อ้อ เรือไดหมึก ส่องแสงขึ้นฟ้า
แสงสีเขียวปริศนา เหนือน่านฟ้าไทย
เมื่อวานนี้ (28 ตุลาคม 2563) มีการแชร์ภาพจากพื้นที่ในจังหวัดระนอง ที่เห็นแสงสีเขียวแปลกประหลาดส่องสว่างขึ้นเหนือขอบฟ้าในทางทิศตะวันตก และตั้งข้อสงสัยว่าเป็นอะไรกันแน่
แสงสีเขียวนั้นเกิดขึ้นได้ค่อนข้างยากในธรรมชาติ สามารถเกิดขึ้นได้หากมีอุกกาบาตไฟร์บอลลูกใหญ่ๆ ที่มีโลหะนิกเกิลเป็นองค์ประกอบ จะสามารถส่องเป็นแสงสีเขียวได้ แต่ก็จะเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่จะดับไป จึงไม่ใช่ อีกความเป็นไปได้หนึ่งก็คือแสงจากออโรร่า ที่เปล่งออกมาเป็นสีเขียว แต่ออโรร่านั้นไม่สามารถสังเกตเห็นได้จากแถบใกล้ศูนย์สูตรเช่นประเทศไทย ยกเว้นเสียแต่จะมีพายุสุริยะที่รุนแรงมาก ซึ่งก็จะต้องได้รับรายงานเห็นในที่ละติจูดที่สูงกว่าเช่นกัน รายนี้ก็ตกไปเช่นกัน
ความเป็นไปได้เดียวที่หลงเหลืออยู่ ก็คือแสงที่มนุษย์สร้าง ซึ่งหากพิจารณาจากว่าในริมชายฝั่งประเทศไทยมีการประกอบการประมงใช้ "เรือไดหมึก" ซึ่งปล่อยแสงสีเขียวสว่างจ้าไปทั่วท้องฟ้ากันเป็นประจำ คำอธิบายที่ชัดเจนและง่ายที่สุดก็คือแสงจากเรือไดหมึกนั่นเอง ซึ่งสามารถเปรียบเทียบได้กับภาพที่ผมถ่ายเอาไว้เองเมื่อปี 2014 (ภาพบนซ้าย) จะเห็นได้ว่าไม่ต่างอะไรกันมากนัก
อาจจะแค่บังเอิญว่าวันนั้นสภาพอากาศทำให้แสงเรือไดหมึกสะท้อนออกมามากที่สุดก็ได้ ก็เลยดูแปลกตา แตกตื่นกันเป็นพิเศษ แสงสีเขียวเดียวกันนี้เคยทำให้แตกตื่นกันไปถึงในอวกาศทีเดียว เพราะนักบินอวกาศที่ส่องลงมาจากสถานีอวกาศนานาชาติ ก็ต้องอึ้งกับแสงสีเขียวเหนือท้องทะเลไทยเช่นกัน (ภาพขวา)[2]
แต่สุดท้าย ทั้งหมดนี่ก็เป็นแค่แสงจากเรือไดหมึก ปริศนาไขกระจ่างแล้ว ปิดคดี จบข่าว แยกย้าย
(อัพเดต: ล่าสุดมีรายงานว่าแหล่งแสงที่มนุษย์สร้างอีกแหล่ง อาจจะมาจากประเทศเพื่อนบ้านครับ ซึ่งก็เป็นไปได้เช่นกัน และอาจจะทำให้เกิดแสงสว่างส่องไปบนเมฆได้อย่างที่เห็น แต่จะเก็บเนื้อหาเกี่ยวกับเรือไดหมึกเอาไว้เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน)
แต่มาถึงตรงนี้เราอาจจะถามอะไรกันต่อ ว่าแต่ว่า แล้วทำไมต้องสีเขียว??? แสงสีเขียวมีความพิเศษอย่างไร? อันนี้เป็นคำถามที่น่าสนใจ และไม่ได้ตอบกันง่ายๆ ต้องพิจารณากันหลายแง่มุม เป็นคำถามที่ส่งเสริม STEM ศึกษาอย่างแท้จริง
เราอาจจะเริ่มจากคำตอบในเชิงฟิสิกส์ แสงสีเขียวมีคุณสมบัติพิเศษอย่างไรหรือไม่กับน้ำทะเล? เป็นช่วงความยาวคลื่นพิเศษที่ส่องได้ดีหรือเปล่า? ปรากฏว่าแสงสีเขียวนั้นไม่ได้มีความพิเศษอะไร อยู่ตรงกลางๆ ของสเปกตรัม น้ำทะเลนั้นจะดูดกลืนแสงความยาวคลื่นมากได้ดีกว่า เป็นเหตุผลว่าทำไมน้ำทะเลจึงเป็นสีน้ำเงิน และเพราะเหตุใดสัตว์ใต้ท้องทะเลลึกจึงเป็นสีแดง เพราะแสงสีแดงนั้นไม่ตกถึงพื้นทะเลเลย ซึ่งถ้าพูดเช่นนั้นแล้วเราก็น่าจะอนุมานได้ว่าแสงสีน้ำเงินน่าจะส่องทะลุทะลวงได้ดีกว่า แล้วทำไมถึงไม่ใช้แสงสีน้ำเงิน??
ถัดไปเราอาจจะลองหาคำตอบเชิงชีววิทยาดูบ้าง เป็นไปได้ไหมที่แสงสีเขียวนี้เป็นแสงที่ตอบสนองได้ดีที่สุดในสัตว์จำพวกหมึก ว่าแต่ว่าทำไมไฟมันถึงล่อหมึกได้? มันจะพุ่งเข้ามาหาพระแสงอะไร?
ซึ่งคำตอบหลังนี้นั้นตอบได้ยากกว่ามาก ในงานวิจัยทีตีพิมพ์ในปี 1979 ได้ตั้งสมมติฐานการตอบสนองต่อแสงในสัตว์กลุ่ม Cephalopodd เอาไว้ 7 ประการด้วยกัน ได้แก่ 1) positive phototaxis 2) intensity preference
(brightness) 3) wavelength preference (color response) 4) conditioned or unconditioned response where light is associated with
food 5) curiosity6) photic disorientation and 7) hypnosis อย่างไรก็ตาม งานวิจัยดังกล่าวไม่สามารถยืนยันได้ว่าเพราะเหตุใดหมึกจึงพุ่งมาหาแสงไฟ
สำหรับแมลงบนบกนั้น เราพอจะทราบว่าสาเหตุทื่ "แมลงเม่าบินเข้ากองไฟ" นั้น แท้จริงแล้วเป็นเพราะพวกมันพยายามใช้แสงจันทร์ในการนำทาง ดังที่เคยเขียนเอาไว้แล้ว[4] เป็นไปได้ว่าสัตว์น้ำอาจจะใช้วิธีเดียวกัน นอกจากนี้ เราทราบว่าเหล่าแพลงก์ตอนนั้นอาจจะถูกดึงดูดเข้าสู่แสงไฟ (แพลงก์ตอนส่วนหนึ่งก็เป็นผู้ผลิตที่สังเคราะห์แสง) และอาจจะล่อฝูงปลาขนาดเล็กตามมา ซึ่งล่อนักล่าลำดับถัดไปในห่วงโซ่อาหาร เช่น หมึก ให้ตามมาอีกทีหนึ่ง อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถทราบเหตุผลที่แน่ชัดที่ดึงดูดหมึกมาได้ (เว้นแต่จะลองไปถามหมึกดูเอาเอง)
อย่างไรก็ตาม เราทราบว่าทั้งแพลงก์ตอนและหมึก ต่างก็ถูกล่อได้ด้วยทั้งแสงสีฟ้า และสีเขียว ไม่ต่างกัน ซึ่งถึงแม้ว่าเราจะใช้แสงสีอื่น เช่นแสงจากหลอดโซเดียมที่มีสีเหลือง เราก็จะพบว่าแสงเหล่านั้นก็จะยังสามารถกระตุ้นเซลล์รับแสงของเหล่าสัตว์ทะเลได้เช่นเดียวกัน และปัจจัยที่สำคัญที่สุดอยู่ที่ความสว่างเสียมากกว่าสเปกตรัมที่ใช้[5]
หรือว่าคำตอบอาจจะอยู่ในวิชาคณิตศาสตร์/เศรษฐศาสตร์? เป็นไปได้ไหมว่าหลอดไฟสีเขียวนั้นเป็นหลอดไฟที่มีค่าใช้จ่ายต่ำที่สุด? ซึ่งก็ไม่ใช่อีกเช่นกัน เพราะว่าค่าไฟ หรือปริมาณพลังงานที่ใช้ไปในการปล่อยแสงไฟนั้น คิดเป็นส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับค่าน้ำมัน ค่าเรือ และค่าแรงที่ต้องใช้ไป
สุดท้าย คำตอบเพียงคำตอบเดียวที่อาจจะอธิบายแสงสีเขียวได้ดีที่สุด อาจจะอยู่ในวิชาสังคมศาสตร์ เราใช้แสงสีเขียว เพียงเพราะว่ามันเป็นแสงที่ "ฮิต" หรือได้รับความนิยมมากที่สุด เพียงเท่านั้นเอง และหากเราไปพิจารณาดูอุตสาหกรรมในการตกหมึกทั่วโลก เราก็จะพบว่าแต่ละประเทศนั้นมีสีที่ได้รับความนิยมที่แตกต่างกันออกไป
อ้างอิง/อ่านเพิ่มเติม:
[1] https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_5207937
[2] https://earthobservatory.nasa.gov/…/fishing-in-green-living…
[3] https://www.aoml.noaa.gov/…/Cl…/St.%20Croix/salt_river11.pdf
[4] https://www.facebook.com/…/a.2551016080333…/580687202141490/
[5] https://en.wikipedia.org/wiki/Fishing_light_attractor
同時也有7部Youtube影片,追蹤數超過2萬的網紅Marc Yam,也在其Youtube影片中提到,Section III Wave Motion 3.2.6 Light: Wave Nature of Light Derivation of Grating Equation...
「light wavelength」的推薦目錄:
light wavelength 在 มติพล ตั้งมติธรรม Facebook 的最佳貼文
แสงสีเขียวปริศนา เหนือน่านฟ้าไทย
เมื่อวานนี้ (28 ตุลาคม 2563) มีการแชร์ภาพจากพื้นที่ในจังหวัดระนอง ที่เห็นแสงสีเขียวแปลกประหลาดส่องสว่างขึ้นเหนือขอบฟ้าในทางทิศตะวันตก และตั้งข้อสงสัยว่าเป็นอะไรกันแน่
แสงสีเขียวนั้นเกิดขึ้นได้ค่อนข้างยากในธรรมชาติ สามารถเกิดขึ้นได้หากมีอุกกาบาตไฟร์บอลลูกใหญ่ๆ ที่มีโลหะนิกเกิลเป็นองค์ประกอบ จะสามารถส่องเป็นแสงสีเขียวได้ แต่ก็จะเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่จะดับไป จึงไม่ใช่ อีกความเป็นไปได้หนึ่งก็คือแสงจากออโรร่า ที่เปล่งออกมาเป็นสีเขียว แต่ออโรร่านั้นไม่สามารถสังเกตเห็นได้จากแถบใกล้ศูนย์สูตรเช่นประเทศไทย ยกเว้นเสียแต่จะมีพายุสุริยะที่รุนแรงมาก ซึ่งก็จะต้องได้รับรายงานเห็นในที่ละติจูดที่สูงกว่าเช่นกัน รายนี้ก็ตกไปเช่นกัน
ความเป็นไปได้เดียวที่หลงเหลืออยู่ ก็คือแสงที่มนุษย์สร้าง ซึ่งหากพิจารณาจากว่าในริมชายฝั่งประเทศไทยมีการประกอบการประมงใช้ "เรือไดหมึก" ซึ่งปล่อยแสงสีเขียวสว่างจ้าไปทั่วท้องฟ้ากันเป็นประจำ คำอธิบายที่ชัดเจนและง่ายที่สุดก็คือแสงจากเรือไดหมึกนั่นเอง ซึ่งสามารถเปรียบเทียบได้กับภาพที่ผมถ่ายเอาไว้เองเมื่อปี 2014 (ภาพบนซ้าย) จะเห็นได้ว่าไม่ต่างอะไรกันมากนัก
อาจจะแค่บังเอิญว่าวันนั้นสภาพอากาศทำให้แสงเรือไดหมึกสะท้อนออกมามากที่สุดก็ได้ ก็เลยดูแปลกตา แตกตื่นกันเป็นพิเศษ แสงสีเขียวเดียวกันนี้เคยทำให้แตกตื่นกันไปถึงในอวกาศทีเดียว เพราะนักบินอวกาศที่ส่องลงมาจากสถานีอวกาศนานาชาติ ก็ต้องอึ้งกับแสงสีเขียวเหนือท้องทะเลไทยเช่นกัน (ภาพขวา)[2]
แต่สุดท้าย ทั้งหมดนี่ก็เป็นแค่แสงจากเรือไดหมึก ปริศนาไขกระจ่างแล้ว ปิดคดี จบข่าว แยกย้าย
(อัพเดต: ล่าสุดมีรายงานว่าแหล่งแสงที่มนุษย์สร้างอีกแหล่ง อาจจะมาจากประเทศเพื่อนบ้านครับ ซึ่งก็เป็นไปได้เช่นกัน และอาจจะทำให้เกิดแสงสว่างส่องไปบนเมฆได้อย่างที่เห็น แต่จะเก็บเนื้อหาเกี่ยวกับเรือไดหมึกเอาไว้เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน)
แต่มาถึงตรงนี้เราอาจจะถามอะไรกันต่อ ว่าแต่ว่า แล้วทำไมต้องสีเขียว??? แสงสีเขียวมีความพิเศษอย่างไร? อันนี้เป็นคำถามที่น่าสนใจ และไม่ได้ตอบกันง่ายๆ ต้องพิจารณากันหลายแง่มุม เป็นคำถามที่ส่งเสริม STEM ศึกษาอย่างแท้จริง
เราอาจจะเริ่มจากคำตอบในเชิงฟิสิกส์ แสงสีเขียวมีคุณสมบัติพิเศษอย่างไรหรือไม่กับน้ำทะเล? เป็นช่วงความยาวคลื่นพิเศษที่ส่องได้ดีหรือเปล่า? ปรากฏว่าแสงสีเขียวนั้นไม่ได้มีความพิเศษอะไร อยู่ตรงกลางๆ ของสเปกตรัม น้ำทะเลนั้นจะดูดกลืนแสงความยาวคลื่นมากได้ดีกว่า เป็นเหตุผลว่าทำไมน้ำทะเลจึงเป็นสีน้ำเงิน และเพราะเหตุใดสัตว์ใต้ท้องทะเลลึกจึงเป็นสีแดง เพราะแสงสีแดงนั้นไม่ตกถึงพื้นทะเลเลย ซึ่งถ้าพูดเช่นนั้นแล้วเราก็น่าจะอนุมานได้ว่าแสงสีน้ำเงินน่าจะส่องทะลุทะลวงได้ดีกว่า แล้วทำไมถึงไม่ใช้แสงสีน้ำเงิน??
ถัดไปเราอาจจะลองหาคำตอบเชิงชีววิทยาดูบ้าง เป็นไปได้ไหมที่แสงสีเขียวนี้เป็นแสงที่ตอบสนองได้ดีที่สุดในสัตว์จำพวกหมึก ว่าแต่ว่าทำไมไฟมันถึงล่อหมึกได้? มันจะพุ่งเข้ามาหาพระแสงอะไร?
ซึ่งคำตอบหลังนี้นั้นตอบได้ยากกว่ามาก ในงานวิจัยทีตีพิมพ์ในปี 1979 ได้ตั้งสมมติฐานการตอบสนองต่อแสงในสัตว์กลุ่ม Cephalopodd เอาไว้ 7 ประการด้วยกัน ได้แก่ 1) positive phototaxis 2) intensity preference
(brightness) 3) wavelength preference (color response) 4) conditioned or unconditioned response where light is associated with
food 5) curiosity6) photic disorientation and 7) hypnosis อย่างไรก็ตาม งานวิจัยดังกล่าวไม่สามารถยืนยันได้ว่าเพราะเหตุใดหมึกจึงพุ่งมาหาแสงไฟ
สำหรับแมลงบนบกนั้น เราพอจะทราบว่าสาเหตุทื่ "แมลงเม่าบินเข้ากองไฟ" นั้น แท้จริงแล้วเป็นเพราะพวกมันพยายามใช้แสงจันทร์ในการนำทาง ดังที่เคยเขียนเอาไว้แล้ว[4] เป็นไปได้ว่าสัตว์น้ำอาจจะใช้วิธีเดียวกัน นอกจากนี้ เราทราบว่าเหล่าแพลงก์ตอนนั้นอาจจะถูกดึงดูดเข้าสู่แสงไฟ (แพลงก์ตอนส่วนหนึ่งก็เป็นผู้ผลิตที่สังเคราะห์แสง) และอาจจะล่อฝูงปลาขนาดเล็กตามมา ซึ่งล่อนักล่าลำดับถัดไปในห่วงโซ่อาหาร เช่น หมึก ให้ตามมาอีกทีหนึ่ง อย่างไรก็ตามเราไม่สามารถทราบเหตุผลที่แน่ชัดที่ดึงดูดหมึกมาได้ (เว้นแต่จะลองไปถามหมึกดูเอาเอง)
อย่างไรก็ตาม เราทราบว่าทั้งแพลงก์ตอนและหมึก ต่างก็ถูกล่อได้ด้วยทั้งแสงสีฟ้า และสีเขียว ไม่ต่างกัน ซึ่งถึงแม้ว่าเราจะใช้แสงสีอื่น เช่นแสงจากหลอดโซเดียมที่มีสีเหลือง เราก็จะพบว่าแสงเหล่านั้นก็จะยังสามารถกระตุ้นเซลล์รับแสงของเหล่าสัตว์ทะเลได้เช่นเดียวกัน และปัจจัยที่สำคัญที่สุดอยู่ที่ความสว่างเสียมากกว่าสเปกตรัมที่ใช้[5]
หรือว่าคำตอบอาจจะอยู่ในวิชาคณิตศาสตร์/เศรษฐศาสตร์? เป็นไปได้ไหมว่าหลอดไฟสีเขียวนั้นเป็นหลอดไฟที่มีค่าใช้จ่ายต่ำที่สุด? ซึ่งก็ไม่ใช่อีกเช่นกัน เพราะว่าค่าไฟ หรือปริมาณพลังงานที่ใช้ไปในการปล่อยแสงไฟนั้น คิดเป็นส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับค่าน้ำมัน ค่าเรือ และค่าแรงที่ต้องใช้ไป
สุดท้าย คำตอบเพียงคำตอบเดียวที่อาจจะอธิบายแสงสีเขียวได้ดีที่สุด อาจจะอยู่ในวิชาสังคมศาสตร์ เราใช้แสงสีเขียว เพียงเพราะว่ามันเป็นแสงที่ "ฮิต" หรือได้รับความนิยมมากที่สุด เพียงเท่านั้นเอง และหากเราไปพิจารณาดูอุตสาหกรรมในการตกหมึกทั่วโลก เราก็จะพบว่าแต่ละประเทศนั้นมีสีที่ได้รับความนิยมที่แตกต่างกันออกไป
อ้างอิง/อ่านเพิ่มเติม:
[1] https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_5207937
[2] https://earthobservatory.nasa.gov/images/92152/fishing-in-green-living-in-yellow
[3] https://www.aoml.noaa.gov/general/lib/CREWS/Cleo/St.%20Croix/salt_river11.pdf
[4] https://www.facebook.com/matiponblog/photos/a.255101608033386/580687202141490/
[5] https://en.wikipedia.org/wiki/Fishing_light_attractor
light wavelength 在 Evelyn Marieta Facebook 的精選貼文
Some of my friends used to wonder why in the same holiday, they got a sunburn but I don't lol 🧛🏻♀ So, let me share with you guys, my tips to protect our skin in the sun 🐥
This is a non-sponsored post btw, just a PSA.
1. Don’t just use sun protection but also know which type you’re using.
It’s important because different type of protection works differently.
☀ Physical sunblock (Titanium Dioxide and Zinc Oxide) works like a protective shield.
Use right before you go out in the sun and reapply every 2 hours.
☀ Chemical sunscreen (methoxycinnamate, oxybenzone, etc) works by first allowing the UV Rays to penetrate to skin then transforming it into non-damaging wavelength of light and heat
You need to apply 20 minutes before heading out in the sun to activate. If you use right before you go out, then for the first 20 minutes you basically don't have sun protection.
Reapply every 2 hours
2. Use enough amount of sunblock/ sunscreen.
Use at least 1/3 to 1/2 of a teaspoon. So... NO, your foundation or powder with SPF will NOT be enough to protect your skin.
Simply because you won’t be using half of a teaspoon of foundation on your face
What I look for in a sun protection is physical (mineral) sunscreen. As long as they have Zinc Oxide and Titanium Dioxide listed as high as possible in the ingredient list. My sensitive skin tends to react quite badly with chemical sunscreen :(
I'm still partial whether I'm ok or not with nano sized minerals, because non-nano minerals gives quite an unbearable white cast.
Plenty of other sun protection tips but I’ll keep that for another day. You can also ask me anything below and I try to do some research for ya ⛱
light wavelength 在 Marc Yam Youtube 的精選貼文
Section III Wave Motion
3.2.6 Light: Wave Nature of Light
Derivation of Grating Equation
light wavelength 在 Marc Yam Youtube 的最讚貼文
Section III Wave Motion
3.2.6 Light: Wave Nature of Light
Diffraction Grating
light wavelength 在 Marc Yam Youtube 的最讚貼文
Section III Wave Motion
3.2.6 Light: Wave Nature of Light
Derivation of Young's Double-slit Experiment
light wavelength 在 Visible Light | Science Mission Directorate 的相關結果
The visible light spectrum is the segment of the electromagnetic spectrum that the human eye can view. More simply, this range of wavelengths is called ... ... <看更多>
light wavelength 在 Visible Light Spectrum: From a Lighting Manufacturer's ... 的相關結果
A wavelength is the horizontal distance between the two peaks of the wave. Light is measured by its wavelength (in nanometers). It is usually ... ... <看更多>
light wavelength 在 Light - Wikipedia 的相關結果
Visible light is usually defined as having wavelengths in the range of 400–700 nanometres (nm), between the infrared (with longer wavelengths) and the ... ... <看更多>