“God conceals the revelation of his word in the hiding place of his glory. But the honor of kings is revealed by how they thoroughly search out the deeper meaning of all that God says.” (Proverbs 25:2 TPT)
Pass the Bible to language “experts’ who are unbelievers and they will find all sorts of so-called contradictions in it.
The Bible is so precious because it’s a book that needs the Holy Spirit to unlock the revelations within.
It takes a child of God who has the indwelling of the Holy Spirit to understand God’s word and to preach its meaning to the unsaved and uninitiated.
You can’t just read the Bible like it’s any other book. The Holy Spirit must open your eyes and mind to understand the word.
Most unbelievers I’ve spoken to think that Christianity is all about keeping rules and regulations and obeying the Ten Commandments.
Why is this so? It’s because our fleshly minds understand the concept of “eye for an eye, tooth for a tooth”—in other words, “you get what you deserve”.
However the unspiritual man cannot understand Grace, since Grace is the unmerited favor of God, and the flesh lusts against the things of God.
The flesh wants to earn its accomplishments, to boast in its own strength.
Sadly, there are still some well-meaning Christians who are preaching this fleshly message of obedience to the Law.
It’s because they read God’s word with their mind, interpreting it by man’s understanding, without actively seeking revelation through the Holy Spirit inside them.
It’s strange that the legalists who champion keeping the Law never practice the following passage themselves:
“If your hand or your foot causes you to stumble, cut it off, and cast it from you. It is better for you to enter into life maimed or crippled, rather than having two hands or two feet to be cast into the eternal fire. If your eye causes you to stumble, pluck it out, and cast it from you. It is better for you to enter into life with one eye, rather than having two eyes to be cast into the Gehenna of fire.” (Matthew 18:8-9 WEB)
Dear legalist, if you take Jesus’ “red letter words” seriously, then why aren’t you cutting off your hands and feet when they cause you to sin?
Why aren’t you gouging out your eyes when they cause you to lust, covet or hate?
Self-righteous, legalistic folks spiritualize the difficult parts to suit their doctrine. When it’s inconvenient or impossible for them, they just ignore it.
These kinds of hypocrites were Jesus’ main opponents during His earthly ministry.
Ask the Holy Spirit to open your eyes to the Gospel of Grace which is the revelation of God’s great love for mankind.
He will show you that forgiveness of sins, peace with God, and every blessing has been purchased through the precious blood of Jesus Christ that was shed at the cross.
Today we only need to receive God’s goodness by faith—believing in your heart and confessing it with your mouth.
Let the scales of religion fall off your eyes, so that you may see God’s word clearly through the lens of Grace.
I want to recommend my 4-eBook bundle which teaches the four gospels through the lens of Grace.
In it, every parable, miracle and saying of Jesus Christ is explained so that you won’t be confused any longer.
When you read the four gospels the right way, you’ll be encouraged by God’s love without feeling any sense of condemnation towards you!
A customer who bought this bundle, Linda, said this about it: “Well worth the money. Wish I had done it sooner. Wonderful study.”
Get your copy here ===>
https://www.miltongoh.net/store/p18/understand-the-four-gospels-through-the-lens-of-grace.html
#UnderstandtheFourGospels #GospelofGrace
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「open your mouth meaning」的推薦目錄:
- 關於open your mouth meaning 在 Milton Goh Blog and Sermon Notes Facebook 的最讚貼文
- 關於open your mouth meaning 在 Roundfinger Facebook 的精選貼文
- 關於open your mouth meaning 在 Roundfinger Facebook 的最佳貼文
- 關於open your mouth meaning 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最讚貼文
- 關於open your mouth meaning 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
- 關於open your mouth meaning 在 大象中醫 Youtube 的最讚貼文
open your mouth meaning 在 Roundfinger Facebook 的精選貼文
สำหรับคนที่ไม่ได้อ่านเมื่อเช้าครับ :)
1
ทันทีที่อ่านบทสัมภาษณ์พี่โน้ต-อุดม แต้พานิชใน The Cloud จบลง ผมก็ส่งข้อความไปหาพี่โน้ตทันทีว่าอ่านแล้วชอบมาก
ที่ชอบเพราะหลายคำตอบในนั้นทำให้เห็น "คำตอบ" ที่มาพร้อม "ความอาวุโส" ของชีวิต
พูดถึง "ความอาวุโส" นี้ผมไม่คิดว่าเกี่ยวกับ "อายุ" หากเกี่ยวกับความรู้สึก "อยู่มานาน" ซึ่งแต่ละคนมีไม่เท่ากัน ตามทฤษฎีด้านเวลา-หากชีวิตใครผ่านเหตุการณ์หรือประสบการณ์มามากจะรู้สึกว่าตัวเอง "ผ่านเวลา" มานานกว่าคนที่มีเหตุการณ์ในชีวิตน้อยกว่า
ชีวิตที่ "eventful" จึง "อาวุโส"
นอกจากนั้นผมยังแอบคิดอีกว่าการแบกรับภาระของ "ความดัง" ไว้บนบ่าก็ทำให้คนเรา "อาวุโส" ได้เช่นกัน เชื่อว่าน้องๆ BNK48 ทั้งหลายเมื่อผ่านไปสามปีก็จะมีความ "อาวุโส" ในหัวใจมากกว่าคนวัยเดียวกันทั่วๆ ไป
"อาวุโส" จึงไม่เท่ากับ "ชรา"
แต่อาจนำมาซึ่งความเข้าใจชีวิต
...
2
“แต่ก่อนผมไม่ค่อยระวังตัว ถ้าเป็นช่วง 30 เราพรั่งพรูออกไปแล้วเดี๋ยวเกิดอะไรก็เรื่องของมึง ทั้งที่ผมไม่ต้องพูดประโยคนั้นก็ได้ ไม่ต้องมีใครเดือดร้อน ตอนนี้ผมพยายามเลือกคำ มีความใจเขาใจเราอยู่”
นี่เป็นหนึ่งคำตอบธรรมดาๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงระหว่าง "วัยห่าม" กับ "วัยนิ่ง"
"ศูนย์กลาง" เปลี่ยนไปจากตัวเองไปอยู่ที่คนอื่น การก่นด่าโลกเปลี่ยนไปเป็นการทำงานกับตัวเองภายใน
...
3
ท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับไวชวนปวดหัว หลายอาชีพล้มหายตายจาก โอกาสเหมือนมีให้ไขว่คว้าเต็มไปหมด แต่คว้ามาแล้วไม่นานก็หลุดมือไปอีก เจอคู่แข่งใหม่ๆ ผุดขึ้นเป็นดอกเห็น พี่โน้ตพบคำตอบของตัวเองว่า "ให้ทำเรื่องเล็กๆ อยู่ในที่เล็กๆ ของเราก็สามารถอยู่ได้"
เขายกตัวอย่าง "จิโร่" คุณลุงนักทำซูชิระดับเทพ ที่ทำซูชิเสียจนกลายเป็น "ศิลปะ" ผู้คนรอต่อคิวเป็นเดือนๆ ขายในราคาที่แพงกว่าซูชิทั่วไป
ส่วนตัวแล้วผมสนใจคำว่า "เล็กๆ" ที่ออกจากปากของคนระดับซูเปอร์สตาร์ ผมเดาว่าแต่ก่อนพี่โน้ตน่าจะเคยรู้สึกว่า "เดี่ยว" ของเขานั้นไม่ใช่งานเล็ก กระทั่งอาจมีบางช่วงวัยที่อยากขยายตัวเองให้ครอบคลุมพื้นที่ออกไปให้มากที่สุด
แต่ในโลกที่ขยายตัวออกทุกวินาที พี่โน้ตกลับเห็นสิ่งที่ตัวเองทำเป็นเพียง "เรื่องเล็กๆ" ซึ่งอยู่ใน "ที่เล็กๆ ของเรา"
...
4
คำว่า "ที่เล็กๆ ของเรา" ก็สำคัญ ในโลกทุกวันนี้เราต้องหา "ที่แห่งนั้น" ให้เจอ ซึ่งจะว่าไปอาจไม่ควรใช้คำว่า "หา" แต่ควรใช้คำว่า "สร้าง" ที่แห่งนั้นขึ้นมาเสียมากกว่า
ไม่ได้ "สร้าง" แบบเร่งรีบ ขอไปที แต่สร้างแบบพิถีพิถัน ค่อยเป็นค่อยไป ประณีตบรรจง ใส่ใจ ทุ่มเท แล้ว "ที่เล็กๆ ของเรา" จะค่อยๆ เกิดขึ้นมา และเปิดโอกาสให้เราได้หยัดยืนบนผืนโลกที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลง
พี่โน้ตตอบข้อความกลับมาว่า "ผมเพิ่งเข้าไปอ่านบทสัมภาษณ์ของพี่บอยโกซึ่งอยู่ถัดจากบทสัมภาษณ์ของผม สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือว่าคล้ายคลึงกันในความคิดความรู้สึกอย่างมาก มันน่าจะเป็นเช่นนี้ใช่ไหมสำหรับคนอายุ 50"
ผมคลิกตามเข้าไปอ่านบทสัมภาษณ์พี่บอยใน The Cloud ซึ่งพูดถึงการละวางจากชื่อเสียง ความไม่เที่ยงของมัน แต่สิ่งที่คล้ายกันกับคำตอบของพี่โน้ตมากก็คือความรู้สึกอยากทำงานไปจนตาย ถึงขั้นพูดว่า "ตอนตายต้องตายในห้องอัด หรือกำลังทำเพลงแล้วก็หัวใจวายตาย พีกดี ถ้าเป็นแบบนี้สำหรับเรามันเป็น Happy Ending"
ขณะที่พี่โน้ตพูดถึงการทำงานว่าไม่ได้ทำเพื่อให้คนมายกย่องว่าสุดยอด ไม่ได้เปรียบเทียบกับตัวเองในครั้งที่ผ่านๆ มา แต่ทำเพื่อ "ดำเนินต่อไป" ทำเพราะรักที่จะทำ และกระบวนการที่เอาใจใส่ในการพูดการซ้อมเพื่อให้ได้ "ซูชิ" ที่ดีที่สุดนี่เองที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย
อีกจุดที่น่าสนใจคือ เนื้อแท้ของการทำงานนั้นไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแบบเดิมแล้ว แต่ทำเพื่อคนอื่น ตั้งใจทำเพื่อให้คนอื่นมีความสุข คล้ายกับพี่บอยโกที่อยากเขียนเพลงเพื่อชโลมหัวใจคน เมื่อทำงานด้วยทัศนคติแบบนี้ "ความเจ๋ง" ก็เป็นเรื่องเล็ก และ "น้ำหนัก" ของการเปรียบเทียบทั้งกับตัวเองและคนอื่นที่แบกไว้บนบ่าก็เบาลงทันที
เรา "คราฟต์" ผลงานของเราเพื่อรอยยิ้มของคนที่ได้สัมผัสผลงานนั้น
...
5
เมื่อคราฟต์ผลงาน ชีวิตเราจะคราฟต์ตามไปด้วย ประณีตตามไปด้วย เราไม่ได้ทำทุกสิ่งที่ทำได้ แต่เราจะทำเฉพาะสิ่งที่รักและตั้งใจทำให้ดีที่สุด
ชีวิตเช่นนี้ย่อม "คัดสรร" สิ่งที่เห็นแล้วว่ามีคุณค่าของตัวเองและคนอื่น มิใช่ทำทุกอย่างที่โอกาสเปิดกว้างให้ทำ
ไม่พยายามยืดแขนขาออกไปครอบครองอาณาจักรใหญ่โต แต่เข้มข้นที่สุด บรรจงที่สุดกับ "ที่เล็กๆ ของเรา" และตั้งใจทำ "สิ่งเล็กๆ" นั้นให้ดีที่สุด แล้ววันหนึ่ง "สิ่งเล็กๆ" นั้นจะผลิดอกออกผลทำให้เราอยู่ได้
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ การตั้งใจทำ "หนึ่งสิ่ง" ให้ดีสุดฝีมือนั้นทำให้ทุกวันมีความหมายมากกว่าการทำ "ทุกสิ่ง" แล้วความสนใจ พลังงาน ความสามารถกระจัดกระจายเสียจนสัมผัสไม่ได้ถึงคุณค่าของสิ่งนั้นและคุณค่าของตัวเอง
เมื่อตั้งใจทำงาน เราจะรู้สึกทันทีว่าตัวเรามีคุณค่า
เมื่อทำแบบผ่านๆ ไป ขอไปที เราจะรู้สึกว่าชีวิตช่างไร้ความหมาย
...
6
ในหนังสือ "ฮารูกิ มูราคามิ ไปพบ ฮายาโอะ คาวาอิ" มีประเด็นหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ นั่นคือเรื่อง "คอมมิตเมนต์" หรือการทุ่มเทตน
คุณคาวาอิบอกว่า คนหนุ่มสาวเดี๋ยวนี้จะรู้สึกว่าสภาพ "ดีแทชเมนต์" (การไม่ยึดโยงเข้ากับอะไร/อิสรภาพ) เป็นเรื่องที่คูลและเท่ ส่วนมูราคามิบอกว่า เขาให้ความสำคัญกับคอมมิตเมนต์มากขึ้นเรื่อยๆ
ผมตั้งข้อสังเกตเอาเองว่า ด้วยความเร็วของเทคโนโลยีและข้อมูลข่าวสารล้นทะลักเช่นนี้ ผู้คน "จ่มตัวเอง" ลงไปในสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ยากขึ้นเรื่อยๆ เราหลงใหลคลั่งไคล้และให้เวลาด่ำดิ่งลงไปในสิ่งที่รัก สิ่งที่มุ่งมาดปรารถนากันอย่างยาวนานน้อยลงเรื่อยๆ ทำสิ่งหนึ่งได้แป๊บหนึ่งเดี๋ยวก็เปลี่ยนไปทำอีกอย่างหนึ่งแล้ว หรือไม่ก็ทำงานชิ้นเล็กๆ แบบรวดเร็วให้จบไปในแต่ละวัน จึงยากมากที่จะมีโอกาสได้สร้างสรรค์งานที่ประณีตบรรจงซึ่งต้องอาศัยการ "คอมมิต" ตัวเองกับสิ่งนั้นอย่างจ่มจ่อเนิ่นนาน
การที่เราทำงานแบบ "ผ่านไปวันๆ" นี่เองที่ทำให้เรารู้สึกว่างเปล่ากับชีวิต ความคิดอยาก "ดีแทช" ตัวเองจากทุกอย่างนี่เองที่ทำให้เรา "เหงา"
ชีวิตที่มีความหมายคือชีวิตที่ปักหลัก จมจ่อ ใส่ใจ ขัดเกลา ทำเกินร้อย สร้างงานที่ทำอยู่ให้เป็น "งานคราฟต์" ไม่ว่างานนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม
แทนที่จะใฝ่หา "อิสระ" ทางการงานหรือการเงิน สิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมายกลับกลายเป็นการ "ผูกมัด" ตัวเองเข้ากับสิ่งที่เราเห็นว่ามีคุณค่าต่างหาก
แทนที่จะคิดถึงการ "ลาออก" สิ่งที่ทำให้ชีวิตเบิกบานอาจเป็นการ "ทุ่มเท" ให้งานที่ทำอยู่กลายเป็นสิ่งที่มีความหมายในชีวิตให้จงได้
...
7
กระนั้นคุณคาวาอิก็แนะนำว่า "คนเราควรใช้ชีวิตไปกับสิ่งที่สำคัญที่สุดของตน...อัตลักษณ์จะปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ ระหว่างมีชีวิตไป"
สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในโลกที่เต็มไปด้วยทางเลือกเช่นทุกวันนี้คือการตัด คัดทิ้ง และคอมมิตเฉพาะสิ่งที่สำคัญ
บังเอิญเหลือเกินที่หนังสือ "อิคิไก" ของเคน โมงิ ก็ยกตัวอย่างเรื่องซูชิของคุณลุงจิโร่ เริ่มเล็กๆ จดจ่อกับสิ่งนั้น ปั้นมันให้เป็นคราฟต์ ไปให้ไกลกว่าที่ตลาดต้องการ ทำให้มีคุณภาพยิ่งกว่าที่จำเป็น แล้วงานนั้นจะค่อยๆ พาเราเข้าไปอยู่ในภาวะลื่นไหล แล้วเราจะอยากตื่นขึ้นมาทำงานนั้น
"งานเล็กๆ" ใน "ที่เล็กๆ ของเรา"
คุณลุงจิโร่ก็พูดคล้ายพี่บอยโกว่า จะขอตายตอนปั้นซูชินี่แหละ
...
8
ชีวิตของผมเองตอนนี้ตัดเหลือสามสิ่งสำคัญ หนึ่งคือร่างกาย สองคือการงาน สามคือความสัมพันธ์
ร่างกาย-ผมคอมมิตกับตัวเองว่าจะวิ่งมาราธอนเป็นระยะ ทำให้ต้องซ้อมอย่างต่อเนื่อง อยากวิ่งให้ดีขึ้นเรื่อยๆ และพยายามจะ "คราฟต์" การวิ่งให้ค่อยๆ สวยงามขึ้นในแง่สถิติทั้งหลาย
การงาน-หลังจากเปลี่ยนวิธีการ ตัดการงานเล็กน้อยออกไป ใช้เวลาเขียนหนังสือเล่มหนาๆ ผมพบว่าตัวเองมีพลัง มีภาวะลื่นไหล และมีสมาธิกับงานแบบนี้อย่างมาก ที่สำคัญกว่านั้นผมรู้สึกมีความสุขกับงานที่ทำ และชอบผลงานที่สำเร็จออกมามากกว่าตอนทำงานชิ้นเล็กๆ ที่มีปริมาณมากแต่คุณภาพอาจไม่เข้มข้น
ความสัมพันธ์-เมื่อคัดสรรงานและกิจกรรมให้เหลือแต่สิ่งสำคัญ เวลาที่มากขึ้นจึงมอบให้คนใกล้ชิดและมิตรสหายได้มากขึ้น ซึ่งความสัมพันธ์ที่ดีย่อมทำให้ชีวิตมีพลังไปดูแลร่างกายและสร้างสรรค์ผลงานต่อไป
ช่วงสองปีที่ผ่านมา ผมได้เรียนรู้ว่า ชีวิตที่ดีนั้นไม่ต้องเปรียบเทียบกับใคร กระทั่งเปรียบเทียบกับตัวเองในอดีต งานที่ดีคืองานที่เราพร้อมทุ่มเท จดจ่อ และอยากพัฒนาให้มันดีที่สุด จะทำแบบนั้นได้ต้องปล่อยมือจากงานที่ "อยากทำ" แต่ไม่ "อยากที่สุด" เสียบ้าง การทำเช่นนี้อย่างต่อเนื่องจะทำให้เรารู้สึกอยากตื่นขึ้นมาเพื่อ "ขัดเกลา" สิ่งนั้นให้ดีขึ้นเรื่อยๆ
ใช่แหละ, เราอาจยังทำได้ไม่ดีที่สุดในตอนต้น เหมือนการวิ่งที่ยังไม่ดีนัก แต่ถ้าทำไปเรื่อยๆ เราจะค่อยๆ เห็นผลในการงานที่ทำ ขอเพียงแค่อย่ารีบปล่อยมือจากมัน
"งานเล็กๆ" ในสายตาคนอื่น อาจมีคุณค่ามากสำหรับชีวิตเรา เพราะมันจะค่อยๆ ถางทางให้เกิด "ที่เล็กๆ ของเรา" ขึ้นมาได้
เราไม่ได้ต้องการคนทั้งโลกหรือทั้งประเทศ หรือมากมายอะไรเพื่อทำให้การงานที่เรารักนั้นดำเนินต่อไปได้ เราต้องการแค่ "จำนวนหนึ่ง" ซึ่งมากพอ
"จำนวนหนึ่ง" ที่ต่อแถวรอเข้าร้านซูชิร้านเล็กๆ ของเรา
แต่สิ่งนั้นมิได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน มันอาศัยการยืนระยะ กัดไม่ปล่อย และทำสุดหัวใจและฝีมือ จนกว่าจะได้ "ซูชิ" ที่อร่อยที่สุด
แต่มันคุ้มที่จะ "คอมมิต" กับอะไรสักอย่าง เพราะชีวิตที่ไม่คอมมิตกับอะไรอย่างจริงจังนั้นช่างว่างเปล่าและไร้ความหมาย
หาสิ่งที่จะประณีตกับมัน ทำสุดหัวใจ
แล้วชีวิตเราจะมีความหมาย
แล้วชีวิตจะกลายเป็น "ศิลปะ" ในตัวมันเอง
1
As soon as I read the interview, brother note-udomtae panich in the cloud ended, I sent a message to brother note that I like it very much.
I like it because many answers in it makes me see the " answer " that comes with " Seniority " of life.
Speaking of this " Seniority " I don't think it's about " age " if it's about feeling " for a long time " that each person has not equal in theory - if someone's life has been through many events or experiences, you will feel like they are " through time " With less life events
" eventful " life is " Senior "
Besides, I secretly think that carrying the burden of " famous " on my shoulder can also make people " Senior " too. I believe that bnk48 sisters, there will be more " Senior " in the heart than the same age.
" Senior " is not equal to " old age "
But may bring understanding life
...
2
"before I wasn't careful. If it's 30, we were out. Whatever happens, it's your business. Even if I don't have to say that sentence. No one needs to be in trouble. Now I'm trying to choose a word to have his heart."
This is one normal answer that shows the change between " age " and " young age
"Center" has changed from yourself to other people. Cursing the world has changed to work with yourself within.
...
3
In the midst of a world that changes quickly, many careers fall away from opportunities. It seems like there are plenty of them. But I have snatched it. Soon, I found a new rival. I see brother note found his answer, " to do small things in Our small place can live "
For example, " Jiro " Uncle, a great sushi maker who made sushi to become " Art people have been waiting for months to sell at more expensive than normal sushi.
Personally, I am interested in the word " small " that comes out of superstar's mouth. I guess brother note should have felt that his " solo " is not a small job, even some ages that I want to extend himself to cover. Space out as much as possible
But in a world that expands every second, brother note sees what he does is just " small things " that are in our " small place "
...
4
The Word " our small place " is important in the world. Nowadays, we need to find " that place " that we should not use the word " find " but we should use the word " build " place to lose.
I don't " build " in a hustle, but it's a meticulously, gradually, delicately. We are dedicated. " our little place " will slowly happen and open the opportunity for us to stand on a world full of change.
Brother note replied, " I just read brother boy ko's interview next to my interview. The surprise thing is that it's very similar in my thoughts. It should be like this for a 50 year old
I clicked to read the interview of brother boy in the cloud, which talks about his reputation, but the similar thing with brother note's answer is that I want to work until he said " when I die, I die in the room. Recording or making music and having a heart attack. If it's like this for me, it's happy ending "
While brother note talks about working that he didn't do it to make people say that it's awesome. It doesn't compare to himself in the past time, but he does it to " continue " do it because he loves to do it and the best " process of speaking rehearsal to get the best " Sushi " that makes it Life has meaning
Another interesting point is that the real texture of work is not doing it for yourself, but do it for others. Focus on doing it to make others happy. Similar to brother boy who wants to write a song to help people's heart when working with this kind of attitude " cool " it's a small thing and the " weight " of comparing both myself and others who carry on the shoulder is lighter immediately.
We "Craft" our work for the smile of those who have touched that work.
...
5
When craft our life will craft followed by exquisite. We do not do everything we can, but we will do only what we love and focus on doing our best.
Life like this will "choose" what you see that you have value for yourself and others, not doing everything that you have an open opportunity to do.
Not trying to stretch out limbs to possess the biggest kingdom, but the most intense with " our little place " and focus on doing our best " small things " and one day " small things " will be bloomed to make us live.
More importantly, it is to do your best " one thing " makes every day more meaningful than doing " everything " and attention, energy, ability is scattered that you can't feel the value of that and your own value.
When we focus on working, we will immediately feel that we are valuable.
When I do it through, please ask for it. I will feel that life is meaningless.
...
6
In the book " Haruki Murami to meet hayao kawai there is one point about it. is " commissioned " or dedication.
Mr. Kawaii said that young people will now feel "Dtachmentum" (Non-connected to anything / freedom) is cool and cool. Murami says he values the commissions. More and more and more.
I have noticed that with the speed of technology and information overflow like this, people "dipping themselves" into something. We are passionate, crazy and give time to go down to what they love what you are focused. Let's wish for less and less. Do one thing. You will change. Do another thing or work quickly. Each day. It's very difficult to have a chance to create exquisite work that requires " commit. " myself with that for a long time.
The way we work like " through day " makes us feel empty with our life. I want to " Dtash " from everything that makes us " lonely "
A meaningful life is a life that settles down, purify, do more than a hundred. Create a "Craft" whatever the work is.
Instead of seeking " freedom " in work or finance, what makes life meaningful becomes " binding " to what we see valuable.
Instead of thinking about " quitting " what makes life cheerful, it may be " dedicated " to the work that you do become meaningful in life.
...
7
Mr. Kawaii also suggested that " people should live with their most important things... identity will become clearer while living...
What is absolutely necessary in a world full of choices such as these days is to cut off and commissions only what matters.
It's a coincidence that keni's "Ikikai" book. For example, Uncle Jiro's sushi started small. Focus on it into a craft further than the market wants to make it even more quality than necessary. And that job will slowly take us into slippery and we will want to wake up to that job
" small job " in our " little place "
Uncle Jiro said it's like brother boy ko that he would want to die when she made sushi.
...
8
My life is now cut down to three important things. One is the body. Two is work. Three is relationship.
My body - I commissioned myself that I would run a marathon periodically. I have to practice continuously. I want to run better and try to "Craft" running slowly getting more beautiful in terms of statistics.
Work - after changing the way to cut off a little work out to write a thick book, I found myself powerful, fluidity and focused on this kind of work. More importantly, I feel happy with the work and prefer the work done more than working. Small pieces with large quantities but quality may not be intense.
Relationships - when selecting jobs and activities are important, more time gives more people closer and friends. Good relationships make life powerful to take care of your body and create the work.
In the past two years, I have learned that a good life doesn't have to compare to anyone. Even compare to myself in the past. Good work is a job that we are ready to focus on and want to develop the best. We can do that. We have to let go of the work that I want to do " but I don't want to do the most doing this continuously will make us feel like waking up to " purify " that thing better.
Yes, we may not do our best at the beginning. It's like a bad run. But if we keep doing it, we will gradually see the result in the work that we do. Just don't rush to let go of it.
" small work " in other people's eyes may be very valuable for our lives because it will slowly squatter the way to " our small place "
We don't need the whole world or the whole country or anything to make our loved work continue. We only need "a number" which is enough.
"a number" in line waiting to enter our little sushi shop
But that doesn't happen overnight. It lives standing, biting, not letting go and doing all my heart and skill until the most delicious "Sushi"
But it's worth "commissioned" with something because life that doesn't commissioned with anything seriously is empty and meaningless.
Find something to be exquisite with it. Do with all my heart.
And our lives will have meaning.
Then life will become "Art" in itself.Translated
open your mouth meaning 在 Roundfinger Facebook 的最佳貼文
10 ข้อ ถนอมความรัก
---
1. เป็นเพื่อนที่รักกัน:
หากลองสังเกตดู เราผิดใจกับเพื่อนน้อยกว่าคนรัก แถมยังคืนดีง่ายกว่า นั่นเป็นเพราะว่าเรามักคาดหวังกับคนรักมากกว่าเพื่อน กระนั้น-ความสวยงามของคนรักมีอยู่ว่ายิ่งนานวันไป ความหวานจะค่อยๆ จางลงกลายเป็นความผูกพัน เหมือนเพื่อนสนิทที่ "รู้กัน" นั่นคือข้อดี เพราะเมื่อเป็นเพื่อนกันแล้วเราจะคาดหวังน้อยลง หายโกรธง่ายขึ้น แต่เพื่อนคนนี้สำคัญกว่าคนอื่น เพราะเขาคือ "เพื่อนชีวิต"
...Continue Reading10 items to take care of love.
---
1. Be friends who love each other:
If you notice, we are less wrong with friends, love, and it's easier to return. That's because we always expect more than friends. - the beauty of lovers are that the longer the more days, sweetness will slowly fade into bonding like Best friends who " know " is the good thing because when we are friends, we will expect less. It's easier to get angry. But this friend is more important than others because they are " life friend "
...
2. Love each other, not to compete with each other. Do good:
Some people like to note that between themselves and love "do good things" but in the area of love is not the race track. Relationships are available and swap around. When we often see their goodness. See the goodness of the goodness. The other one may be me. I can overlook the good things that they do because in that moment we are blind from anger.
...
3. sorry and thank you:
Two simple words, but often fade away when we are in a relationship for a long time. Apology seems to fall out of the mouth. Sometimes I know that you are wrong for lovers. There is no dignity. Sorry will help heal the wound instead of letting go of chronic wound. It's difficult to heal. Thank you is another love. It shows that we are important and good things that they give. These two magic spells often have a smooth relationship.
...
4. Let the irritability go away with the night:
A good relationship is to find a way to get back, not to let one side. Many elders always teach that no matter what happens, no matter who is wrong or right. When both fall asleep. One morning should fade away and find a way. Good night. Start a new story with sunrise.
...
5. Be a power to each other:
We feel good when we are near, always a " dream support " listen to anyone. Don't rush to the dream, but encourage us to think " for recharge each other, not weaken each other. When we are close, we are close, there is powerful. We will want to tell him stories.
...
6. Be a sponge to suffer:
Apart from recharging positive, good lovers often absorb negative power from the other's mind. Listening without judgement. Open the space for the other to speak all. Finally he may show fragile or Your own mistakes should be the safest area in the world. Even if the whole world doesn't understand, there is one person who is ready to understand and listen.
...
Lol laugh at small frustrating:
People are often irritated with repeated habits that often annoy. Sometimes it's very small things. Some couples are frustrated that the other people don't close the lid from honey. Sometimes it's a big. If it's possible, try to laugh at these small things and think about it. There is no difference in his corner. We may be born to close the toothpaste cover for him. He was born to keep our favorite mug that we have to be together like to be together like this. But if you can think like this. Don't have to be upset with small things.
...
8. sit in time machine:
Let's go back to talk about when we just know each other. Open old photos, play, pick up the same gift to dusting the house. Pick up the book that we used to read again. These conversations help the relationship not get old by time. In fact, we are. We have good memories together. Let's think back.
...
9. Be part of each other's dreams:
Even if we are not in with our lovers. Whether it's running, listening to music, taking photos, cooking, snorkeling, cuddle, etc. We can join what our lovers are too. It's a lot of time together. In new activities, of course he is part of our crazy activities too.
...
10. Don't expect happiness:
There is a life of love with the angle. This is part of life lessons that will give us the hope, no freedom. Practice our mind to know how to know how to forgive, have mercy, reduce ego to admit that no one is ours and we rely on. Not everything. If you can look at love with glasses like this, we can live with some unbeautiful moments of love. This is the opportunity to practice the mind. Learn suffering from the most, which may be the most painful or the most angry. But this is The best lesson like this. Bad times will be one of life. If both of the smooth mind, they can go through the relationship without traumatized. When suffering passes, happiness will come back. Walking around like this as usual
...
All of these are not easy, and it is not " technique " if it is " practice " that people in love, because the relationship is not different from anything else in the world. There are beautiful and the cuddle ugly. Knowing each other well means seeing around the side.
Love always comes with responsibility and mental duty. Love is always caused by two people. It may start with one person. But when there is no solution. That means both of them can't pass the exam. It's not passed. It's not wrong. What is everyone on the path of learning to love, which couples are always through their mind purifying together.
In some dimensions, being together may not be happier than being alone, but in some dimensions, being together makes you feel more meaning. The meaning is because we are not alone.
Not every love is worth keeping, but for love worth keeping and neglected is a shame.
On the day that we feel "love each other" is not the last day if it's just the first day of the beginning to learn to love that person on the day he is not cute either. He has to learn to love us on the day
I have passed this story again and again. Then I said "love each other" but even then we didn't care about this word.
Because it's a single flesh with two people's lives.Translated