Oh~
สรุปการดีเบต แจ็ก หม่า vs อีลอน มัสก์ ในงานประชุม World AI / โดย ลงทุนแมน
ลงทุนแมนรับรองว่าเป็นเรื่องน่าสนใจที่สุดในช่วงนี้
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
มีการคุยกันระหว่างแจ็ก หม่า กับ อีลอน มัสก์
โดยหัวข้อเรื่องคือความคิดเห็นต่อ AI ในด้านต่างๆ
เรื่องนี้น่าสนใจอย่างไร
ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง
เริ่มจาก อีลอน มัสก์ กล่าวว่า ตอนนี้ทุกคนกำลังประเมิน AI ต่ำไป
ให้นึกถึงว่าตอนนี้ลิงชิมแปนซีเข้าใจมนุษย์ไหม (ทำไมมนุษย์ต้องมีรถยนต์ ทำไมมนุษย์ต้องสร้างตึก)
เรากำลังเป็นอย่างนั้น ในอนาคตเราอาจไม่เข้าใจเหตุผลที่ AI ทำในเรื่องต่างๆ
แล้วเราจะทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้
คำตอบคือ ถ้าเราไม่สามารถชนะมันได้ ก็ร่วมมือกับมัน ซึ่ง Neuralink (โครงการของ อีลอน มัสก์) ตอบโจทย์นี้ได้
สิ่งที่ Neuralink ทำก็คือ การสร้างช่องทางการสื่อสารขนาดใหญ่ (High Bandwidth) เชื่อมต่อเข้าสมอง
สิ่งนี้เหมือนกับเป็นไซบอร์ก แต่จริงๆ ตอนนี้เราก็เป็นไซบอร์กไปแล้ว
ทุกวันนี้เราใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์เป็นเครื่องมือขยายความสามารถ จากร่างกายของเรา
ถ้าเราขาดโทรศัพท์ ความสามารถของเราจะลดลง
แต่ bandwidth ที่เราใช้กันอยู่นั้นต่ำมาก
โดยเฉพาะ การส่งข้อมูลเข้าเครื่อง (input)
จริงๆ แล้ว input ต่ำลงจากคอมพิวเตอร์สมัยก่อนด้วยซ้ำ
เพราะเราต้องพิมพ์ด้วยนิ้วโป้งสองนิ้ว แทนที่จะเป็นสิบนิ้ว
เมื่ออีลอน มัสก์ พูดจบ
แจ็ก หม่า ก็กล่าวว่า เขาไม่ได้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี
สิ่งที่เขาคิดเกี่ยวกับชีวิต (Life)
AI กำลังเปิดศักราชใหม่ของสังคม ให้เราเข้าใจตัวเราเองดีขึ้น
และเขาคิดว่า AI เป็นสิ่งที่ดี ไม่ได้เป็นสิ่งที่มาคุกคาม หรือเป็นสิ่งที่เลวร้าย
อีลอน มัสก์ แย้งว่า AI น่ากลัวกว่าที่ทุกคนคิด
ยกตัวอย่างเช่น วิดีโอเกม เมื่อก่อน มีแค่บล็อกๆ ไว้เล่น ตอนนี้วิดีโอเกมทำภาพให้สมจริงได้
โลกนี้เกิดขึ้นมาแล้ว 4,000 ล้านปี
อารยธรรมมนุษย์เพิ่งเกิดขึ้น 70,000 ปี
มีเหตุการณ์ผันผวนมากมายในช่วง 70,000 ปีนี้
สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ที่มีเทคโนโลยีมากมายเป็นแค่จุดเล็กๆ ของทั้งหมด
มันจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้ให้เรากลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
แจ็ก หม่า เปลี่ยนเรื่องบอกว่า เรามาคุยเรื่องสนุกกันดีกว่า
คุณต้องการไปดาวอังคาร
อะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตบนดาวอังคาร
แต่ผมสนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นบนโลกมากกว่า
อีลอน มัสก์ ตอบว่า
ผมคิดว่าดาวอังคาร สามารถทำให้ความนึกคิด (consciousness) ของเรายังคงอยู่ต่อไปในอนาคตได้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ยืดเวลาให้เราสามารถเข้าใจจักรวาลนี้ได้ดีขึ้น
การมีชีวิตอยู่บนดาวหลายดวง (Multi planet species) จะทำให้อารยธรรมของเราไม่ถูกทำลาย
และนี่เป็นครั้งแรกในรอบ 4,000 ล้านปี ที่มีหน้าต่างเปิดให้เราพอที่จะสามารถทำอะไรแบบนี้ได้
คำถามคือหน้าต่างบานนี้จะเปิดไปอีกนานแค่ไหน ก่อนที่มันจะปิดอีกครั้ง ถ้าเราไม่รีบทำอะไรตั้งแต่วันนี้
แจ็ก หม่า แย้งว่า
เราไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องพวกนั้น
การทำให้โลกของเราที่มีคนอยู่ 7,000 ล้านคน ดีขึ้น ยั่งยืนขึ้น น่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า
ไม่เกี่ยวอะไรกับว่า อารยธรรมเราจะผ่านมานานแค่ไหน
แต่พวกเรามีชีวิตได้อย่างมากก็ 100 ปี
เราไม่จำเป็นต้องแก้ปัญหาทั้งหมดในอนาคตด้วยตัวเราเองคนเดียว
สิ่งที่เราควรทำคือ การรับผิดชอบต่อโลกในตอนนี้
ถ้าเรารู้ตัวเราเองดีขึ้น เราสามารถทำให้โลกนี้ดีขึ้นได้
มันดีที่มีฮีโร่แบบคุณ อีลอน มัสก์ ที่จะพามนุษย์ไปนอกโลก
แต่เราต้องการฮีโร่แบบพวกเรามากกว่า
ฮีโร่ที่ทำงานหนักบนโลก และพัฒนาเรื่องต่างๆ ทุกวันให้โลกนี้ดีขึ้น
อีลอน มัสก์ แย้งว่า
การไปนอกโลก ใช้ทรัพยากรน้อยมาก น้อยกว่า 1% ของการใช้ทั้งหมดในเรื่องต่างๆ บนโลกนี้ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตเครื่องสำอาง การผลิตของอื่นๆ ที่จำเป็นน้อยกว่า
สำหรับหัวข้อต่อไปที่คุยก็คือ AI จะเข้ามาแย่งงานหรือไม่?
แจ็ก หม่าตอบ
ทุกครั้งที่มีปฏิวัติทางเทคโนโลยี ทุกคนจะกังวล
เมื่อ 200 ปีก่อนที่มีการปฏิวัติอุตสาหกรรม ทุกคนกังวล แต่สุดท้ายมีงานเกิดใหม่มากมาย
และจริงๆ แล้ว เราไม่จำเป็นต้องมีงานเยอะ เราอาจจะทำงาน 3 วันหยุด 4 วันก็ได้
มนุษย์ในอนาคตจะมีเวลาสนุกกับการใช้ชีวิตความเป็นมนุษย์มากขึ้น
ปู่ของผมมีโอกาสได้ไป 3 เมืองในโลกนี้
พ่อของผมมีโอกาสได้ไป 30 เมือง
ส่วนตัวผมได้ไปมาแล้ว 300 เมือง
สิ่งที่สำคัญคือเราต้องเตรียมพร้อมกับยุคที่เราใช้ชีวิตได้นานขึ้น ซึ่งอาจจะนานถึง 120 ปี เราจะใช้ชีวิตอย่างไร ถ้าเราอยู่ได้นานขนาดนั้น
สำหรับหัวข้อนี้ อีลอน มัสก์ ตอบสั้นๆ ว่า ในอนาคต AI อาจจะมาแทนที่มนุษย์ทั้งหมด มนุษย์เป็นเพียงแค่คนเขียนโปรแกรมให้ AI
หัวข้อต่อไปคือ การศึกษาในยุคนี้ควรสอนเด็กอย่างไร?
แจ็ก หม่า ตอบว่าหลักสูตรการศึกษาในปัจจุบัน เหมาะสมสำหรับเด็กในยุคอุตสาหกรรม
สอนให้ท่องจำ
แต่ตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องจำ เพราะหุ่นยนต์จำได้ดีกว่า
สิ่งที่เราควรสอนคือ จะทำอย่างไรให้เด็ก สนุกกับชีวิตของเขา
อีลอน มัสก์ ตอบเรื่องการศึกษาว่า ควรให้เด็กเรียนรู้ให้มากที่สุด มากพอที่จะสามารถคาดการณ์อนาคตได้ โดยผิดพลาดน้อยที่สุด นอกจากคาดการณ์แล้วก็ต้องสร้างอนาคตด้วย
ต่อไป Neuralink จะทำให้มนุษย์สามารถอัปโหลดทักษะเข้าไปในสมองโดยตรง
การศึกษาในปัจจุบันยังถือว่ามีประสิทธิภาพต่ำมาก (Low Bandwidth)
แจ็ก หม่า ตอบว่าเขาไม่กลัวความผิดพลาด เกิดความผิดพลาดแล้วต้องแก้ไขเป็นเรื่องปกติ
มนุษย์ลองผิดลองถูกเสมอมา
และเขาคิดว่า หายนะทางด้าน AI ในอนาคตก็ไม่ได้เกิดจาก AI แต่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์เอง
ซึ่งเขาก็เชื่อว่ามนุษย์จะมีกระบวนการที่สามารถแก้ไขสถานการณ์นั้นได้เอง
สิ่งสำคัญคือ เราจะสอนเด็กอย่างไรให้สมองสามารถสร้างสรรค์ได้มากกว่าเดิม
มนุษย์ไม่สามารถสร้างสัตว์หรือสิ่งอื่นที่ฉลาดว่ามนุษย์ได้
อีลอน มัสก์ แย้งเรื่องนี้ว่า เราสามารถสร้างสิ่งที่ฉลาดกว่าเราได้
ยกตัวอย่างมนุษย์ในยุคเริ่มต้นเราแค่กินอยู่ในป่า
แต่ตอนนี้เรามีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย
เราฉลาดกว่าเมื่อก่อนมาก
และตอนนี้เราก็ไม่ได้ฉลาดที่สุด
อนาคตมนุษย์จะฉลาดกว่านี้อีก
แจ็ก หม่า ท้าให้ อีลอน มัสก์ ยกตัวอย่างสัตว์ที่ฉลาดกว่ามนุษย์บนโลกนี้ที่มนุษย์เคยสร้างมา
อีลอน มัสก์ ตอบว่า ตอนนี้หุ่นยนต์ได้ฉลาดกว่ามนุษย์ในบางเรื่องไปแล้ว
ทั้งหมากรุก ทั้งการแข่งโกะ มนุษย์แพ้การแข่งโกะให้ Alpha Go และ Alpha Go ก็แพ้ให้ Alpha Zero ในที่สุดแล้วหุ่นยนต์จะนำเราไปไกลมาก
แจ็ก หม่า แย้งว่า คำว่า หุ่นยนต์สามารถฉลาดกว่าได้ (Clever)
แต่มนุษย์จะยัง Smart กว่า เพราะมนุษย์มีประสบการณ์
เราสร้างคอมพิวเตอร์ได้ แต่คอมพิวเตอร์ไม่สามารถสร้างคนได้
เรื่องการแข่งโกะ
โกะสร้างเพื่อที่ มนุษย์จะเล่นกับมนุษย์
มนุษย์โง่เองที่จะแข่งกับคอมพิวเตอร์ในเรื่องโกะ
ไม่ต่างอะไรที่มนุษย์จะไปวิ่งแข่งกับรถยนต์
มีบางเรื่องที่มันออกแบบมาให้หุ่นยนต์ทำได้ดีกว่ามนุษย์
มนุษย์ไม่จำเป็นต้องแข่งกับหุ่นยนต์ในเรื่องเฉพาะเหล่านั้น
มนุษย์มีหน้าที่สร้างเครื่องมือต่างๆ ที่จะทำให้ฉลาดขึ้น
แต่ AI ไม่สามารถสร้างเครื่องมือเหล่านั้นได้ด้วยตนเอง
อีลอน มัสก์ กล่าวตอบว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับ ระดับความเป็นอิสระ (Degree of freedom)
เริ่มจาก หมากรุก ต่อไปเป็น โกะ ที่ซับซ้อนขึ้น และอนาคตหุ่นยนต์จะทำอะไรที่ซับซ้อนได้มากขึ้น
และอีลอน มัสก์ ยังกังวลว่าสิ่งหนึ่งที่เป็นอันตรายต่อมนุษยชาติ ก็คือ “อัตราการเกิด”
อีก 20 ปี ประชากรเราจะหายไปอย่างที่ทุกคนคิดไม่ถึง
แจ็ก หม่า เห็นด้วยกับเรื่องนี้ และเสริมว่า ในอีก 20 ปี ประชากรจะเจอปัญหานี้
และอัตราการเกิดจะลดลงเป็นอัตราเร่ง (Accelerate)
สิ่งสำคัญคือ ประชากรจีนที่เกิดมา 18 ล้านคนในแต่ละปี เราต้องใช้เวลากับเด็กพวกนี้ให้ดีที่สุด
ถ้าเป็นเรื่องการทำตามขั้นตอน แบบซ้ำๆ ที่เป็นตรรกะ AI จะทำได้ดีกว่า
แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ตรรกะ เช่นความรัก คนจะทำได้ดีกว่า เพราะมันไม่มีเหตุผล
ในอนาคต มนุษย์จะไม่จำเป็นต้องมี IQ หรือ EQ แต่เป็น LQ หรือ Q of Love
หัวข้อคำถามสุดท้ายก็คือ มนุษย์จะมีชีวิตยืนยาวในโลก แบบยั่งยืนได้อย่างไร
อีลอน มัสก์ กล่าวว่าถ้า Neuralink สำเร็จ ก็จะทำให้เราสามารถบันทึกสถานะของสมองได้ (save state) เหมือนเซฟวิดีโอเกม
หรือสิ่งที่จะยืดอายุได้ก็คือการเปลี่ยนแปลง DNA เหมือน หยุดนาฬิกาของ DNA แต่คำถามก็คือมนุษย์จะยินยอมไหมในการทำเรื่องนี้
สำหรับแจ็ก หม่า ตอบเรื่องความยั่งยืนว่า
ในอนาคต AI จะทำให้เราเข้าใจตัวเราเองดีขึ้น
คนฉลาด รู้ว่าเราต้องการอะไร
คนฉลาดกว่า จะรู้ว่าเขาไม่ต้องการอะไร
และจะทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นในที่สุด
แจ็ก หม่า กล่าวปิดท้ายว่า
เขาอยากให้โฟกัสที่โลก
การที่เราจะเอาขยะออกจากมหาสมุทร ยังยากกว่าการไปดาวอังคาร
ไม่ใช่แค่อายุยืน แต่ใช้ชีวิตอยู่อย่างไรให้มีสุขภาพดี
ไม่ใช่แค่ใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดี แต่ใช้ชีวิตอย่างไรให้มีความสุข
สุดท้าย มนุษย์ต้องโฟกัสที่คุณค่า มนุษย์ต้องมีความฝัน
ไม่ใช่เทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโลก แต่เป็นความฝันที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนโลก
เราต้องเชื่อในตัวเราเอง เราต้องเชื่อในความเป็นมนุษย์ เราต้องเชื่อในมนุษย์รุ่นต่อไป
เราควรรับผิดชอบสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน มากกว่าการอยากแก้ปัญหาทั้งหมดของโลกในวันพรุ่งนี้
มันเป็นเรื่องดีที่มนุษย์จะผิดพลาด
มันเป็นเรื่องดีที่มนุษย์จะเรียนรู้จากความผิดพลาด
และ มันเป็นเรื่องดีที่มนุษย์จะตาย
ปิดท้ายด้วยคำพูดของ อีลอน มัสก์ ที่กล่าวปิด หลังแจ็ก หม่า พูดจบ
“Fight for the life of consciousness”
จงต่อสู้เพื่อให้ความนึกคิด มีชีวิตอยู่ในจักรวาลนี้ต่อไป..
╔═════════════════╗
Blockdit แอปที่เป็นเหมือน คลังความรู้ขนาดใหญ่
อ่านฟรี โหลดเลย Blockdit.com/download
╚═════════════════╝
Summary of Debet Jack Ma vs Elon Musk in World AI / By Investing Man
Investing man is the most interesting thing these days.
A few hours ago.
There was a conversation between Jack Ma and Elon Musk.
The topic is opinion of AI in various aspects.
How interesting is this story?
Investing man will summarize it.
Starting with Elon Musk said now everyone is underestimating AI
I think that Chimpanzee monkey understands humans. (Why do humans have cars, why do humans have buildings?)
We are being like that in the future. We may not understand the reason AI does things.
So what do we do with this situation
The answer is, if we can't win it, cooperate with it. Neuralink (ELON Musk's project) meets this problem.
What Neuralink does is create a large communication channel (High Bandwidth) connecting to the brain.
This is like a cyborg, but we're actually a cyborg now.
Nowadays, we use computer, phone as a tool to expand our body's ability.
If we lack a phone, our ability will decrease.
But the bandwidth we are using is low.
Specifically, sending information to the engine (input)
Input was actually low from computer in the past.
Because we have to type with two thumbs instead of ten fingers.
When Elon Musk finishes talking
Jack Ma also said he's not tech-savvy.
What he thinks about life (Life)
AI is opening a new era of society for us to understand ourselves better.
And he thinks AI is good. Not a threat or a bad thing.
Elon Musk argues that AI is scarier than anyone thinks.
For example, video games were just blogged to play. Now video games can make realistic images.
This world has happened for 4,000 million years.
Human civilization just happened 70,000 years
Lots of volatile events during these 70,000 years.
What's happening now with so much technology is just a small point of all.
What can happen? Let us start again.
Jack Ma changed the story. Let's talk about fun.
You want to go to Mars
What will happen to life on Mars
But I'm more interested in what happens on earth.
Elon Musk replied
I think Mars can make our thoughts (consciousness) continue in the future, so that we can understand the universe better.
Living on many stars (Multi planet species) will unbroken our civilization.
And this is the first time in 4,000 million years that there is a window open for us to be able to do something like this.
The question is how long will this window open before it closes again if we don't do anything from today
Jack Ma argues that
We don't need to think about them.
Making our world 7,000 million people better, standing up would be a better one.
Nothing to do with how long our civilization has passed.
But we have lived so much 100 years
We don't have to solve all the future problems by ourselves alone.
All we should do is take responsibility for the world now.
If we know ourselves better, we can make this world better.
It's good to have a hero like Mr. Elon Musk to take humans outside the world.
But we need more heroes like us
A hero who works hard on earth and develops everyday things to make the world better.
Elon Musk argues that
Going out of the world uses less resources than 1 % of the total use of things on this planet, cosmetic production, production of other things that are less necessary.
For the next topic discussed, will AI come to steal the job?
Jack Ma answered.
Every time there is a technological revolution, everyone worries.
200 years ago there was an industrial revolution, everyone worried, but at the end there were many emerging events.
And we actually don't need a lot of work. We might work 3 days off 4 days.
Future humans will have time to enjoy living more humanity.
My grandfather had a chance to go to 3 cities in the world.
My dad had a chance to go to 30 cities.
Personally, I have visited 300 cities.
What matters is that we must be prepared for the age we live longer, which may be 120 years. How can we live if we live that long?
For this topic, Elon Musk briefly said that in the future, AI might replace all human beings. Human beings are just programmers for AI.
The next topic is how should education in this generation teach kids?
Jack Ma answered that current education course is suitable for children in industrial age.
Teaching you to memorize.
But now we don't have to remember because robots remember better.
What we should teach is how to make a child enjoy his life.
Elon Musk answers education that children should learn as much as possible to predict the future at least. In addition to prediction, we have to build a future.
Next Neuralink will allow humans to upload skills directly into the brain.
Current studies are still considered very low performance (Low Bandwidth)
Jack Ma said he wasn't afraid of mistakes, mistakes, mistakes, then fixing is normal.
Human beings have been wrong, always been right.
And he thinks the future AI disaster is not due to AI, but by human error.
He also believes that humans have a process that can fix that situation.
The important thing is how we teach kids to be more creative.
Humans can't create animals or other things that are smart as humans.
Elon Musk argues that we can create something smarter than us.
For example, humans in the beginning of the era. We just eat in the forest.
But now we have many amenities.
We are much smarter than before
And now we ain't the smartest
Human future will be smarter than this.
Jack Ma challenged Elon Musk for an example of an animal that is smarter than human beings on this planet ever created.
Elon Musk replied that robots are now smarter than humans in some things.
Both chess and human race lost. Alpha Go and Alpha Go and Alpha Go lose to Alpha Zero. Finally, robots will take us very far.
Jack Ma argues that the word robot can be smarter (Clever)
But humans are more smart because humans experience it.
We can build computers but computers can't build people.
About the racing.
Ko made for humans to play with humans.
Stupid human to compete with a computer in Ko.
It's no different that a human would run a car race.
There's something designed for robots to do better than humans.
Humans don't need to compete with robots in those specific things.
Human beings have a duty to create tools to make smarter.
But AI can't build those tools by itself.
Elon Musk says this is about level of freedom (Degree of freedom)
Starting from chess, next to a more complex and future robots will do more complicated things.
And Elon Musk is concerned that one thing that harms humanity is ′′ birth rate
In another 20 years, our population will be gone as everyone cannot think about it.
Jack Ma agrees with this and reinforces that in 20 years, the population will face this problem.
And the birth rate is reduced to accelerate (Accelerate)
The important thing is that the Chinese population born is 18 million each year. We need to spend the best time with these kids.
If it's a logical recurring process, AI will do better.
But if it's not logical, like love, people will do better because it doesn't make sense
In the future, humans will not need cảpĕn t̂xng or EQ but LQ or Q of Love.
The topic of the last question is how can humans live in a sustainable world?
Elon Musk said if Neuralink succeeded, it would allow us to record the state of brain (save state) like a video game save.
Or what it takes to age is DNA change like DNA stop a DNA clock. But the question is, will humans agree to this?
For Jack Ma to answer about sustainability
In the future, AI will make us understand ourselves better.
Wise people know what we want
A wise man knows what he doesn't want.
And will make this world a better place eventually
Jack Ma said the end
He wants to focus on the world.
It's harder to take garbage out of the ocean than going to Mars.
It's not just a longevity, but how to live healthy.
Not just living a healthy life but how to live a happy life
Finally, humans must focus on values. Human must have dreams.
It's not technology that will change the world, but it's the dream behind technology that will
We must believe in ourselves. We must believe in humanity. We must believe in the next generation of humans.
We should be responsible for what is present, rather than wanting to solve all the problems of the world tomorrow.
It's a good thing humans can go wrong.
It's good that humans learn from mistakes.
And it's a good thing that humans will die.
Ending with the words of Elon Musk that shuts down after Jack Ma's finish.
“Fight for the life of consciousness”
Fight to keep your thoughts alive in this universe..
╔═════════════════╗
Blockdit an app that is like a huge inventory of knowledge.
Read it for free. Load it Blockdit.com/download
╚═════════════════╝Translated
同時也有4部Youtube影片,追蹤數超過115萬的網紅Rayner Teo,也在其Youtube影片中提到,I want to share with you a trade that I got WRONG big-time from the start. SUBSCRIBE: https://bit.ly/2MsGjRR If you want more actionable Forex tradin...
「what happens at the end of i'm your man」的推薦目錄:
what happens at the end of i'm your man 在 Rayner Teo Youtube 的最佳貼文
I want to share with you a trade that I got WRONG big-time from the start. SUBSCRIBE: https://bit.ly/2MsGjRR
If you want more actionable Forex trading tips and strategies, go to https://www.tradingwithrayner.com
FOLLOW RAYNER:
Facebook: https://www.facebook.com/groups/forextradingwithrayner
Twitter: http://www.twitter.com/rayner_teo
My YouTube channel: http://bit.ly/2EFg5VN
This is a trade on Pound Aussie, the daily time frame, and I just want to share with you my thought process to why I took this trade. So you can see that the price pretty much came into this area of resistance over here. Over here price came into this level and it got rejected, right? Cause you saw you saw this bearish reversal pattern at a nice round number of one point eight. And this obvious market structure resistance. So when this occurred, I told myself that I wanna get short because I'm against this obvious market structure. So I'm going down to a lower time frame, the four hour time frame, to look for an entry trigger.
One ATR is somewhere about here and I went short. And as you can see at this point in time - boom. I just got stopped out. The market just rallied against me and I took the loss on this trade. Now at this point, I wanna say that I don't regret making this trade. Yes I am wrong on this trade. The market has proved me wrong big time. But I have my stops in place to kinda contain the losses. But what happens is that, what if you hesitate to take the loss? What if you are thinking, lets say for example at this point in time, the price is now back at resistance.
You can see that trading is all about balancing your risk to reward. You never know how much the market will move in your favor. You never know how much the market will move against you. All you can do is to have a set of rule to play good defense and to take what the market offers you. So the three trades I shared with you, although the first two are losing trades, it hit my stop loss, I'm just protecting myself.
So I kinda leave it to you, depending on your trading goals, how you want to manage this trade. Right this is platinum. Another trade that I want to share with you is the Pound against the Swiss Franc. This one over here you can see that this market is in a down trend. In fact, there is this minor structure over here that I didn't draw it, but you can see it over here. That's that once, here, okay, and then here second time, and then third time over here. But what's interesting is that if you look at the four hour timeframe, there is a chart pattern that is showing you signs of weakness in the market.
This is a chart pattern, is what we call the descending triangle. Notice that there is lower highs coming into this area of support. This tells you that the buyers try to push price higher, but keep getting smashed down lower by the sellers at lower and lower prices. So now the buyers are kinda constrained, they are pushed into a corner. And if you ask me, there's a good chance, there's a good chance that this market could break down lower. So what I'm looking for is for a break and close below this area of support. If it does, again I'll go short, have my stops one ATR above this high, somewhere here, and try to ride the downward swing. And see, and to take what the market offers. If it's not going to offer anything I just bail out and say "Sayonara. Thank you and I'm out. See ya."
So that's what I'm doing on this Pound Swiss Franc trade. That's the setup that I'm looking at, okay? So these are the couple of trading opportunities that I feel that is worth watching for this coming week. And hopefully the first three trades that I share with you are good lessons to kinda ground you into what you should expect from trading. So with that said I have come to the end of this week's market analysis. If you have enjoyed it please hit the subscribe button below. Just click on it, duh duh duh click. Hit the like button. If you have any feedback, comments, questions, leave it in the comment section below and I'll get back to you. Alright so that's it. I wish you good luck and good trading until next time.
what happens at the end of i'm your man 在 pennyccw Youtube 的最佳貼文
After beating up on some of
the NBA's lightweights, the Philadelphia 76ers wilted down the
stretch against one of its heavyweights.
Bobby Jackson scored half of his 18 points in the fourth quarter
and Chris Webber came alive in the second half as the
Sacramento Kings posted a 107-99 victory over the 76ers, who had
a nine-game winning streak stopped.
It was the first loss since the All-Star break for Philadelphia,
which did much of its damage during its run against teams
looking at the NBA Lottery.
During their streak, the Sixers had a pair of wins over Chicago
and Cleveland, one against Memphis and another at Denver. Those
teams are a combined 116 games under the .500 mark.
On Monday, the Sixers hung tough against the league's third-best
team and held a 95-94 lead with 2:51 remaining following a
basket by Keith Van Horn.
But the Kings took over, outscoring the Sixers 13-4 the rest of
the way. Peja Stojakovic gave the Kings the lead for good at
the 2:36 mark with a jumper and, after a timeout, Doug Christie
had a steal and layup.
After Van Horn's basket, the Sixers had four empty trips in a
row. Eric Snow made an errant pass that Christie turned into
his layup, Snow missed two free throws and Van Horn had
turnovers on the next two possessions.
"I know myself, I had a big turnover and missed a couple of free
throws and that hurt us," Snow said. "They made baskets and
made the stops at the end. I thought we fought so long and had
a great opportunity at the end but that's what happens when you
play a great team like that."
"I think we made some mental mistakes, a couple of turnovers
that allowed them to get easy baskets, and they really got
momentum because of it," said Van Horn, who scored 17 points.
Stojakovic drilled another jumper with 1:19 remaining and Mike
Bibby made two free throws with 49 seconds to go, making it
102-95.
Webber scored 23 of his 29 points in the second half as the
Kings won for the sixth time in their last seven games. He also
added 10 rebounds.
"I really thought we did a nice job of staying with this game,"
Kings coach Rick Adelman said. "They are playing so well, and
Iverson was making shots, but we kept saying, `Don't give them
easy baskets.'" We gave them enough to hang around. In the end
we made some nice plays to open it up."
Vlade Divac also provided problems for the Sixers. The
Yugoslavian center finished with 17 points, 13 rebounds and
seven assists.
Allen Iverson scored 35 points and Snow added 15 and 13 assists
for Philadelphia, which fell 3 1/2 games behind first-place New
Jersey in the Atlantic Division.
"I don't feel good about our loss at all," said Iverson, who
went 13-of-23 from the floor. "I don't care anything about
moral victories. I'm too far along in my career to even care
about moral victories, especially if we have a chance to win the
game."
With Bibby plagued by foul trouble, Jackson was quiet for the
first three quarters before coming alive over the final 12
minutes.
After Webber's jumper provided a 85-83 lead with 7:25 to go,
Jackson converted a spectacular reverse layup and drilled a
3-pointer, giving the Kings a 90-83 lead.
It was still a seven-point game with 4:24 to play following a
hook by Webber, who played aggressively in the second half. The
star forward went 10-of-15 from the floor over the final two
quarters after going just 2-of-6 prior to the break.
"I wanted to be aggressive," Webber said. "We heard the murmurs
and that is kind of why you like to play on the road, 'cause
your supposed to miss on the road, but I just wanted to come out
in the second half and take the same shots and have them go
down."
"They made an effort to get him the ball down low and they
weren't doing that (in the first half)," Van Horn said. "He's
a tough guy to guard down there."
But the Sixers, who were playing for the third time in four
nights, would not go quietly. Iverson scored six straight
points, and Van Horn's basket gave the Sixers their last lead at
95-94.
Iverson and Snow clearly got the better of the backcourt matchup
with Bibby and Christie. The Sixers' duo held a 50-18
advantage in points and had a combined seven steals, including
five by Iverson.
Iverson's 19-footer with 8:46 left in the third quarter helped
the Sixers match their biggest lead at 64-57.
what happens at the end of i'm your man 在 Bubzvlogz Youtube 的精選貼文
Hello Youtube family,
I'm a little nervous about posting today's video. I'm sorry it's not the usual chirpy type of vlog. Originally, the footage wasn't supposed to be up so early but life never goes the way we plan right?
It’s been a bit of an emotional week. Due to a missed period, I took a pregnancy test on 8th October to find out we were expecting again. Just to be sure, I sent Tim out to get more tests to be sure. Since he came back with a two-pack, I took another test and it came back positive again. With one spare, I took the other test the next day but it came back negative (note- it wasn’t morning urine). Confused- I sent the hubby to grab more. This time, he came back with a triple pack. The next test was a big fat positive. After the initial confusion, we realised we really wanted this baby and thought maybe this baby was truly meant to be.
At the same time, Tim and I didn’t want to think too much. It was very early so we knew anything could happen since 1 in 5 pregnancies end up in a miscarriage. However, it didn’t stop us from thinking of baby names and envisioning our life as a family of four.
During my photoshoot in London, I felt lightheaded and my stomach pains started to feel more intense. I thought maybe I was just over fatigued so didn’t want to worry myself too much. As I was waiting for my flight back home, I felt pressure in my lower region. I stumbled to the bathroom and realised I was bleeding. Rather than the dark brown spotting I had days ago, it was a brighter colour of red indicating fresh blood. The bleeding eventually stopped for a bit so I felt more assured but as I got out of the airplane, I felt the bleeding started to return. Since I was emotionally and physically tired from the long day, I went to to bed early with hopes that rest could maybe prevent the worse from happening. Around 6am, I woke up to more stomach pains and pressure as I went to use the bathroom, I finally accepted I was having a miscarriage.
I knew my body wasn’t in it’s best condition so in a lot of ways, I wonder if it could’ve been prevented. It’s been an emotional few days. I spent it doing some grieving and I feel a lot better now. Since I was less than 5 weeks along, I’m thankful the loss happened early. To those who have also experienced a loss, I am so so sorry and my heart is with you. Know that you are not alone. We can only try to understand that everything happens for a reason. I hope you can take comfort in your family and friends.
It made me thankful to know Isaac was born into the world safely with no complications. I know Tim and I are still young and we have more opportunities in the future to expand our family.
We were not ready for another baby and the pregnancy was definitely a shock but our early loss has made us realise that if we are blessed to get pregnant again in the future, we would be ready and happy for it.
Physically, my body doesn’t feel too bad. It just felt like I was having a very heavy period. Usually my flow finishes in 4-5 days but my womb completely cleared within 2 days. Still experiencing a little nausea and cramping but I’m getting lots of cuddles from the family. Chubbi and Domo make fantastic hot water bottles too.
Even though it was an early miscarriage, I think I was a more upset about it than I thought I would be. I wasn’t as excited as I was with my first pregnancy and it was because I was overwhelmed since I knew what to expect. Once I started to embrace the changes about to come our way, I was able to connect with my pregnancy with excitement. Unfortunately, by then- the pregnancy couldn't progress.
Tim has reminded me that I could’ve been perfectly healthy and careful and yet sometimes, these things will just happen. We still feel incredibly blessed for our family already. We will leave it all to the Lord. He has been taking care of our family and we know everything happens for a reason. We know other people out there have had it way worse. Our situation is nothing in comparison. We are always going to be thankful ^_^
Love, the Bubz family xo
Subscribe to my Vlog channel for daily doses of HAPPINESS!
http://bit.ly/BubzVlogz
Subscribe to my Beauty Channel here:
http://bit.ly/BubzBeauty
Connect with me:
MY WEBSITE: http://www.bubzbeauty.com
TWITTER: http://www.twitter.com/bubzbeauty
INSTAGRAM: http://www.instagram.com/itsbubz
TIM'S INSTAGRAM: http://www.instagram.com/bubzhubz
FACEBOOK: http://www.facebook.com/itsbubz
ADD ME ON SNAPCHAT: “THEREALBUBZ”
BUY MY EYESHADOW PALETTE HERE: http://bit.ly/BUBZpalette