สิ่งแรกที่คุณควรจะทำหลังจากได้ฤกษ์แต่งงาน คืออะไร ?
เกือบร้อยทั้งร้อยที่ผมเจอมาในเวลาหลายๆปีคือ.......หาโรงแรม..... ซึ่งผมว่าผิด...... ผมไม่เถียงว่าถ้าไม่มีโรงแรมก่อนแล้วจะเริ่มงานส่วนอื่นๆได้ยังไง แต่ลองนึกภาพวันแต่งงานที่มีคนมาเยอะกว่าที่เราคาดไว้ เยอะเกินกว่าพื้นที่ห้องที่จะบรรจุคนได้ แขกเข้าไปไม่ถึงอาหาร(เพราะคนเยอะเกิน) สั่งอาหารไม่พอกับจำนวนแขก (โดนนินทาลับหลังอีกว่างก) ของชำร่วยไม่พอ(โดนแขกป้าๆในงานบ่นแน่ๆ) การ์ดต้องพิมพ์ใหม่หลายรอบ( แพงขึ้นทุกรอบเพราะพิมพ์น้อยลงเรื่อยๆ ) โต๊ะ VIP ไม่พอนั่ง (ผมเคยเห็นประธานเสื้อแดง ได้นั่ง ประธานเสื้อเหลืองไม่มีที่นั่งเพราะมาช้ากว่า และหาที่นั่งไม่ได้) หลายปัญหามากมายถ้าคนมาเยอะเกิน แล้วถ้าคนมาน้อยเกินละครับ อาหารเหลือ( เปลืองเงิน ขาดทุนเห็นๆ ) คนในห้องน้อยจัง ( นี่คนเค้าไม่รักมันเลยหรอเนี้ย ทำไมไม่ค่อยมีคนมาว๊ะ ) ถ่ายรูปออกมาเห็นห้องโล่งๆ คนอยู่กันเป็นหย่อมๆ
ที่ผมยกตัวอย่างมาคร่าวๆเนี้ยก็เพื่อจะบอกว่า ก่อนที่จะทำอย่างอื่น... ลอง List รายชื่อแขกกันดูก่อนมั้ยครับ ผมอยากให้มือใหม่ทุกๆคนเชื่อผมเถอะ ว่ามันมีประโยชน์เยอะมากๆจริงๆครับ ยังไงเราก็ต้องทำ ช้าเร็วเราก็ต้องทำ ต้องList รายชื่อแขกโดยละเอียดอยู่ดีตอนพิมพ์ซองอยู่ดี ทำเลยครับ เน้นผู้ใหญ่ทุกท่านด้วยว่าทำเถอะครับ แล้วสิ่งที่คุณกำลังจะต้องวางแผนกับงานแต่งงานจะมีระบบมากขึ้นมากๆ เช่น ถ้ารู้แน่ๆว่า แขกเรามาไม่น่าต่ำกว่า600- 800คน (ยกตัวอย่าง) ห้องที่เราน่าจะต้องไปดูก็คงไม่ใช่ Residence ที่ Hyatt ไม่ใช่ห้องสุด Hit อย่างห้อง Authors's Lounge โรงแรม Oriental เพราะว่ามันไม่พอแน่ๆ ปัญหาเกิดแน่ๆ ครับ ยิ่งถ้างานเราเป็น โต๊ะจีน ให้ลองถึงภาพว่าคุณกำลังยืนถ่ายรูปกับแขกมากมาย แล้วสายตาก็หันไปเห็นแขกบางกลุ่มยืนรออยู่หน้าห้อง เพราะไม่มีโต๊ะว่างแล้ว ทางโรงแรมก็เพิ่มไม่ได้แล้ว (ปกติโรงแรมจะสำรองให้ได้ 10%ของจำนวนที่สั่งไว้) พอคุณเห็นภาพแบบนั้นแล้ว คุณก็จะเริ่มกังวล เป็นห่วง จะทำยังไงดี ใครจะแก้ปัญหาได้ เพราะคุณเท่านั้นที่รู้ Detailดีว่าต้องคุยกับใครได้ แต่คุณทำเองไม่ได้เพราะคุณต้อง ฝืนยืนยิ้มรับแขกต่อไปด้วยใจห่วงๆ (การมี Wedding Planner(ที่ดี) จะช่วยคุณได้มากๆกับสถาณการณ์แบบนี้) และอย่างที่ผมเคยบอกครับว่า " Worry is the worst thing in wedding " ความกังวลคือตัวร้ายทำลายความสุขของคุณในวันแต่งงาน List รายชื่อดีๆ เช่น นายเอ + นางบี = 1 ซอง แต่ 2คน ทำอย่างนี้กับทุกๆคนที่เราจะเชิญ (อย่าลืมนะครับว่า ช้าเร็วคุณก็ต้องทำ) คุณยังสามารถนึกเล่นๆได้อีกว่า เอ….คู่นี้เค้าน่าจะใส่ซองเท่าไหร่น้าาาา แล้วเอามารวมๆกัน คุณจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้างว่าเงินไม่ได้มีแต่จะออกนะ จะมีเข้ามาบ้างประมาณนี้ ของชำร่วย อาหาร Wedding Card หรือแม้แต่จำนวนบริกรในงาน ประเภทอาหาร หรือเมนู ก็สั่งได้ถูกใจกว่า จำนวนก็เเม่นกว่า (เพราะคุณรู้แล้วว่า คนแก่มาเท่าไหร่ วัยรุ่นเท่าไหร่) แทบจะทุกอย่างคุณจะรู้ก่อนล่วงหน้าครับ แล้วคุณก็จะมีงานแต่งงานที่สนุกสนานมากขึ้นจริงๆ ลองดูครับ แต่ถ้าคุณไม่มีเวลามาคิดเรื่องพวกนี้ จ้าง Wedding Planner เถอะครับ หาที่ดีๆ ไว้ใจได้ ดูกันที่ประสบการณ์ ดูว่าคุยกันรู้เรื่อง ดูว่าระบบการทำงานเป็นยังไง ตัดสินใจแต่แรกเลยว่าจะมีรึเปล่า แล้วให้เค้าทำเลยครับ แล้วคุณก็จะได้สบายๆ มีความสุขกับการเลือกนั้นๆนี้ๆ โดยไม่เครียด (ถ้าคุณมี Wedding Planner ที่ดี) ขอให้เตรียมงานกันให้สนุกครับ งานแต่งงานต้องสนุกตั้งแต่เตรียมงานแล้วนะครับ ไม่ใช่แค่วันงาน
เรื่องจำนวนแขกเป็นเรื่องที่ 1 ใน 3 เรื่องที่ผมยึดเป็นหลักในการทำงาน Wedding Planner ให้ลูกค้าทุกคู่ เรื่องที่2 กับ 3 จะเอามาแนะนำกันอีกครั้งครับ
Search