อยากได้คนเก่งเข้ามาทำงาน แต่คนเก่งไม่เลือกเรา หรือแย่ไปกว่านั้นคือไม่รู้จักองค์กรของเราเลยด้วยซ้ำ 4E ที่ผู้บริหารและ HR ต้องรู้จัก ทำความเข้าใจและลงมือทำอย่างจริงจังคือ Employee Journey, Employee Experience, Employee Engagement ซึ่งทั้ง 3E จะส่งผลไปถึง Employer Branding ที่เป็นตัวกระตุ้นให้องค์กรของเราเป็น Employer of Choice หรือองค์กรที่ใคร ๆ ก็อยากมาร่วมงานได้
อยากให้องค์กรเป็น Employer of Choice สิ่งที่องค์กรต้องทำคือ Employer Branding ซึ่ง 2 องค์ประกอบสำคัญคือ หนึ่งมีในสิ่งที่คนเก่งหรือกลุ่มเป้าหมายอยากได้ สองสื่อสารทั้งข้อเท็จจริงและอารมณ์ให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย
ถ้ามีในสิ่งที่คนเก่งเป้าหมายอยากได้ แต่สื่อสารไม่ถึงแล้วจะมีใครรู้ว่าองค์กรเราดีกว่าคนอื่นได้ยังไง
ข้อได้เปรียบเสียและเสียเปรียบอีกอย่างนึงคือ องค์กรที่มีการทำ Corporate Branding และ Customer Branding หรือ Product Branding อย่างสม่ำเสมอย่อมได้เปรียบ จริง ๆ แล้วเราไม่ได้รู้เลยว่าองค์กรนั้น เค้าดูแลพนักงานอย่างไร แต่เรารู้สินค้าของเค้าคืออะไร คนเก่งรู้จักองค์กรนั้น เลือกที่จะเดินไปทำงานที่องค์กรนั้น ทั้ง ๆ ที่องค์กรของเรามีการดูแลคนที่ดีกว่าองค์กรเหล่านั้น
แล้วทำไมถึงต้องอยากเป็น Employer of Choice ลองคิดและคำนวณแบบนี้นะครับ
ถ้าอยากรับสมัครวิศวกรเก่ง ๆ ซักคนนึง จากประสบการณ์ที่ผ่านมา มีคนยื่น Profile มาให้เรา 10 คนถึงจะได้วิศวกรเก่ง ๆ ซักคนนึง แล้วถ้าองค์กรอยากได้วิศวกรซัก 10 คน นั้นหมายความว่าเราต้องได้ Profile 100 คน
องค์กรที่ไม่เป็นที่รู้จักเลย จะได้ Profile 100 คนต้องใช้ Effort และ Cost เท่าไหร่ เมื่อเทียบกับองค์กรที่เป็นที่รู้จักและใคร ๆ ก็อยากจะร่วมงานด้วย แล้วถ้าวันนึงเรา
แล้วอะไรที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากจะมาร่วมทำงานกับองค์กรของเรา เงินเดือนดี ๆ โบนัสเยอะ ๆ ความมั่นคงในการทำงานหรือโอกาสในการเติบโต ทั้งหมดนั่นใช่ แต่เป็นใช่แบบ Traditional สิ่งที่องค์กรต้องคิดและกำหนดเป็นกลยุทธ์ รวมถึงลงมือทำให้เป็นรูปธรรมและยั่งยืน 3 ข้อใหญ่ ๆ คือ
1. ทำให้พนักงานปัจจุบันมีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร สร้าง Proud to Be ให้เกิดขึ้นภายในให้ได้ ตัวชี้วัดที่สำคัญคือ Employee Engagement ต้องดีมากพอที่จะสร้าง Advocacy ให้เกิดขึ้นได้
2. วัฒนธรรมองค์กรต้องมีความชัดเจนในเชิงการปฏิบัติ และสื่อสารให้เกิดเห็นภาพว่านี่คือองค์กรของคนเก่ง ที่คนเก่งจะได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ ตัวชี้วัดที่สำคัญคือ Empowerment Rate
3. Leader Branding ผู้นำขององค์กรต้องเป็น Idol ของกลุ่มเป้าหมาย และเป็น Icon ของความเก่งในด้านที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจองค์กร ซึ่งตัวชี้วัดที่สำคัญคือ เมื่อไหร่ก็ตามที่ Leader ทำการสื่อสารไม่ว่าจะเป็น Online หรือ Offline มีคนให้ความสนใจมากแค่ไหน
ถ้าเราเห็นองค์กรอื่น โดยเฉพาะองค์กรที่เป็นคู่แข่งของเราเป็น Employer of Choice ของกลุ่มเป้าหมาย วิเคราะห์ให้ออกว่าเค้ามีอะไร แล้วเราไม่มีอะไร หรือจริง ๆ เราก็มีแต่เราไม่ได้ทำอะไร
แล้วทำไมถึงไม่ทำ
ถ้าอยากให้องค์กรเป็น Employer of Choice ต้องลงมือทำอย่างจริงจัง
อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน ต้องคิดให้ถี่ถ้วนคือ "ใครคือ The Right People" องค์กรอยากได้ Mid Career หรือคนที่มีประสบการณ์ทำงาน แต่ 80 % ที่ยื่น Profile ให้กับองค์กรเป็น Fresh Graduate การที่เราเป็นองค์กรอันดับต้น ๆ ที่ใคร ๆ ก็อยากทำงานด้วยอาจจะไม่มีความหมายเลย ถ้าคนเหล่านั้นไม่ใช่คนที่องค์กรอยากได้
Focus ให้ถูกกลุ่ม เลือกกลยุทธ์ให้ตรงเป้า องค์กรของเราก็จะเป็น Employer of Choice และส่งเสริมให้เกิด The Right People at First Time ได้เช่นกัน
#EmployerBranding #TheRightPeople
#QGEN #HRTheNextGen
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「customer experience icon」的推薦目錄:
- 關於customer experience icon 在 HR - The Next Gen Facebook 的最佳解答
- 關於customer experience icon 在 HR - The Next Gen Facebook 的最讚貼文
- 關於customer experience icon 在 Roundfinger Facebook 的最佳貼文
- 關於customer experience icon 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的精選貼文
- 關於customer experience icon 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
- 關於customer experience icon 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
customer experience icon 在 HR - The Next Gen Facebook 的最讚貼文
QGEN - HR Practice Provider
อยากได้คนเก่งเข้ามาทำงาน แต่คนเก่งไม่เลือกเรา หรือแย่ไปกว่านั้นคือไม่รู้จักองค์กรของเราเลยด้วยซ้ำ 4E ที่ผู้บริหารและ HR ต้องรู้จัก ทำความเข้าใจและลงมือทำอย่างจริงจังคือ Employee Journey, Employee Experience, Employee Engagement ซึ่งทั้ง 3E จะส่งผลไปถึง Employer Branding ที่เป็นตัวกระตุ้นให้องค์กรของเราเป็น Employer of Choice หรือองค์กรที่ใคร ๆ ก็อยากมาร่วมงานได้
อยากให้องค์กรเป็น Employer of Choice สิ่งที่องค์กรต้องทำคือ Employer Branding ซึ่ง 2 องค์ประกอบสำคัญคือ หนึ่งมีในสิ่งที่คนเก่งหรือกลุ่มเป้าหมายอยากได้ สองสื่อสารทั้งข้อเท็จจริงและอารมณ์ให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย
ถ้ามีในสิ่งที่คนเก่งเป้าหมายอยากได้ แต่สื่อสารไม่ถึงแล้วจะมีใครรู้ว่าองค์กรเราดีกว่าคนอื่นได้ยังไง
ข้อได้เปรียบเสียและเสียเปรียบอีกอย่างนึงคือ องค์กรที่มีการทำ Corporate Branding และ Customer Branding หรือ Product Branding อย่างสม่ำเสมอย่อมได้เปรียบ จริง ๆ แล้วเราไม่ได้รู้เลยว่าองค์กรนั้น เค้าดูแลพนักงานอย่างไร แต่เรารู้สินค้าของเค้าคืออะไร คนเก่งรู้จักองค์กรนั้น เลือกที่จะเดินไปทำงานที่องค์กรนั้น ทั้ง ๆ ที่องค์กรของเรามีการดูแลคนที่ดีกว่าองค์กรเหล่านั้น
แล้วทำไมถึงต้องอยากเป็น Employer of Choice ลองคิดและคำนวณแบบนี้นะครับ
ถ้าอยากรับสมัครวิศวกรเก่ง ๆ ซักคนนึง จากประสบการณ์ที่ผ่านมา มีคนยื่น Profile มาให้เรา 10 คนถึงจะได้วิศวกรเก่ง ๆ ซักคนนึง แล้วถ้าองค์กรอยากได้วิศวกรซัก 10 คน นั้นหมายความว่าเราต้องได้ Profile 100 คน
องค์กรที่ไม่เป็นที่รู้จักเลย จะได้ Profile 100 คนต้องใช้ Effort และ Cost เท่าไหร่ เมื่อเทียบกับองค์กรที่เป็นที่รู้จักและใคร ๆ ก็อยากจะร่วมงานด้วย แล้วถ้าวันนึงเรา
แล้วอะไรที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากจะมาร่วมทำงานกับองค์กรของเรา เงินเดือนดี ๆ โบนัสเยอะ ๆ ความมั่นคงในการทำงานหรือโอกาสในการเติบโต ทั้งหมดนั่นใช่ แต่เป็นใช่แบบ Traditional สิ่งที่องค์กรต้องคิดและกำหนดเป็นกลยุทธ์ รวมถึงลงมือทำให้เป็นรูปธรรมและยั่งยืน 3 ข้อใหญ่ ๆ คือ
1. ทำให้พนักงานปัจจุบันมีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร สร้าง Proud to Be ให้เกิดขึ้นภายในให้ได้ ตัวชี้วัดที่สำคัญคือ Employee Engagement ต้องดีมากพอที่จะสร้าง Advocacy ให้เกิดขึ้นได้
2. วัฒนธรรมองค์กรต้องมีความชัดเจนในเชิงการปฏิบัติ และสื่อสารให้เกิดเห็นภาพว่านี่คือองค์กรของคนเก่ง ที่คนเก่งจะได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ ตัวชี้วัดที่สำคัญคือ Empowerment Rate
3. Leader Branding ผู้นำขององค์กรต้องเป็น Idol ของกลุ่มเป้าหมาย และเป็น Icon ของความเก่งในด้านที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจองค์กร ซึ่งตัวชี้วัดที่สำคัญคือ เมื่อไหร่ก็ตามที่ Leader ทำการสื่อสารไม่ว่าจะเป็น Online หรือ Offline มีคนให้ความสนใจมากแค่ไหน
ถ้าเราเห็นองค์กรอื่น โดยเฉพาะองค์กรที่เป็นคู่แข่งของเราเป็น Employer of Choice ของกลุ่มเป้าหมาย วิเคราะห์ให้ออกว่าเค้ามีอะไร แล้วเราไม่มีอะไร หรือจริง ๆ เราก็มีแต่เราไม่ได้ทำอะไร
แล้วทำไมถึงไม่ทำ
ถ้าอยากให้องค์กรเป็น Employer of Choice ต้องลงมือทำอย่างจริงจัง
อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน ต้องคิดให้ถี่ถ้วนคือ "ใครคือ The Right People" องค์กรอยากได้ Mid Career หรือคนที่มีประสบการณ์ทำงาน แต่ 80 % ที่ยื่น Profile ให้กับองค์กรเป็น Fresh Graduate การที่เราเป็นองค์กรอันดับต้น ๆ ที่ใคร ๆ ก็อยากทำงานด้วยอาจจะไม่มีความหมายเลย ถ้าคนเหล่านั้นไม่ใช่คนที่องค์กรอยากได้
Focus ให้ถูกกลุ่ม เลือกกลยุทธ์ให้ตรงเป้า องค์กรของเราก็จะเป็น Employer of Choice และส่งเสริมให้เกิด The Right People at First Time ได้เช่นกัน
#EmployerBranding #TheRightPeople
#QGEN #HRTheNextGen
customer experience icon 在 Roundfinger Facebook 的最佳貼文
เหตุผลที่คนควรยืดเส้น
Stretch Me
---
1
เพื่อนๆ พี่ๆ ยืดเส้นกันบ้างไหมครับ, สำหรับผมแล้ว ในชีวิตประจำวัน ผมแทบไม่มีการยืดเส้นยืดสายเลย จะทำก็ตอนก่อนและหลังออกกำลังกายเท่านั้น ช่วงนี้วิ่งเยอะก็เลยได้ยืดบ่อยหน่อย ช่วงที่ไม่วิ่งก็จะรู้สึกเมื่อย ตึงๆและเครียดแบบงงๆ ไม่ทราบสาเหตุ คล้ายมีใครมาขี่คอ (ฮ่าฮ่า)
2
การยืดเส้นนี่ที่จริงไม่ได้จำเป็นเฉพาะคนออกกำลังกายเท่านั้น คนไม่ออกกำลังกายนี่แหละยิ่งควรยืดเลยครับ เพราะถ้าไม่ยืดเลย กล้ามเนื้อต่างๆ จะแข็งเกร็งเป็นก้อน นำมาซึ่งความเครียดโดยไม่รู้ตัว มากเข้าก็อาจนำไปสู่อาการเจ็บปวดจำพวกออฟฟิศซินโดรม ส่วนนักกีฬาทั้งหลาย ถ้าออกกำลังกายหนักก็น่าจะต้องยืดหนักตามไปด้วย
3
ต่อจากนี้เป็นโฆษณาที่เต็มใจแนะนำ เพราะไปลองแล้วชอบมากครับ หลังจบมาราธอนล่าสุดที่บางแสน บังเอิญผมได้รับคำชวนให้ไปลองใช้บริการยืดเหยียดเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่ Stretch me by Let's Relax ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ลองแล้วชอบขอนำมาบอกเล่าเผื่อใครอยากไปลองบ้าง
4
บริการที่ผมได้ลองคือการยืดเหยียดในคอร์สสำหรับคนออกกำลังกาย ซึ่งจะเน้นไปที่ขา ต่างจากคอร์สสำหรับคนทำงานออฟฟิศ ซึ่งจะเน้นไปที่คอ บ่า ไหล่ สิ่งที่แตกต่างไปจากการนวดแผนโบราณหรือนวดน้ำมันก็คือ คนให้บริการที่นี่นั้นเป็นนักกายภาพบำบัดทั้งหมด ฉะนั้นจึงไม่เน้นที่การนวดเฟ้นหรือรีดเส้น แต่เน้นที่การยืดเหยียด หมุน เขย่า ให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย นักกายภาพบำบัดจะรู้จักสรีระไลน์ของกล้ามเนื้อทั้งร่างกายที่เชื่อมต่อกัน ทำให้การยืดกล้ามเนื้อเป็นไปอย่างตรงจุด
5
การยืดเหยียดโดยนักกายภาพให้ความรู้สึกแตกต่างจากการนวดแผนไทย อย่างแรกคือไม่ระบม ไม่เจ็บจากท่ายาก อีกอย่างคือการไม่บดขยี้ที่กล้ามเนื้อนั้นกลับช่วย "คลาย" ได้มากกว่าย้ำลงไป นักกายภาพหมุนหัวไหล่ ขา เข่า ของเราไปมา แต่สร้างความรู้สึกผ่อนคลายได้ หลายๆ ท่าทำให้รู้เลยว่ามีบางจุดที่เราไม่เคยยืดเหยียดมันมาก่อนเลย ปล่อยไปนานๆ อาจติดๆ ขัดๆ เมื่อแก่ตัวลง
6
หากใครเคยเข้าฟิตเนส แล้วมีเทรนเนอร์ยืดเส้นให้ตอนเริ่มและจบ ก็จะคล้ายกัน แต่คอร์สที่นี่ก็จะเต็มรูปแบบกว่า เพราะให้ใช้เวลา 60นาที 90 นาที และ 120 นาที แล้วแต่ความตึงของแต่ละคน เลือกได้เลย ผมแอบสังเกตลูกค้าที่ไปนอนนวดก็เคลิ้มหลับกันหลายคน คนข้างๆ ที่แอบได้ยินเสียงกรนเบาๆ คงจะสบายมาก
7
สถานที่ดีไซน์สวยทันสมัย น่าจะถูกใจนักกีฬาและคนทำงาน เรียบง่าย สะอาดสะอ้าน โมเดิร์น และเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน นับเป็น 60 นาทีที่ดีงาม ยังไม่อยากให้จบเลยจริงๆ
8
จากประสบการณ์ที่ได้ลอง ก่อนเดินเข้าไปขาสองข้างนี่ตึงอย่างหนักเพราะเพิ่งผ่านมาราธอนมา เดินออกมารู้สึกขาเบาขึ้นมาก ซึ่งไม่แปลก นี่คือวิธีดูแลร่างกายแบบเดียวกับที่นักกีฬามืออาชีพทำกัน คือพอซ้อมหรือลงสนามหนักๆ มาก็จะให้นักกายภาพดูแลแบบนี้แหละ ผมว่าคนที่ใช้บริการในคอร์สของคนทำงานหรือนักเดินทางก็น่าจะฟินพอกัน ฟังจากเสียงกรน ฮ่าฮ่า
9
ถ้าสนใจก็ไปลองกันได้ครับ มีหลายราคาให้เลือกกัน ตอนนี้มีสองสาขาคือ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 3 Forum Zone (โซนฟิตเนส) และ Icon Siam ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 10 พ.ย.นี้
10
ทาง Stretch me by Let's Relax ใจดี ฝากของรางวัลมาแจกให้กับเพื่อนๆ พี่ๆ ในเพจนิ้วกลมด้วยครับ เป็น Voucher ใช้บริการฟรี แบบนักกีฬาและพนักงานออฟฟิศ อย่างละสามใบ ผมเสนอกติกาง่ายๆ แบบนี้แล้วกันครับ ฝากแชร์สเตตัสนี้ไป (อย่าลืมเปิดพับลิกนะครับ) แล้วเขียนเหตุผลสั้นๆ ว่า "คุณคิดว่าการยืดเหยียดเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อนั้นสำคัญยังไง" ผมจะสุ่มเลือกผู้โชคดีทั้งหกท่าน แล้วแจ้งให้ทราบนะครับ
#advertorial
The reason why people should stretch
@[641625236210940:274:Stretch Me]
---
1
Friends, do you want to stretch? For me, I almost have no stretch. I will do it before and after working out a lot of running a lot. I have been stretching. When I don't run, I feel tired. And I'm confused. I don't know why someone is riding in the neck (haha)
2
Stretching is not necessary. Only those who don't exercise. People who don't exercise should stretch it. Because if you don't stretch it, the muscles will be strong. It will bring stress without knowing. It may lead to the pain in the office syndrome. All athletes, if you exercise hard, you should have to stretch hard. Follow.
3
From now on, I'm willing to recommend because I have tried it very much. After the end of the marathon at Bangsaen, I have been invited to try the stretch service to relieve muscle at Stretch me by Let's Relax at Central World. I like to tell you if anyone wants to try.
4
The service that I have tried is a stretch in the course for the exercise, which will focus on the legs. Different for office workers, which will focus on the neck and shoulder. What is different from traditional massage or oil massage is a person. Serving here is all physical therapists, so it doesn't focus on massages or ironing, but focus on stretching, rotating, relaxing. Physical therapists will know the body line of the body. It makes it makes the stretch of muscles. On point
5
Stretching by physical people feel different from Thai traditional massage. First thing is no pain, no pain from difficult posture. Besides, it doesn't crush the muscles can help "relieve" more than repeat, the physical, the physical, legs, legs, legs, knees. I have been there, but I can feel relaxed. I know that there are some point we have never stretched before. Let go for a long time. It may be in a row when I get older.
6
If anyone has been into fitness, there is a trainer to stretch when start and finish. It will be similar. But the course will be more full because it takes 60 minutes, 90 minutes and 120 minutes. It's up to the tightness of. Each person can choose. I secretly notice the customer who goes to bed and massage. Many people next to me who secretly hear a little snoring. It would be very comfortable.
7
Beautiful design, modern design. It should be like athletes and simple, clean, modern and quiet. Perfect for relaxing. It's a good 60 minutes. I don't want to finish.
8
From the experience that I have tried before walking into two legs. This is very tight because I just passed. Rathon came out. I feel much lighter legs. This is not strange. This is how to take care of the same way that professional athletes do. It's enough to practice or on the field I want to take care of this. I think those who use the course of working or travelers should be satisfied. Ha snoring. Haha.
9
If you are interested, let's try. There are many prices to choose from. Now there are two branches at Central World, Forum Zone (Fitness Zone) and Icon Siam which will be launched on 10 Nov. Oh, my God. Here we go.
10
Stretch me by Let's relax. Please give away to friends on the round finger page. It's a free service for three athletes and office staff. I offer simple rules like this. Please share the status. These cuddle (don't forget to open the folding) and write a short reason "how important do you think stretching to relax" I will choose all six lucky people and let me know.
#advertorialTranslated