สรุปเรื่อง M&A การควบรวมกิจการ คืออะไร? ครบจบในโพสต์เดียว /โดย ลงทุนแมน
ยุคสมัยนี้ การแข่งขันในโลกธุรกิจ ทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าอดีตอย่างมาก
หลายบริษัทเจอความท้าทายต่าง ๆ
ทั้งเศรษฐกิจที่ผันผวน และการเพิ่มขึ้นของคู่แข่งในอุตสาหกรรม
บริษัทจำนวนไม่น้อย จึงเลือกที่จะใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า Mergers and Acquisitions หรือ “M&A” เพื่อความอยู่รอด หรือแม้แต่เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจตนเอง
M&A คืออะไร และมีความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจปัจจุบัน มากแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
M&A ย่อมาจาก 2 คำ คือ “Mergers and Acquisitions”
โดย Mergers นั้นหมายถึง การที่บริษัทตั้งแต่ 2 บริษัทขึ้นไป ทำการควบรวมกิจการเข้าด้วยกัน
เป็นผลให้ทั้งบริษัทเหล่านั้น ถูกยุบรวมและเหลือเพียงแค่บริษัทใหม่เกิดขึ้น และบริษัทเดิมทั้งสอง (หรือมากกว่า 2) ก็จะเป็นเจ้าของบริษัทใหม่ร่วมกัน
ซึ่งตัวอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาก็คือ การควบรวมกิจการระหว่างธนาคารทหารไทย และธนาคารธนชาต จนกลายมาเป็น ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB
ส่วนคำว่า Acquisitions นั้นหมายถึง การที่บริษัทหนึ่งเข้าไปซื้อกิจการของอีกบริษัทหนึ่ง
กรณีแรกคือ Share Acquisition คือผู้ที่เข้ามาซื้อ
จะได้หุ้นของบริษัทที่ถูกซื้ออาจจะบางส่วนหรือทั้งหมด
ซึ่งผู้ซื้อจะได้มาซึ่งสิทธิ์ในการออกเสียงในการประชุม หรือพูดง่าย ๆ ว่ามีสิทธิ์ควบคุมการตัดสินใจของกิจการที่ถูกซื้อ อย่างเช่น การเข้าซื้อหุ้น INTUCH ของ GULF
อีกกรณีคือ ผู้ซื้อจะได้มาซึ่งทรัพย์สิน, หน่วยธุรกิจบางส่วนหรือทั้งหมด ของกิจการที่ถูกซื้อ ซึ่งกรณีนี้เราเรียกว่า Asset Acquisition หรือ Business Acquisition
ซึ่งตัวอย่างที่เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ก็เช่น กรณีที่ MAKRO รับโอนกิจการทั้งหมดของ LOTUS แล้วออกหุ้นเพิ่มทุนให้กับเจ้าของเดิมที่เป็นบริษัทในเครือซีพี เพื่อชำระเป็นค่าโอนกิจการ
ทีนี้ลองมาดูกันว่ามีเหตุผลสำคัญอะไรบ้าง ที่ทำให้บริษัทส่วนใหญ่นิยมหยิบกลยุทธ์ M&A มาใช้
- เสริมการเติบโตให้กับบริษัท
เมื่อธุรกิจของบริษัทเติบโตมาถึงจุดหนึ่ง การที่จะผลักดันให้ธุรกิจเติบโตมากขึ้นถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก เช่น หากธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมที่ขนาดตลาดเริ่มไม่เติบโตแล้ว การจะขยายส่วนแบ่งตลาดอาจทำได้ลำบาก
กรณีนี้บริษัท ก็จะต้องพึ่งการเข้าไปควบรวมกิจการคู่แข่งที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันนั้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้ทันที โดยไม่ต้องไปเสียเวลาลงทุนพัฒนาสินค้า ทดลองตลาด หรือจ้างพนักงานเพิ่ม
หรือแม้แต่ถ้าธุรกิจเดิมของบริษัทนั้นเริ่มอิ่มตัว การเข้าไปควบรวมกิจการกับบริษัทอื่นที่อยู่ในธุรกิจใหม่ ก็สามารถสร้างการเติบโตจากภายนอกกิจการ หรือ Inorganic Growth ได้เช่นกัน
- เพิ่มอำนาจ และผลประโยชน์ร่วมทางธุรกิจ ให้กับบริษัท
เมื่อบริษัทมีการควบรวมกิจการกันเกิดขึ้นแล้ว จะทำให้เพิ่มอำนาจและผลประโยชน์ทางธุรกิจได้ เพราะบริษัทที่ควบรวมสามารถใช้ทรัพยากร รวมไปถึงจุดแข็งของแต่ละบริษัทร่วมกัน ทั้งยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานโดยรวมให้ลดลงอีกด้วย
ตัวอย่างเช่น การควบรวมกันของธุรกิจค้าปลีก
ที่สามารถเพิ่มอำนาจซื้อและต่อรองกับซัปพลายเออร์ จนอาจได้รับส่วนลด และช่วยให้เกิดการประหยัดต่อขนาด ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง
- เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ
สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป มีหลายบริษัทที่ปรับตัวไม่ทัน ต้องประสบปัญหา บางบริษัทขาดสภาพคล่อง เข้าถึงแหล่งเงินทุนยาก โดยเฉพาะบริษัทขนาดเล็ก หรือบริษัทที่กำลังประสบปัญหา
ดังนั้น เราจึงเห็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีเงินทุนสูงพยายามเข้าไปควบรวมกิจการกับบริษัทขนาดเล็กหลายแห่งที่ยังมีโอกาสเติบโตในอนาคต แต่กำลังประสบปัญหาอยู่
ซึ่งการควบรวมกับธุรกิจขนาดใหญ่ จะทำให้ธุรกิจขนาดเล็กหรือธุรกิจที่กำลังประสบปัญหานั้นมีโอกาสอยู่รอดสูงขึ้น
และหากมองในมุมของ รูปแบบการควบรวม เราก็สามารถแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลัก ๆ คือ
1. การควบรวมกิจการแบบแนวนอน (Horizontal Integration)
เป็นการควบรวมกิจการที่ทำธุรกิจเหมือนกัน หรืออยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ซึ่งผลประโยชน์จากการควบรวมแบบนี้คือ เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale)
จากการที่สามารถเพิ่มกำลังการผลิต เพิ่มส่วนแบ่งตลาด ลดคู่แข่ง รวมไปถึงการเกิดผลประโยชน์ทางธุรกิจเพิ่มขึ้น และเพื่อให้เกิดจากการแชร์เทคโนโลยี ทรัพยากร และบุคลากรร่วมกัน
ตัวอย่างดีลแบบนี้ ก็เช่น The Walt Disney ที่มีส่วนธุรกิจผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์รายใหญ่ ได้เข้าซื้อกิจการของ 21st Century Fox สตูดิโอผลิตภาพยนตร์ชื่อดัง ด้วยมูลค่ากว่า 2.3 ล้านล้านบาท ในปี 2019
2. การควบรวมกิจการแบบแนวตั้ง (Vertical Integration)
เป็นการควบรวมของธุรกิจที่มีห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) เดียวกัน เพื่อลดต้นทุนการผลิต และจัดการกระบวนการผลิตได้ง่ายขึ้น
เช่น ในปี 2012 Google ได้เข้าซื้อกิจการของ Motorola Mobility ที่แยกตัวออกมาจาก Motorola และเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาสมาร์ตโฟน Android ด้วยมูลค่ากว่า 406,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามดีลนี้ของ Google ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก เพราะตลาดโทรศัพท์มือถือมีการแข่งขันกันที่รุนแรง
3. การควบรวมกิจการที่ไม่มีความสัมพันธ์กัน (Conglomerate Integration)
เป็นการควบรวมของธุรกิจที่แตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง
ทั้งนี้เพื่อ สร้างการเติบโตจากธุรกิจใหม่ รวมไปถึงความต้องการที่จะกระจายความเสี่ยงเพื่อไม่ให้กิจการมีรายได้หลักมาจากธุรกิจเดิมเท่านั้น
ตัวอย่างของบริษัทที่เกิดจาก Conglomerate Integration เช่น กลุ่มไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น หรือ TCC Group ของคุณเจริญ สิริวัฒนภักดี
ที่มีการควบรวมกิจการต่าง ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องมาอยู่ในเครือมากมาย เช่น ธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม อสังหาริมทรัพย์ ประกัน การเงิน และธุรกิจการเกษตร
ทั้งหมดนี้ก็คือ สรุปกลยุทธ์ M&A
ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในทางธุรกิจ ที่ทำให้เราเข้าใจว่า
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลกธุรกิจที่ผ่านมา มันจะเกี่ยวข้องกับเรื่อง M&A ในหลายเรื่อง
และในอนาคต เราก็จะได้เห็นการ M&A ของธุรกิจต่าง ๆ อยู่เป็นระยะ ตราบใดที่บนโลกนี้ยังมีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย แนวคิดทุนนิยม..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.investopedia.com/ask/answers/why-do-companies-merge-or-acquire-other-companies/
-https://www.set.or.th/th/market/files/mna/Final_MnA.pdf
-https://www.investopedia.com/ask/answers/051315/what-difference-between-horizontal-integration-and-vertical-integration.asp
-https://www.npr.org/2019/03/20/705009029/disney-officially-owns-21st-century-fox
-https://en.wikipedia.org/wiki/Motorola_Mobility
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_largest_mergers_and_acquisitions
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過267萬的網紅Rachel and Jun,也在其Youtube影片中提到,★Cat Merch! https://crowdmade.com/collections/junskitchen - Resources for statistics/news/reports on gender equality in both English and Japanese: 日...
asset wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
สรุป วอร์แรนท์ คืออะไร เข้าใจในโพสต์เดียว /โดย ลงทุนแมน
ถ้าใครเคยจองซื้อคอนโดฯ เจ้าของโครงการจะออกเอกสารที่แสดงถึงการจองสิทธิเพื่อซื้อคอนโดฯ ไว้เบื้องต้น โดยเรามีหน้าที่วางเงินเป็นหลักประกัน และชำระเงินตามเงื่อนไขภายในวันเวลาที่กำหนด
แต่ถ้าเราไม่ทำตามเงื่อนไขภายในระยะเวลาที่กำหนด คอนโดฯ ที่เราจองไว้ก็จะถูกนำไปขายให้คนอื่น ซึ่งแนวคิดนี้ก็มีส่วนคล้ายคลึงกับ การถือสิ่งที่เรียกว่า “วอร์แรนท์”
หลายคนรู้จักและคุ้นเคยกับการซื้อขายหุ้น แต่ก็มีหลายคน อาจจะยังไม่รู้จักวอร์แรนท์ ทั้งที่ก็เคยได้ยินคำนี้มาบ่อยครั้ง
แล้ว วอร์แรนท์ คืออะไร ?
และทำไมบางบริษัทชอบออกตราสารประเภทนี้ให้กับผู้ถือหุ้น
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
วอร์แรนท์ คือ ตราสารที่ออกโดยบริษัทจดทะเบียน เพื่อให้สิทธิแก่ผู้ถือในการซื้อหลักทรัพย์ที่วอร์แรนท์นั้นอ้างอิงอยู่ (Underlying Asset) ซึ่งมีตั้งแต่หุ้นสามัญ หุ้นบุริมสิทธิ หุ้นกู้ หรือหน่วยลงทุน โดยจะกำหนดราคาใช้สิทธิ (Exercise Price) เอาไว้
ที่เราคุ้นเคยกัน หลักทรัพย์ที่มีวอร์แรนท์อ้างอิงมักเป็น หุ้นสามัญของบริษัทต่าง ๆ
โดยทั่วไป บริษัทจดทะเบียนมักจะแจกวอร์แรนท์ฟรีให้ผู้ถือหุ้นเดิม
ทั้งนี้ก็เพื่อดึงดูดใจให้มาใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มในอนาคต
โดยเงื่อนไข รายละเอียด หรือจุดสำคัญ ที่ผู้ถือวอร์แรนท์ต้องทำความเข้าใจให้ดี ๆ จะประกอบไปด้วย ราคาใช้สิทธิ, รายละเอียดการใช้สิทธิ, ระยะเวลาที่ใช้สิทธิได้ และอายุคงเหลือของวอร์แรนท์
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพก็เช่น
สมมติว่า เราเป็นเจ้าของธุรกิจร้านกาแฟและจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้น ต่อมาคิดว่าอีก 3 ปีข้างหน้า เราต้องการใช้เงินทุนเพื่อขยายสาขาไปต่างประเทศ
ดังนั้น เราจึงต้องการออกวอร์แรนท์ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม
โดยกำหนดให้ อัตราส่วนหุ้นต่อวอร์แรนท์ที่จะได้รับ คือ 4:1, อัตราส่วนการแปลงสภาพ คือ 1:1, ราคาใช้สิทธิ 20 บาท ใช้สิทธิได้ปีละครั้ง และเริ่มใช้สิทธิได้ตั้งแต่ 30 ธ.ค. 2564 ไปจนถึง 30 ธ.ค. 2568
ซึ่งในกรณีนี้สรุปได้ว่า
- ผู้ที่ถือหุ้นในธุรกิจร้านกาแฟของเรา ถ้าถือหุ้นอยู่ 4 หุ้นจะได้ 1 วอร์แรนท์
- ผู้ถือหุ้นสามารถใช้ 1 วอร์แรนท์ แปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญได้ 1 หุ้น โดยจ่ายเงินให้บริษัทเรา 20 บาท
- วอร์แรนท์มีอายุ 4 ปี โดยใช้สิทธิแปลงสภาพได้ปีละครั้ง โดยผู้ถือหุ้นจะเริ่มใช้สิทธิได้ครั้งแรก ในวันที่ 30 ธ.ค. 2564 และครั้งสุดท้ายในวันที่ 30 ธ.ค. 2568
ทั้งนี้ เมื่อผู้ถือวอร์แรนท์มาใช้สิทธิในการแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ บริษัทจดทะเบียนที่ออกวอร์แรนท์ ก็จะได้เงินทุนเพิ่ม เพื่อมาใช้ในกิจการ ส่วนคนที่มาใช้สิทธิแปลงวอร์แรนท์เป็นหุ้นสามัญก็จะได้หุ้นเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม มันยังมีอีกกรณีหนึ่ง
คือคนที่ถือวอร์แรนท์อยู่ อาจไม่เก็บวอร์แรนท์ไว้ใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญด้วยตัวเองก็ได้
เนื่องจากวอร์แรนท์นั้นสามารถนำไปขายเปลี่ยนมือในตลาดหุ้นได้ และราคาของวอร์แรนท์ในตลาด ในแต่ละช่วง ก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามหลาย ๆ ปัจจัย เช่น
1. ราคาสินค้าสินทรัพย์อ้างอิง
วอร์แรนท์จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามราคาสินทรัพย์อ้างอิงที่สูงขึ้น และลดลงหากราคาหลักทรัพย์อ้างอิงนั้นลดลง
2. ราคาใช้สิทธิ เทียบกับราคา สินทรัพย์อ้างอิง
หากราคาใช้สิทธิ สูงกว่าราคาสินทรัพย์อ้างอิงมาก ๆ ก็จะทำให้ราคาของวอร์แรนท์นั้นต่ำ
เนื่องจากนักลงทุนมองว่า โอกาสที่ราคาของสินทรัพย์อ้างอิงจะปรับตัวสูงกว่าราคาใช้สิทธินั้นมีน้อย ซึ่งหากเอาวอร์แรนท์นั้นไปใช้สิทธิแปลงเป็นหุ้นสามัญแล้วเอามาขาย ก็ย่อมขาดทุน
3. อายุคงเหลือของสัญญา
มูลค่าของวอร์แรนท์จะค่อย ๆ ลดลง ตามอายุคงเหลือของวอร์แรนท์ที่ลดลง และถ้าวอร์แรนท์ไม่ได้ถูกใช้สิทธิภายในเวลาที่กำหนด วอร์แรนท์นั้น “จะมีค่าเป็นศูนย์”
4. ความผันผวนของราคาสินทรัพย์อ้างอิง
ความผันผวนของระดับราคาสินทรัพย์อ้างอิง ยิ่งมีมากขึ้น จะส่งผลให้ราคาของวอร์แรนท์มีการเคลื่อนไหวผันผวนสูงตามไปด้วย
สำหรับคนที่มีวอร์แรนท์อยู่ในมือ
กรณีที่ราคาใช้สิทธิรวมกับราคาวอร์แรนท์แล้ว (กรณีที่ซื้อวอร์แรนท์มา) ต่ำกว่าราคาหุ้นที่อ้างอิงในตลาด ก็จะสามารถใช้สิทธิซื้อหุ้น และเอาหุ้นนั้นไปขายในตลาดทำกำไร ซึ่งวอร์แรนท์นั้นจะถือว่ามีมูลค่า หรือเรียกว่า “In-the money”
ในทางกลับกัน ถ้าราคาใช้สิทธิรวมกับราคาวอร์แรนท์ (กรณีที่ซื้อวอร์แรนท์มา) สูงกว่าราคาหุ้นอ้างอิงในตลาด ผู้ถือก็มักไม่ใช้สิทธิ เพราะไปซื้อหุ้นนั้นในตลาดได้ในราคาที่ถูกกว่า
วอร์แรนท์นั้น ก็จะถือว่าไม่มีมูลค่า หรือเรียกว่า “Out-of-the money”
โดยสิ่งที่ทำให้วอร์แรนท์ดึงดูดผู้ลงทุนคือ ความเป็น Leverage หรือที่หมายถึง การลงทุนที่ใช้เงินน้อยแต่มีโอกาสได้กำไรมาก โดยจำกัดความสูญเสียไว้ ซึ่งอย่างมากที่สุดก็คือ ต้นทุนที่ได้วอร์แรนท์มา
ซึ่งบางคนได้มาฟรี ๆ ก็อาจมองว่าไม่เสียหายอะไร
ส่วนผู้ที่ซื้อมาจากในตลาดอีกที แล้วใช้สิทธิไม่ทันหรือเลือกไม่ใช้สิทธิ ก็จะขาดทุนเท่าราคาที่ซื้อมา
ถึงตรงนี้ คำถามที่บางคนอาจสงสัยก็คือ แล้วถ้าบริษัทต้องการเงินทุนเพิ่ม ทำไมไม่เลือกที่จะขอเพิ่มทุนตรง ๆ จากผู้ถือหุ้น แต่กลับเลือกที่จะออกวอร์แรนท์
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า การเพิ่มทุนจะเกิดผลกระทบจาก Dilution Effect ในทันที ซึ่งเป็นผลมาจากการที่จำนวนหุ้นของบริษัทเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาต่อหุ้นปรับตัวลดลง
นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่สภาพตลาดหุ้นไม่ดี การเพิ่มทุนมักจะทำได้ยาก หรือถ้าบริษัทต้องการเพิ่มทุน บริษัทก็ต้องลดราคาขายหุ้นเพิ่มทุนลงมา
ซึ่งไม่เพียงแต่กระทบกับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท แต่ยังทำให้บริษัทมีโอกาสได้เงินเพิ่มทุนน้อยกว่า ช่วงที่สภาพตลาดหุ้นคึกคัก ที่มีโอกาสขายหุ้นเพิ่มทุนได้ในราคาสูงกว่า
การออกวอร์แรนท์นั้น สามารถชะลอผลกระทบของ Dilution Effect เนื่องจากจำนวนหุ้นเพิ่มทุนจะยังไม่เพิ่มขึ้นทันที จนกว่าผู้ถือวอร์แรนท์จะมาใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญ และจะเกิดขึ้นภายในช่วงเวลาที่กำหนดไว้
นอกจากนี้ การออกวอร์แรนท์ ยังช่วยลดสัดส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัท หรือ Debt to Equity Ratio (D/E Ratio) เพราะเมื่อวอร์แรนท์ถูกใช้สิทธิแปลงสภาพ จะถูกบันทึกเข้ามาอยู่ในส่วนทุน ต่างจากกรณีที่บริษัทไปกู้ยืมเงินมา ซึ่งจะถูกบันทึกเป็นหนี้สิน
อ่านมาถึงตรงนี้ เราก็จะสรุปได้ว่า
วอร์แรนท์ เป็นตราสารที่ผู้ถืออาจได้มาฟรีหรือไม่ฟรีก็ได้
ในกรณีที่เป็นผู้ถือหุ้นเดิม อาจได้รับวอร์แรนท์มาฟรี ๆ หรือพ่วงมากับการขอเพิ่มทุนในรอบก่อน ๆ ส่วนคนที่ไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่แจกวอร์แรนท์ ถ้าอยากได้ ก็ต้องไปซื้อเอาจากคนที่เอามาขายต่อในตลาด
ส่วนคนที่มีวอร์แรนท์อยู่ในมือ ก็สามารถเลือกที่จะใช้สิทธิ หรือไม่ใช้สิทธิก็ได้ ตามเงื่อนไขที่กำหนดมา
สำหรับการออกวอร์แรนท์
ในแง่ของบริษัทที่ออกวอร์แรนท์ ต้องคาดการณ์มูลค่าเงินทุนที่บริษัทต้องการใช้ในอนาคต ให้สอดคล้องกับอายุของวอร์แรนท์ รวมไปถึงราคาใช้สิทธิ เพื่อลดผลกระทบด้าน Dilution Effect ให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท รวมทั้งนำเงินทุนที่ได้จากการแปลงสภาพไปสร้างผลตอบแทนให้เหมาะสม
ส่วนในแง่ของผู้ถือวอร์แรนท์ ก็ต้องศึกษารายละเอียดการใช้สิทธิแปลงสภาพ และเงื่อนไขต่าง ๆ ของวอร์แรนท์อย่างละเอียด โดยเฉพาะเรื่องของ อายุคงเหลือของวอร์แรนท์ และเข้าใจความเสี่ยงของการถือหรือลงทุนในวอร์แรนท์ให้ดี
เพราะเราอาจยังสามารถถือหุ้นอยู่ได้ เมื่อบริษัทเกิดปัญหาและราคาหุ้นปรับตัวลดลง ถ้าเชื่อว่าในอนาคตธุรกิจของบริษัทจะฟื้นตัวกลับมาจนทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น
แต่เราไม่สามารถถือวอร์แรนท์ไปได้ตลอด เพราะวอร์แรนท์มีอายุที่จำกัด
ซึ่งถ้าเราซื้อวอร์แรนท์นั้นมาในราคาสูง มันก็ทำให้เราขาดทุนหนักได้เช่นกัน..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.sec.or.th/TH/Pages/Investors/EquityProduct-Warrants01.aspx
-https://en.wikipedia.org/wiki/Warrant_(finance)
-https://www.drwealth.com/5-factors-affecting-the-price-of-warrants/
-https://sias.org.sg/beginners-guide/key-factors-that-determine-a-warrant-price/
-https://www.set.or.th/th/regulations/simplified_regulations/warrant_issue_p1.html
asset wiki 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
เจ้าหน้าที่ระดับสูงจีน Lai Xiaomin รับสินบน 9 พันล้าน ถูกประหารชีวิต /โดย ลงทุนแมน
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แห่งประเทศจีนได้เอาจริงเอาจังกับการปราบปรามคอร์รัปชัน มาตั้งแต่เริ่มเข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2012
“Lai Xiaomin” ถือเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน ที่ถูกสอบสวนและพบว่าเขารับสินบนเป็นมูลค่าเกือบ 9 พันล้านบาท ตลอดช่วงที่อยู่ในตำแหน่งมายาวนานถึง 10 ปี
ซึ่งการทุจริตดังกล่าว ได้นำไปสู่การที่เขา ถูกตัดสินประหารชีวิตเมื่อต้นปีที่ผ่านมา
แล้ว Lai Xiaomin เป็นใคร
ความผิดของเขาร้ายแรงมากแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Lai Xiaomin เกิดเมื่อปี 1962 ที่มณฑลเจียงซี ประเทศจีน
เขาเกิดในครอบครัวที่ค่อนข้างยากจน เขาจึงมุ่งมั่นตั้งใจเรียน จนในปีที่สอบเข้ามหาวิทยาลัย เขาสามารถทำคะแนนได้เป็นอันดับ 1 ของประเทศ และเลือกเรียนเศรษฐศาสตร์ที่ Jiangxi University of Finance and Economics
เมื่อเรียนจบ นาย Lai ก็ได้เข้าทำงานในสถาบันการเงินชั้นนำของประเทศ ตั้งแต่ธนาคารกลางจีน หรือ PBOC ต่อด้วยคณะกรรมการกำกับดูแลภาคธนาคาร หรือ CBRC รวมถึงเขาก็ยังเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนอีกด้วย
ปี 2009 นาย Lai ย้ายมาที่ “บริษัทจัดการสินทรัพย์ Huarong” และได้รับตำแหน่งประธานคณะกรรมการ
ในอีก 3 ปีถัดมา
จนกระทั่งในปี 2018 เขาก็ถูกสอบสวน ซึ่งเป็นผลมาจากการปราบปรามคอร์รัปชันในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และผลการสอบสวนก็พบว่านาย Lai มีความผิดอยู่ 3 อย่าง
ข้อหาแรก “การยักยอกทรัพย์” โดยนาย Lai ยักยอกทรัพย์เป็นเงิน 25 ล้านหยวน หรือกว่า 127 ล้านบาท ในทรัพย์สินที่เป็นของรัฐ
ข้อหาที่สอง “การสมรสซ้อน” โดยนาย Lai จดทะเบียนสมรสซ้อนและอยู่ร่วมกันฉันสามีภรรยา รวมถึงมีลูก กับทั้ง 2 ครอบครัว
นอกจากนี้ยังพบว่าเขามีภรรยาน้อยร่วม 100 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะได้รับตำแหน่งระดับบริหารในบริษัทย่อยของ Huarong
ข้อหาที่สาม และเป็นข้อหาที่ร้ายแรงที่สุดคือ “การรับสินบน” โดยนาย Lai รับสินบนมาเป็นเวลากว่า 10 ปี หรือตั้งแต่ปี 2008 ถึง 2018 เป็นเงินกว่า 1.8 พันล้านหยวน หรือราว 9 พันล้านบาท
ซึ่งในช่วงสอบปากคำ ก็พบว่านาย Lai มีทั้งรถหรู อะพาร์ตเมนต์หรู นาฬิกาหรู งานศิลปะ และทองคำแท่ง ที่รับเป็นสินบน
นอกจากนี้ พอเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่อะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง ซึ่งนาย Lai ตั้งชื่อเล่นว่า “ซูเปอร์มาร์เก็ต” เจ้าหน้าที่ก็ได้พบตู้ขนาดใหญ่หลายตู้ ที่อัดแน่นไปด้วยเงินสดมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท
เรื่องราวของนาย Lai ได้สร้างความฮือฮาไปทั่วทั้งประเทศจีน รวมถึงได้รับความสนใจจากสื่อต่างประเทศ
เพราะแม้การรับสินบนจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่มูลค่าการรับสินบนกว่า 9 พันล้านบาทนั้น
เป็นมูลค่ามหาศาล ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศจีน
เรื่องนี้ก็สร้างความฮือฮาอีกครั้งเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2021 ที่ผ่านมา
ที่ศาลประชาชนจีนตัดสินให้นาย Lai มีโทษถึงการประหารชีวิต
แม้ว่าตามกฎหมายของจีน การคอร์รัปชันที่เกี่ยวข้องกับเงินมากกว่า 3 ล้านหยวนหรือราว 15 ล้านบาทขึ้นไป จะมีโทษประหารชีวิต
แต่การพิพากษาโทษประหารจากความผิดลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นน้อยมากและจะสามารถขอลดโทษเป็นจำคุกตลอดชีวิตได้ในภายหลัง
แต่กรณีของนาย Lai แม้ว่าตัวเขาเองจะให้ข้อมูลที่เป็นเบาะแสสำหรับการสืบเรื่องคอร์รัปชันอื่นต่อเนื่อง คำสั่งศาลสูงสุดก็ยังคงให้ประหารชีวิต
โดยศาลให้เหตุผลว่าการรับสินบนของนาย Lai ถือเป็นอาชญากรรมทางการเงินที่รุนแรงมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ สร้างความเสียหายให้กับสังคมเป็นวงกว้าง และคุณงามความดีที่นาย Lai เคยทำไว้ก็ไม่เพียงพอที่จะช่วยบรรเทาความผิดนี้ได้
นั่นจึงทำให้นาย Lai ในวัย 58 ปี ถูกประหารชีวิตเมื่อวันที่ 29 มกราคม 2021 หรือเพียง 24 วันหลังจากการพิพากษาในครั้งแรก และถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่รับโทษรุนแรงที่สุดจากการคอร์รัปชัน
และแม้ว่าศาลจะพิพากษาให้ชีวิตของนาย Lai จบลง
แต่ความเสียหายจากสิ่งที่เขาทำไว้ กลับเพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น
บริษัทจัดการสินทรัพย์ Huarong ที่นาย Lai เป็นประธานคณะกรรมการอยู่ก่อนจะโดนสอบสวน คือหนึ่งใน บริษัทบริหารจัดการหนี้ด้อยคุณภาพที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน โดยมีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ 57%
Huarong เริ่มก่อตั้งในปี 1999 พร้อมกับอีก 3 บริษัท เพื่อจัดการปัญหาหนี้เสียในภาคธนาคารของประเทศจีนที่เป็นผลมาจากวิกฤติการเงินในเอเชีย
แต่เมื่อนาย Lai เริ่มเข้ามาบริหารในปี 2012 รูปแบบกิจการของ Huarong ก็เพี้ยนไปจากเดิม
เพราะนอกจาก Huarong จะเป็นบริษัทจัดการหนี้เสีย นาย Lai ยังได้ขยายธุรกิจเพิ่มเติมโดยรุกเข้าสู่ ธุรกิจการปล่อยสินเชื่อ ลีสซิ่ง โบรกเกอร์ซื้อขายหุ้น อสังหาริมทรัพย์และทรัสต์ วาณิชธนกิจรวมถึงประกัน
เมื่อขยายธุรกิจไปมากขนาดนี้ สิ่งที่ตามมาก็คือการหาเงินทุน ซึ่งนาย Lai ก็ได้นำ Huarong ระดมทุนผ่านตลาดตราสารหนี้ อย่างเช่น การออกพันธบัตรมูลค่ามหาศาล ทั้งในประเทศที่เป็นสกุลเงินหยวนและในต่างประเทศที่เป็นสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกงและดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนั้น Huarong ยังระดมทุนผ่านทางตลาดทุนโดยเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อปี 2015 ซึ่งสามารถขายหุ้น IPO กว่า 7 หมื่นล้านบาทให้กับสถาบันการเงินชั้นนำ เช่น Goldman Sachs, BlackRock และ Vanguard รวมถึงกองทุนระดับประเทศอย่างกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของมาเลเซีย
ในฝั่งของผู้ที่มาซื้อพันธบัตรหรือมีสถานะเป็นเจ้าหนี้ของ Huarong ก็มีทั้งสถาบันการเงินและบริษัทขนาดใหญ่ที่เป็นของรัฐในประเทศจีนเอง รวมไปถึงนักลงทุนสถาบันในต่างประเทศด้วยเช่นกัน
Huarong จึงกลายเป็นหนึ่งในลูกหนี้รายใหญ่ ที่สามารถระดมทุนจากสถาบันทั้งในและต่างประเทศได้มหาศาล เพราะ Huarong มีรัฐบาลเป็นเจ้าของ จึงทำให้มีความน่าเชื่อถือสูงและด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ก็ทำให้ต้นทุนการกู้ยืมของ Huarong อยู่ในระดับต่ำได้นั่นเอง
หลังจากนาย Lai พ้นจากตำแหน่งในปี 2018 Huarong ก็ได้แต่งตั้งผู้นำคนใหม่ที่ชื่อว่า Wang Zhanfeng โดยมีเป้าหมายหลักก็คือเข้ามาปรับโครงสร้างบริษัท Huarong ให้กลับสู่สภาพเดิมด้วยการเลิกทำธุรกิจส่วนที่ขาดทุนและที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักเดิมของ Huarong
ซึ่งระหว่างที่กระบวนการปรับโครงสร้างดำเนินไป ผลกำไรสุทธิของ Huarong ก็ลดลงกว่า 94% ภายใน 2 ปี หรือระหว่างปี 2017 ถึง 2019
แต่แล้วเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา Huarong แจ้งว่าไม่สามารถส่งงบการเงินและรายงานประจำปีของปี 2020 ได้ทัน ซึ่งก็ได้ขอเลื่อนการส่งเอกสารทั้งหมดนี้ออกไปก่อน โดยอ้างว่าผู้ตรวจสอบบัญชียังต้องใช้เวลาตรวจสอบเพิ่มเติม
ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็ยิ่งมาซ้ำเติม Huarong เข้าไปอีก จากสถานการณ์ย่ำแย่มาตั้งแต่ตอนที่นาย Lai ถูกจับกุมอยู่แล้ว
สถานะทางการเงินของบริษัทแย่ลงมาอย่างต่อเนื่อง จนเกิดเป็นความคลุมเครือในปีล่าสุด ที่ได้สร้างความกังวลในตลาดการเงิน เพราะโอกาสที่ Huarong จะไม่สามารถจ่ายหนี้จำนวนมหาศาลคืนได้ ก็มีมากขึ้น
โดยเฉพาะในตลาดตราสารหนี้ ที่ในปัจจุบัน Huarong มีพันธบัตรที่ยังไม่ครบกำหนดชำระคืน หรือ Outstanding Bonds มูลค่ารวมกว่า 1.4 ล้านล้านบาท
โดยครึ่งหนึ่งเป็นพันธบัตรที่ออกเป็นสกุลเงินหยวน อีกครึ่งหนึ่งออกเป็นสกุลเงินต่างประเทศ และ 1 ใน 10 ของมูลค่าพันธบัตรทั้งหมดที่กล่าวมานี้ Huarong มีกำหนดชำระคืนภายในปีนี้
ความกังวลนี้ก็สะท้อนไปที่ราคาของพันธบัตรของ Huarong ที่ผันผวนอย่างรุนแรงในไตรมาสที่ 2 และลามไปถึงตราสารหนี้ของบริษัทขนาดใหญ่อื่น ๆ ในประเทศจีนด้วย
ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมา การผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรของบริษัทในประเทศจีน ก็เพิ่งทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งก็ยิ่งเพิ่มความกังวลในตลาดตราสารหนี้ของจีนมากขึ้นไปอีกว่าสถานการณ์จะรุนแรงจนทำให้เกิดเป็นวิกฤติการผิดนัดชำระหนี้ได้
ถึงแม้ว่าการผิดนัดชำระหนี้โดยบริษัทขนาดใหญ่ที่เป็นของรัฐแบบ Huarong จะยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศจีน
แต่ถ้าเกิดขึ้นจริง ผลกระทบก็จะไม่ได้สร้างความเสียหายให้ตลาดตราสารหนี้จีนเท่านั้น แต่จะลุกลามไปทั่วโลก
เรื่องนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า Huarong ที่เริ่มก่อตั้งมาเมื่อ 22 ปีก่อน
เพื่อบรรเทาและแก้ไขผลกระทบจากวิกฤติการเงินในเอเชียให้กับภาคธนาคารในประเทศจีน
จะให้ผลในสิ่งตรงกันข้ามและกลายเป็นต้นตอของวิกฤติครั้งใหม่ของประเทศหรือไม่..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-04-15/china-s-very-bad-bank-inside-the-huarong-debt-debacle
-https://www.ft.com/content/2aabfd64-6527-442f-b6fb-36c3804dcfc7
-https://edition.cnn.com/2021/01/06/business/china-huarong-lai-xiaomin-death-sentence-intl-hnk/index.html
-https://www.dailymail.co.uk/news/article-9204601/Former-head-Chinese-state-asset-firm-Lai-Xiaomin-executed.html
-https://www.bbc.com/news/business-55555417
-https://en.wikipedia.org/wiki/Lai_Xiaomin
-https://finance.yahoo.com/quote/2799.HK?p=2799.HK
asset wiki 在 Rachel and Jun Youtube 的最讚貼文
★Cat Merch! https://crowdmade.com/collections/junskitchen
- Resources for statistics/news/reports on gender equality in both English and Japanese:
日本語:
「世界男女格差指数」:
http://ja.wikipedia.org/wiki/%E4%B8%9...
http://www3.weforum.org/docs/WEF_NR_G...
「厚生労働省の統計情報・白書」: http://www.mhlw.go.jp/toukei_hakusho/
「男女共同参画白書 平成25年版」 : http://www.gender.go.jp/about_danjo/w...
「保育所関連状況取りまとめ」: http://www.mhlw.go.jp/stf/houdou/2r98...
「夫は祖手で働き、妻は家を守るべきである」: http://www.gender.go.jp/about_danjo/w...
「男性の育児休業取得率の推移 」: http://www.gender.go.jp/about_danjo/w...
「役職別管理職に占める女性割合の推移 」: http://www.gender.go.jp/about_danjo/w...
「週労働時間60時間以上の就業者の割合(男性・年齢別)」: http://www.gender.go.jp/about_danjo/w...
English:
Global Gender Gap Report 2012: http://www3.weforum.org/docs/WEF_Gend...
Ministry of Health, Labour, and Welfare: http://www.mhlw.go.jp/english/
MHLW's Equal Employment and Child Welfare Report: http://www.mhlw.go.jp/english/wp/wp-h...
Japanese work week [article]: http://www.japantimes.co.jp/news/2013...
Japanese daycare issues [article]:
http://www.japantimes.co.jp/news/2013...
Gender Equality Bureau Cabinet Office of Japan, "Women and Men in Japan 2012" report: http://www.gender.go.jp/english_conte...
Perceptions of Gender Equality survey results: http://www.gender.go.jp/english_conte...
Women want to work [articles]:
http://www.japantimes.co.jp/news/2012...
http://www.japantimes.co.jp/opinion/2...
Center for Work-Life Policy Press Report on Japanese women workers: http://www.worklifepolicy.org/documen...
OECD Employment Outlook 2013 (Gender gap wage information): http://www.keepeek.com/Digital-Asset-...
★ Patreon! http://patreon.com/rachelandjun
Greek subtitles thanks to: Λιλιαν Τσιουτσια
Spanish (Mexico) subtitles thanks to: Eduardo Lugo (GagaBabymetal)
Want to help us subtitle our videos?
http://www.youtube.com/timedtext_vide...
【You can also find us:】
×Gaming channel: http://www.youtube.com/user/Racheland...
×Extra videos: http://www.youtube.com/user/Racheland...
×Jun's Kitchen: http://www.youtube.com/user/JunsKitchen
×Twitch: http://www.twitch.tv/rachelandjun/pro...
×Facebook: https://www.facebook.com/RachelAndJun
×Twitter: https://twitter.com/RachelAndJun
×Instagram: http://instagram.com/rachelandjun
×Our blog: http://rachelandjun.blogspot.com/