สำนักข่าวอินโดนีเซียไปงาน E3 มาครับ
Shuhei Yoshida คือผู้ที่นั่งในตำแหน่ง President ของ Sony’s Worldwide Studios ในสังกัดของ Sony Interactive Entertainment ครับ หลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาเขากันดีนับแต่คราวที่ PlayStation 4 เปิดตัวสู่สายตาของผู้คนทั่วโลก เพราะนับแต่นั้นมาเขาก็มักคอยตอบคำถามแฟนๆ ผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัว รวมถึงไปเป็นแขกรับเชิญใน podcast ของหลายเว็บไซต์ด้วยกัน
ในงาน E3 2018 ที่ผ่านมา เขาเองก็ได้ไปร่วมงานเช่นกัน และได้ให้สัมภาษณ์สื่อจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายราย โดยที่เว็บไซต์ Jagat Play ซึ่งเป็นสื่อเกมแห่งประเทศอินโดนีเซียก็ได้เข้าร่วมสัมภาษณ์ด้วย และเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา พวกเขาได้ลงบทความชื่อ JagatPlay di E3 2018: Wawancara dengan Shuhei Yoshida! (ที่มา: http://jagatplay.com/…/jagatplay-di-e3-2018-wawancara-deng…/) และได้สรุปเนื้อหาจากบทสัมภาษณ์ดังกล่าวเอาไว้อย่างครบถ้วนครับ เราจึงได้แปลเนื้อหามาให้อ่านกันแล้ว
---------------
ในฐานะที่โยชิดะซังเองก็เป็นเกมเมอร์เหมือนกัน พวกเราจึงเริ่มถามด้วยสิ่งที่น่าจะกระตุ้นความสนใจของผู้คนได้มากเลยทีเดียว นั่นคือ “โยชิดะซังได้ลองเล่น Death Stranding แล้วหรือยัง? เหมือนอย่างที่ลองเกมอื่นๆ จากทีมของโซนี่?” น่าประหลาดใจมากที่คำตอบก็คือเขายังไม่ได้ลองครับ ซึ่งเขาบอกว่าตอนนี้เขาก็อยู่ในสถานะเดียวกันกับเกมเมอร์ส่วนใหญ่ และเขาเองก็เซอร์ไพรส์ตลอดที่ได้เห็นอะไรใหม่ๆ บนเวทีจากโคจิม่าโปรดัคชั่นส์
---------------
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของงาน E3 2018 ก็คือ Microsoft นั่นเอง และ Microsoft ที่เป็นคู่แข่งหลักได้ประกาศเสริมกำลังของตนและพยายามเรียกความเชื่อมั่นจากสาธารณะกลับมาโดยการเข้าซื้อและเทคโอเวอร์สตูดิโอใหม่ๆ แล้วถ้าเป็นแบบนี้ Sony จะมีแผนหรือแนวทางรับมืออย่างไรล่ะ? คำตอบจากโยชิดะซังก็คือ เขายืนยันว่าด้านของ Sony ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงครับ พวกเขาจะยังคงให้การสนับสนุนนักพัฒนา First Party ใต้สังกัดต่อไป ซึ่งในตอนนี้แผนงานดังกล่าวปรากฏให้เห็นในรูปแบบของเกมอย่าง God of War หรือ Horizon: Zero Dawn ที่ประสบความสำเร็จมากมาย และเกมที่นำเสนอในงาน E3 2018 ไม่ว่าจะเป็น Spider-Man จนถึง The Last of Us Part II ก็แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นดังกล่าวนั่นเอง
----------------
ในระหว่างการสัมภาษณ์ได้มีการถามถึงความเป็นไปได้ในการนำเอาเกมที่โด่งดังในยุค PlayStation 1 และ PlayStation 2 กลับมาวางจำหน่ายด้วยเช่นกัน ซึ่งโยชิดะซังเองก็รู้ดีว่ามีเสียงเรียกร้องเข้ามามากมายเลย โดยเฉพาะเกมอย่าง The Legend of Dragoon และเขาบอกว่า Sony เองก็ดูจะอยู่ในขั้นตอนการรีเมคเกมเก่าๆ เหล่านี้อยู่ด้วยเช่นกัน เหมือนอย่างเช่นที่ได้รีเมค Shadow of the Colossus ให้เห็นกันไปแล้ว แต่เขาก็ต้องยอมรับว่าในตอนนี้ Sony มีทรัพยากรจำกัดถ้าหากจะตอบสนองข้อเรียกร้องจากแฟนๆ ได้หมด มันจะมีบางอย่างที่ขัดแย้งกันเองเสมอ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าพวกเขาก็ต้องพัฒนาเกมใหม่ๆ ออกสู่ตลาดด้วย นอกจากนั้นพวกเขายังต้องพิจารณาอีกว่าเกมไหนที่น่าสนใจพอจะนำกลับมาสร้างใหม่ และสำหรับตลาดในประเทศญี่ปุ่นแล้ว Sony มีกลยุทธ์ที่ต่างออกไปเลย เพราะพวกเกมรีมาสเตอร์หรือเกมทำใหม่จะเน้นไปที่ตลาดเกมมือถืออย่างเดียว แถมบางเกมยังได้ภาคใหม่อีกด้วย
------------
เมื่อถูกถามถึงการสนับสนุนเกมอินดี้ที่หลายคนมองว่าทุกวันนี้ “โดนกลืนหายไป” และ Sony ไปมุ่งเน้นแต่เกม Exclusive ระดับ AAA บน PlayStation 4 เท่านั้นแล้ว โยชิดะซังก็เน้นย้ำว่า PlayStation ยังคงมุ่งสนับสนุนเกมอินดี้เหล่านี้ตามเดิม แม้ว่าในตอนนี้จะไม่มีจังหวะให้นำเสนอเกมอินดี้ต่างๆ บนเวทีหลัก แต่พวกเขาก็ยังคงให้การสนับสนุนโดยตรงอยู่ที่บูธครับ พวกเขาได้เตรียมพื้นที่ให้ได้ลองเล่นเกม PlayStation VR อย่างน้อย 14 เครื่องด้วยกันโดยที่ส่วนใหญ่เป็นเกมอินดี้ทั้งนั้นด้วย ดังนั้นแล้วความมุ่งมั่นในการสนับสนุนนักพัฒนาเกมอินดี้นั้นไม่เคยเปลี่ยนไปแน่นอน นอกจากนั้นแล้วโยชิดะซังยังได้กล่าวอีกด้วยว่าการสนับสนุนไม่ได้ “จำกัด” อยู่แค่เกมบน PSVR เท่านั้น เพราะทุกสัปดาห์เกมเมอร์ก็จะเห็นได้ว่ามีเกมอินดี้เจ๋งๆ วางจำหน่ายบน PlayStation Store ทุกสัปดาห์เลยทีเดียว
-------------------
อย่างหนึ่งที่ไม่เหมือนใครในงาน E3 2018 นี้ (รวมถึงปีที่ผ่านมาด้วย) ก็คือการที่ Sony ไม่ยอมใช้ประโยชน์จากช่วงเวลานี้ในการประกาศเกมใหม่เลย โดยเฉพาะเกม Exclusive ซึ่งก็ทำให้เรารู้สึกใคร่รู้ขึ้นมา ว่า PlayStation อุบไต๋เอาไว้เพื่อรอเปิดในงานของตนเองช่วงสิ้นปีรึเปล่า หรือบางทีอาจเป็นสัญญาณว่าพวกเขากำลังเตรียมตัวให้กับ PlayStation 5 หรือไม่? โยชิดะซังบอกว่าเขายังไม่สามารถยืนยันอะไรได้เกี่ยวกับงานต่างๆ หลัง E3 2018 ในคราวนี้ แม้ว่าแผนงานของ Tokyo Game Show จะแน่นอนแล้วก็ตามที แต่สำหรับบรรดาเกม Exclusive ทั้งหลายนั้น โยชิดะซังกล่าวว่าตอนนี้พวกเขากำลังมีเกม Exclusive ลับอยู่เกมนึงที่ยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่ก็น่าเสียดายที่เขาบอกอะไรเยอะกว่านี้ไม่ได้
-------------------
เมื่อถามถึงรูปแบบการหาเงินบนเกม Exclusive ของ PlayStation 4 นั้น โยชิดะซังได้กล่าวว่าสิ่งที่พวกเขาได้แสดงให้เห็นในเกมล่าสุดก็น่าจะเป็นหลักฐานเพียงพอในความตั้งใจของพวกเขาแล้ว เขาบอกว่า Sony จะไม่วางจำหน่ายเกมแค่บทแรกจากนั้นก็บอกให้เกมเมอร์รอคอยอัพเดตหรือจ่ายเพิ่มเพื่อเล่นต่อแน่ แม้ว่าระบบดังกล่าวจะได้ผลในเกมอย่างเช่น The Walking Dead ก็ตาม แต่มันไม่ใช่สำหรับเรา เพราะ Sony จะมุ่งเน้นไปที่การผลิตเกมที่เสร็จสมบูรณ์ในตัวมันเอง ถึงแม้ว่าในบางครั้งก็มีการพัฒนาขยายเนื้อเรื่องใน expansion pack บ้าง เหมือนอย่างเช่น Frozen Wilds ของ Horizon Zero Dawn ก็ตาม แต่พวกเขาก็จะยังพัฒนาเกมในรูปแบบนี้ต่อไป
-------------------
กระนั้นโยชิดะซังก็ยอมรับว่ามีอย่างหนึ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้จากธุรกิจเกมบนโทรศัพท์มือถือ นั่นคือวิธีการที่นักพัฒนาเกมบนโทรศัทพ์มือถือวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของผู้เล่น ว่าผู้เล่นมีวิธีการเล่นอย่างไร, พวกเขาชอบอะไร, พวกเขาโน้มเอียงไปทางไหน แล้วก็ใช้ข้อมูลเหล่านั้นสร้างคอนเทนต์ที่ผู้เล่นอยากได้ขึ้นมา ซึ่ง Sony เองก็ได้นำเอากระบวนการดังกล่าวมาปรับใช้ในเกมที่พวกเขาปรุงแต่งกันอยู่ ไม่ว่าจะเกมแนวเล่นคนเดียวหรือเล่นหลายคนก็ตาม ตัวอย่างน่ะเหรอ? ก็เช่นว่าหากข้อมูลปรากฏให้เห็นว่ามีเกมเมอร์หลายคนที่เลิกเล่นไปในช่วงใดช่วงหนึ่ง ก็ถึงเวลาที่ต้องมาหาสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร มันยากเกินไปรึเปล่า? มีอะไรที่ควรจะเปลี่ยนแปลงไหม? นั่นคือสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้
-----------------
สิ่งน่าสนใจประการหนึ่งสำหรับเกม Exclusive ของ Sony ก็คือส่วนมากเกมของพวกเขาจะเน้นไปที่การเล่นคนเดียว แล้วแบบนี้ Sony ไม่สนใจที่จะทำเกม Exclusive ซึ่งเน้นไปที่การเล่นหลายคนบ้างเลยหรือ? โยชิดะซังให้ความมั่นใจว่า Sony ไม่เคยสนใจที่ทำแค่เดินตามเทรนด์และสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในวงการอยู่แล้ว ทุกๆ สตูดิโอที่อยู่ใต้สังกัดของพวกเขามีอิสระที่ทำในสิ่งที่พวกเขาถนัด ซึ่ง Sony ก็มักจะทำในสิ่งที่พวกตนชอบและทำได้ดีอยู่แล้ว นั่นคือเกมแบบเล่นคนเดียว และนี่ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาจะยังคงทำต่อไปในอนาคต
------------------
โยชิดะซังยังได้พูดถึงเกม Spider-Man ที่มีแผนจะวางจำหน่ายในเดือนกันยายน 2561 นี้ด้วย โดยที่เขานิยามเกมดังกล่าวว่ามีเอกลักษณ์ เพราะน้อยครั้งที่คุณจะได้เห็นเกม Exclusive บน PlayStation ที่ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์หรือคอมิคเช่นนี้ และเกมที่ดัดแปลงมาเช่นนี้ บ่อยครั้งก็มักมีคุณภาพไม่ดีนักดังจะเห็นได้จากในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งเขาเองก็มองเกมเหล่านั้นเป็นแค่สินค้าที่ทำออกมาขายเกาะกระแสแค่นั้น และคุณภาพที่แย่แบบนี้ก็ทำให้เกมดัดแปลงเหล่านั้นค่อยๆ ตายไปอย่างช้าๆ แต่แน่นอน ทว่าด้วย Spider-Man ตัวล่าสุดที่พัฒนาโดย Insomniac นี่ ตัวเกมจะได้รับการปฏิบัติประหนึ่งการสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ของ Spider-Man เลย และความร่วมมือระหว่าง Insomniac กับ Marvel ได้ก่อให้เกิดเรื่องราวใหม่ๆ และสัมผัสแห่งเกมโอเพนเวิลด์ที่เป็นหนึ่งในจุดเด่นของเกมจาก Insomniac ด้วยเช่นกัน
------------------
โยชิดะซังยังได้พูดถึง Resident Evil 2 Remake อีกด้วย ว่าเขามองเกมนี้ไม่ใช่แค่เกมรีเมคธรรมดาๆ แต่ Capcom ได้ทำอะไรมากกว่าการทำให้ภาพสวยขึ้น เขาแทบอดใจรอสัมผัสเกมนี้ไม่ไหวแล้วในเดือนมกราคม 2562
------------------
โยชิดะซังเองก็เป็นแฟนของ Bloodborne เราจึงใช้โอกาสนี้ถามว่าเขาสนใจ Sekiro: Shadows Die Twice แค่ไหน เพราะเกมก็พัฒนาโดย From Software เหมือนกัน ซึ่งก็น่าเสียดายที่โยชิดะซังยังไม่ได้ลองเล่นเกมนี้เหมือนกัน แต่ก็ได้พูดถึงความมีเอกลักษณ์และความพิสดารที่เกิดขึ้นในวงการพร้อมๆ กัน เพราะจู่ๆ เกมเมอร์ก็ได้เห็นเกมสไตล์ญี่ปุ่นโบราณเปิดตัวพร้อมกันถึงสามเกม นั่นคือ Sekiro, Ghost of Tsushima และ Nioh 2 และแน่นอนว่าเขาก็อยากเล่นทั้งสามเกมนั่นล่ะ
------------------
หากใครอยากชมบทสัมภาษณ์แบบเป็นวิดีโอ ลองชมได้ที่ช่องอย่างเป็นทางการของ Jagat Review นะครับ (ในเครือเดียวกันกับ Jagat Play)
https://www.youtube.com/watch?v=HV40-hMrRhk
Search