กรณีศึกษา KakaoBank ใช้เวลา 4 ปี ขึ้นมาเป็นธนาคารใหญ่สุด ในเกาหลีใต้ /โดย ลงทุนแมน
KakaoBank เป็นบริษัทของเกาหลีใต้ ที่เป็นธนาคารดิจิทัลโดยสมบูรณ์ ไม่มีหน้าสาขาเลย
KakaoBank เพิ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้ไปเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา
ปัจจุบันมีมูลค่าราว 1.1 ล้านล้านบาท ซึ่งใหญ่กว่า KB Financial Group บริษัทแม่ของ Kookmin Bank ธนาคารพาณิชย์ดั้งเดิมที่ใหญ่สุดในประเทศเกาหลีใต้เป็นเท่าตัว
จึงทำให้ KakaoBank ที่เพิ่งก่อตั้งมาเพียง 4 ปี กลายเป็นธนาคารที่มีมูลค่าบริษัทมากที่สุด
นอกจากนี้แอปพลิเคชัน KakaoBank ยังกลายมาเป็นแอปพลิเคชันธนาคารที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในเกาหลีใต้อีกด้วย
แล้ว KakaoBank เอาชนะธนาคารพาณิชย์แบบดั้งเดิม ในระยะเวลาเพียง 4 ปี ได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
โลกที่กำลังมุ่งสู่ออนไลน์ด้วยความรวดเร็ว ได้ทำให้ธนาคารพาณิชย์แบบดั้งเดิม
ต้องรีบปรับตัวมาให้บริการผ่านแพลตฟอร์มแบบดิจิทัล เพื่อไม่ให้ถูกดิสรัป
ซึ่งคู่แข่งคนสำคัญของธนาคาร ก็คือผู้ให้บริการ “ธนาคารดิจิทัล” ที่มีรูปแบบการให้บริการออนไลน์ทั้งหมด ไม่มีสาขาเลย เช่น Nubank จากประเทศบราซิล ที่มีบริษัท Berkshire Hathaway ของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ให้ความสนใจและได้เข้าไปร่วมลงทุนเมื่อไม่นานมานี้
โดย Nubank เริ่มจากการให้บริการบัตรเครดิตดอกเบี้ยต่ำในปี 2013 ก่อนที่จะขยายบริการมาเป็นธนาคารดิจิทัลแบบสมบูรณ์ อย่างเช่น บริการเงินฝากและสินเชื่อ ในปี 2018
ปัจจุบัน Nubank คือธนาคารดิจิทัลที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลกราว 40 ล้านบัญชี
ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือชาวบราซิล โดยคิดเป็น 18.8% ของประชากรบราซิล
และถ้าถามว่ารองจาก Nubank หรือธนาคารดิจิทัลที่มีผู้ใช้งานมากเป็นอันดับ 2 ของโลกคือใคร ?
คำตอบก็คือ ธนาคารดิจิทัลจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ชื่อว่า “KakaoBank”
หลายคนอาจคุ้นชื่อ Kakao จาก KakaoTalk แอปพลิเคชันแช็ตที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในเกาหลีใต้ ซึ่งบริษัท Kakao ก็ได้ต่อยอดมาทำธุรกิจให้บริการธนาคารดิจิทัลด้วย
ในประเทศเกาหลีใต้ แม้จะเคยมีบริษัทที่ไม่ใช่ธนาคาร อยากลองทำธนาคารดิจิทัลมาตั้งแต่ปี 2001 แต่ที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีกฎหมายใด ๆ รองรับ
จนกระทั่งในปี 2015 รัฐบาลเกาหลีใต้ เพิ่งมีการประกาศว่าจะเริ่มออกใบอนุญาตให้ผู้ประกอบการธนาคารดิจิทัลแล้ว ซึ่งก็ได้ออกมาเป็นรูปเป็นร่างจริงในปี 2017 หรือเพียง 4 ปีก่อน ซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว
ในปี 2017 มีผู้ให้บริการธนาคารดิจิทัล 2 แห่ง ที่ขอใบอนุญาต นั่นก็คือ
K Bank ของบริษัท KT Corporation บริษัทเทเลคอมที่ใหญ่สุดในเกาหลีใต้
KakaoBank ของบริษัท Kakao ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันแช็ตอันดับ 1 ของเกาหลีใต้
การขอใบอนุญาตนี้ นับเป็นการจดทะเบียนธุรกิจธนาคารครั้งแรกในรอบ 25 ปี และเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของธนาคารเกาหลีใต้นับตั้งแต่ช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง ที่บางธนาคารควบรวมกิจการกันเพื่อความอยู่รอด
ซึ่งก็ทำให้ปัจจุบัน เกาหลีใต้มีธนาคารที่ใหญ่ที่สุด 4 แห่ง นั่นก็คือ Kookmin Bank, Shinhan Bank, Hana Bank และ Woori Bank ที่ยังเป็นผู้นำด้านการให้สินเชื่อ ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่คนละ 20-30% และมีอัตราการเติบโตของสินเชื่อโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 8-9% ต่อปี
แต่ธนาคารดั้งเดิมเหล่านี้ กำลังเผชิญการแข่งขันที่ท้าทายจากธนาคารดิจิทัล โดยเฉพาะผู้นำอย่าง KakaoBank ที่ธุรกิจสินเชื่อมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงถึง 60-70% ต่อปี จนมีส่วนแบ่งการตลาดไล่ตามมาเป็น 14% ซึ่งถ้ายังเติบโตด้วยอัตรานี้ อีกไม่นาน KakaoBank จะกลายเป็นธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อได้มากที่สุดในประเทศ
ที่สำคัญก็คือ แม้ว่าธนาคารดั้งเดิมต่างก็มีแอปพลิเคชันของตัวเอง แต่แอปพลิเคชันธนาคารที่มีผู้ใช้งานมากสุด กลับกลายเป็น KakaoBank
ตั้งแต่ที่เปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี 2017 KakaoBank ก็มีผู้ใช้งาน 3 แสนบัญชีภายใน 24 ชั่วโมงและสามารถแตะระดับ 1 ล้านบัญชีได้ ภายในสัปดาห์แรก
จนถึงปัจจุบัน KakaoBank มีผู้ใช้งาน 16.7 ล้านบัญชี คิดเป็น 32.5% ของจำนวนประชากรเกาหลีใต้ มากกว่าแอปพลิเคชันของธนาคารดั้งเดิมที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดอย่าง Kookmin Bank ที่มีผู้ใช้งานราว 11 ล้านบัญชี ซึ่งน่าสนใจว่าผู้ใช้งานของ Kookmin Bank ลดลงจาก 15 ล้านบัญชีในปี 2019
และเมื่อเทียบกับ K Bank ธนาคารดิจิทัลของบริษัท KT Corporation ที่เปิดตัวเดือนเมษายน ปี 2017 หรือ 3 เดือนก่อนการเปิดตัวของ KakaoBank ปัจจุบันมีผู้ใช้งานเพียง 6.3 ล้านบัญชี
ทั้ง ๆ ที่ K Bank ดูจะได้เปรียบกว่าเพราะมีฐานลูกค้าจากบริการเทเลคอมเกาหลีใต้กว่า 20 ล้านบัญชี แต่บริษัทก็ไม่สามารถดึงลูกค้าให้มาใช้บริการได้
ในขณะที่ KakaoBank มีฐานลูกค้าจากแอปพลิเคชันแช็ต KakaoTalk ราว 40 ล้านบัญชี สามารถเพิ่มจำนวนผู้ใช้งาน KakaoBank ได้อย่างรวดเร็ว
แล้วอะไรเป็นสาเหตุที่ KakaoBank สามารถชนะในตลาดนี้ได้ ?
หนึ่งในเหตุผลหลัก ก็เป็นเพราะว่า KakaoBank มี KakaoPay ที่เป็นบริการชำระเงินเชื่อมกับแอปพลิเคชันแช็ต
ที่ได้เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2014 และได้รับความนิยมสูงมากอยู่แล้ว
อีกส่วนหนึ่งก็เพราะผู้ใช้งาน KakaoBank สามารถโอนเงินระหว่างบัญชี KakaoTalk ได้เลย
จึงทำให้การถ่ายโอนผู้ใช้งานทำได้ง่ายและเร็ว
นอกจากนี้ ก็ยังมีอีกปัจจัยที่ KakaoBank สามารถดึงดูดผู้ใช้งานได้ก็คือ อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
เพราะธนาคารดิจิทัลได้เปรียบธนาคารแบบดั้งเดิมในเรื่องต้นทุนที่ต่ำกว่าจากการที่ไม่มีต้นทุนในการจัดการหน้าสาขา ทำให้ไม่ต้องจ้างพนักงานเป็นจำนวนมาก
ความได้เปรียบในเรื่องต้นทุน จึงทำให้ธนาคารดิจิทัลอย่าง KakaoBank คิดดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำกว่าและให้ดอกเบี้ยเงินฝากที่สูงกว่าธนาคารแบบดั้งเดิมได้อย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงยังให้บริการด้านอื่น ๆ แบบไม่คิดค่าธรรมเนียม ได้มากกว่าธนาคารแบบดั้งเดิม
ยกตัวอย่างเช่น อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อไมโครของธนาคารดั้งเดิมจะอยู่ที่ 6-19%
แต่ KakaoBank คิดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อไมโครเพียง 3% ถูกกว่าธนาคารดั้งเดิมมากกว่าครึ่ง
นอกจากความได้เปรียบโดยทั่วไปของธนาคารดิจิทัลแล้ว KakaoBank ยังสร้างจุดแข็งที่เหนือกว่าทุกแอปพลิเคชันธนาคารในประเทศ ด้วยการใส่ใจประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าเป็นหลัก
แอปพลิเคชันของธนาคารดั้งเดิมมีจุดอ่อนอยู่หลายด้าน อย่างเช่น การสร้างแอปพลิเคชันแยกหลายอัน สำหรับบริการที่ต่างกัน ทำให้ผู้ใช้งานสับสน รวมไปถึงระบบที่ไม่เสถียร การออกแบบหน้าแอปพลิเคชันใช้งานยาก ขั้นตอนการทำธุรกรรมยังคงซับซ้อนไม่ต่างจากการทำธุรกรรมที่หน้าสาขา
KakaoBank เลยออกแบบหน้าแอปพลิเคชันให้สวยงามและใช้งานง่าย ที่สำคัญคือลดความซับซ้อนและลดเวลาของแต่ละธุรกรรมลง
ยกตัวอย่างเช่น การประเมินความเสี่ยงลูกค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-KYC ที่มีมาก่อนแล้ว แต่แอปพลิเคชันของธนาคารดั้งเดิมใช้เวลาอนุมัติราว 30 นาที ขณะที่ KakaoBank ออกแบบให้ใช้เวลาอนุมัติแค่ 7 นาที ภายใต้มาตรฐานการประเมินความเสี่ยงแบบเดียวกัน
นอกจากเรื่องการใช้งานที่สะดวกแล้ว KakaoBank ยังประสบความสำเร็จจากการใช้ฐานข้อมูลลูกค้า มาออกแบบบริการใหม่ ๆ ได้ถูกใจผู้ใช้งาน
ยกตัวอย่างเช่น “บัญชีออมเงิน 26 สัปดาห์” ที่ให้ผู้ใช้งานเปิดบัญชีออมทรัพย์เพื่อออมเงินรายสัปดาห์ โดยสามารถตั้งจำนวนเงินออมแต่ละสัปดาห์ได้เอง สามารถเพิ่มลด ช่วงเวลาออมเงินได้เอง รวมถึงสามารถแชร์สถานะการออมลงโซเชียลมีเดียได้ด้วย
บริการนี้ก็เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว เพราะผู้ใช้งานรู้สึกได้ท้าทายตัวเอง โดยภายในเดือนแรกที่เปิดตัว มีผู้ใช้งานกว่า 3 แสนบัญชี ผ่านไป 4 ปี มีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 8 ล้านบัญชีในปัจจุบัน
อีกบริการที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2020 ก็คือ “Mini” บริการสำหรับผู้ใช้งานที่มีอายุระหว่าง 14-18 ปี ที่ยังไม่มีบัญชีออมทรัพย์หรือบัตรเครดิต ให้สามารถซื้อก่อนจ่ายทีหลังได้ โอนเงินได้แม้ไม่มีบัญชีธนาคาร รวมถึงยังออกบัตร Minicard สำหรับให้ใช้จ่ายแบบออฟไลน์ได้ด้วย
บริการ Mini ก็ประสบความสำเร็จอีกเช่นเคย เพราะมีผู้ใช้งานทะลุ 5 หมื่นบัญชีในวันเดียว และทะลุ 5 แสนบัญชีใน 1 เดือน
และนอกจากจะเพิ่มประเภทสินเชื่อและบริการให้ผู้ใช้งานที่เปิดบัญชีกับ KakaoBank เองแล้ว
KakaoBank ยังพัฒนาแพลตฟอร์มของตัวเอง เพื่อรองรับผู้ใช้บริการจากสถาบันการเงินเจ้าอื่นด้วย
ยกตัวอย่างเช่น บริการเปิดบัตรเครดิตของผู้ให้บริการอื่น เช่น Shinhan Card และ Samsung Card
โดยมี KakaoBank เป็นผู้จัดจำหน่ายและใช้กลยุทธ์การดึงดูดลูกค้าด้วยลายบัตรที่เป็นแครักเตอร์จากสติกเกอร์ของ KakaoTalk เอง เช่น Ryan ซึ่งได้รับความนิยมสูงมากอยู่แล้ว คล้ายกับ Moon ของแอปพลิเคชันแช็ต LINE
KakaoBank ยังให้บริการเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นของบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ ให้บริการขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินอื่น ๆ และล่าสุดก็ได้พัฒนาหน้าแอปพลิเคชันให้แสดงทุกบัญชี จากทุกสถาบันการเงินทั้งหมดที่ลูกค้ามี
ผลจากการตีแตกความต้องการของลูกค้า ก็สะท้อนมาที่ผลการจัดอันดับของ RFi ที่ให้ KakaoBank เป็นแอปพลิเคชันที่ได้คะแนนความพึงพอใจจากผู้ใช้งานมากที่สุดในเกาหลีใต้ 2 ปีซ้อน
ที่น่าสนใจก็คือ ความพึงพอใจของผู้ใช้งาน KakaoBank ในช่วงอายุ 40-50 ปี สูงกว่ากลุ่มที่อายุน้อยกว่า ซึ่งข้อมูลนี้ก็สอดคล้องกับกลุ่มลูกค้าที่ KakaoBank เลือกโฟกัสกลุ่มผู้ใช้งานในเมืองที่มีอายุ 30-50 ปีมาตั้งแต่แรก สวนทางกับบริษัทฟินเทคส่วนใหญ่ที่จะโฟกัสกลุ่มผู้ใช้งานช่วงอายุ 20-30 ปี
เพราะ KakaoBank มองว่าผู้ใช้งานกลุ่มนี้ มีความเข้าใจในบริการทางการเงินมากกว่า และมีรายได้โดยเฉลี่ยสูงกว่า ทำให้โอกาสไม่จ่ายคืนหนี้มีน้อยกว่า เช่นกัน
ซึ่งก็ดูเหมือนว่า KakaoBank คิดถูก เพราะ KakaoBank มีสินเชื่อที่ลูกหนี้ไม่ยอมจ่ายนานกว่า 3 เดือนติดต่อกัน หรือ NPL อยู่ที่ 0.18% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของธนาคารในเกาหลีใต้ที่ 0.55%
ในด้านการทำกำไร แม้ KakaoBank จะเก็บดอกเบี้ยสินเชื่อต่ำและจ่ายดอกเบี้ยเงินฝากสูง ทำให้รายได้สุทธิจากดอกเบี้ยน้อยลง
แต่จากการควบคุมต้นทุนได้ดี เลยทำให้ความสามารถในการทำกำไรจากดอกเบี้ยหรือ NIM อยู่ในระดับเดียวกับค่าเฉลี่ยของธนาคารในเกาหลีใต้
ผลจากความสามารถในการทำกำไรที่ไม่แพ้ธนาคารดั้งเดิมและจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เลยทำให้ KakaoBank สามารถทำกำไรได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ไตรมาส 1 ปี 2019 หรือเพียง 18 เดือนหลังจากเริ่มให้บริการเท่านั้น เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าอย่างน้อยต้องใช้เวลา 3-5 ปี
ซึ่งความเร็วในการทำกำไรนี้ก็ถือว่าผิดปกติไปจากบริษัทฟินเทคโดยส่วนใหญ่ ที่จะยอมขาดทุนมหาศาล เพื่อทุ่มเงินลงทุนเร่งขยายฐานลูกค้าและพัฒนาเทคโนโลยีก่อน อย่าง Nubank เองก็ยังขาดทุนอยู่ หรือ K Bank จากบริษัท KT Corporation ก็เพิ่งทำกำไรได้เป็นครั้งแรกในไตรมาส 2 ปี 2021 ที่ผ่านมา
ขณะที่ KakaoBank ก็ยังเน้นลงทุนเพื่อขยายฐานลูกค้าและพัฒนาบริการเช่นกัน แต่กำไรยังเติบโตเป็นเท่าตัวได้อย่างต่อเนื่อง อย่างล่าสุด กำไรจากการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2021 ก็เติบโต 200% โดยยังคงมีรายได้หลักกว่า 70% มาจากดอกเบี้ย
สิ่งที่ต้องจับตามองต่อจากนี้ นอกจากพัฒนาการของ KakaoBank เอง ก็คือคู่แข่งคนสำคัญอย่าง Toss สตาร์ตอัปยูนิคอร์นด้านฟินเทคแรกของเกาหลีใต้ ที่เริ่มเปิดตัวแอปพลิเคชันโอนเงินบนสมาร์ตโฟนเมื่อปี 2015
โดย Toss Bank เพิ่งได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ให้บริการธนาคารดิจิทัลรายที่ 3 ของเกาหลีใต้ ในเดือนกันยายนนี้ แต่จะโฟกัสลูกค้าต่างไปจาก KakaoBank อย่างเช่น ผู้ใช้งานที่อายุน้อยกว่าและเน้นสินเชื่อสำหรับกลุ่มผู้มีคะแนนเครดิตต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
และแม้ว่าผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Toss อย่างเช่น บริการชำระเงินและบัญชีซื้อขายหุ้น จะมีฐานลูกค้ารวม 20 ล้านบัญชี แต่เมื่อเทียบกับผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ของอาณาจักร Kakao ที่มีเกือบ 50 ล้านบัญชี หรือเกือบทั้งหมดของประชากรเกาหลีใต้ 51.7 ล้านคน ก็นับว่ายังเป็นเรื่องยากสำหรับ Toss ที่จะชิงฐานลูกค้าไปจาก KakaoBank
และด้วยเรื่องราวทั้งหมดนี้
นั่นจึงทำให้ในเวลาเพียง 4 ปี KakaoBank ได้กลายมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากถึง 1.1 ล้านล้านบาท ใหญ่เป็นอันดับ 10 ในเกาหลีใต้ และได้ขึ้นแท่นเป็นบริษัทธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ ไปแล้วเรียบร้อย..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://asia.nikkei.com/Business/Finance/South-Korea-digital-lenders-challenge-nation-s-traditional-giants
-https://openknowledge.worldbank.org/bitstream/handle/10986/34701/Digital-Banks-Lessons-from-Korea.pdf?sequence=1&isAllowed=y
-https://uniteconomics.substack.com/p/kakao-bank-worlds-most-profitable
-https://www.theedgemarkets.com/article/cover-story-south-korea-experience-how-kakao-bank-forced-traditional-banks-buck
-https://asianbankingandfinance.net/financial-technology/exclusive/how-kakaobank-successfully-cracked-profitability-code-two-years-after
-https://www.koreatimes.co.kr/www/biz/2019/05/126_269111.html
-http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20190618000501
-http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20210712000783
-http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20210817000968
-http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20210805000838
-https://www.kedglobal.com/newsView/ked202106110008
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過211萬的網紅Hari Won,也在其Youtube影片中提到,♥ Đăng ký kênh để theo dõi MV mới nhất của Hariwon nhé : https://bit.ly/HariWonofficial ♥ Facebook Hariwon: http://bit.ly/FB_Hariwon 우리은행과 함께 동행하는 하리...
woori bank 在 Facebook 的最讚貼文
Thật vui khi Trấn Thành được đồng hành cùng Woori Bank trong từng cột mốc quan trọng của Ngân hàng.
Trong tình hình COVID-19 đang diễn ra căng thẳng, Woori Bank đã cho ra mắt tính năng e-KYC mở tài khoản mọi lúc mọi nơi siêu tiện lợi mà không cần đến ngân hàng trên ứng dụng "Woori WON Vietnam". Tính năng e-KYC là việc định danh khách hàng trực tuyến, xác thực tự động 100% online. Trong trường hợp xác thực tự động không trùng khớp, bạn có thể đặt lịch với chuyên viên tư vấn thông qua video call để xác thực trực tiếp. Tính năng này vừa giúp mọi người tiết kiệm thời gian vừa đảm bảo an toàn trong mùa dịch này.
Các bạn tải ứng dụng để trải nghiệm và giữ gìn sức khỏe nhé!
- HĐH iOS: https://bit.ly/WONBankingIOS1
- HĐH Android: https://bit.ly/WONBankingAndroid
#TranThanh #AXin #WooriBank #eKYC
woori bank 在 Facebook 的精選貼文
Thưa quý vị!
Như đã hứa, Trấn Thành xin được chia sẻ hình ảnh chứng từ uỷ nhiệm chi và sao kê về số tiền 6.453.000.000đ đã chuyển trong 3 đợt cho cô Ngọc Hương (mẹ của ca sỹ Hồ Ngọc Hà) như sau:
Đợt 1: 1.000.000.000đ (19/10/20)
Đợt 2: 2.100.000.000đ (26/10/20
Đợt 3: 3.353.000.000đ (21/12/20)
Hiện Trấn Thành đang làm đại sứ thương hiệu cho ngân hàng WOORI BANK nên cho phép Thành không tiện nhắc đến tên ngân hàng khác trong bài viết này. Tuy nhiên tất cả giao dịch đều hiển thị rõ trong sao kê.
Cũng muốn nói rõ hơn 1 chút về việc Thành công bố lúc đầu trên page là chuyển cho Thuỷ Tiên nhưng cuối cùng chuyển cho cô Ngọc Hương, và chậm giải ngân 2 tháng như sau:
⁃ Lúc đầu Thành chưa biết quy mô tổ chức của cô Hương sẽ lớn thế nào nên chỉ gửi trước cho cô 1.000.000.000đ vào ngày 19/10/20.
⁃ Phần còn lại, em dự tính sẽ gửi cho 2 người kia như đã đăng trên fanpage. Sau 2-3 ngày liên lạc với Thuỷ Tiên mà vẫn không nhận được hồi âm, Thành nghĩ chắc chắn Tiên đang rất bận với khối lượng công việc của mình. Cùng lúc đó, thấy bên cô Hương đã tổ chức thành đoàn từ thiện rất bài bản và xuống đến tận nơi. Vì không muốn thêm gánh nặng cho Thuỷ Tiên, cũng như nghĩ phía bên Tiên quý vị đóng góp cũng đã nhiều, phải chia tiền ra để giúp đỡ được nhiều nơi hơn nên Thành quyết định chuyển tiếp cho cô Hương 2.100.000.000đ ngay sau đó 1 tuần vào ngày 26/10/20.
⁃ Sau chuyến đi đó, cô về lại Sài Gòn và bảo cô sẽ tổ chức đi miền Trung thêm đợt nữa vì còn rất nhiều nơi chưa đến và bà con cần tiền "khôi phục kinh tế sau lũ". Chúng ta nên chia đợt ra mà giúp, chứ không nên dồn tiền 1 chỗ và 1 lúc được. Nên Thành đã đợi chuyến đi ra Trung tiếp theo của cô và đã chuyển đủ số tiền 3.353.000.000đ hai tháng sau đó vào ngày 21/12/20.
Cũng thông qua lần này, Trấn Thành gửi lời xin lỗi vô cùng đến Thuỷ Tiên và quý vị khán giả vì có sự thay đổi cuối giờ mà lại quên không thông báo cho mọi người. Đó là một thiếu sót lớn, Trấn Thành xin rút kinh nghiệm sâu sắc. Xin lỗi đã làm liên luỵ đến Tiên. Mong mọi người và Thuỷ Tiên lượng thứ!!!
Xin cảm ơn quý vị đã yêu thương, tin tưởng Trấn Thành trong thời gian qua.
woori bank 在 Hari Won Youtube 的最佳貼文
♥ Đăng ký kênh để theo dõi MV mới nhất của Hariwon nhé
: https://bit.ly/HariWonofficial
♥ Facebook Hariwon: http://bit.ly/FB_Hariwon
우리은행과 함께 동행하는
하리원 - 쩐탄
♥ 구독해서 하리원의 최신 뮤직비디오를 확인하세요!
: https://bit.ly/HariWonofficial
♥ 하리원 페이스북: http://bit.ly/FB_Hariwon
구독과 좋아요는 사랑입니다
많이 많이 사랑해주세요
woori bank 在 WOORI BANK, Bangladesh. - Home | Facebook 的推薦與評價
Woori Bank, headquartered in Seoul, South Korea was founded in 1899 and started operations in Bangladesh in 1996. Currently we have 7 b ... ... <看更多>
woori bank 在 with LCK, with Woori together l LCK x Woori bank - YouTube 的推薦與評價
... <看更多>