้าหาญของมันทำให้สามารถบัญชาสัตว์อื่นได้ดี และความเตี้ยของมันทำให้ ไม่โดนสัตว์ใหญ่อย่างวัว แพะ แกะ ถีบได้ง่ายๆ (คนเลี้ยงสัตว์ในอดีตมักมีปัญหาหมาเลี้ยงถูกปศุสัตว์ถีบตายกันมาก แต่ความเตี้ยของคอร์กี้จะทำให้ลูกถีบลอยข้ามหัวมันไป)
::: ::: :::
อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่าเวลส์มีตำนานแฟนตาซีเยอะ จึงไม่แปลกที่เรื่องของคอร์กี้เองก็เกี่ยวพันกับภูตแฟรี่ไปด้วย
ชาวเวลส์เชื่อว่าคอร์กี้เป็น “หมาวิเศษ” คือนอกจากจะเป็นพาหนะสำหรับภูตแล้ว ตอนกลางคืนมันยังมักแอบไปเล่นกับเหล่าภูตแฟรี่ตามหุบเขาลึกลับ ดังนั้นที่เราเห็นมันมีแรงเยอะและดีดมาก ก็น่าจะเพราะได้บัฟเวทมนต์จากเหล่าแฟรี่มา
ชาวเวลส์เรียกขนสีเข้มบริเวณกลางหลังของหมาคอร์กี้ว่า “Fairy Saddle” หรืออานของแฟรี่ เพราะเชื่อว่ามันเป็นอานที่เหล่าภูตใช้ขี่หมาเวทมาแต่โบราณนั่นเอง
(คราวนี้สาระล้วนๆ นะครับ แชร์ได้)
(หรือถ้าชอบเรื่องแนวนี้ ติดตามได้ที่ group Corgi Poetry Corgi Poetry ลำนำแห่งคอร์กี้ ผมเพิ่งเปิดขึ้นมาสำหรับงุ้ยหมาโดยเฉพาะ)
::: อ้างอิง :::
Welsh Corgi History and Lore:
corgicare com/welsh-corgi-history-and-lore/
The Ancient Connection Between Corgis and Fairies:
mentalfloss com/article/87683/ancient-connection-between-corgis-and-fairies
::: ::: :::
สนใจอ่านเรื่องประวัติศาสตร์ สงคราม เรื่องต่างประเทศ กดติดตาม เพจ The Wild Chronicles ได้เลยนะครับ https://facebook.com/pongsorn.bhumiwat
กรุ๊ปประวัติศาสตร์ สงคราม เรื่องต่างประเทศ https://www.facebook.com/groups/thewildchronicles/
กรุ๊ปท่องเที่ยว เที่ยวโหดเหมือนโกรธบ้าน https://www.facebook.com/groups/wildchroniclestravel/
Blockdit : https://www.blockdit.com/thewildchronicles
YouTube : https://www.youtube.com/channel/UCa6L_ZIQpFyDwLeRbGZjIyg
Line Square: https://line.me/ti/g2/8pIcVHp3cc6-jyQJdzIFrg
「ancient แปลว่า」的推薦目錄:
- 關於ancient แปลว่า 在 The Wild Chronicles - ประวัติศาสตร์ ข่าวต่างประเทศ ท่องเที่ยวที่แปลก Facebook 的最佳貼文
- 關於ancient แปลว่า 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最讚貼文
- 關於ancient แปลว่า 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳貼文
- 關於ancient แปลว่า 在 ancient ออกเสียงว่า แปลว่า อะไร แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย By ... 的評價
- 關於ancient แปลว่า 在 Engdict 的評價
ancient แปลว่า 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最讚貼文
เรื่อง "เลขอารบิก คิดจากจำนวนมุม" กลับมาใช้กันใหม่อีกแล้วนะครับ .... เรื่องนี้ไม่จริงนะครับ มโนกันไปเองมากกว่า
"ตัวเลขอารบิก ไม่ได้คิดจากจำนวนมุม"
วันนี้คงมีหลายคนที่ได้รับฟอร์เวิร์ดรูปนี้มา อ้างว่าตามประวัติศาสตร์การคิดตัวเลขอารบิกที่เราใช้กันนั้น ตัวเลขแต่ละตัวสร้างขึ้นจาก "จำนวนของมุม" ภายในตัวเลข ใช้มาทั้งชีวิต ไม่เคยรู้เลย !? .... เสียใจด้วย มันไม่ใช่เรื่องจริงหรอกครับ
ตัวเลขในปัจจุบันที่เราเรียกว่า "เลขฮินดู-อารบิก" นั้น จริงๆ แล้วมาจากตัวอักขระอินเดียโบราณที่ใช้ในการคำนวณทางคณิตศาสตร์ระหว่างช่วง 200ปีก่อนคริสตกาลจนถึงศตวรรษที่ 3 ปรากฏอยู่ในบันทึก Bakhshali ซึ่งมีชื่อเสียงมาก จากการที่เป็นบันทึกเก่าแก่ที่สุดทางด้านคณิตศาสตร์และแสดงให้เห็นถึงการใช้เลข 0 ศูนย์ ... ดูในรูปประกอบ จะเห็นถึงความคล้ายคลึงระหว่างตัวเลขโบราณนี้ (หรือเรียกว่า ตัวเลขพรามมิ Brahmi numerals) กับเลขอารบิกปัจจุบัน
หลังจากนั้น ลักษณะของตัวเลขก็วิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปอีกหลายศตวรรษ และแพร่กระจายไปถึงเปอร์เซียในยุคกลาง และกลุ่มชาวอาหรับได้นำเข้าไปเผยแพร่ในยุโรปในที่สุด โดยปรากฏในบันทึก Codex Vigilanus โดยผลงานของพระชาวคริสต์ในสเปนตอนเหนือ เมื่อปี ค.ศ. 881 ... ดูรูปประกอบ จะเห็นว่ายิ่งเหมือนตัวเลขอารบิกในปัจจุบันมากขึ้นอีก (แต่เค้าเขียนจาก ขวาไปซ้าย นะ) ซึ่งจะมีแค่เลข 4 กับ 5 ที่ดูต่างออกไปหน่อย
จากนั้น ตัวเลขฮินดู-อารบิกนี้ก็ได้ถูกปรับปรุงอีกครั้งในปี 1202 โดยผลงานของ Leonardo Fibonacci (คนที่คิดเรื่องลำดับฟิโบนัคชี่ นั่นแหล่ะ) โดยเอาระบบนี้มาใช้ในหนังสือ Liber Abaci (แปลว่า Book of Calculation) ของเค้าจนเป็นที่นิยมไปทั่วยุโรป
ตัวเลขอารบิกเป็นที่นิยมอย่างมากในยุโรป และในช่วงศตวรรษที่ 15 และ 16 ก็พบว่ามีการใช้กันทั่วไป รวมทั้งใช้เขียนบนหน้าปัดนาฬิกาด้วย ... ดังในรูปประกอบ (มาจากคู่มือที่ชื่อว่า Ms.Thott.290.2º เขียนโดย Hans Talhoffer ในปี 1459) ซึ่งเขียนวิธีการเรียงลำดับเลขทั้งหมดเอาไว้
เมื่อยุโรปผ่านยุคฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม หรือยุคเรเนสซอง (Renaissance) มีการศึกษาประวัติของเลขฮินดู-อารบิกเพิ่มเติม และพบว่านอกจากจะมีรากฐานมากจากเลขพรามมิโบราณ ยังได้รับอิทธิพลมาจากวิวัฒนาการของการจัดเรียงพิมพ์ตัวอักขระต่างๆ ในยุโรปสมัยนั้นด้วย ... ดังแผนภูมิเปรียบเทียบในภาพประกอบ ซึ่งจัดทำโดยนักประวัติศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ชื่อ Jean-Étienne Montcula พิมพ์ในหนังสือ Histoire de la Mathematique ในปี ค.ศ. 1757
จนมาถึงช่วงกลายศตวรรษที่ 18 นั่นเอง ที่ตัวเลขทั้งหมดที่นิยมใช้กันในยุโรปนั้น ได้เปลี่ยนมาเป็นแบบตัวเลขอารบิกในปัจจุบัน ... ซึ่งก็ชัดเจนว่า ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องจำนวนมุมภายในตัวเลขแต่อย่างไรครับ
ข้อมูลและภาพ จาก https://gizmodo.com/no-this-viral-image-does-not-explain-th…
-------------
สนใจหนังสือ "อ๋อ! มันเป็นอย่างนี้นี่เอง" ติดต่อสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ สนพ. มติชน http://www.matichonbook.com/…/matichonb…/newbooks/-2997.html
"Arabic numbers don't think of the number of angles"
Today, there are many people who have received this forward. According to the history of the arbic numbers we use. Each number is made up of "the number" within the numbers. I have been used for their whole life. So!? I'm sorry. It's not true.
The current numbers we call "Hindu-Arabic" are actually from the ancient Indian cuddle characters used in mathematical calculation between 200 years before crystal to the 3th century. Appearing in Bakhshali record which is very famous from the oldest record in mathematics and shows the use of 0 zeros... See in the illustrations, it will see the similarity between this antique numbers (aka the numbers. Brahmi numerals) with current Arabic numbers
After that, the characteristics of the numbers changed centuries and spread to medieval Persians and Arabs were finally published in Europe. It appears in Codex Vigilanus by the work of Christians in Northern Spain in July. Prof. 881... Look at the illustrations, you will see that the more like the current Arabic numbers (but they write from right to left) which will only have number 4 and 5 that look different. Please.
Then this Hindu-Arabic number was renovated in 1202 by Leonaci's work of Leonaci (who thought about Fibonacci cuddle ci sequence) by using this system in liber. (It means book of calculation) is popular all over Europe.
Arabic numbers are highly popular in Europe and in the 15th and 16th centuries, it is found that they are commonly used as well as written on the watch dial... as in the illustration (from the Ms. Thott. 290.2º written by Hans Talhoffer in 1459) Writes how to sort out all numbers.
When Europe passed the era of art, culture or Renaissance), there was more study of Hindu-Arabic history and found that in addition to a lot of primmi numbers, it is also influenced by the evolution of printing. cuddle carabinieri, cuddle characters in Europe in those days... As a comparison chart in the illustration made by a French historian-étienne montcula, printed in the book in the book of Histoire de la Mathemathematique in July. Prof. 1757
Until the 18th century, that all the popular numbers in Europe have changed to the current Arabic numbers... which clearly has nothing to do with the number of corners within the numbers.
Info and pics from https://gizmodo.com/no-this-viral-image-does-not-explain-the-history-of-ar-1719306568
-------------
Interested in the book " oh! This is how it is " Contact to order at the website. Matichon http://www.matichonbook.com/index.php/matichonbook/newbooks/-2997.htmlTranslated
ancient แปลว่า 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳貼文
"ตัวเลขอารบิก ไม่ได้คิดจากจำนวนมุม"
วันนี้คงมีหลายคนที่ได้รับฟอร์เวิร์ดรูปนี้มา อ้างว่าตามประวัติศาสตร์การคิดตัวเลขอารบิกที่เราใช้กันนั้น ตัวเลขแต่ละตัวสร้างขึ้นจาก "จำนวนของมุม" ภายในตัวเลข ใช้มาทั้งชีวิต ไม่เคยรู้เลย !? .... เสียใจด้วย มันไม่ใช่เรื่องจริงหรอกครับ
ตัวเลขในปัจจุบันที่เราเรียกว่า "เลขฮินดู-อารบิก" นั้น จริงๆ แล้วมาจากตัวอักขระอินเดียโบราณที่ใช้ในการคำนวณทางคณิตศาสตร์ระหว่างช่วง 200ปีก่อนคริสตกาลจนถึงศตวรรษที่ 3 ปรากฏอยู่ในบันทึก Bakhshali ซึ่งมีชื่อเสียงมาก จากการที่เป็นบันทึกเก่าแก่ที่สุดทางด้านคณิตศาสตร์และแสดงให้เห็นถึงการใช้เลข 0 ศูนย์ ... ดูในรูปประกอบ จะเห็นถึงความคล้ายคลึงระหว่างตัวเลขโบราณนี้ (หรือเรียกว่า ตัวเลขพรามมิ Brahmi numerals) กับเลขอารบิกปัจจุบัน
หลังจากนั้น ลักษณะของตัวเลขก็วิวัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปอีกหลายศตวรรษ และแพร่กระจายไปถึงเปอร์เซียในยุคกลาง และกลุ่มชาวอาหรับได้นำเข้าไปเผยแพร่ในยุโรปในที่สุด โดยปรากฏในบันทึก Codex Vigilanus โดยผลงานของพระชาวคริสต์ในสเปนตอนเหนือ เมื่อปี ค.ศ. 881 ... ดูรูปประกอบ จะเห็นว่ายิ่งเหมือนตัวเลขอารบิกในปัจจุบันมากขึ้นอีก (แต่เค้าเขียนจาก ขวาไปซ้าย นะ) ซึ่งจะมีแค่เลข 4 กับ 5 ที่ดูต่างออกไปหน่อย
จากนั้น ตัวเลขฮินดู-อารบิกนี้ก็ได้ถูกปรับปรุงอีกครั้งในปี 1202 โดยผลงานของ Leonardo Fibonacci (คนที่คิดเรื่องลำดับฟิโบนัคชี่ นั่นแหล่ะ) โดยเอาระบบนี้มาใช้ในหนังสือ Liber Abaci (แปลว่า Book of Calculation) ของเค้าจนเป็นที่นิยมไปทั่วยุโรป
ตัวเลขอารบิกเป็นที่นิยมอย่างมากในยุโรป และในช่วงศตวรรษที่ 15 และ 16 ก็พบว่ามีการใช้กันทั่วไป รวมทั้งใช้เขียนบนหน้าปัดนาฬิกาด้วย ... ดังในรูปประกอบ (มาจากคู่มือที่ชื่อว่า Ms.Thott.290.2º เขียนโดย Hans Talhoffer ในปี 1459) ซึ่งเขียนวิธีการเรียงลำดับเลขทั้งหมดเอาไว้
เมื่อยุโรปผ่านยุคฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรม หรือยุคเรเนสซอง (Renaissance) มีการศึกษาประวัติของเลขฮินดู-อารบิกเพิ่มเติม และพบว่านอกจากจะมีรากฐานมากจากเลขพรามมิโบราณ ยังได้รับอิทธิพลมาจากวิวัฒนาการของการจัดเรียงพิมพ์ตัวอักขระต่างๆ ในยุโรปสมัยนั้นด้วย ... ดังแผนภูมิเปรียบเทียบในภาพประกอบ ซึ่งจัดทำโดยนักประวัติศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ชื่อ Jean-Étienne Montcula พิมพ์ในหนังสือ Histoire de la Mathematique ในปี ค.ศ. 1757
จนมาถึงช่วงกลายศตวรรษที่ 18 นั่นเอง ที่ตัวเลขทั้งหมดที่นิยมใช้กันในยุโรปนั้น ได้เปลี่ยนมาเป็นแบบตัวเลขอารบิกในปัจจุบัน ... ซึ่งก็ชัดเจนว่า ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องจำนวนมุมภายในตัวเลขแต่อย่างไรครับ
ข้อมูลและภาพ จาก https://gizmodo.com/no-this-viral-image-does-not-explain-th…
-------------
สนใจหนังสือ "อ๋อ! มันเป็นอย่างนี้นี่เอง" ติดต่อสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ สนพ. มติชน http://www.matichonbook.com/…/matichonb…/newbooks/-2997.html
"Arabic numbers don't think of the number of angles"
Today, there are many people who have received this forward. According to the history of the arbic numbers we use. Each number is made up of "the number" within the numbers. I have been used for their whole life. So!? I'm sorry. It's not true.
The current numbers we call "Hindu-Arabic" are actually from the ancient Indian cuddle characters used in mathematical calculation between 200 years before crystal to the 3th century. Appearing in Bakhshali record which is very famous from the oldest record in mathematics and shows the use of 0 zeros... See in the illustrations, it will see the similarity between this antique numbers (aka the numbers. Brahmi numerals) with current Arabic numbers
After that, the characteristics of the numbers changed centuries and spread to medieval Persians and Arabs were finally published in Europe. It appears in Codex Vigilanus by the work of Christians in Northern Spain in July. Prof. 881... Look at the illustrations, you will see that the more like the current Arabic numbers (but they write from right to left) which will only have number 4 and 5 that look different. Please.
Then this Hindu-Arabic number was renovated in 1202 by Leonaci's work of Leonaci (who thought about Fibonacci cuddle ci sequence) by using this system in liber. (It means book of calculation) is popular all over Europe.
Arabic numbers are highly popular in Europe and in the 15th and 16th centuries, it is found that they are commonly used as well as written on the watch dial... as in the illustration (from the Ms. Thott. 290.2º written by Hans Talhoffer in 1459) Writes how to sort out all numbers.
When Europe passed the era of art, culture or Renaissance), there was more study of Hindu-Arabic history and found that in addition to a lot of primmi numbers, it is also influenced by the evolution of printing. cuddle carabinieri, cuddle characters in Europe in those days... As a comparison chart in the illustration made by a French historian-étienne montcula, printed in the book in the book of Histoire de la Mathemathematique in July. Prof. 1757
Until the 18th century, that all the popular numbers in Europe have changed to the current Arabic numbers... which clearly has nothing to do with the number of corners within the numbers.
Info and pics from https://gizmodo.com/no-this-viral-image-does-not-explain-the-history-of-ar-1719306568
-------------
Interested in the book " oh! This is how it is " Contact to order at the website. Matichon http://www.matichonbook.com/index.php/matichonbook/newbooks/-2997.htmlTranslated
ancient แปลว่า 在 Engdict 的推薦與評價
ancient แปลว่า อะไร ? ฝึกสะกดคำศัพท์ภาษาอังกฤษจากสีตัวอักษร ภาพประกอบคำศัพท์สวยๆ และสื่อการสอนมากมาย ancient (เอนเชินท์) = โบราณ... ... <看更多>
ancient แปลว่า 在 ancient ออกเสียงว่า แปลว่า อะไร แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย By ... 的推薦與評價
ancient ออกเสียงว่า แปลว่า อะไร แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย By ENCONCEPT Dictionary. 1.1K views · 4 years ago ...more ... ... <看更多>