Demon Slayer จากการ์ตูนมังงะ สู่แอนิเมชันพันล้าน /โดย ลงทุนแมน
หากพูดถึงการ์ตูนแอนิเมชันชื่อดังจากญี่ปุ่น
คงจะมีชื่อการ์ตูนอย่าง One Piece หรือ Dragon Ball
แต่ถ้าให้พูดถึงการ์ตูนแอนิเมชันที่ร้อนแรงที่สุดชั่วโมงนี้
คงหนีไม่พ้น “Demon Slayer”
ร้อนแรงในระดับที่ Demon Slayer ภาค Mugen Train ที่ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์
สามารถโกยรายได้ไปกว่า 8,400 ล้านบาท ภายใน 52 วันหลังการเข้าฉายที่ประเทศญี่ปุ่น
จนทำสถิติรายได้สูงที่สุดตลอดกาลเป็นอันดับที่ 2
มากกว่าทั้งหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Titanic, Frozen และ Harry Potter ทุกภาคในระยะเวลาเท่าๆ กัน
และเป็นรองเพียง Spirited Away ในปี 2001
ซึ่งนอกจากภาพยนตร์แล้ว ตัวหนังสือการ์ตูนของ Demon Slayer ก็ได้กลายเป็นการ์ตูนที่ขายดีในปีนี้
แซงหน้าการ์ตูนยอดนิยมอันดับที่ 2 อย่าง Kingdom และอันดับที่ 3 อย่าง One Piece
Demon Slayer เป็นการ์ตูนเกี่ยวกับอะไร
แล้วมีจุดเริ่มต้น หรือมีที่มาอย่างไร?
ลงทุนแมนจะมาเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba หรือชื่อภาษาไทย ดาบพิฆาตอสูร
Demon Slayer เป็นการ์ตูนที่เล่าเรื่องราวของเด็กหนุ่ม
ชื่อ คามาโดะ ทันจิโร่ ผู้เป็นลูกชายคนโต ของครอบครัว คนเผาถ่าน
โดยเขาได้เป็นกำลังหลักในการหารายได้เลี้ยงสมาชิกในครอบครัว
เนื่องจากคุณพ่อของเขาเสียชีวิต
แต่วันดีคืนดี อสูรร้ายก็ได้สังหารทุกคนในครอบครัวของทันจิโร่ไป
ในขณะที่ เนซึโกะ น้องสาวของเขาที่รอดมาได้ก็ได้กลายเป็นอสูร
การ์ตูนเรื่องนี้จึงเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพี่ชาย ทันจิโร่ ที่จะเป็นตัวเอกในฐานะผู้ล่าอสูร
เพื่อกลับไปล้างแค้นให้ครอบครัว รวมถึงพยายามหาทุกวิถีทางให้น้องสาว เนซึโกะกลับมาเป็นมนุษย์ เหมือนเดิม..
สำหรับ Demon Slayer นั้น ถูกเขียนขึ้นโดยอาจารย์ โคโยฮารุ โกโตะเกะ
โดยการ์ตูนเรื่องนี้ ก็ได้เริ่มถูกเผยแพร่ลงบนนิตยสาร โชเน็งจัมป์รายสัปดาห์
ซึ่งหากเราพูดถึงนิตยสาร โชเน็งจัมป์แล้ว นิตยสารเล่มนี้เป็นนิตยสารสำหรับการ์ตูนญี่ปุ่นในตำนานมากมาย เช่น Naruto, One Piece และ Dragon Ball
อย่างไรก็ตาม.. แม้ว่า Demon Slayer จะมีจุดเริ่มต้นที่นี่
แต่สิ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ก็คือ
การ์ตูนเรื่องนี้ในเวอร์ชันนิตยสารการ์ตูน เคยถูกวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มผู้อ่านบางส่วนว่า เนื้อเรื่องไม่มีสีสัน เส้นทางของแต่ละตัวละครดูเป็นเส้นตรง คาดการณ์ได้ง่าย
จึงทำให้นักอ่านชาวญี่ปุ่นหลายคนมองว่า Demon Slayer จะหายไปจากโชเน็งจัมป์ แน่นอน
อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนสำคัญของ Demon Slayer ก็คือ
การที่สตูดิโออย่าง ยูโฟเทเบิล (Ufotable) ได้นำการ์ตูนเรื่องนี้มาผลิตเป็นแอนิเมชัน
กลับกลายเป็นว่าเนื้อเรื่องที่ดูธรรมดาสำหรับนักอ่านการ์ตูนตัวยง
ได้เข้าถึงกลุ่มฐานผู้รับชมกว้างขึ้น จากผู้ชมในประเทศญี่ปุ่น
ต่อมา Demon Slayer ก็ได้ถูกซื้อสิทธิ์ไปเผยแพร่ในต่างประเทศ
จนกระทั่งมาอยู่ใน Netflix ก็ทำให้ยิ่งดังระเบิดเข้าไปอีก
เรื่องที่น่าสนใจก็คือ จากผลสำรวจผู้ที่ดูแอนิเมชัน Demon Slayer ที่ประเทศญี่ปุ่นพบว่าผู้รับชมส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ซึ่งแตกต่างจากผู้ที่อ่านนิตยสารการ์ตูนที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย
นอกจากนั้น ความกว้างของฐานอายุของผู้รับชมก็ยังมีตั้งแต่เด็ก ไปจนถึงผู้ใหญ่หลังวัยเกษียณ
จากข้อมูลทั้งหมด ทำให้เราสรุปได้ว่าการ์ตูนแอนิเมชันในรูปแบบภาพเคลื่อนไหว ยิ่งพอมาอยู่บนแพลตฟอร์มสตรีมมิง จึงทำให้เข้าถึงกลุ่มผู้รับชมได้หลากหลาย และกว้างขวางขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
และเนื้อเรื่องที่ดูเป็นเส้นตรง คาดการณ์ได้ง่ายสำหรับนักอ่านการ์ตูนตัวยง
อาจกลายเป็นเนื้อเรื่องที่ทำให้คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้ง่ายกว่า ก็เป็นได้
จากความสำเร็จแบบก้าวกระโดดของ Demon Slayer จึงทำให้เรื่องราวของการ์ตูนเรื่องนี้ ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ภาคต่อทันที ชื่อว่า Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba the Movie: Mugen Train และก็กวาดรายได้ทำสถิติใหม่ จนเป็นที่น่าจับตา
สถิติของ Demon Slayer มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง?
Aniplex Inc. และ Toho Co. บริษัทผู้ผลิต และจัดจำหน่ายแอนิเมชันในญี่ปุ่น
ได้ออกมาเปิดเผยว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ญี่ปุ่นมีรายได้ 10.75 พันล้านเยน
คิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,000 ล้านบาท หลังจากเข้าฉายเพียง 10 วัน
และผ่านไป 52 วัน รายได้ก็ได้พุ่งสูงถึง 8,400 ล้านบาท
ตัวเลขนี้ทำสถิติรายได้สูงที่สุดตลอดกาลที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นอันดับที่ 2
มากกว่าทั้งหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Titanic, Frozen และ Harry Potter
ทุกภาคในระยะเวลาเท่าๆ กัน และเป็นรองเพียง Spirited Away ในปี 2001
และนอกเหนือจากความสำเร็จของแอนิเมชัน และภาพยนตร์ที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว
หนังสือการ์ตูน Demon Slayer ที่ในช่วงเริ่มต้นมีกระแสตอบรับไม่ค่อยดี
แต่ตอนนี้กลับกลายมาเป็นหนังสือการ์ตูนรวมเล่มที่ดังระเบิด
ระเบิดในระดับที่เป็นหนังสือการ์ตูนรวมเล่มขายดีที่สุดในปี 2019
แซงหน้า One Piece ไปแล้ว..
ความสำเร็จของ Demon Slayer อาจเป็นกรณีศึกษาให้เราได้เรียนรู้ว่า
ในบางครั้งสิ่งที่เราทำแล้วถูกคนกลุ่มหนึ่งวิพากษ์วิจารณ์ว่ามันไม่เวิร์ก
แต่สุดท้ายแล้ว มันอาจจะเวิร์กสำหรับคนอีกกลุ่มก็เป็นได้
อย่างในกรณีของ Demon Slayer ที่เน้นการทำเรื่องให้เข้าใจง่าย
แม้มันจะไม่ถูกใจคนบางกลุ่มที่ชอบความซับซ้อน แต่มันกลับทำให้เข้าถึงกลุ่มคนได้มากกว่า
สำหรับอีกประเด็นก็คือ การหาพันธมิตรมาร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเรา
ในบางครั้งผลิตภัณฑ์ของเราจะดีขึ้น ใหญ่ขึ้น ไปได้ไกลขึ้น ถ้ามีคนมาช่วย
ทุกคนคงยอมรับว่า ถ้า Demon Slayer เลือกที่จะไม่ทำแอนิเมชันออกมาในวันนั้น
ก็อาจจะไม่มี Demon Slayer ที่โด่งดังทำลายสถิติแบบทุกวันนี้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://www.japantimes.co.jp/culture/2020/11/30/entertainment-news/demon-slayer-japan-movie/
-https://otakuusamagazine.com/survey-demon-slayer-kimetsu-no-yaiba-popular/
-https://www.crunchyroll.com/en-gb/anime-news/2020/12/07/demon-slayer-franchise-is-estimated-bring-270-billion-yen-to-japanese-economy-in-2020
-https://www.crunchyroll.com/en-gb/anime-feature/2020/12/08/in-depth-demon-slayer-creator-reportedly-only-received-several-million-yen-from-mugen-trains-success
-https://th.wikipedia.org/wiki/ดาบพิฆาตอสูร
-https://www.plotter.in.th/?p=18886
-https://www.mainstand.co.th/catalog/1-Feature/1602-ความฮิตถล่มทลายของ+“Demon+Slayer%3A+Kimetsu+no+Yaiba”+ทำให้เกิดสินค้าอะไรขึ้นบ้าง%3F
-https://entertainment.marumura.com/kimetsu-no-yaiba-ver-2/
-https://www.unlockmen.com/nihon-stories-demon-slayer/
-https://th.wikipedia.org/wiki/โชเน็งจัมป์รายสัปดาห์
-https://cartoon.mthai.com/news/52822.html
-https://2020.majorcineplex.com/news/demon-slayer-over3billions
-https://variety.com/2020/film/asia/demon-slayer-overtakes-titanic-at-japan-box-office-1234842051/
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
frozen ภาค1 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
เราอาจได้เห็น FROZEN ภาค 10 /โดย ลงทุนแมน
รู้ไหมว่า ในปี 2019 ดิสนีย์ออกภาพยนตร์รวมทุกสตูดิโอในเครือทั้งหมด 16 เรื่อง
แต่เป็นภาพยนตร์ที่เป็นภาคต่อ หรือนำมาสร้างใหม่จากเรื่องเดิมถึง 10 เรื่อง
โดยทั่วไปแล้ว
ถ้าธุรกิจของเราอยากมีรายได้เพิ่ม สามารถใช้วิธีอะไรได้บ้าง?
คำตอบที่ทุกคนรู้ก็คือ ขยายสาขา หรือออกสินค้าใหม่
สตาร์บัคส์ เปิดร้านสาขาเพิ่ม
แอปเปิล ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกปี
แต่สำหรับดิสนีย์
ใช้วิธีต่างออกไป..
นั่นก็คือการเน้นสร้างภาพยนตร์ภาคต่อ ของเรื่องที่มีอยู่แล้ว
╔═══════════╗
Blockdit ที่สุดของแอปมีสาระ
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
สาเหตุก็เป็นเพราะ การสร้างภาคต่อ ทำให้ความเสี่ยงของดิสนีย์น้อยลง
รู้ไหมว่าในปีที่ผ่านมา ในวงการภาพยนตร์ที่สร้างรายได้เกิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งหมด 9 เรื่อง ซึ่งเป็นภาพยนตร์จากสตูดิโอของดิสนีย์ไปแล้วถึง 7 เรื่อง
และทุกเรื่องเป็นการต่อยอดมาจากเรื่องเก่าๆ
ไม่ว่าจะเป็น Avengers: Endgame, Captain Marvel จากจักรวาล Marvel
The Lion King และ Aladdin ซึ่งเป็นการนำแอนิเมชันคลาสสิกของดิสนีย์
มาสร้างใหม่ในรูปแบบ ไลฟ์-แอ็กชัน
รวมถึง Frozen II, Toy Story 4 และ Star Wars 9 ที่เป็นภาคต่อจากเรื่องเดิม
ซึ่งความสำเร็จของเรื่องนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ดิสนีย์ซื้อสตูดิโอภาพยนตร์อื่นๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพื่อทำให้อาณาจักรของตัวเองมีแฟรนไชส์ของเรื่องราวที่กว้างขึ้นด้วย
ปี 2006 ซื้อ Pixar
ปี 2009 ซื้อ Marvel
ปี 2012 ซื้อ Lucasfilm ซึ่งมีลิขสิทธิ์ Star Wars
ปี 2018 ซื้อ 21st Century Fox ซึ่งมีลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ Marvel เรื่อง Fantastic Four, Deadpool, X-Men รวมถึงมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง Avatar
และเมื่อรวมกับแพลตฟอร์ม Disney+ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
ก็ยิ่งทำให้การขยายอาณาจักรของดิสนีย์ทำได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
เพราะดิสนีย์สามารถปล่อยภาพยนตร์หรือซีรีส์ ผ่านแพลตฟอร์มของตัวเองได้เลย
โดยไม่ต้องรอคิวฉายในโรงภาพยนตร์
นอกจากฝั่งภาพยนตร์ในจอแล้ว
ความสามารถของดิสนีย์ยังครอบคลุมไปถึงฝั่งนอกจอด้วย
ถ้าลองสังเกตดูดีๆ จะรู้สึกว่าก่อนที่ภาพยนตร์เรื่องหนี่งจะฉาย
ก็จะมีการปล่อยเพลงจากภาพยนตร์ให้ฟังกันจนติดหูก่อน
แล้วเมื่อภาพยนตร์เริ่มฉาย ก็จะมีสินค้าที่เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนั้นพร้อมวางขายในทันที
ซึ่งเรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่รอฉายภาพยนตร์ก่อนแล้วค่อยคิดมาทำสินค้าทีหลัง
แต่การขายสินค้าพร้อมการฉายภาพยนตร์ จำเป็นต้องอาศัยการวางแผนอย่างดี
ทั้งการหาโรงงานผลิต การจัดจำหน่าย
เพื่อให้ทุกอย่างออกมาพร้อมในช่วงเวลาที่เหมาะสม
จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ดิสนีย์ต้องมีทีมวางแผนการปล่อยภาพยนตร์และซีรีส์อย่างมืออาชีพ
ทั้งเนื้อเรื่องซูเปอร์ฮีโรในจักรวาล Marvel
การนำตัวละครจากแอนิเมชันเรื่องเก่าๆ มาสร้างเป็นภาพยนตร์แยก
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้หรือไม่ว่า แฟรนไชส์ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง Avatar
มีกำหนดการฉายไปถึงภาค 5 ในอีก 7 ปีข้างหน้า..
โดยจะฉายในช่วงสิ้นปีสลับกับภาคต่อของ Star Wars
ที่แม้จะยังไม่มีชื่อตอน แต่ก็มีกำหนดการฉายแล้ว
ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็ไม่แน่ว่า
เราอาจจะได้เห็นลูกหลานของ Elsa และ Anna ใน Frozen ภาค 10 ก็เป็นได้..
╔═══════════╗
Blockdit ที่สุดของแอปมีสาระ
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://collider.com/disney-plus-movies-tv-shows-originals/
-https://www.waltdisneystudios.com/movies/2019/
-https://www.boxofficemojo.com/year/world/2019/
frozen ภาค1 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
เราอาจได้เห็น FROZEN ภาค 10 /โดย ลงทุนแมน
รู้ไหมว่า ในปี 2019 ดิสนีย์ออกภาพยนตร์รวมทุกสตูดิโอในเครือทั้งหมด 16 เรื่อง
แต่เป็นภาพยนตร์ที่เป็นภาคต่อ หรือนำมาสร้างใหม่จากเรื่องเดิมถึง 10 เรื่อง
โดยทั่วไปแล้ว
ถ้าธุรกิจของเราอยากมีรายได้เพิ่ม สามารถใช้วิธีอะไรได้บ้าง?
คำตอบที่ทุกคนรู้ก็คือ ขยายสาขา หรือออกสินค้าใหม่
สตาร์บัคส์ เปิดร้านสาขาเพิ่ม
แอปเปิล ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกปี
แต่สำหรับดิสนีย์
ใช้วิธีต่างออกไป..
นั่นก็คือการเน้นสร้างภาพยนตร์ภาคต่อ ของเรื่องที่มีอยู่แล้ว
╔═══════════╗
Blockdit ที่สุดของแอปมีสาระ
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
สาเหตุก็เป็นเพราะ การสร้างภาคต่อ ทำให้ความเสี่ยงของดิสนีย์น้อยลง
รู้ไหมว่าในปีที่ผ่านมา ในวงการภาพยนตร์ที่สร้างรายได้เกิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งหมด 9 เรื่อง ซึ่งเป็นภาพยนตร์จากสตูดิโอของดิสนีย์ไปแล้วถึง 7 เรื่อง
และทุกเรื่องเป็นการต่อยอดมาจากเรื่องเก่าๆ
ไม่ว่าจะเป็น Avengers: Endgame, Captain Marvel จากจักรวาล Marvel
The Lion King และ Aladdin ซึ่งเป็นการนำแอนิเมชันคลาสสิกของดิสนีย์
มาสร้างใหม่ในรูปแบบ ไลฟ์-แอ็กชัน
รวมถึง Frozen II, Toy Story 4 และ Star Wars 9 ที่เป็นภาคต่อจากเรื่องเดิม
ซึ่งความสำเร็จของเรื่องนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ดิสนีย์ซื้อสตูดิโอภาพยนตร์อื่นๆ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เพื่อทำให้อาณาจักรของตัวเองมีแฟรนไชส์ของเรื่องราวที่กว้างขึ้นด้วย
ปี 2006 ซื้อ Pixar
ปี 2009 ซื้อ Marvel
ปี 2012 ซื้อ Lucasfilm ซึ่งมีลิขสิทธิ์ Star Wars
ปี 2018 ซื้อ 21st Century Fox ซึ่งมีลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ Marvel เรื่อง Fantastic Four, Deadpool, X-Men รวมถึงมีภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง Avatar
และเมื่อรวมกับแพลตฟอร์ม Disney+ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
ก็ยิ่งทำให้การขยายอาณาจักรของดิสนีย์ทำได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น
เพราะดิสนีย์สามารถปล่อยภาพยนตร์หรือซีรีส์ ผ่านแพลตฟอร์มของตัวเองได้เลย
โดยไม่ต้องรอคิวฉายในโรงภาพยนตร์
นอกจากฝั่งภาพยนตร์ในจอแล้ว
ความสามารถของดิสนีย์ยังครอบคลุมไปถึงฝั่งนอกจอด้วย
ถ้าลองสังเกตดูดีๆ จะรู้สึกว่าก่อนที่ภาพยนตร์เรื่องหนี่งจะฉาย
ก็จะมีการปล่อยเพลงจากภาพยนตร์ให้ฟังกันจนติดหูก่อน
แล้วเมื่อภาพยนตร์เริ่มฉาย ก็จะมีสินค้าที่เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนั้นพร้อมวางขายในทันที
ซึ่งเรื่องเหล่านี้ ไม่ใช่รอฉายภาพยนตร์ก่อนแล้วค่อยคิดมาทำสินค้าทีหลัง
แต่การขายสินค้าพร้อมการฉายภาพยนตร์ จำเป็นต้องอาศัยการวางแผนอย่างดี
ทั้งการหาโรงงานผลิต การจัดจำหน่าย
เพื่อให้ทุกอย่างออกมาพร้อมในช่วงเวลาที่เหมาะสม
จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า ดิสนีย์ต้องมีทีมวางแผนการปล่อยภาพยนตร์และซีรีส์อย่างมืออาชีพ
ทั้งเนื้อเรื่องซูเปอร์ฮีโรในจักรวาล Marvel
การนำตัวละครจากแอนิเมชันเรื่องเก่าๆ มาสร้างเป็นภาพยนตร์แยก
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้หรือไม่ว่า แฟรนไชส์ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง Avatar
มีกำหนดการฉายไปถึงภาค 5 ในอีก 7 ปีข้างหน้า..
โดยจะฉายในช่วงสิ้นปีสลับกับภาคต่อของ Star Wars
ที่แม้จะยังไม่มีชื่อตอน แต่ก็มีกำหนดการฉายแล้ว
ซึ่งถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็ไม่แน่ว่า
เราอาจจะได้เห็นลูกหลานของ Elsa และ Anna ใน Frozen ภาค 10 ก็เป็นได้..
╔═══════════╗
Blockdit ที่สุดของแอปมีสาระ
Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
References
-https://collider.com/disney-plus-movies-tv-shows-originals/
-https://www.waltdisneystudios.com/movies/2019/
-https://www.boxofficemojo.com/year/world/2019/