ต้นกำเนิด Coca-Cola มาจากการรักษา อาการเจ็บปวด /โดย ลงทุนแมน
ในปี ค.ศ. 1861 เกิดความขัดแย้งระหว่างผู้ประกอบการและแรงงานในภาคการเกษตรของประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งนำไปสู่สงครามกลางเมือง ที่ทำให้ผู้คนบาดเจ็บล้มตายนับล้านชีวิต
ช่วงเวลานั้น ได้มีนายพันของกองทหารม้านายหนึ่งชื่อว่า “John Stith Pemberton”
ได้รับบาดเจ็บจากการถูกดาบแทงขณะออกรบ และแม้ว่าเขาจะรอดชีวิตมาได้
อาการเจ็บปวดจากบาดแผลยังคงติดตัวเขาไปตลอดชีวิต
แต่รู้หรือไม่ว่าด้วยความเจ็บปวดนี้เอง ได้กลายมาเป็นต้นกำเนิดของเครื่องดื่มที่มีชื่อว่า Coca-Cola..
แล้วบาดแผลที่ถูกดาบแทงกลายมาเป็นแบรนด์เครื่องดื่มน้ำอัดลมระดับโลกได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากบาดแผลในสงคราม ทำให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหลายคนจำเป็นต้องใช้ “มอร์ฟีน”
ซึ่งนอกจากจะเป็นสารเสพติดแล้ว มันยังช่วยในการระงับความเจ็บปวด
แต่เมื่อมันขึ้นชื่อว่าสารเสพติดแล้ว การที่ใช้มอร์ฟีนในปริมาณที่มากเกินไปจึงทำให้ร่างกายได้รับผลกระทบในระยะยาว
นายพัน Pemberton จึงต้องหันไปหาทางเลือกอื่นและด้วยตัวเขาเองที่ก่อนเข้าร่วมสงครามมีอาชีพเป็นเภสัชกรและนักเคมี เขาจึงเริ่มค้นหาตัวยาที่ช่วยระงับความเจ็บปวดและมีผลข้างเคียงน้อยกว่ามอร์ฟีน
ในปี ค.ศ. 1886 Pemberton ก็ได้ผลิตไวน์ ที่ถือได้ว่าเป็นต้นแบบดั้งเดิมของ Coca-Cola
ในชื่อ “French Wine Coca” ที่มีคุณสมบัติช่วยในการระงับความเจ็บปวด และรักษาอาการอื่น ๆ เช่น ท้องเสียและอาการปวดหัว
ด้วยวัตถุดิบหลักคือสารสกัดจากใบโคคาหรือก็คือพืชชนิดเดียวกันกับที่ใช้ผลิตโคเคน
ซึ่งในสมัยนั้นโคเคนยังไม่ถือว่าเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
แต่เนื่องจากไวน์ดังกล่าวมีกลุ่มลูกค้าที่เฉพาะกลุ่มเกินไป ทำให้ Pemberton เกิดไอเดียที่จะต่อยอดไปยัง
เครื่องดื่มที่คนทั่วไปก็สามารถดื่มได้และทำเงินได้มากกว่า เขาจึงเลือกที่จะมองไปยังเครื่องดื่มยอดฮิตในขณะนั้นซึ่งก็คือน้ำหวานผสมโซดา หรือที่เรารู้จักกันในชื่อน้ำอัดลมในปัจจุบัน
เขาจึงเริ่มปรับปรุงสูตรด้วยการเพิ่มน้ำตาลเพื่อให้มีรสหวานและนำแอลกอฮอล์ออกจากตัวเครื่องดื่มเพื่อที่จะสามารถขายให้กับผู้บริโภคตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่ จนได้รสชาติอย่างที่ต้องการโดยที่ยังมีส่วนผสมของใบโคคาเป็นส่วนประกอบอยู่
ส่วนชื่อนั้นถูกตั้งโดย Frank Robinson นักบัญชีที่คอยช่วยเหลือ Pemberton มาตลอด
โดยคำว่า Coca มาจากใบโคคา (Coca Leaf) และ Cola มาจากถั่วโคลา (Kola Nut)
ที่เป็นแหล่งที่มาของสารกาเฟอีนใน Coca-Cola
นอกจากนี้ Robinson ยังเป็นผู้ออกแบบโลโกของ Coca-Cola ที่ได้ใช้มาจนถึงปัจจุบัน อีกด้วย
แต่เมื่อออกจำหน่ายในปีแรก Coca-Cola กลับขายได้เพียง 1,000 แก้วเท่านั้น
และหลังจากนั้นไม่นาน Pemberton ก็ได้เสียชีวิตลง
ก่อนที่ Pemberton จะเสียชีวิต เขาก็ได้ขายสูตรน้ำหวาน Coca-Cola ต่อให้กับ Asa Candler เจ้าของธุรกิจร้านขายยา ซึ่งเรื่องดังกล่าว ก็ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์เครื่องดื่มที่ผู้คนทั่วโลกชื่นชอบ
ในปี ค.ศ.1891 Candler ได้ก่อตั้งบริษัท Coca-Cola ขึ้นอย่างเป็นทางการ
โดยสิ่งแรกที่เขาทำ คือการโปรโมตแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก
ด้วยการใส่โลโก Coca-Cola ลงบนทุกสิ่งที่สามารถใส่เข้าไปได้..
ไม่ว่าจะเป็นปฏิทิน กระเป๋าสตางค์ ผนังกำแพง รถของพนักงานขาย และอีกหลากหลายสิ่ง
เพื่อให้แน่ใจว่าผู้คนต้องได้เห็นโลโกของ Coca-Cola
โดยโปรโมชันแรก ๆ ที่ Coca-Cola เลือกที่จะทำคือ “คูปองดื่มฟรี”
ต้องเข้าใจก่อนว่าในช่วงเวลานั้น เครื่องดื่มผสมโซดาจะถูกวางขายในร้านขายยา
โดยมีลักษณะคล้ายกับน้ำอัดลมโบราณในบ้านเรา ซึ่งอาจมีน้ำหวานมากกว่า 100 รสชาติให้เราได้เลือก
ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมีตัวเลือกมาก การที่ลูกค้าจะเลือก Coca-Cola จึงเป็นไปได้ยาก
สิ่งที่ Candler ทำก็คือการเขียนจดหมายถึงเจ้าของร้านขายเครื่องดื่มเพื่อขอรายชื่อลูกค้าขาประจำ 50 คน
โดยภายในจดหมายแต่ละฉบับจะมีคูปองที่มีโลโก Coca-Cola ให้กับลูกค้าประจำมาแลกเครื่องดื่มฟรีที่ร้าน
ซึ่งเรื่องนี้ก็สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้ลิ้มลองรสชาติและเกิดการบอกต่ออย่างรวดเร็ว
แต่แล้ว Coca-Cola ก็ต้องพบกับปัญหาใหญ่
เมื่อโคเคนถูกระบุว่าเป็นสารเสพติดและเกิดการต่อต้านอย่างรุนแรงจากผู้คนในเวลานั้น
และภาครัฐก็ยื่นคำขาดว่าห้ามมีโคเคนอยู่ในเครื่องดื่มเด็ดขาด
อีกประเด็นหนึ่งก็คือพวกเขาจำเป็นต้องรักษาสารสกัดจากโคคาไว้
เพื่อที่จะยังได้รับการปกป้องเครื่องหมายการค้าของบริษัท
นั่นทำให้พวกเขาต้องใช้เวลาหลายปีในการพัฒนาสูตร Coca-Cola ที่ยังมีส่วนผสมจากใบโคคา
แต่ไม่มีสารออกฤทธิ์ชนิดเดียวกับโคเคนเหลืออยู่ในเครื่องดื่มและเป็นสูตรสำเร็จที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน
จากนั้นในปี ค.ศ. 1899 Joseph Whitehead และ Benjamin Thomas
ก็ได้เข้ามาติดต่อขอซื้อสิทธิ์ในการขายเครื่องดื่ม Coca-Cola แบบบรรจุขวดจาก Candler
โดยที่ Candler ก็ได้ขายสิทธิ์ดังกล่าวในราคาเพียง 1 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น เนื่องจากธุรกิจบรรจุขวดในสมัยนั้น ยังถือว่ามีกระบวนการผลิตที่มีคุณภาพต่ำและมีความยากในการบริหารจัดการ
เพราะฝาปิดขวดในอดีตยังใช้วัสดุประเภทลวดและจุกยาง ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพของเครื่องดื่มและยากต่อการทำความสะอาด นี่จึงเป็นที่มาของฝาจีบที่เข้ามาแก้ปัญหานี้ในเวลาต่อมา และในปี 1910 โรงงานบรรจุขวดของ Coca-Cola ก็ได้เกิดขึ้นไปทั่วสหรัฐอเมริกา
แต่ปัญหาก็ยังไม่ได้หมดเพียงแค่นี้ เพราะด้วยการเติบโตแบบรวดเร็วของ Coca-Cola จึงทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่ลอกเลียนแบบแบรนด์ขึ้นมา
ทั้งชื่อที่ออกเสียงคล้ายกัน โลโก และขวดที่มีลักษณะเหมือนกัน
จนทำให้ผู้บริโภคแยกไม่ออกว่าแบบไหนคือ Coca-Cola ของแท้
เมื่อเป็นเช่นนี้ในปี ค.ศ. 1915 Coca-Cola จึงได้ออกแบบขวดรูปทรงใหม่ ที่มีส่วนโค้งเว้า
มีลายแนวตั้งข้างขวดเป็นเอกลักษณ์ โดยลักษณะขวดดังกล่าว
ก็ได้ตกทอดและยังสามารถพบเห็นได้ในปัจจุบัน
หลังจากนั้นสงครามโลกก็เกิดขึ้น และน้ำตาลซึ่งเป็นส่วนผสมหลักถูกจำกัดการซื้อขาย เพื่อนำไปเป็นเสบียงให้กับกองทัพ ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้ทำให้ปริมาณการผลิตของ Coca-Cola หายไปถึงครึ่งหนึ่ง
บริษัทจึงเจรจากับรัฐบาลให้สนับสนุน Coca-Cola แก่ทหารทุกนายในกองทัพในราคาขายปกติ ไม่ว่าจะมีต้นทุนส่วนเพิ่มใด ๆ ก็ตาม นั่นทำให้บริษัทได้รับข้อยกเว้นจากการจำกัดการใช้น้ำตาลและสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้
และช่วงเวลานี้เองที่ Coca-Cola ได้กลายเป็นแบรนด์เครื่องดื่มที่รู้จักไปทั่วโลก
ซึ่งเรื่องราวเกิดจากการที่ Dwight D. Eisenhower ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาในขณะนั้น
ได้สอบถามถึงความต้องการของทหารในกองทัพว่ามีอะไรที่จะช่วยให้พวกเขามีขวัญกำลังใจและคลายเครียดได้บ้าง คำตอบที่ Eisenhower ได้รับคือ
1. บุหรี่
2. ลูกอม
3. Coca-Cola
นั่นจึงทำให้ Coca-Cola ถูกร้องขอให้ไปตั้งโรงงานบรรจุขวดในต่างประเทศ
ทั้งในยุโรป อาเซียน และอีกหลาย ๆ พื้นที่ ที่กองทัพสหรัฐอเมริกาไปถึง และเมื่อสงครามจบลงโรงงานเหล่านั้นก็ยังคงดำเนินธุรกิจและกลายเป็นตัวแทนจำหน่ายของ Coca-Cola ในต่างแดนต่อไป..
ถึงแม้จะเป็นที่น่าเสียดาย ที่ Pemberton ผู้คิดค้นสูตรต้นตำรับของ Coca-Cola จะไม่มีโอกาสได้เห็นความยิ่งใหญ่ของสิ่งที่เขาได้สร้างขึ้นมากับมือ
แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าระหว่างทางตั้งแต่ Pemberton ไปจนถึง Joseph Whitehead และ Benjamin Thomas ผู้นำสิทธิ์ Coca-Cola ไปบรรจุขวด รวมไปถึงการเกิดขึ้นของสงครามโลกที่ทหารสหรัฐอเมริกานำเครื่องดื่มนี้ไปหลายประเทศทั่วโลก หากมีตรงไหนเพี้ยนไปจากสิ่งที่ได้เกิดขึ้น Coca-Cola ก็อาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้และเป็นเพียงยาแก้ปวดชนิดน้ำยี่ห้อหนึ่งก็เป็นได้..
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้หรือไม่ว่า Warren Buffett ยังคงกินขนมขบเคี้ยวและดื่ม Coca-Cola วันละประมาณ 5 กระป๋อง
เนื่องจากเขาเชื่อในสถิติที่ว่าเด็กอายุ 6 ขวบมีอัตราการเสียชีวิตน้อยที่สุด
เขาจึงกินในแบบที่เด็ก 6 ขวบ ชอบกิน และเขายังติดการกินอาหารรสเค็มอีกด้วย ซึ่งปัจจุบัน Warren Buffett มีอายุ 90 ปีแล้ว
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.youtube.com/watch?v=DwCGY5SfLA4
-https://web.archive.org/web/20140325193447/http://ldsp01.columbusstate.edu:8080/xmlui/bitstream/handle/11075/598/TheCivilWarOrigi00GardCSU.pdf?sequence=3
-https://www.interexchange.org/articles/career-training-usa/2016/03/08/history-coca-cola/
-https://www.thestreet.com/lifestyle/food-drink/history-of-cola-cola
-https://www.blockdit.com/posts/5ec20e0e00dda1075b8665ab
-https://www.foxbusiness.com/features/inside-warren-buffett-junk-food-diet-which-includes-5-cans-of-coke-mcdonalds-and-dairy-queen
同時也有11部Youtube影片,追蹤數超過67萬的網紅Góc Của Rư,也在其Youtube影片中提到,➡Lịch dạy lớp học trang điểm cá nhân 3CE tháng này của Rư http://bit.ly/Class3CE ➡Mỹ phẩm 3CE chính hãng tại Rư http://bit.ly/MyPham3CE Video này Rư ...
「coca-cola usa」的推薦目錄:
- 關於coca-cola usa 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於coca-cola usa 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於coca-cola usa 在 Mohd Asri Facebook 的精選貼文
- 關於coca-cola usa 在 Góc Của Rư Youtube 的最讚貼文
- 關於coca-cola usa 在 salekhan othman Youtube 的最佳貼文
- 關於coca-cola usa 在 華音チャンネル (Kanon) Youtube 的最讚貼文
- 關於coca-cola usa 在 Coca-Cola - Home | Facebook 的評價
coca-cola usa 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
รัฐจอร์เจีย ประชากร 11 ล้านคน แต่มี GDP มากกว่า ประเทศไทย /โดย ลงทุนแมน
น้ำอัดลม Coca-Cola ที่ครองใจผู้คนทั่วโลก จนกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ากว่า 6.3 ล้านล้านบาท
รู้หรือไม่ว่า น้ำอัดลมนี้มีถิ่นกำเนิดมาจากเมืองแอตแลนตา ในรัฐจอร์เจีย
รัฐทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา ที่มีประชากรเพียง 11 ล้านคน
แต่มี GDP มากกว่าประเทศไทยทั้งประเทศ
ปี 2019 ประเทศไทยมี GDP 16.3 ล้านล้านบาท
ส่วนรัฐจอร์เจียมี GDP 18.6 ล้านล้านบาท สูงเป็นอันดับ 9 จากทั้งหมด 50 รัฐของสหรัฐอเมริกา
อะไรที่ทำให้รัฐเล็กๆ อย่างจอร์เจียมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่าประเทศไทย?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
รัฐจอร์เจียมีพื้นที่ประมาณ 153,909 ตารางกิโลเมตร ใกล้เคียงกับภาคอีสานของประเทศไทย
มีเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐ คือ แอตแลนตา ที่มีประชากรประมาณ 1 ล้านคน
ที่มาของชื่อรัฐจอร์เจีย มาจากพระนามของพระเจ้าจอร์จที่ 2 แห่งอังกฤษ เมื่อมีชาวอังกฤษมาตั้งถิ่นฐานเป็นครั้งแรกราวปี ค.ศ. 1730
ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก
และอยู่ในทำเลสำคัญที่เชื่อมต่อระหว่างรัฐทางตอนเหนือ เช่น รัฐนิวยอร์ก เพนซิลเวเนีย
เซาท์แคโรไลนา กับทางตอนใต้เช่น รัฐฟลอริดา
และเชื่อมระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติก กับรัฐตอนใน เช่น รัฐเทนเนสซี และรัฐแอละแบมา
รัฐจอร์เจียจึงเติบโตขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการขนส่งที่สำคัญทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา
เนื่องจากมีความพร้อมในด้านการขนส่งทั้งทางอากาศ ทางเรือ และทางบก
ทางอากาศมีเมืองแอตแลนตา เป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าทางอากาศที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา โดยมีท่าอากาศยาน Hartsfield-Jackson Atlanta International Airport
ที่ได้ชื่อว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีความหนาแน่นมากที่สุดในโลก
โดยในปี 2019 มีผู้โดยสารใช้บริการที่สนามบินแห่งนี้กว่า 100 ล้านคน
สนามบินแห่งนี้ยังมีโกดังสินค้าที่สามารถรองรับความจุได้มากถึง 120,000 ตารางเมตร
และยังให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศกว่า 650,000 ตันต่อปี
ส่วนการขนส่งทางเรือ รัฐจอร์เจียมีท่าเรือน้ำลึก 2 แห่ง
คือท่าเรือในเมือง Savannah และ Brunswick
โดยเฉพาะท่าเรือเมือง Savannah เป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของสหรัฐอเมริกา
มีการจัดส่งตู้คอนเทนเนอร์อย่างน้อย 4.35 ล้านตู้ และมีคลังสินค้าที่มีเนื้อที่กว่า 270,000 ตารางเมตร
ส่วนท่าเรือ Brunswick ที่เน้นการนำเข้าและส่งออกอุตสาหกรรมหนัก เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนประกอบ
นอกจากเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศและทางเรือแล้ว
จอร์เจียยังถือว่าเป็นรัฐที่มีระบบการขนส่งทางรางรถไฟที่มากที่สุดรัฐหนึ่งในสหรัฐอเมริกา
โดยมีการขนส่งสินค้าผ่านทางรางรถไฟถึง 200 ล้านตันต่อปี
ด้วยความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานในการคมนาคมขนส่ง
รัฐจอร์เจียจึงเป็นที่ตั้งของบริษัท และโรงงานมากมาย
รัฐจอร์เจียสามารถส่งออกไปต่างประเทศรวมเป็นมูลค่ากว่า 1.2 ล้านล้านบาท
โดยมีอุตสาหกรรมหลักคืออากาศยาน, การเกษตร, รถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
ในส่วนของอุตสาหกรรมอากาศยาน
มีบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอากาศยานกว่า 800 แห่งตั้งอยู่ในรัฐแห่งนี้
ไม่ว่าจะเป็นบริษัทผลิตเครื่องบินและชิ้นส่วน, บริษัทวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับการบิน,
บริษัทสายการบิน และบริษัทขนส่งทางอากาศ
นอกเหนือจากนั้น ที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และพัฒนาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการบิน
จากการจัดอันดับจาก US News มหาวิทยาลัย Georgia Institute of Technology ติด 5 อันดับแรกเกี่ยวกับสาขาวิศวกรรมการบิน และอวกาศในสหรัฐอเมริกา
เนื่องจากมีการลงทุนวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการบินกว่า 4,600 ล้านบาท
ส่งผลให้สามารถผลิตบุคลากรที่เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ
และยังมีงานวิจัยมากมายที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมอากาศยาน
ด้วยเหตุนี้เอง จอร์เจียจึงเป็นรัฐที่ดึงดูดบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอากาศยานให้มาเปิดโรงงานและสำนักงานที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น Boeing, Lockheed Martin, Delta Air Lines และอื่นๆ
ส่งผลให้มีการจ้างงานในอุตสาหกรรมอากาศยานในรัฐจอร์เจียถึง 100,000 คน
ในปี 2019 จอร์เจียสามารถส่งออกเครื่องบินพลเรือนเป็นมูลค่า 2.6 แสนล้านบาท
อุตสาหกรรมที่รองลงมาก็คือการเกษตร
เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ทางใต้ ซึ่งมีความอบอุ่นมากกว่า มีฤดูการเก็บเกี่ยวที่ยาวนานกว่ารัฐทางตอนเหนือ รัฐจอร์เจียจึงมีพื้นที่เพาะปลูกการเกษตรราว 36,000 ตารางกิโลเมตร
ส่งให้รัฐจอร์เจียสามารถสร้างผลผลิตทางการเกษตรเป็นมูลค่ากว่า 1.3 แสนล้านบาท
ซึ่งผลผลิตที่สำคัญได้แก่ เนื้อไก่, ถั่ว และ บลูเบอร์รี
อีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่สำคัญก็คือ ยานยนต์และชิ้นส่วนประกอบ
ด้วยความพร้อมทางด้านโครงสร้างพื้นฐานอย่างเช่น การขนส่งทางบกและทางเรือ
ส่งผลให้โรงงานผลิตรถยนต์ในรัฐใกล้เคียงอย่าง รัฐแอละแบมา, รัฐเซาท์แคโรไลนา และ รัฐเทนเนสซี ต้องมาใช้บริการท่าเรือน้ำลึกในรัฐจอร์เจีย โดยมูลค่าการส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วนอยู่ที่ 9.6 หมื่นล้านบาท
จอร์เจียจึงเป็นที่ตั้งของสำนักงาน, โรงงานผลิตรถยนต์และชิ้นส่วน ไม่ว่าจะเป็น Porsche, Mercedes-Benz และ KIA
จอร์เจียถือเป็นรัฐที่เอื้ออำนวยต่อการเริ่มต้นทำธุรกิจมากที่สุดรัฐหนึ่งในสหรัฐอเมริกา
เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐของจอร์เจียมีนโยบายสนับสนุนธุรกิจเพื่อที่จะดึงดูดให้บริษัทและโรงงานก่อตั้งที่นี่
ปกติแล้ว บริษัทในสหรัฐฯ จะมีการเสียภาษีนิติบุคคล 2 ระดับ คือให้รัฐบาลกลาง ซึ่งเป็นอัตราเดียวกัน และให้รัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งอัตรานี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ
รัฐจอร์เจียมีอัตราการเก็บภาษีนิติบุคคลอยู่ที่ 5.75% ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่ารัฐใหญ่อื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็นรัฐแคลิฟอร์เนียที่เป็นศูนย์กลางแห่งเทคโนโลยี
มีการเก็บภาษีนิติบุคคลสูงถึง 8.84%
รัฐมิชิแกนที่เป็นศูนย์กลางแห่งอุตสาหกรรมยานยนต์
มีการเก็บภาษีนิติบุคคล 6.00%
ที่น่าสนใจคือ บริษัทและโรงงานที่จดทะเบียนในรัฐจอร์เจีย
จะเสียภาษีนิติบุคคล โดยคำนวณจากรายได้ของการขายสินค้าและบริการภายในรัฐจอร์เจียเท่านั้น
ในปี 2020 นิตยสารฟอร์จูน จัดอันดับบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก 500 บริษัท โดยมีถึง 18 บริษัทที่ตั้งอยู่ในจอร์เจีย
บริษัทระดับโลกซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในรัฐจอร์เจียที่คนไทยคุ้นเคย เช่น
The Home Depot บริษัทค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน มูลค่าบริษัท 8.9 ล้านล้านบาท
Coca-Cola บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำอัดลม ซึ่งถือกำเนิดในเมืองแอตแลนตา
มีมูลค่าบริษัท 6.3 ล้านล้านบาท
UPS บริษัทขนส่งสินค้าครบวงจร มูลค่า 4.1 ล้านล้านบาท
Delta Air Lines บริษัทสายการบิน มูลค่า 0.7 ล้านล้านบาท
ด้วยมูลค่า GDP ของรัฐจอร์เจียที่ 18.6 ล้านล้านบาท
ถ้ารัฐจอร์เจียเป็นประเทศ จะมีมูลค่า GDP ใหญ่เป็นอันดับที่ 21 ของโลก
ใหญ่กว่าประเทศไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ซึ่งมีประชากรมากกว่ารัฐจอร์เจียหลายเท่า
เรื่องนี้ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ..
ทำเลของรัฐจอร์เจียดีมากก็จริง แต่สิ่งสำคัญก็คือ “การพัฒนาโครงสร้าง”
เพราะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะด้านการคมนาคมขนส่งให้ครอบคลุม
จึงดึงดูดให้รัฐแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางการขนส่ง สร้างงานและสร้างรายได้มหาศาล
เมื่อรวมกับการมอบแรงจูงใจเพื่อดึงดูดบริษัทต่างๆ มาก่อตั้งในรัฐ
ถือเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ ที่ทำให้รัฐที่มีประชากรน้อยกว่าไทยเกือบ 7 เท่า
แต่สามารถมีขนาดเศรษฐกิจมากกว่าไทย และหลายประเทศในโลกได้
หันกลับมามองที่ประเทศไทย ด้วยทำเลที่ตั้งที่ดี สามารถเชื่อมโยงระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนได้ไม่ยากเย็น
หากพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ดี
GDP ของเราก็อาจจะเติบโตมาเท่ากับรัฐจอร์เจีย ก็เป็นได้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.statista.com/statistics/248023/us-gross-domestic-product-gdp-by-state/
-https://www.pwc.com/us/en/industries/industrial-products/library/aerospace-manufacturing-attractiveness-rankings.html
-https://www.georgia.org/sites/default/files/2020-02/annual_trade_report.pdf
-https://www.georgia.org/industries/aerospace
-https://www.usnews.com/best-graduate-schools/top-engineering-schools/aerospace-rankings
-https://www.statista.com/statistics/226464/passenger-traffic-at-atlanta-airport/#:~:text=In%202019%2C%20Hartsfield%2DJackson%20Atlanta,it%20the%20world's%20busiest%20airport.&text=As%20one%20of%20the%20busiest,Hartsfield%2DJackson%20Atlanta%20International%20Airport.
-https://www.porttechnology.org/news/top-5-ports-in-the-usa/
-https://www.georgia.org/competitive-advantages/incentives/tax-credits
-https://taxfoundation.org/2020-sales-taxes/
-https://www.georgia.org/industries/automotive
-https://www.georgia.org/industries/logistics-supply-chain
-https://fortune.com/fortune500/2020/search/?hqstate=GA
-https://data.worldbank.org/?locations=CN-TH-US
coca-cola usa 在 Mohd Asri Facebook 的精選貼文
Train your mind to be calm in every situation.
Saham naik, saham turun. Tenang-tenang sahaja. Follow trading plan yang ada.
Semuanya datang dari Allah. Moga dipermudahkan segala urusan kita semua.
Dah buat homework untuk saham minggu ini?
P/S: Kenangan bersama Bear (Bukan Bearish,😂😂) di World of Coca-Cola, Atlanta, USA.
#Sahamiscool
coca-cola usa 在 Góc Của Rư Youtube 的最讚貼文
➡Lịch dạy lớp học trang điểm cá nhân 3CE tháng này của Rư
http://bit.ly/Class3CE
➡Mỹ phẩm 3CE chính hãng tại Rư
http://bit.ly/MyPham3CE
Video này Rư review cho các nàng về bộ son Nước Ngọt Coca Cola Fanta Sprite... của hãng Lip Smacker Made in USA mà Rư đã mua trên Amazon.
Link mua hàng:
https://www.amazon.com/Smacker-Coca-Cola-Piece-Party/dp/B002AN4GO6/ref=pd_sbs_121_2?_encoding=UTF8&pd_rd_i=B0188SW1FC&pd_rd_r=ab2c7658-0e9e-11e9-bba3-df00a3acce5e&pd_rd_w=mVYzR&pd_rd_wg=RpaHt&pf_rd_p=7d5d9c3c-5e01-44ac-97fd-261afd40b865&pf_rd_r=2TP30G66T4GQP949BF7N&refRID=2TP30G66T4GQP949BF7N&th=1&fbclid=IwAR1-y8m48x_eyYaYDpVI87blAL-CN1uf-c0iC1EuXIUTCDr9oWvIzoKUSjk
? Giveaway (Facebook và Youtube)
COMBO1: bốn em son Coca, Cherry Coca, Vanilla Coca và Burq’s.
COMBO2: bốn em son còn lại.
? Cách tham gia giveaway (1 bước duy nhất): comment bên dưới video này 3 số cuối CMND của bạn, và cho Rư biết COMBO mà bạn muốn nhận nhất. 12h trưa ngày mốt 25/2 Rư dùng random.org để tìm cô nàng may mắn nhất.
!Bạn nào chưa có cmnd có thể dùng cmnd của bố mẹ hoặc người thân để tham gia giveaway nha.
♡ Kết quả có tại: https://www.facebook.com/goccuaRu/
#SonAmazon #MadeInUSA #CocaCola #Fanta #Sprite #LipSmacker
FTC: This is NOT a sponsored video.
coca-cola usa 在 salekhan othman Youtube 的最佳貼文
1/1/2019
Happy New Year 2019!!We had full day in Atlanta and we managed to go to the Centennial Olympic Park, World of Coca Cola, CNN Headquarters and State Capitol. There was many beautiful and historical places to go but we did not have much time! Atlanta was our last pit stop before going back to New York.
coca-cola usa 在 華音チャンネル (Kanon) Youtube 的最讚貼文
少しでもいいなと思っていただければ高評価&チャンネル登録お願いします!
華音です。今回は、日本限定のコカ・コーラ クリアについて、世界の人に、いわゆる英語版斎藤さん(ランダムのビデオチャット)を使って聞いてみました!今回使ったアプリは…「random video chat」と打って適当に出てきたいくつかのアプリを使いました。
↓Youtube
https://www.youtube.com/c/華音チャンネル
↓Twitter
https://twitter.com/kanon_act
------------------------------------------------------------------------------
楽曲提供:フリーBGM・音楽素材DOVA-SYNDROME by https://dova-s.jp/
coca-cola usa 在 Coca-Cola - Home | Facebook 的推薦與評價
In 1899, The Coca-Cola Company began franchised bottling operations in the United States. Coca-Cola might owe its origins to the United States, but its ... ... <看更多>