ชม Live 📹 ทบทวนบทเรียน พร้อม “นักเรียนหน้าห้อง”
.
ทำการบ้านหุ้นไปพร้อมกับ 2 กูรู “โค้ชพี่ป๊อบ และคุณพืช Money HERO” และทบทวนบทเรียนในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งการใช้เทคนิคแม่บ้านญี่ปุ่นเพื่อเรียนรู้ดูอดีต และมองอนาคต รวมถึง “P/E Ratio” อัตราส่วนสำคัญที่นักเทรดหุ้นต้องรู้จัก ห้ามพลาด! ติดตามได้ใน Live เลยค่ะ
.
🧑🏻🏫 สอนโดย : โค้ชพี่ป๊อบ & คุณพืช Money HERO และ HERO Trainer
🦸🏼♂️ ทุกวันพุธที่ 2 และ 4 ของเดือนพบกับแขกรับเชิญพิเศษเวลาเดียวกัน
⏱เวลา 20.00-21.00 น.
.
เข้าร่วมกลุ่มปิดและรับชมย้อนหลังได้ที่ 👉 https://bit.ly/3zYcopE
.
สำหรับท่านที่สนใจสมัครเป็นนักเรียนหน้าห้อง สามารถสมัครได้ที่นี่ 👉 https://bit.ly/3gfZAne
.
สมัครเข้าร่วมโครงการ���พื่อเรียนเทรดหุ้นฟรีตลอดโครงการไ���้ที่ 👉 https://bit.ly/ACADEMYPHUET
-------------------
อ่านรายละเอียดและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
📞 Tel : 02-782-2400
🌐 Website : https://bit.ly/WebHERO
📺 YouTube : https://bit.ly/YouTubeHERO
👉 Line@ : http://bit.ly/LineHERO
💭 Telegram : https://bit.ly/T-HERO
🌀 Twitter : http://bit.ly/TwiiterHERO
#FinansiaHERO #Finansia #ลงทุน #เทรดหุ้น #หุ้น #Stock #Investment #SET #สแกนหุ้น #เทรนด์หุ้น #ซื้อขายหุ้น #FinansiaHEROacademy #นักเทรดคุณภาพ #นักเทรดยอดเยี่ยม #สูตรลับเทรดหุ้น #อัพสกิลเทรดหุ้น #มือใหม่ #เทรดเดอร์
同時也有6部Youtube影片,追蹤數超過78萬的網紅Better Leaf 好葉,也在其Youtube影片中提到,【eToro - 10萬美金體驗】 繁体:https://etoro.tw/3pOZrcl 简体:https://etoro.tw/2ZJDAbt 英文:https://etoro.tw/3dGutRh 好葉投資組合表現:https://etoro.tw/2L7Qmwo 美股投資交流群:http...
p e ratio 在 每日幣研 Facebook 的最佳貼文
【透過鏈上數據平台挖掘優質項目🤓】
加密貨幣市場及區塊鏈產業的價值貴在「開源」,舉凡代幣經濟模型、產品開發技術程式碼,甚至是每個團隊的盈利數字,這些數據我們都能在網路上找到甚至加以分析 📈
鏈上數據平台於近年開始興起,越來越多交易者透過平台提供的數據來分析加密貨幣以及協議的基本面如用戶數、TVL 甚至是本益比(P/E Ratio)來評斷項目潛在價值以輔助投資及交易決策。
#cryptoanalysis #cryptonewbie
🟡 鏈上平台的重要性
- 幫助我們了解現在市場熱點在何處
- 找出有潛在價值,價格尚未反映的厲害項目
- 找出目前過熱的平台或是幣種,趁早退場
🟡 Glassnode 頻繁交易者必看
專注於比特幣鏈上活動的分析平台與研究機構,常用分析指標如鏈上活動變化、巨鯨購買數量及交易所流出流入數量等數據
定期發布報告、youtube 影片等內容,關注市場動向者必看
🟡 Messari - 加密貨幣投資機構持倉,佈局好幫手
除了能夠觀看同一主題幣種(如 DeFi 幣種、隱私類幣種)的漲跌情形之外,還看到各個投資機構的佈局,能夠讓自己站在巨人的肩膀上早一步埋伏具有潛在價值的幣種,此外也能針對各個幣種的實際用處(utility)、代幣經濟、分配比例作進一步的觀看
🟡 Dune Analytics - DeFi 深度數據一覽
Dune Analytics 專注於提供DeFi 協議如使用者變化、TVL變化 以及利率變化等數據的開源平台,用戶也可以自行透過 SQL 創建數據庫,打造自己想使用的數據查詢工具
-------------------------------------------------------------
【Bybit 獨家開戶優惠🎉】
新用戶幣研獨家優惠,只要充值1000USDT即可獲取高達125 USD體驗金(優惠碼【21515】)
註冊及入金教學👉🏻:https://bit.ly/3DPMY0e
「每日幣研|幣市分析&最新優惠」TG Channel 🔍
想了解更多加密貨幣最新市場資訊及優惠的話,歡迎追蹤我們「每日幣研|幣市分析&最新優惠」TG Channel,我們會在群內發佈幣圈第一手消息及分享投資小技巧!馬上加入頻道和我們一起發掘幣圈隱藏商機吧!
立即加入頻道👉🏻:https://bit.ly/2YzVK2p
p e ratio 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
สรุปประเด็นจากกองทุนบัวหลวง “กางกลยุทธ์ พิชิตหุ้นสหรัฐฯ”
BBLAM x ลงทุนแมน
ช่วงเวลาที่ผ่านมา คงไม่มีตลาดหุ้นไหนสามารถทำผลงานได้โดดเด่น อย่างตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา
ที่ทำให้นักลงทุนสัมผัสได้ถึงความร้อนแรง จนเกิดคำถามว่า หลังจากนี้ โอกาสของหุ้นสหรัฐอเมริกาจะเป็นอย่างไร ?
เมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ลงทุนแมน ร่วมพูดคุยกับ 2 ผู้เชี่ยวชาญจากกองทุนบัวหลวง
คือ คุณพูนสิน เพ่งสมบูรณ์ AVP, Portfolio Solutions
และ คุณนวรัตน์ เจียมกิจรุ่ง SVP, Product Development
ถึงประเด็นสำคัญในการลงทุนหุ้นสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลานี้
เรื่องราวสำคัญที่นักลงทุนควรรู้ จะมีอะไรบ้างนั้น ?
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟังเป็นข้อ ๆ แบบเข้าใจง่าย
1. ภาพรวมของเศรษฐกิจและตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา ?
ความร้อนแรงของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาในช่วงที่ผ่านมา เป็นผลมาจาก 2 ปัจจัยหลัก คือ
- นโยบายการเงินการคลัง ที่สามารถส่งต่อไปยังภาคธุรกิจ และภาคการบริโภคได้จริง
- การกลับมาของภาคธุรกิจ ทั้งจากกลุ่มธุรกิจที่เติบโต และกลุ่มธุรกิจที่ฟื้นตัวจากปีก่อน
ประเด็นที่ต้องจับตาต่อจากนี้คือ เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกากำลังเข้าสู่ช่วง Mid Cycle ซึ่งแปลว่า เราอาจจะไม่ได้เห็นการปรับตัวขึ้นแรง ๆ ของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาเหมือนในช่วงที่ผ่านมา
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนจากนี้ไป จึงต้องมีการคัดเลือกหุ้นรายตัว รายกลุ่มอุตสาหกรรมให้มากขึ้น
2. ความน่าสนใจของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา อยู่ที่ตรงไหน ?
ย้อนกลับไปช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาพบปัญหาระหว่างทางมาโดยตลอด
ไม่ว่าจะเป็น สงครามการค้ากับจีน หรือผลกระทบจากวิกฤติโควิด 19 ประกอบกับการเติบโตของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาที่เริ่มตั้งแต่ปี 2009 ก็ดูเหมือนจะจบรอบไปแล้วในปีที่ผ่านมา
ถ้าดูตัวเลข GDP ไตรมาส 2 ปี 2020 ออกมา -30% แต่ที่น่าสนใจก็คือ สหรัฐอเมริกาฟื้นตัวกลับมาได้ค่อนข้างเร็ว โดยเห็นได้จาก GDP ไตรมาส 3 ปี 2020 ปรับตัวขึ้นกลายเป็น +33%
และถ้าหากสังเกตดัชนี S&P 500 ก็ยิ่งฟื้นตัวแรงไม่แพ้กัน
โดยใช้เวลาฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด 19 แค่ 1 เดือนเท่านั้น และก็ยังทำ New High ต่อเนื่อง อย่างในปี 2021 นี้ก็ +20% จากต้นปีอีกด้วย
ซึ่งต่างไปจากวิกฤติซับไพรม์ปี 2007 ที่ต้องใช้ระยะเวลาฟื้นตัวกว่า 18 เดือน แต่เมื่อฟื้นตัวกลับมาได้ ก็ไปต่อได้ดีเช่นกัน
ดังนั้น จุดที่น่าสนใจของตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา เมื่อสังเกตจาก 2 วิกฤติที่ผ่านมาก็คือ เมื่อสหรัฐอเมริกาประสบภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจแล้ว มักจะกลับมาฟื้นตัวได้เร็ว และก็ดีกว่าเดิมเสมอ
3. แล้วจุดขับเคลื่อนสำคัญ ที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาฟื้นตัวได้เร็ว คืออะไร ?
ปัจจัยที่ 1 คือ อำนาจทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ผ่าน 2 เครื่องมือสำคัญ นั่นคือ
- นโยบายทางการเงิน ที่จะช่วยให้ตลาดการเงินของสหรัฐอเมริกายังคงดำเนินต่อไปได้ โดยการซื้อสินทรัพย์ต่าง ๆ ในตลาด เพื่อพยุงราคาไม่ให้ถูกเทขาย
เช่น พันธบัตรรัฐบาล, Mortgage-Backed Securities (ตราสารทางการเงินที่มัดรวมสินเชื่อบ้านเข้าด้วยกัน โดยมีสถาบันการเงินเป็นคนกลางจับคู่ระหว่างผู้กู้ยืมและนักลงทุน), หุ้นกู้ในกลุ่ม Fallen Angels ที่ถูกปรับลดระดับเครดิตต่ำกว่า BBB (Non-Investment Grade)
- นโยบายการคลัง ที่จะช่วยเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา
เช่น การอัดฉีดเงินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐไปให้ชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบจากการว่างงาน
เนื่องจากโครงสร้าง GDP สหรัฐอเมริกามาจากภาคการบริโภค 70%
ดังนั้น หากชาวอเมริกันกลับมาบริโภคได้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจก็จะกลับคืนมาด้วย
แต่ก็ต้องยอมรับว่า ทั้ง 2 นโยบายที่ว่านี้ คงจะมีแต่สหรัฐอเมริกาเท่านั้น ที่สามารถทำได้
หากเป็นประเทศอื่น ๆ เราคงเห็นปัญหาตามมาอีกมากมาย เช่น ประเทศไทยที่มีสัดส่วนการบริโภคแค่ 1 ใน 4 ถ้าหากเราอัดฉีดเม็ดเงินเช่นนั้นก็จะเกิดปัญหาค่าเงินบาทอ่อนหรือปัญหาเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นแรง เป็นผลมาจากการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจที่มากเกินไป
โดยเหตุผลที่สหรัฐอเมริกาสามารถทำเช่นนี้ได้ เพราะความเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจโลกครองสัดส่วน 1 ใน 4 ของมูลค่า GDP โลก และเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ก็ยังเป็นเงินสกุลหลักของการค้าระหว่างประเทศ
ปัจจัยที่ 2 คือ โครงสร้างธุรกิจที่แข็งแกร่งและหลากหลาย ส่งผลให้ภาพรวมฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
หากสังเกตดัชนี S&P 500 จะพบว่า Market Cap. ของกลุ่มเทคโนโลยี 27% สูงเป็นอันดับที่ 1 ถัดมาจะเป็นกลุ่ม Health Care 13% และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย 12% ล้วนเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโต
ที่น่าสนใจคือ เทคโนโลยีของสหรัฐอเมริกา เข้ามามีบทบาทในชีวิตของเราขึ้นเรื่อย ๆ เสมือนเป็นปัจจัยที่ 5 ของชีวิตคนเรา และหลากหลายกลุ่มเทคโนโลยีอนาคตอย่าง Innovation, FinTech, Digital Advertising ยังมีส่วนสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ การจ้างงาน และการแข่งขันในอนาคตอีกด้วย
นอกจากนี้ วิกฤติโควิด 19 ยังเป็นปัจจัยผลักดันการเติบโตของสินค้าเทคโนโลยี และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เช่น การช็อปปิงออนไลน์, การดูวิดีโอสตรีมมิงแทนการเข้าโรงภาพยนตร์
ขณะที่ภาคธุรกิจเอง ก็หันมาให้ความสนใจ Digital Advertising มากกว่าป้ายบิลบอร์ดเดิม ๆ ส่งผลให้ลดต้นทุน, ลดขั้นตอน Supply Chain ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งหมดนี้ จึงทำให้เชื่อว่า หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐอเมริกาจะยังเติบโตตามผลประกอบการต่อไปได้
4. หลังจากการฟื้นตัว ก้าวต่อไปคือการเข้าสู่ Mid Cycle ?
เมื่ออัตราการว่างงานลดลง ซึ่งคาดว่า 8-10 เดือนข้างหน้า ก็จะสามารถกลับเข้าสู่ระดับปกติก่อนเกิดวิกฤติโควิด 19 ได้ ขณะเดียวกัน Fed ก็เริ่มส่งสัญญาณถอนคันเร่งมาตรการกระตุ้น ด้านสวัสดิการว่างงานก็เริ่มลดลง สะท้อนได้ว่า สหรัฐอเมริกากำลังเข้าสู่ช่วง Mid Cycle
ดังนั้น เราน่าจะไม่ได้เห็นสภาพคล่องท่วมตลาดเหมือนอย่างเคยอีกต่อไป
กลยุทธ์การลงทุนในช่วง Mid Cycle จึงต้องเลือกลงทุนหุ้น Growth เช่น หุ้นเทคโนโลยี
หรือลงทุนหุ้นที่จะได้รับผลประโยชน์จากนโยบายภาครัฐ ในโครงการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังผลักดันอยู่ในขณะนี้ เช่น
- American Rescue Plan วงเงิน 1.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเป็นสวัสดิการชดเชยการว่างงาน
- Infrastructure Bill วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ
- American Families Plan วงเงิน 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานมนุษย์
- American Jobs Plan วงเงิน 2.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน, Health Care, อุตสาหกรรม EV, พลังงานสะอาด
- U.S. Innovation and Competition Act วงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อแข่งขันกับจีน
หากโครงการเหล่านี้ได้รับการอนุมัติทั้งหมด จะกลายเป็นเม็ดเงินพัฒนาเศรษฐกิจที่เยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา ที่จะช่วยพัฒนาประเทศระยะยาว 5-10 ปี เลยทีเดียว
5. ตอนนี้ Master Fund ระดับโลก มองการลงทุนหุ้นสหรัฐอเมริกาอย่างไร ?
หลังจากที่กองทุนบัวหลวงได้พูดคุยกับผู้จัดการกองทุน J.P. Morgan หนึ่งใน Master Fund ระดับโลก
พบว่า หากเป็นการลงทุนระยะกลาง J.P. Morgan กำลังพุ่งเป้าไปที่กลุ่มธุรกิจที่จะได้ประโยชน์จากการเปิดเศรษฐกิจหลังจากผ่านวิกฤติโควิด 19 เช่น
- กลุ่มธุรกิจ Reopening ที่เชื่อว่าจะกลับมาฟื้นตัว และได้รับประโยชน์จากความต้องการซื้อที่อัดอั้นมาจากวิกฤติโควิด 19 เช่น การจองโรงแรม, การเช่ารถ, ร้านอาหาร
- กลุ่ม Health Care ทั้งในแง่ของการรับมือกับโควิด 19, การพัฒนาวัคซีน, การวิจัยเชื้อกลายพันธุ์ และพฤติกรรมพร้อมจ่ายของคนเราเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง จึงมองว่ากลุ่มยา และกลุ่ม Biotech ยังเติบโตได้ดี
- กลุ่มพลังงานสะอาด จากการผลักดันนโยบาย EU Green Deal ขณะที่ต้นทุนของพลังงานลม และพลังงานโซลาร์เซลล์ ที่ถูกลงมากเมื่อเทียบกับพลังงานดั้งเดิม รวมทั้งกลุ่มยานยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์กักเก็บพลังงานก็น่าสนใจ
ขณะเดียวกัน หากเป็นการลงทุนระยะยาว J.P. Morgan กำลังจับตากลุ่มธุรกิจที่สอดรับกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในระยะ 5-10 ปีข้างหน้า
ซึ่งนอกจาก 3 กลุ่มข้างต้นแล้ว ก็ยังมีกลุ่มเครื่องจักรอัตโนมัติ หรือกลุ่ม Smart ต่าง ๆ เช่น Smart Home, Smart TV ที่กำลังเติบโตตามโลกอนาคต อีกด้วย
6. กลยุทธ์การลงทุนหุ้น Growth ในช่วงเวลานี้ ?
กลยุทธ์การวิเคราะห์ลงทุนหุ้น Growth ของ J.P. Morgan จะออกเป็น 2 รูปแบบ นั่นคือ
- รูปแบบ Bottom Up คือการวิเคราะห์หุ้นรายตัวเป็นหลัก
- รูปแบบ Micro Focus คือการวิเคราะห์ลงรายละเอียดเล็ก ๆ เพราะเชื่อว่าจุดเล็ก ๆ จะนำไปสู่ความแตกต่างจากบริษัทอื่นอย่างมีนัยสำคัญได้ เช่น Facebook ที่กำลังได้รับประโยชน์จากโฆษณาออนไลน์อย่างต่อเนื่อง
เป้าหมายคือ การค้นหาหุ้นสหรัฐอเมริกาที่กำลังเติบโตมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ภายใต้ 3 ลักษณะสำคัญคือ
- ธุรกิจที่มีผลต่อการบริโภค หรือการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป
- ธุรกิจที่มีความสามารถในการแข่งขันในระยะยาว มีกำไรที่แข็งแกร่ง
- ธุรกิจที่มีการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น (Momentum) ทิศทางเชิงบวก ดังนั้นต้องรู้จักทำใจให้นิ่งเพื่อรอจังหวะ Momentum ที่ดีได้
อีกหนึ่งกลยุทธ์การลงทุนที่สำคัญก็คือ การปรับพอร์ตลงทุนอยู่เสมอ โดยจะลดน้ำหนักหุ้นที่มีราคาปรับตัวขึ้นมานานหลายปี และตลาดรับรู้ข่าวทั้งหมดแล้ว
เช่น กลุ่มเทคโนโลยีชั้นนำอย่าง Microsoft, Apple ถูกลดสัดส่วนตั้งแต่ปีที่แล้ว เพื่อนำเงินไปลงทุนหุ้นที่จะเป็น “Big Winner” ตัวต่อไป แต่ก็ไม่ได้ขายหมดทั้งพอร์ต เพราะยังมองว่าเป็นธุรกิจที่ดีระยะยาว
นอกจากนี้ ด้วยความเป็นกองทุนแบบ Active ของ J.P. Morgan ยังมองเห็น 2 กลุ่มธุรกิจที่น่าสนใจคือ
- กลุ่มการเงิน โดยจะลงทุนทั้งสถาบันการเงินขนาดใหญ่ที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น และกลุ่ม Online Payment
- กลุ่มเทคโนโลยี 5G และ EV โดยที่มองลงลึกไปถึง “ทองแดง” ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักของกลุ่มเทคโนโลยี จึงเข้าไปลงทุนบริษัท Freeport-McMoRan หนึ่งในธุรกิจเหมืองแร่ทองแดงที่ใหญ่ที่สุดในโลก
7. ตัวอย่างธุรกิจที่เข้าข่ายหุ้น Growth ที่น่าสนใจ ?
ธุรกิจในกลุ่ม Digital Advertising เช่น Snap Inc. เจ้าของแอปพลิเคชัน Snapchat ที่มียอดผู้ใช้งานเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังมีการขยายฐานผู้ใช้งานไปยังประเทศอินเดีย ทำให้มีโอกาสเติบโตในเรื่องของเม็ดเงินโฆษณาได้อีกมาก ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมา รายได้ของ Snapchat ก็เติบโตเฉลี่ยปีละ 46%
ธุรกิจในกลุ่มต่อมาก็คือ Online Payment เช่น PayPal ที่ได้ประโยชน์จากการใช้ชีวิตในยุค New Normal และตอบโจทย์ในการชำระเงินยุคใหม่
ซึ่งจากผลการดำเนินงานในไตรมาสล่าสุด PayPal มีจำนวนบัญชี Active User เติบโต 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่จำนวนธุรกรรมเติบโต 40% จากปีก่อนหน้า
ธุรกิจในกลุ่มสุดท้ายก็คือ ธุรกิจนอกกลุ่มเทคโนโลยี เช่น John Deere ผู้ผลิตและจำหน่ายรถแทรกเตอร์ อุปกรณ์การเกษตรที่นำเทคโนโลยีมาใช้กับการเกษตร ตอบโจทย์การเกษตรสมัยใหม่และเทรนด์ความยั่งยืน
หากสหรัฐอเมริกามีการเก็บภาษีจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก็จะเป็นประโยชน์โดยตรงกับ John Deere
ซึ่งหุ้น 3 ตัวนี้ ก็เป็นหุ้นที่ J.P. Morgan ลงทุนเป็น Top Holding อีกด้วย
8. ตอนนี้หุ้น Growth แพงไปหรือยัง ?
ในมุมมองของกองทุนบัวหลวง คิดว่าหุ้น Growth ยังไม่แพงเกินไป ถึงแม้ว่าจะผ่านช่วงสูงสุดไปแล้ว แต่ก็ยังมีโอกาสเติบโตได้อยู่
โดยหากมาดูในส่วนของค่ากลางของ P/E Ratio S&P 500 พบว่า อยู่ที่ 20 เท่า สะท้อนให้เห็นว่า ยังมีโอกาสที่เรายังสามารถหาหุ้นที่มีแนวโน้มเติบโตในราคาที่สมเหตุสมผลได้อยู่
และที่ผ่านมาดัชนี S&P 500 ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ P/E ทยอยปรับลดลง ซึ่งมีสาเหตุมาจากกำไรของบริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว
โดยในปี 2021 มีการคาดการณ์ว่ากำไรของบริษัทใน S&P 500 จะโต 60% ในขณะที่ในปี 2022 S&P มีการคาดการณ์ว่ากำไรจะโตต่ออีก 15% จากปี 2021
จากตรงนี้ก็จะเห็นได้ว่า ยังมีอีกหลายธุรกิจที่ผลการดำเนินงานยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตได้อยู่
9. ผลตอบแทนการลงทุน ด้วยกลยุทธ์แบบ J.P. Morgan เป็นอย่างไร ?
จากกลยุทธ์ Active Management ที่เน้น Micro Focus ทำให้กองทุน JPM US Growth ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นสหรัฐอเมริกา มีผลการดำเนินงานที่ค่อนข้างดีมาอย่างต่อเนื่อง
หากเรามาดูผลการดำเนินงานของกองทุน JPM US Growth จะพบว่า ถ้าดูย้อนหลังไป 3 ปี เฉลี่ยต่อปีแล้ว ผลตอบแทนจะเท่ากับ 27% สูงกว่าเมื่อเทียบกับ Benchmark ที่เป็น Russell 1000 ที่เน้นเฉพาะหุ้นเติบโต ซึ่งถ้าย้อนหลัง 5 ปี ผลการดำเนินงานก็ดีกว่าเช่นกัน
เมื่อมาดูการจัดอันดับของ Morningstar พบว่ากองทุน JPM US Growth อยู่ใน First Quartile คือเป็นหนึ่งในกองทุนที่ทำผลการดำเนินงานได้ดีอยู่ในเกณฑ์ดีที่สุดในกลุ่มอีกด้วย
หากมาดูด้าน Valuation ของกองทุน JPM US Growth จะเห็นว่า กองทุนนี้มี P/E Ratio ที่ต่ำกว่า Benchmark แต่มีอัตราการเติบโตของกำไร (%EPS Growth) สูงกว่า Benchmark และ S&P 500
10. เราจะลงทุนหุ้นสหรัฐอเมริกาในรูปแบบกองทุน ได้อย่างไร ?
กองทุน B-USALPHA เป็นกองทุน Feeder Fund ที่ลงทุนในกองทุนหลัก คือ JP Morgan US Growth Fund ไม่ต่ำกว่า 80%
ซึ่ง JP Morgan US Growth Fund เป็นกองทุนแนว Active Management เน้นลงทุนในหุ้นที่เติบโตสูงกว่าที่ตลาดมองไว้
และในส่วนที่เหลือผู้จัดการกองทุนของบัวหลวง ก็อาจลงทุนในหุ้นสหรัฐอเมริกาที่น่าสนใจเป็นรายตัว
ซึ่งน่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีระยะยาวได้ เหมือนที่ทำกับ B-FUTURE และ B-CHINE-EQ
กองทุนนี้ ยังมีนโยบายการจ่ายเงินปันผล เพราะปัจจุบันอยู่ในภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ
ผู้ลงทุนส่วนใหญ่จึงหันมาหาสินทรัพย์เสี่ยง หรือหุ้น กันมากขึ้น การจ่ายเงินปันผลจะช่วยให้ผู้ลงทุนมีเงินระหว่างทาง ไม่ต้องคอยดูจังหวะการขายทำกำไร และสามารถลงทุนได้นานขึ้น
11. สุดท้ายแล้ว แนวทางของกองทุน B-USALPHA จะช่วยบริหารพอร์ตการลงทุนภาพรวมของคุณได้อย่างไร ?
ในมุมมองการจัดพอร์ตลงทุน การกระจายสินทรัพย์เสี่ยงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
ในมุมมองของกองทุนบัวหลวงคือ การจัดพอร์ตให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยง ทั้งในส่วนสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและเสี่ยงสูง
ในส่วนสินทรัพย์เสี่ยงสูงที่เป็นหุ้นทั่วโลก ส่วนใหญ่จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ การเอามาเป็นแกนหลักของพอร์ต (Core Port) กับเอาเป็นตัวเร่งในแต่ละธีม (Thematic) โดยส่วนที่เป็นแกนหลัก ควรที่จะให้มีการกระจายหลายประเทศ และหลายกลุ่มอุตสาหกรรม
แล้วควรลงทุนในหุ้นสหรัฐอเมริกาเท่าไร ? หากอ้างอิงจาก MSCI Index มีสัดส่วนบริษัทในสหรัฐอเมริกา กว่า 58% อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับความชอบ ความเสี่ยงที่รับได้ และความเข้าใจของแต่ละคนด้วย
เนื่องจากสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดใหญ่ที่พัฒนาแล้ว มีผลการดำเนินงานดีที่สุดใน 10 ปีที่ผ่านมา คือปีละ 14% และมีความผันผวนต่ำ เมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ
สรุปได้ว่า การลงทุนหุ้นสหรัฐอเมริกา ถือว่าเป็นของต้องมีในพอร์ต และกลยุทธ์การลงทุนแบบ Active ในหุ้นเติบโต ย่อมมีแนวโน้มให้ผลตอบแทนที่ดีด้วย นั่นเอง..
p e ratio 在 Better Leaf 好葉 Youtube 的最佳貼文
【eToro - 10萬美金體驗】
繁体:https://etoro.tw/3pOZrcl
简体:https://etoro.tw/2ZJDAbt
英文:https://etoro.tw/3dGutRh
好葉投資組合表現:https://etoro.tw/2L7Qmwo
美股投資交流群:https://t.me/investCafeChat
30堂課搞定價值投資 ☞ https://bit.ly/Value-Investing-YT
免責聲明: 高波動性投資產品,您的交易存在風險。過往表現不能作為未來業績指標。視頻中談及的內容僅作為教學目的,而非是一種投資建議。
【我爲什麽會賣掉特斯拉的股票?】
最近特斯拉漲的真的是讓人心慌啊!
從8月11日宣佈拆股之後,
股價直接飆升將近50%,
這兩個月也是各種利好消息不斷刺激著投資者的心臟!
那又爲什麽我會賣掉所有的特斯拉股票呢?
我賣出特斯拉股票就已經賺了732.94%的利潤!
今天我會和大家分享爲什麽我會賣掉特斯拉的股票
還有我是如何使用分批賣出的策略做投資
以及探討我對於特斯拉股票的看法!
影片概括:
00:00 關於特斯拉的公司
02:15 采用分批式的賣出策略?
03:57 為什麼會覺得他已經很貴了呢?
04:29 什麽是P/E ratio?
06:57 未來的我還會不會再買入特斯拉的股票?
【加入好葉進階課程】
《30堂課搞定價值投資》特價熱賣中 ☞ https://bit.ly/Value-Investing-YT
從零開始打造YouTube頻道:http://bit.ly/YTmaster
【其他學習管道】
用讀的學習,好葉部落格網站?:https://www.growingbar.co/
用聽的吸收,好葉Podcast音頻?️:https://bit.ly/betterleaf-himalaya
用寫的抒發,好葉的Instagram?:https://bit.ly/betterleafIG
用互動交流,好葉的臉書專頁 ?:https://bit.ly/betterleafFB
【更多相關影片】
3個步驟輕鬆增長財富: https://youtu.be/-QIKzyeP3ec
怎樣用50美元買到谷歌的股票: https://youtu.be/xnASOFQItMA
5個步驟,從投資新手邁向投資高手: https://youtu.be/lVe9DyCTsgE
為什麼我們要投資: https://youtu.be/fjoDrWvjpno
我從校園霸凌變成了億萬富翁: https://youtu.be/HV_TeVWGOJ0
【更多優質影片】
動畫書評系列?:https://goo.gl/DtqYce
實用冷技巧?:https://goo.gl/wXmR7n
5分鐘心理學?:https://goo.gl/5YQpdK
---------------------------
好葉全集影片?:http://bit.ly/betterleafull
#投資理財 #特斯拉 #好葉
p e ratio 在 M觀點 Youtube 的最佳貼文
本益比 P/E Ratio,是投資市場上最常用來判斷股票價位是否太貴的指標。但是用本益比來決定股票能不能買入,真的是正確的投資方式嗎?本益比有沒有盲點呢?
本集的M觀點,就帶大家來徹底了解本益比這個指標的優缺點。
#本益比
#PERatio
#股票價格
M觀點資訊
---
M觀點商學院 PressPlay 訂閱服務: https://lihi.cc/zY5Qc
M觀點LINE@ https://line.me/R/ti/p/%40zxy2907b
M觀點YouTube頻道訂閱 https://bit.ly/2nxHnp9
M觀點粉絲團 https://www.facebook.com/miulaperspective/
任何合作邀約請洽 miula@outlook.com
p e ratio 在 Thai Pham Youtube 的最佳貼文
P3: Các khái niệm | HƯỚNG DẪN ĐẦU TƯ CHỨNG KHOÁN CƠ BẢN, A-BỜ-CỜ (TỪ A-Z)
Như vậy là chúng ta đã đi qua 2 phần trong tuyến video Hướng dẫn đầu tư chứng khoán cơ bản:
1. Đọc bảng giá điện tử ► https://youtu.be/TaiZS8-i6L0
2. Mở tài khoản chứng khoán ► https://youtu.be/C5qIrnEsFZA
Trong phần 3 này, chúng ta sẽ tìm hiểu lần lượt 3 chủ điểm:
- Cổ phiếu là gì?
- Chứng khoán là gì?
- Các chỉ số cơ bản của chứng khoán:
+ EPS (Earning Per Share) là gì? Có bao nhiêu loại EPS?
+ P/E (Price per Earnings) là gì?
+ PEG là gì? Tại sao PEG lại tốt hơn P/E?
+ BVPS (Book Value per Share) là gì? Làm thế nào để tính toán?
+ P/B Price to Book Ratio là gì?
Nếu bạn có những suy nghĩ khác với tôi, đừng ngần ngại comment bên dưới cho tôi biết ý kiến của bạn. Bạn cũng đừng quên bấm nút Subscribe tại đây: http://bit.ly/kenh_Thai_Pham
để nhận được những thông tin hữu ích về đầu tư, kinh doanh và phát triển bản thân.
? Bạn có thể tìm hiểu khóa học Kungfu Chứng Khoán diễn ra vào đầu tháng 8: https://thaipham.live/khoa-hoc/
----------------.----------------.---------------.----------------
► Hãy cập nhật thông tin mới nhất của tôi tại:
Facebook: http://bit.ly/thaipham
Youtube Channel: http://bit.ly/kenh_Thai_Pham
Blog: https://thaipham.live/
----------------.----------------.---------------.----------------
► Hãy click vào các links dưới đây để xem lại các video RẤT HAY của tôi về các chủ đề: Đầu tư tài chính, đầu tư chứng khoán, phát triển bản thân, và đầu tư cho kinh doanh làm giàu của bạn nhé!
1. Học chứng khoán cho người mới bắt đầu: http://bit.ly/2IMdHlG
2. Học đầu tư để làm giàu từ chứng khoán: http://bit.ly/2BZ0cJE
3. Những điều KHÔNG AI NÓI với bạn trên thị trường chứng khoán: http://bit.ly/Koainoi
4. Có khủng hoảng kinh tế năm 2019 hay không? http://bit.ly/khung-hoang-kinh-te-2019
5. Cách phân bổ tiết kiệm, chi tiêu và đầu tư với mức lương từ 7 triệu http://bit.ly/7trieu
6. Nghị quyết đầu năm, nếu KHÔNG MUỐN THÀNH CÔNG đừng coi: http://bit.ly/nghiquyetP1
7. Chiến thuật chọn mã chứng khoán tiềm năng cho nhà đầu tư dài hạn: http://bit.ly/cktiemnang
8. Cách đầu tư vào công ty với giá cả hợp lý: http://bit.ly/2TmQCKK
9. Đọc hiểu báo cáo kết quả kinh doanh: http://bit.ly/2VyhpkE
10. Đọc hiểu bảng cân đối kế toán: http://bit.ly/2TeVlP9
11. Đọc hiểu bảng lưu chuyển tiền tệ: http://bit.ly/2EHN6SP
12. 4 chỉ số tăng trưởng quan trọng bậc nhất một công ty: http://bit.ly/2tN2zuM
13. Bạn sẽ có việc làm sau khi xem video này: http://bit.ly/2NCBUK8
14. 6 Nguyên tắc của đồng tiền: http://bit.ly/2TvVayw
15. Thời điểm vàng để làm giàu tại Việt Nam: http://bit.ly/2Tdbm8g
----------------.----------------.---------------.----------------
#HƯỚNGDẪNĐẦUTƯ
#CHỨNGKHOÁNCƠBẢN
#ABỜCỜ
p e ratio 在 什麼是本益比(P/E Ratio)? 的相關結果
本益比就是把價格和每股盈餘相除,換句話說,就是你花錢的「本」和買到公司的「益」相除的比率。 就跟CP值一樣,大家自然希望花越少的「本」錢,買到更高 ... ... <看更多>
p e ratio 在 一分鐘看懂本益比》如何用本益比找出便宜股票 的相關結果
本益比(Price-to-Earning Ratio ) 簡稱PE 或PER,顧名思義是「成本和獲利的比例」。市場先生用這篇文章,讓你一次搞懂本益比的所有重要觀念:快速看懂 ... ... <看更多>
p e ratio 在 Price-to-Earnings (P/E) Ratio Definition - Investopedia 的相關結果
The price-to-earnings ratio (P/E ratio) is the ratio for valuing a company that measures its current share price relative to its earnings per share (EPS). ... <看更多>