กรณีศึกษา BarkBox แพลตฟอร์มคนรักสุนัข 6 หมื่นล้าน /โดย ลงทุนแมน
เมื่อพูดถึงบริการแบบสมาชิกรายเดือน
หลายคนก็มักจะนึกถึง Spotify สตรีมมิงสำหรับฟังเพลง
Netflix สำหรับดูภาพยนตร์ หรือ Dollar Shave Club
บริการสมาชิกมีดโกนหนวดรายเดือน
แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากบริการสมาชิกที่เกี่ยวข้องกับ “มนุษย์” แล้ว
ยังมีบริการสมาชิกในอุตสาหกรรมสัตว์เลี้ยงอีกด้วย
หนึ่งในนั้นก็คือ BarkBox แพลตฟอร์มสมาชิกรายเดือนสำหรับคนรักสุนัข
ที่กำลังเติบโต และปัจจุบัน มีมูลค่าสูงถึง 6 หมื่นล้านบาท
แล้วสมาชิกรายเดือนของคนรักสุนัข มีหน้าตาเป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้น BarkBox เกิดขึ้นเมื่อ 9 ปีก่อน
โดยผู้ก่อตั้งทั้ง 3 คน คุณ Carly Strife, คุณ Matt Meeker และคุณ Henrik Werdelin
มองว่าการเลี้ยงสุนัขที่ดี คือการส่งเสริมให้สุนัขได้เรียนรู้และเจอสิ่งใหม่ตลอดเวลา
ดังนั้นนอกจากอาหารแล้ว “ของเล่นและขนม” จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของสุนัข
อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับพบว่าพนักงานส่วนใหญ่ในร้านค้าสำหรับสัตว์เลี้ยงไม่มีความเชี่ยวชาญด้านการเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และพวกเขามักจะไม่ได้รับความช่วยเหลือในการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงเท่าที่ควร
เรื่องดังกล่าวจึงทำให้พวกเขาเกิดไอเดียในการสร้างเว็บไซต์ BarkBox ขึ้นมา
ซึ่งพวกเขาคิดว่า BarkBox จะเป็นโมเดลธุรกิจที่จะช่วยเหลือกลุ่มเจ้าของสุนัขได้อย่างตรงจุด
แล้วโมเดลธุรกิจที่ว่านี้ คืออะไร?
BarkBox มีโมเดลธุรกิจก็คือ การมัดรวมผลิตภัณฑ์สำหรับสุนัข เช่น ของเล่น ขนม และอาหาร เข้ามาอยู่ภายในกล่องเดียวกัน และจะส่งมอบให้กับลูกค้าที่สมัครเข้ามาเป็นสมาชิก
ทั้งนี้ ก็เพื่อให้กลุ่มผู้เลี้ยงสุนัขไม่ต้องมานั่งคิดว่าแต่ละเดือน จะต้องหาซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอะไรบ้าง
โดยลูกค้าที่สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกก็จะสามารถกำหนดได้ว่าต้องการสินค้ากลุ่มใดเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการขอหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่อาจส่งผลต่อภูมิแพ้ หรือเลือกกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสุนัขแต่ละประเภท ซึ่งจะมีราคาอยู่ในช่วงระหว่าง 700 ถึง 1,100 บาท ต่อเดือน
ด้วยความที่กลุ่มผู้ก่อตั้งเป็นกลุ่มคนรักสุนัขอยู่แล้ว BarkBox จึงเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในการเลี้ยงสุนัขเป็นอย่างดี
พวกเขาจึงได้นำประสบการณ์ไปปรับให้บริการมีความยืดหยุ่น และให้ความใส่ใจแก่กลุ่มเจ้าของสุนัขได้ดีทั้งในมุมของผลิตภัณฑ์ที่คัดสรรมา รวมถึงการให้คำปรึกษาแก่ผู้ใช้งานผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ แบ่งออกเป็น
- Facebook มีผู้ติดตาม 3 ล้านบัญชี
- Instagram มีผู้ติดตาม 1.7 ล้านบัญชี
- Twitter มีผู้ติดตาม 3 แสนบัญชี
ส่งผลให้ขณะนี้ แพลตฟอร์ม BarkBox กลายเป็นที่ชื่นชอบของชาวอเมริกันอย่างมาก ซึ่งปัจจุบัน BarkBox มีจำนวนสมาชิกรายเดือน 660,000 ราย เติบโตขึ้นเป็น 8 เท่า เมื่อเทียบกับ 5 ปีก่อน แถมบริษัทยังมี Retention Rate หรืออัตราการใช้บริการซ้ำมากถึง 95%
นอกจากบริการกล่องของเล่น ขนม และอาหารแล้ว
ตอนนี้ บริษัท BarkBox ยังมีบริการอะไรอีกบ้าง ?
ปัจจุบัน BarkBox มีบริการอยู่ 4 แบบ แบ่งออกเป็น
1. BarkBox เป็นบริการรายเดือนที่จะส่งขนม ของเล่น และเกมสำหรับใช้เล่นกับสุนัข ซึ่งเหมาะกับสุนัขขนาดเล็ก
2. Super Chewer เป็นบริการส่งผลิตภัณฑ์ที่เหมือนกับ BarkBox แต่สำหรับสุนัขที่มีขนาดตัว หรือปากที่ใหญ่
3. Bark Bright เป็นนวัตกรรมสำหรับดูแลฟันและลมหายใจของสุนัข และอนาคต BarkBox ได้มีแผนในการต่อยอด Bark Bright ให้เป็นแพลตฟอร์มสำหรับดูแลสุขภาพของสุนัขแบบครบวงจร
4. Bark Eats เป็นการให้บริการเลือกอาหารที่ส่งผลดีต่อสุขภาพของสุนัข
สำหรับ Bark Eats นั้น จะมีการสอบถามเพิ่มเติมโดยตรงกับกลุ่มลูกค้า และจะนำข้อมูลที่ได้นั้นไปทำการวิเคราะห์ต่อเพื่อนำไปพัฒนาการนำเสนอ และส่งมอบอาหารที่เหมาะสมกับสุนัขให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ซึ่งจุดนี้เองจะแตกต่างจากโมเดลธุรกิจแบบเดิมที่เน้นเฉพาะการขายอาหารสัตว์เลี้ยงเพียงอย่างเดียว
แม้ว่าบริการ Bark Bright และ Bark Eats เพิ่งทำการเปิดให้บริการเมื่อปีที่แล้ว
แต่ก็ได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า ซึ่งในส่วนบริการใหม่นี้ทางบริษัทได้คาดว่าจะเป็นตัวสำคัญที่สามารถสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดให้กับ BarkBox และทางบริษัทคาดการณ์ว่ามันจะเป็นบริการที่เข้ามาดิสรัปอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงอีกด้วย
แล้วปัจจุบัน BarkBox มีรายได้ขนาดไหน?
ผลประกอบการของบริษัทที่ผ่านมา 3 ปีย้อนหลัง
ปี 2018 รายได้ 4,520 ล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 5,840 ล้านบาท เติบโต 29 %
ปี 2020 รายได้ 6,850 ล้านบาท เติบโต 17%
จากข้อมูล เราก็พอสรุปได้ว่า BarkBox สามารถสร้างการเติบโตได้ต่อเนื่องแม้ว่าจะเผชิญกับช่วงวิกฤตโควิด 19 ในปีที่ผ่านมา
ในขณะเดียวกัน ทางบริษัทก็ได้ตั้งเป้ารายได้โตเฉลี่ยปีละ 47% จากการเพิ่มจำนวนสมาชิกและการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ในอีก 3 ปีข้างหน้า
ทั้งหมดนี้ จึงสะท้อนไปยังบริษัท BarkBox ที่ปัจจุบัน มีมูลค่าสูงถึง 6 หมื่นล้านบาท
แล้วเรื่องนี้ ให้แนวคิดอะไรกับเราบ้าง?
จริงอยู่ว่าโมเดลธุรกิจ Subscription หรือสมาชิกรายเดือนจะเป็นสูตรสำเร็จของธุรกิจในยุคนี้
ซึ่งมีโอกาสที่จะทำให้บริษัทสร้างกระแสเงินสด และสามารถเติบโตไปได้ในระยะยาว
แต่จริง ๆ แล้ว อีกเรื่องที่ดูเหมือนจะสำคัญกว่านั้น ก็คือ เราต้อง “เข้าใจ” และสามารถนำความเข้าใจมาพัฒนาเป็นสินค้า หรือบริการขึ้นมา เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง
อย่างในกรณีนี้ BarkBox ก็ได้แสดงให้เห็นว่ามีกลุ่มลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำแทบจะทุกราย
แถมยังสามารถเติบโตได้ในสภาวะวิกฤติ จนตอนนี้มีมูลค่าระดับ 6 หมื่นล้าน ไปแล้วนั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.cosmopolitan.com/career/a7025473/carly-strife-bark-and-co-get-that-life/
-https://static1.squarespace.com/static/5fc915303436806905d7150e/t/602bd9e164681006f65bdc34/1613496536327/BARK-Presentation-02162021.pdf
Search