【活動截止】防疫乖乖待在家 #抽本書吧
____________________________
《只用10%的薪水,讓全世界的財富都聽你的》
這是一本「歷史悠久」的理財書
作者George Samuel Clason於1926年完稿出版
是的你沒看錯這本書問世就快滿100年了
而它的英文名字是The Richest Man in Babylon
直接翻譯會是《巴比倫最富有的人》
那是6000年前世界上最輝煌富裕的國度
這是一本讀起來輕鬆又有趣的基礎理財書
沒有艱澀的專有名詞,不用具備任何財經知識
作者用寓言故事式的寫作手法
帶我們回到幼發拉底河畔
藉著古代巴比最富有的溫拿之口
傳授千百年不變的理財方法
想成為有錢人的最重要的第一步是觀念
有了渴望有錢的 #致富意識
明白 #付錢給自己的重要性
找到正確方向 #讓每一塊錢自動增值
慢慢的你會變得精打細算
擁有具體理財目標並付諸行動
這些潛移默化全藏在這本故事書之中
________/ 抽書活動 /_________
感謝 柿子文化 提供給懶粉福利
⟣此篇文底下留言,每人每帳號限留言一次
⟣即日起至5/31(一) 23:59
同時也有5部Youtube影片,追蹤數超過31萬的網紅THE MONEY COACH,也在其Youtube影片中提到,รายการ มันนี เอเวอรีเดย์ ep.11 โค้ชหนุ่มหยิบหนังสือการเงินพื้นฐาน ที่เขียนมาแล้วกว่า 100 ปี (เขียนปี 1926) มาเล่าหลักคิดการเงินสุดคลาสสิค ที่ยังร่วมสม...
「the richest man in babylon」的推薦目錄:
- 關於the richest man in babylon 在 懶錢包 Lazy Wallet Facebook 的最佳解答
- 關於the richest man in babylon 在 สมองไหล Facebook 的最佳解答
- 關於the richest man in babylon 在 Money Coach Facebook 的最佳解答
- 關於the richest man in babylon 在 THE MONEY COACH Youtube 的最讚貼文
- 關於the richest man in babylon 在 THE MONEY COACH Youtube 的最佳貼文
- 關於the richest man in babylon 在 Dan Lok Youtube 的精選貼文
the richest man in babylon 在 สมองไหล Facebook 的最佳解答
[AD] ถ้าถามว่าอะไรทำให้คนบางกลุ่มสามารถร่ำรวยขึ้นมาได้ หลายคนอาจจะตอบว่า ความขยัน ซึ่งก็ใช่นั่นเป็นส่วนหนึ่ง หรือ จะเป็นความอดทนก็ยังใช่อยู่ หรือ จะเป็นความกล้า ก็ยังใช่เหมือนกัน แต่ทำไมทุกวันนี้เรายังเห็นคนที่กล้า ขยัน และ อดทน ไม่สามารถร่ำรวยขึ้นมาได้ล่ะ ?
.
เพราะจริงๆ แล้วตัวแปรสำคัญ ของคนที่สร้างความร่ำรวยขึ้นมาได้ คือ เขา “รู้วิธี” ต่างหากล่ะ
.
โดย George S.Clason ได้เขียนกฎทอง ที่จะทำให้คุณสามารถสร้างความร่ำรวยได้ ไว้ในหนังสือ The Richest man in Babylon เอาไว้ ดังนี้
.
# กฎข้อที่ 1 “จงเก็บออม 10 เปอร์เซ็นต์ก่อน แล้วค่อยนำที่เหลือไปใช้จ่าย”
.
ฟังดูเป็นหลักการง่ายๆ ดูหลายคนคงเคยได้ยินกันมาเยอะแล้ว แต่น้อยคนที่จะทำได้
.
เพราะเวลาพูดถึงการออมเงินหลายคนมักจะคิดว่า “เงินออมแค่ 10 เปอร์เซ็นต์มันจะไปทำให้รวยได้ยังไง เพราะมันเป็นจำนวนที่น้อยมากๆ” ถ้าใครกำลังคิดแบบนี้ อยากให้เข้าใจใหม่ว่าการออม 10 เปอร์เซ็นต์ ไม่ได้เพื่อทำให้รวย แต่เพื่อทำให้เงินในบัญชีของคุณมันมีเหลือ ใช้เพิ่มความมมั่นใจให้กับตัวเองว่าสามารถควบคุมชีวิตได้ ที่สำคัญบัญชีที่มีเงินอยู่ มันจะช่วยดูดเงินเพิ่มเข้ามาได้เรื่อยๆ และ ง่ายขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ ต่างจากบัญชีที่ไม่มีเงินเหลือเลยที่กว่าจะดูดเงินเข้ามาได้นั่นยากเหลือเกิน
.
# กฎข้อที่ 2 “จงควบคุมค่าใช้จ่ายอย่าให้เพิ่มขึ้นตามรายได้”
.
ข้ออ้างหนึ่งของคนส่วนใหญ่เวลาพูดถึงการออมเงินก็คือ “แค่จะกินจะใช้ก็ไม่พอแล้ว จะเอาที่ไหนไปเก็บออม” ใครที่กำลังคิดแบบนี้อยู่ ผมอยากให้ลองกลับไปถามตัวเองว่า ตอนทำงานแรกๆ เงินเดือน (สมมติว่า) 15,000 บาท ซึ่งถ้าจะใช้หมดก็ไม่แปลก เพราะมันก็อาจจะไม่พอจริงๆ
.
แต่คำถามคือ ทำไมเวลาได้ปรับขึ้นเงินเดือนเป็น 20,000, 25,000, 30,000 บาท ก็ยังไม่พอล่ะ ทั้งที่ตอนเงินเดือน 15,000 ก็ยังอยู่ได้ ทำไมตอนนี้เงินเดือนปรับขึ้นมาแล้วใช้ 15,000 เท่าเดิมแล้วที่เหลือเก็บออมไม่ได้ ? ลองคิดดูดีๆ ว่าสรุปแล้ว “เงินที่มีไม่พอ” หรือ “ตัวเองไม่พอสักที” ?
.
ดังนั้น อย่าสับสนระหว่าง ค่าใช้จ่าย “จำเป็น” กับ “ความต้องการ” เพราะคนส่วนใหญ่เวลาต้องการอะไร ก็มักจะหลอกตัวเองว่ามันคือของจำเป็น
.
# กฎข้อที่ 3 “จงทำให้เงินที่มีอยู่ทวีคูณขึ้น”
.
อย่างที่บอกไปในกฎข้อที่ 1 ว่า เงินออมแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ มันไม่สามารถทำให้รวยได้หรอก เพราะเราต้องเข้าใจความจริงที่ว่า คนเราไม่ได้รวยขึ้นจากเงินที่ “เก็บไว้” แต่รวยขึ้นได้จาก “ช่องทางรายได้” ที่สร้างขึ้นต่างหาก
.
โดยอาจเริ่มจากช่องทางรายได้จากต้นทุนที่เรามีก่อน ส่วนตัวผมมีต้นทุนทางความคิด ประสบการณ์ และ ทักษะ ก็นำความรู้เหล่านั้นมาเขียนหนังสือ และ เตรียมที่จะเปิดคอร์สออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีงานวิทยากร และ อาจารย์พิเศษมหาวิทยาลัยเป็นครั้งๆ บ้าง
.
ต่อมาลองดูสิว่าเงินเก็บที่เรามีสามารถลงทุนอะไรได้บ้างที่ทำให้เงินนั้นงอกเงยได้ ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่ความชอบความถนัด หลายคนอาจจะซื้อหุ้น ซื้อกองทุน หรือ สลากออมสิน แต่ส่วนตัวผมเป็นคนที่ชอบธุรกิจและชอบที่จะมีส่วนร่วมกับการเติบโตของธุรกิจนั้น ก็จะนำเงินที่มีอยู่ไปลงทุนซื้อหุ้นธุรกิจต่างๆ แล้วเข้าไปบริหารด้วย
.
เมื่อทำได้อย่างนี้ ในอีกห้าปีสิบปี เงินทุนของเราก็จะงอกเงยทวีคูณขึ้น
.
# กฎข้อที่ 4 “จงประกันรายได้สำหรับอนาคต”
.
สัจธรรมข้อหนึ่งที่หลายคนมักจะมองข้ามและหลงลืมไปคือ พอถึงจุดหนึ่ง ยิ่งเราอายุมากขึ้น ความสามารถในการทำงานหาเงินเราจะเริ่มถดถอยลง แน่นอนเงินเดือนหรือรายได้อาจจะเพิ่มขึ้นตามอายุงานก็จริง แต่มันก็สูงสุดได้แค่จุดหนึ่งเท่านั้น อย่างมากสุดก็อายุ 50 ปี ซึ่งเอาเข้าจริงๆ พออายุ 40 ก็เริ่มถูกบีบให้ออกแล้ว คนส่วนใหญ่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงานหาเงินจนลืมคิดข้อนี้ไป
.
นี่คือ เรื่องที่เราควรใช้เวลาหยุดคิดสักนิด ว่าจริงๆ แล้วเราไม่ได้หาเงินได้ตลอดชีวิต ดังนั้น จึงต้องคิดว่าวิธีประกันรายได้สำหรับอนาคตเอาไว้ หรือ เรียกง่ายๆ ว่า Passive Income นั่นแหละ
.
อาจจะนำเงินทุน หรือ เครดิตที่ตัวเองมีไปลงทุนกู้ซื้อคอนโดแล้วปล่อยเช่าในราคาที่มากกว่าเงินที่ต้องผ่อนกับธนาคารเพื่อให้กระแสเงินสดเป็นบวก และ มั่นใจว่าเราจะมีรายได้สำหรับอนาคตแม้ว่าร่างกายจะทำงานไม่ไหวแล้ว
.
# กฎข้อที่ 5 “จงเป็นเจ้าของบ้านของตัวเอง เพราะมันจะทำให้ใจคุณเบิกบาน ภูมิใจในตัวเอง และ มีพลังในการทำงานมากขึ้น”
.
ลองคิดดูว่าถ้าคุณมีเงินเก็บ หาเงินได้ทวีคูณ และ มีรายได้สำหรับอนาคต แต่ครอบครัวของคุณอยู่ในที่อยู่ที่ไม่เหมาะสม ภรรยาไม่มีมุมเอาไว้สำหรับปลูกต้นไม้เล็กๆ ไม่สามารถมีสุนัขหรือแมวสักตัวเป็นเพื่อน ซึ่งเป็นความสุขเล็กๆ ของคนเป็นสตรี แถมยังไม่มีแม้แต่พื้นที่ให้ลูกๆ วิ่งเล่นเต็มที่ตามประสาชีวิตวัยเด็ก ชีวิตมันคงเหี่ยวเฉาน่าดู
.
อย่าลืมว่าคนเราอยากรวยก็เพื่อต้องการ “ความสุข” เพราะถ้ารวยแล้วไม่มีความสุขจะรวยไปทำไม และไม่มีครอบครัวไหนสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้เต็มที่หรอก ถ้าไม่มีพื้นที่สะอาดๆ ให้ลูกๆ วิ่งเล่น ไม่มีมุมให้ภรรยาปลูกต้นไม้ ไม่มีแม้แต่สุนัข หรือ แมว ไว้เป็นเพื่อน
.
การได้เป็นเจ้าของบ้านของตัวเองจะทำให้คุณรู้สึกภูมิใจในตัวเอง และ จะช่วยสร้างพลังในการทำงานมากขึ้น หัวใจคุณจะเบิกบานเมื่อได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินอันมีค่า เมื่อได้เห็นภรรยาได้ดูการเจริญเติบโตของต้นไม้ที่ปลูกไว้ ได้เห็นลูกๆ วิ่งเล่นสนุกสนาน ได้เห็นสัตว์เลี้ยงทำหน้าตาท่าทางตลกๆ ให้คุณหัวเราะ
.
แต่การจะมีบ้านที่ให้ภรรยาได้ปลูกต้นไม้เลี้ยงหัวใจ ให้ลูกได้วิ่งเล่น ให้หมาแมวได้อยู่ข้างๆ อาจจะฟังดูเป็นไปได้ยากสำหรับคนเมืองส่วนใหญ่ ที่ทุกวันนี้จำเป็นต้องมาทำงานกระจุกกันอยู่ในกรุงเทพฯ เพราะมองไปทางไหนก็มีแต่คอนโดที่บังคับให้คุณเป็นเจ้าของได้แค่ห้องสี่เหลี่ยมสำหรับอาศัยเท่านั้น
.
แต่ข่าวดีก็คือ วันนี้คุณสามารถเป็นเจ้าของคอนโดที่เป็นเหมือนบ้าน สะดวกเหมือนโรงแรม ได้แล้ว เพราะ Siamese Asset ได้ทะลายข้อจำกัดเหล่านั้นด้วยเมกะโปรเจกต์ที่ชื่อว่า “Landmark” ไปเรียบร้อยแล้ว โดยเปลี่ยนจากเปลี่ยนจากคอนโดแบบเดิมๆ เป็น Mixed Use ศูนย์รวมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไว้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นที่พักอาศัย ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ เลาจน์ แหล่งช้อปปิ้ง Co-working Space และห้องจัดกิจกรรมต่างๆ
.
นอกจากนี้ยังยกระดับที่อยู่อาศัยในรูปแบบ Branded Residence โดยมีการบริการด้วยมาตรฐานระดับสากลจากเครือโรงแรมระดับสากล และคงไว้ซึ่งความเป็นส่วนตัวของคุณ ด้วยการแบ่งพื้นที่พักอาศัย กับ แหล่งอำนวยความสะดวกออกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน มีโซน Pet Lover สำหรับคนที่เลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะสุนัข และแมว โดยมีพื้นที่ภายในห้องพักที่สามารถทำเป็นพื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยง มีพื้นที่สวนเอาไว้วิ่งเล่นสำหรับสัตวเลี้ยงตัวโปรด มีระบบ Siamese Technology ช่วยจัดการปัญหากลิ่นที่เกิดจากสัตว์เลี้ยงภายในห้อง และ เสียงร้องไม่ให้รบกวนใคร
.
หรือ ถ้าใครไม่ได้เลี้ยงสัตว์ก็ไม่ต้องห่วง เพราะเขามีการแยกการใช้งาน อย่างเป็นส้ดส่วนไม่ให้ส้ตว์เลี้ยงของใครไปรบกวนผู้อาศัยท่านอื่นในโครงการเดียวกันได้
.
ที่สำคัญการออกแบบก็คำนึงถึงผู้สูงอายุไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางหรือห้องพักอาศัย โดยการนำ Universal Design มาปรับใช้ใ้นการออกแบบ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าคุณจะสามารถลงหลักปักฐานใช้ชีวิตที่ดีไปจนหลังเกษียณได้ หรือ ถ้าตอนนี้มีพ่อแม่ที่อยู่ในวัยสูงอายุก็ทำให้คุณสามารถออกไปทำงานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย
.
มาถึงตรงนี้หลายคนคงจะอยากรู้แล้วว่าคอนโดแบบนี้มันอยู่ที่ไหน แล้วจะดูของจริงได้อย่างไร ราคามันจะเท่าไหร่กัน ?
.
บอกเลยครับว่าของดีอย่างนี้จริงๆ แล้ว อยู่ใกล้กว่าที่คิด เพราะในปี 2564 Siamese Asset ได้เปิดตัว Landmark By Siamese โดยมี 2 โครงการนำร่อง ได้แก่
1. Landmark @ Grand Station By Siamese Asset - [ โซนรามอินทรา ]
2. Landmark @ MRTA Station By Siamese Asset - [ พระราม 9 ]
.
โดยทั้ง 2 โครงการจะเป็นโครงการที่มากกว่าแค่คอนโดเพื่ออยู่อาศัยที่เห็นในท้องตลาดแบบเดิม ๆ แต่เป็น New Landmark แห่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่นั้น ๆ โดยรวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดเข้าด้วยกัน เหมาะสำหรับทั้งผู้ซื้ออยู่เอง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สะดวกสบาย และ ความเป็นครอบครัว หรือ สำหรับนักลงทุนสินค้าที่มีความแตกต่างจากตลาด และเมื่อมันแตกต่างมันก็จะทำให้ปล่อยเช่าได้ง่ายและคุ้มค่ามากกว่า โดยมีราคาต่อตารางเมตรที่เอื้อมถึงได้ ผนวกกับการบริหารแบบโรงแรม ที่จะทำให้โครงการดูใหม่อยู่เสมอ ซึ่งจะทำให้สามารถสร้างผลกำไรได้สูงกว่าคอนโดแบบปกติอย่างแน่นอน
.
โครงการ Landmark @ Grand Station By Siamese Asset พร้อมเปิดให้เยี่ยมชมและจองสิทธิ์เข้าซื้อโครงการในงานอีเว้นท์ได้แล้ววันนี้ ราคา Pre-sale เริ่มต้นที่ 1.98 ลบ. * ราคาพิเศษนี้ เฉพาะวันงาน Event Exclusive Day** 26 มิถุนายน 2564 เท่านั้น
.
* สงวนสิทธิ์เฉพาะลูกค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมงาน Event Special Day เท่านั้น
** ลงทะเบียนที่: www.landmarkatgrandstation.com
สอบถามข้อมูลโทร 1306 หรือ Line Official : @siameseassetcorp
.
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
the richest man in babylon 在 Money Coach Facebook 的最佳解答
DAY 29: 1 เล่ม 1 บทเรียนเปลี่ยนชีวิต
ผมเองเป็นคนชอบอ่านหนังสือ ไม่ว่าจะแนวไหน อย่างไร อ่านได้หมด ทั้งพัฒนาตัวเอง การเงิน จิตวิทยา การตลาด การเมือง กีฬา วรรณกรรมเยาวชน นิยายไทย นิยายฝรั่ง รวมไปถึงกำลังภายใน และอื่นๆ
นอกจากชอบอ่านแล้ว ผมยังรักที่จะทำงานกับหนังสืออีกด้วย ทั้งงานเขียน งานแปล งานบรรณาธิการ จนมาถึงการเป็นเจ้าของสำนักพิมพ์ เรียกได้ว่า เวลาทุกช่วงของชีวิตผม มีหนังสือเป็นเพื่อนเสมอ
ไม่เพียงแต่อ่านเองรู้เองเท่านั้น … ผมมักจะแนะนำคนรอบตัวให้อ่านหนังสืออยู่เสมอ ด้วยรู้สึกปรารถนาดี อยากให้คนที่เรารู้จัก หรือคนที่เรารักได้อ่านหนังสือดีๆ เหมือนกันกับเรา
และทุกครั้งที่แนะนำหนังสือให้อ่าน ผมก็มักจะพูดบอกอยู่เสมอว่า “เมื่ออ่านจบ ให้ลองหยิบเรื่องดีๆ หรือมุมคิดดีๆ ในหนังสือ ไปปรับใช้กับชีวิตของตัวเองดู”
เพราะความจริงข้อหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือ “คนเรานั้นแม้จะอ่านหนังสือเยอะ หรืออ่านได้มากแค่ไหน แต่หากไม่ได้เรียนรู้อะไรจากสิ่งที่อ่าน หรือนำไปปรับใช้ให้ชีวิตดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น ก็ถือว่ายังไม่ได้อ่านนั่นแหละ”
ยิ่งอ่านเยอะ รู้แยะ แต่ไม่ได้เอาไปใช้เลย อันนี้ก็คงไม่ต่างอะไรกับคนที่ยังไม่ได้อ่าน เพราะรู้แล้วไม่ทำ ก็มีค่าเท่ากับยังไม่รู้
ครั้งหนึ่ง ผมไปบรรยายที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ.ลำปาง จำได้ว่าขณะรถที่มารับวิ่งผ่านสี่แยกใหญ่ก่อนเข้าสู่ตัวเมือง มีป้ายขนาดใหญ่อันหนึ่ง แสดงพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระเทพฯ พร้อมข้อความที่ท่านเคยตรัสพระราชทานให้ไว้ เป็นตัวหนังสือขนาดใหญ่ เขียนไว้ว่า
“หนังสือเปลี่ยนชีวิตคนเราได้”
อ่านจบแล้วรู้สึกปิ๊งกับประโยคดังกล่าวและเชื่ออย่างสนิทใจเลยว่า “จริง”
เพราะทุกครั้งที่อ่านหนังสือจบ 1 เล่ม หากเราลองสรุปบทเรียนที่ได้จากหนังสือ ทั้งเล่มเอาแค่เรื่องเดียวบทเรียนเดียวก็พอ (1 Book 1 Lesson) ที่คิดว่า “ชอบ” หรือ “รู้สึกดี” ที่เน้นว่าให้เลือกที่เราชอบ เพราะเมื่อชอบหรือรู้สึกดี ก็จะอยากเอาไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับตัวเอง
สิ่งหนึ่งที่คุณจะได้พบจากการหยิบบทเรียนดีๆ จากหนังสือมาปรับใช้กับชีวิตก็คือ เวลาทำจริงๆ มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ประเภททำปุ๊บได้ปั๊บ อันนั้นมันในการ์ตูน ในชีวิตจริงมันมีเรื่องที่ต้อง “เรียนรู้” เพิ่มเติม เวลาลงมือทำอีกเยอะเลย
ยกตัวอย่าง หนังสือเล่มหนึ่งที่ผมได้อ่านตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย เป็นเล่มที่ชอบมาก เพราะเป็นพื้นฐานการเงินง่ายๆ อ่านแล้วปฏิบัติตามได้ทันที นั่นคือ The Richest Man in Babylon จำได้ว่าเล่มนึงราคาร้อยกว่าบาท แต่อ่านแล้วเปลี่ยนแปลงชีวิตการเงินของผมไปอย่างมาก
บทเรียนที่จำได้แม่นตั้งแต่อ่านครั้งแรกก็คือ “เก็บออมหนึ่งในสิบของเงินที่หามาได้ (10%)” อ่านจบผมก็เริ่มเลย หลักคิดหนะง่าย แต่พอทำจริง กว่าจะทำได้ตามตัวหนังสือ บอกเลยไม่ง่าย 555
เริ่มครั้งแรก … รอให้เหลือแล้วออม สุดท้ายทำไม่ได้ กินเรียบ
ครั้งที่สอง … หักออม 10% เอาเข้าจริง ปลายเดือนถอนมาใช้ ไม่ไหวโว้ย
ครั้งที่สาม … หักอัตโนมัติ 10% ปลายเดือนหิวโซอีกตามเคย
สุดท้าย … หักอัตโนมัติ 5% ปลายเดือนไม่เดือดร้อน ทำได้นาน
พอเริ่มเก็บ 5% ได้ ก็เริ่มมีกำลังใจ สุดท้ายก็ปรับเพิ่มเป็น 10% แล้วก็เพิ่มขึ้นๆ เรื่อย จนปัจจุบันผมเก็บได้อย่างน้อย 50-60% ของรายได้ทุกเดือน
นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งของการประยุกต์ใช้บทเรียนจากหนังสือกับชีวิตประจำวันของผม
วันนี้อยากชวนคุณผู้อ่านทุกคนครับว่า ทุกครั้งที่อ่านหนังสือจบ อย่าให้มันเป็นเพียงอีก 1 เล่มที่อ่านจบไป
แต่ขอให้เป็นอีกหนึ่งเล่มที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตเราไปในทางที่ดีได้ขึ้น อย่างน้อยก็อีก 1 มิติในชีวิต อาจจะเป็นด้านสุขภาพ ความสัมพันธ์ การงาน การเงิน การพัฒนาตัวเอง หรือแบ่งปันคืนสู่สังคม อะไรก็ได้
แค่ 1 BOOK 1 LESSON สำหรับหนอนหนังสือทุกท่าน รับรองได้ว่าชีวิตของคุณจะเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างมากมาย
ว่าแล้วแชร์กันหน่อยก็น่าจะดีนะ ว่าเล่มล่าสุดที่คุณอ่าน คืออะไร และคุณหยิบบทเรียนใดจากหนังสือเล่มนั้น ไปปรับใช้ให้ชีวิตดีขึ้นบ้าง
#1Book1Lesson
#TheMoneyCoachTH
-------------------------------------------------------
ข้อมูลหนังสือ The Richest Man in Babylon: เขียนขึ้นในปี คศ. 1926 โดย George S. Clason ถือได้ว่าเป็นหนังสือการเงินที่ได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวาง และหลายๆ คำสอนในหนังสือ ไม่ว่าจะเป็น “7 วิธีเยียวยาถุงเงินที่ว่างเปล่า” และ “กฎ 5 ข้อแห่งทองคำ” ก็ยังคงสามารถประยุกต์ใช้ในปัจจุบันได้อย่างร่วมสมัยเลยทีเดียว
the richest man in babylon 在 THE MONEY COACH Youtube 的最讚貼文
รายการ มันนี เอเวอรีเดย์ ep.11 โค้ชหนุ่มหยิบหนังสือการเงินพื้นฐาน ที่เขียนมาแล้วกว่า 100 ปี (เขียนปี 1926) มาเล่าหลักคิดการเงินสุดคลาสสิค ที่ยังร่วมสมัย และใช้ได้ถึงปัจจุบัน
รายการ YouTube การเงิน โดยโค้ชหนุ่ม พูดคุยตอบคำถามทางการเงินประจำวัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ "มันนี เอเวอรีเดย์ ... เรื่องเงิน คุยสนุก คุยได้ทุกวัน"
the richest man in babylon 在 THE MONEY COACH Youtube 的最佳貼文
รายการ มันนี เอเวอรีเดย์ ep.10 โค้ชหนุ่มหยิบหนังสือการเงินพื้นฐาน ที่เขียนมาแล้วกว่า 100 ปี (เขียนปี 1926) มาเล่าหลักคิดการเงินสุดคลาสสิค ที่ยังร่วมสมัย และใช้ได้ถึงปัจจุบัน
รายการ YouTube การเงิน โดยโค้ชหนุ่ม พูดคุยตอบคำถามทางการเงินประจำวัน ภายใต้คอนเซ็ปต์ "มันนี เอเวอรีเดย์ ... เรื่องเงิน คุยสนุก คุยได้ทุกวัน"
the richest man in babylon 在 Dan Lok Youtube 的精選貼文
The rich have very different habits than the poor and middle class. What are they? Watch this video to find out. In this video, you’ll discover:
- Why the rich keep getting richer, and why you’re not
- The true meaning behind paying yourself first, and how to apply it to the current economy
- What you need to know if you want to become rich
✒️Click Here to read the blog article✒️
https://danlok.com/videos/the-3-best-habits-of-rich-people/
Liked this video? Click here to discover how to think like a millionaire: https://www.youtube.com/watch?v=1Q-nK8XMS48
★☆★BONUS FOR A LIMITED TIME★☆★
You can download Dan Lok's best-selling book F.U. Money for FREE: http://habitsofrich.danlok.link
★☆★ SUBSCRIBE TO DAN'S YOUTUBE CHANNEL NOW ★☆★
https://www.youtube.com/user/vanentrepreneurgroup?sub_confirmation=1
Check out these Top Trending Playlist:
1.) How to Sell High Ticket Products & Services: https://www.youtube.com/playlist?list=PLEmTTOfet46PlgDZSSo-gxM8ahZ9RtNQE
2.) The Art of High Ticket Sales - https://www.youtube.com/playlist?list=PLEmTTOfet46NufVkPfYhpUJAD1OBoQEEd
3.) Millionaire Mindset - https://www.youtube.com/playlist?list=PLEmTTOfet46O591glMGzRMoHaIJB-bQiq
Dan Lok, a.k.a. The King of High-Ticket Sales is one of the highest-paid and most respected consultants in the luxury and “high-ticket” space.
Dan is the creator of High-Ticket Millions Methodology™, the world's most advanced system for getting high-end clients and commanding high fees with no resistance.
Dan works exclusively with coaches, consultants, thought leaders and other service professionals who want a more sustainable, leveraged lifestyle and business through High-Ticket programs and Equity Income.
Dan is one of the rare keynote speakers and business consultants that actually owns a portfolio of highly profitable business ventures.
Not only he is a two times TEDx opening speaker, he's also an international best-selling author of over 12 books and the host of Shoulders of Titans show.
Dan's availability is extremely limited. As such, he's very selective and he is expensive (although it will be FAR less expensive than staying where you are).
Many of his clients are seeing a positive return on their investments in days, not months.
But if you think your business might benefit from one-on-one interaction with Dan, visit http://danlok.com
★☆★ WANT TO OWN DAN'S BOOKS? ★☆★
http://www.amazon.com/Dan-Lok/e/B002BLXW1K
★☆★ NEED SOLID ADVICE? ★☆★
Request a call with Dan:
https://clarity.fm/danlok
★☆★ CONNECT WITH DAN ON SOCIAL MEDIA ★☆★
Blog: http://www.danlok.com/blog/
Podcast: http://www.shouldersoftitans.com/
Twitter: https://twitter.com/danthemanlok
Instagram: https://www.instagram.com/danlok/
YouTube: https://www.youtube.com/user/vanentrepreneurgroup
Linkedin: https://www.linkedin.com/in/danlok
Amazon: http://www.amazon.com/Dan-Lok/e/B002BLXW1K
This video is about The 3 Best Habits Of Rich People
https://youtu.be/ETorPpSZ5wc
https://youtu.be/ETorPpSZ5wc