Remember the Titans (2000) | Invictus ฉบับย่อส่วน
ถ้าดูจากเหตุการณ์จริงแล้ว เราว่าหนังโยนเครดิตความโดดเด่นให้ 'โค้ชเฮอร์แมน' (เดนเซล วอชิงตัน) มากไปเสียหน่อย เพราะว่ากันตามตรงแล้วบทบาทของ 'โค้ชโยสต์' (Will Patton) ก็ไม่ได้น้อยหน้ากว่ากันเลยในฐานะที่เป็นอดีตหัวหน้าโค้ชที่ถูกลดบทบาทเพราะกระทรวงต้องการเพิ่มบทบาทให้คนผิวดำ ซึ่งตัวเขาเองเปรียบได้ดั่งการปิดทองหลังพระที่ต้องเสียสละและละวางศักดิ์ศรีจนน่ายกย่องไม่แพ้เฮอร์แมนที่รวมนักกีฬาต่างสีผิวหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว
หนังสร้างจากเรื่องจริงของทีมอเมริกันฟุตบอลไฮสคูลที่ประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ของรัฐในยุคที่ความขัดแย้งเรื่องสีผิวยังมีความรุนแรง แต่ทีมของพวกเขามีนักกีฬาทั้งผิวขาว-ผิวดำรวมกันเป็นทีมด้วยความสามัคคี จนอาจกล่าวได้ว่าพวกเขาคือผู้นำเป็นแบบอย่างแก่ชุมชนต่างสีผิวให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข
สิ่งที่ควรรู้คือความสำเร็จของทีมไททันส์เป็นเรื่องจริง พวกเขารวมนักกีฬาผิวขาว-ผิวดำเข้าด้วยกันได้จริง แต่เหตุการณ์ในสนามแข่งที่มักทำให้ทีมไททันส์เสียเปรียบก่อนจะพลิกกลับมาชนะอันเป็นการบิ๊วดราม่าหนัก ๆ นั้นล้วนเป็นเรื่องแต่ง เช่นการบิ๊วสถานการณ์คับขันให้ทีมไททันส์ต้องทัชดาวน์ในนาทีสุดท้ายเพื่อเป็นผู้ชนะ เพราะเหตุการณ์จริงนั้นพวกเขาไล่ถล่มคู่แข่งกระจุยกระจายอย่างง่ายดาย รวมถึงอุบัติเหตุของกัปตันทีมก็เป็นเรื่องจริงเช่นกันเพียงแต่หนังเลื่อนลำดับเวลาให้เข้ามาอยู่ในระหว่างแข่งเพื่อใช้เป็นเครื่องมือบ่งชี้การยอมรับซึ่งกันของคนต่างสีผิว
ถ้ามองสูตรความสำเร็จของ Remember the Titans ผมคงบอกได้ว่ามันคือเรื่องของการปฏิบัติต่อกันอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าคุณจะผิวสีอะไรก็ต้องอยู่ภายใต้กฎกติกาเดียวกันไม่มีการลำเอียง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วทุกคนก็จะไม่รู้สึกถูกเลือกปฏิบัติก็จะเคารพซึ่งกันได้ไม่ยาก ดังจะเห็นได้จากกัปตันทีมที่ค่อย ๆ ซึมซับแนวคิดของโค้ชเฮอร์แมนจนมีลักษณะความเป็นผู้นำไม่ต่างอะไรจากโค้ชของเขา
ถึงแม้หนังจะมีส่วนผสมของเรื่องแต่งเพื่อบิ๊วดราม่าอยู่พอสมควรตามที่บอก และถึงแม้หนังจะตั้งใจลดความรุนแรงของการเหยียดผิวออกไปเสียสิ้นเพื่อให้กลายเป็นหนังสำหรับครอบครัว ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงเป็นหนังที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจชั้นดีว่าแม้สังคมภายนอกจะเหยียดผิวกันเท่าไร แต่นักกีฬาอย่างพวกเขาสามารถประพฤติตัวเป็นแบบอย่างให้แก่ชาวเมืองได้โดยการใช้เกมกีฬาหล่อหลอมชุมชนให้เป็นหนึ่งผ่านการร่วมใจเชียร์ทีมโรงเรียนประจำเมืองให้เอาชนะคู่แข่งไม่ต่างอะไรจากการรวมชาติด้วยกีฬารักบี้ของเนลสัน เมนเดลล่าใน Invictus
และจะว่าไปแล้วการที่หนังตั้งใจลดความรุนแรงของการเหยียดผิวออกไปมันก็มองในแง่ดีได้เช่นกันว่าทำให้หนังเนื้อหาดี ๆ เช่นนี้สามารถเข้าถึงคนวงกว้างและใช้เป็นหนังสำหรับครอบครัวได้โดยไม่เกิดภาวะความอึดอัดระหว่างรับชม
Director: Boaz Yakin (ผกก. Safe)
writer: Gregory Allen Howard
Genre: biography, drama, sport
7/10
