J.W. Marriott ผู้ก่อตั้งเชนโรงแรมใหญ่สุดในโลก ที่เริ่มจากร้านขายรูตเบียร์ /โดย ลงทุนแมน
“Marriott” เป็นเชนโรงแรมที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกและมีโรงแรมในเครือกว่า 30 แบรนด์
แต่รู้หรือไม่ว่าอาณาจักร Marriott ที่ก่อตั้งโดยคุณ J.W. Marriott ไม่ได้เริ่มต้นจากธุรกิจโรงแรม แต่เขากลับมีจุดเริ่มต้นมาจากร้านขายรูตเบียร์ A&W
จากร้านขายรูตเบียร์มาเป็นเชนโรงแรมที่ใหญ่สุดในโลก
Marriott ผ่านอะไรมาบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เชนโรงแรมขนาดใหญ่ ที่มีโรงแรมอยู่ในหลายประเทศทั่วโลก จะมีชื่อที่เราคุ้นเคย เช่น Marriott, Hilton, InterContinental และ Hyatt
ซึ่ง Marriott ถือได้ว่าเป็นเชนโรงแรมที่ใหญ่สุดในโลก ทั้งในด้านมูลค่าตลาดที่มากที่สุดราว 1.46 ล้านล้านบาท รวมถึงในด้านจำนวนห้องพัก ที่ Marriott มีให้บริการราว 1.4 ล้านห้องพัก ในกว่า 130 ประเทศทั่วโลก
Marriott มีโรงแรมในเครือกว่า 30 แบรนด์ ซึ่งก็เป็นแบรนด์ดังที่คนส่วนใหญ่คุ้นหู อย่างเช่น JW Marriott, St. Regis, The Ritz-Carlton, Sheraton และ Renaissance
โดยผู้ก่อตั้งอาณาจักร Marriott คือคุณ John Willard Marriott หรือ “J.W. Marriott”
ซึ่งจริง ๆ แล้ว ธุรกิจดั้งเดิมที่เขาเริ่มต้นขึ้นไม่ใช่ธุรกิจโรงแรม
คุณ John เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1900 ที่รัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ในครอบครัวที่ทำฟาร์มแกะเล็ก ๆ ซึ่งมีฐานะค่อนข้างยากจน
เขาเริ่มค้าขายตั้งแต่อายุ 13 ปี จากการปลูกผักกาดในแปลงที่ดินที่ว่างอยู่ และเขานำเงินรายได้ที่ได้ไปให้พ่อ
จากความสำเร็จในการขายผัก พ่อของ John เลยไว้ใจให้ลูกชายพาแกะ 3,000 ตัว ขึ้นรถไฟไปขายที่เมืองซานฟรานซิสโกด้วยตัวคนเดียวในวัยเพียง 14 ปี ก่อนที่จะถูกขอให้เลิกเรียนเพื่อมาช่วยงานที่บ้านในเวลาต่อมา
เมื่อ John อายุ 19 ปี เขาก็ต้องเดินทางไปเป็นมิชชันนารีที่โบสถ์แห่งหนึ่งในนิวอิงแลนด์เป็นเวลา 2 ปี หลังจากนั้นก็เดินทางกลับมาบ้านที่เมืองยูทาห์
ระหว่างทางกลับ เขาได้แวะที่เมืองวอร์ชิงตัน ดี.ซี. และเดินผ่านร้านค้าแห่งหนึ่งซึ่งคนต่อคิวยาวมาก นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ John ได้รับรู้ถึงความนิยมของเครื่องดื่มที่เรียกว่า “รูตเบียร์”
แต่พอกลับมาถึงบ้าน John ก็ต้องเผชิญกับข่าวร้ายเพราะว่าธุรกิจฟาร์มแกะของพ่อเขาล้มละลาย
โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากราคาแกะที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลจากเศรษฐกิจตกต่ำ
ตั้งแต่นั้นมา John จึงตั้งเป้าว่าเขาจะต้องมีชีวิตที่ดีขึ้นและหลุดพ้นจากความยากจนนี้ให้ได้
เขาเลยตัดสินใจกลับไปเรียนต่อให้ได้วุฒิมัธยมศึกษา โดยได้รับความช่วยเหลือจากอาจารย์ที่เคยสอนเขา
ซึ่งอาจารย์ท่านนี้ ยังช่วยให้ John รับหน้าที่สอนวิชาที่เกี่ยวกับศาสนา เพื่อหาเงินมาจ่ายค่าเทอม
หลังจากนั้น John ก็ได้เข้าเรียนต่อระดับมหาวิทยาลัยที่ยูทาห์ ซึ่งเขาต้องหาเงินมาจ่ายค่าเทอมจากทุกวิถีทาง ตั้งแต่ขายกางเกงชั้นใน ขนสัตว์ ไปจนถึงการเป็นช่างตัดไม้
จนกระทั่งในช่วงที่เรียนปีสุดท้าย แถวมหาวิทยาลัยของเขาก็มีร้านรูตเบียร์ A&W มาเปิด
ซึ่งคิวยังคงยาว เหมือนกับตอนที่เขาเห็นครั้งแรกที่เมืองวอชิงตัน ดี.ซี.
หลังจากเรียนจบในปี ค.ศ. 1926 John แต่งงานกับ Alice Sheets สาวที่เขาตกหลุมรักและคบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียน ทั้งคู่วางแผนที่จะเริ่มทำธุรกิจด้วยกัน และสิ่งแรกที่ John นึกถึงก็คือเครื่องดื่มสุดฮิตอย่างรูตเบียร์
John ใช้เงินเก็บ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ บวกกันเงินที่กู้ยืมมาอีก 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ
คิดเป็นมูลค่าราว 83,000 บาท เพื่อขอซื้อแฟรนไชส์รูตเบียร์ของ A&W
ผ่านไป 1 ปี เขาก็ได้เปิดร้านขายรูตเบียร์เล็ก ๆ ที่เมืองวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งแน่นอนว่าขายดีแบบที่เขาคิดไว้
แต่สิ่งที่เขาลืมคิดถึงไปก็คือ รูตเบียร์ไม่ได้ขายดีทุกฤดู เพราะพอเข้าช่วงฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นช่วงที่ฝนตกบ่อย และอากาศเริ่มเย็นลง เครื่องดื่มเย็นสดชื่นอย่างรูตเบียร์กลับไม่เป็นที่ต้องการ ยอดขายของทางร้านจึงลดลงเรื่อย ๆ
Alice ภรรยาของเขาเลยเสนอไอเดียว่าควรขายอาหารด้วย เพื่อให้ยอดขายที่ร้านไม่ผันผวนตามฤดูกาลเกินไป
John เห็นด้วยทันที เขาจึงขออนุญาตทาง A&W เพื่อขอเสิร์ฟอาหารที่ร้านด้วย ส่วน Alice ก็ไปขอความช่วยเหลือจากเชฟที่สถานทูตเม็กซิโก ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับร้าน จนได้สูตรและวิธีทำอาหารเม็กซิกันมา
ทั้งคู่จึงตั้งชื่อร้านของพวกเขาใหม่ว่า “Hot Shoppes” ซึ่งเป็นร้านขายอาหารเม็กซิกัน แฮมเบอร์เกอร์ และฮอตดอก รวมถึงรูตเบียร์ของ A&W
ผ่านไปปีเดียว Hot Shoppes เปิดเพิ่มได้อีก 2 สาขา ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นร้านแบบ Drive-in หรือการขับรถไปจอดที่ลานจอดรถของร้าน แล้วสั่งอาหารมาทานบนรถ ที่กำลังได้รับความนิยมสุด ๆ ในสหรัฐอเมริกา
หลังจากนั้นไม่นาน ประเทศสหรัฐอเมริกากลับเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ แต่ John และ Alice ก็ยังพา Hot Shoppes รอดพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจครั้งนี้มาได้ แถมยังขยายสาขาเพิ่มมาเป็น 7 สาขาในปี ค.ศ. 1933
แต่ในปีเดียวกันนี้ John ก็ต้องเจอกับข่าวร้าย เพราะเขาตรวจพบว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ซึ่งหมอบอกว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกิน 2 ปี
John จึงหยุดทำงาน และใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัว แต่แล้วเรื่องไม่น่าเชื่อที่แม้แต่หมอก็ยังแปลกใจ เพราะอาการของเขาดีขึ้นมาก จนกลับมาใช้ชีวิตปกติได้
หลังจากรักษาตัวจนหายดีและกลับมาทำงานได้แล้ว ในปี ค.ศ. 1937 ซึ่งเป็นช่วงที่การเดินทางโดยเครื่องบินเป็นที่นิยม John สังเกตว่าลูกค้ามักซื้ออาหารแบบนำกลับบ้านที่ร้าน Hot Shoppes สาขาใกล้สนามบิน เพื่อนำไปทานบนเครื่องบิน
John เลยเกิดไอเดียว่า ให้ Hot Shoppes ทำอาหารกล่องให้กับสายการบินใช้เสิร์ฟบนเครื่องบิน ซึ่งถือเป็นเจ้าแรก ๆ ในขณะนั้น
เมื่อเขานำไอเดียนี้ไปเสนอกับทางสายการบินต่าง ๆ ก็มีสายการบิน Eastern Airlines และ American Airlines ที่ตอบตกลง
มาถึงช่วงต้นทศวรรษ 1940s ร้าน Hot Shoppes ขยายมาเป็น 24 สาขา ซึ่งช่วงนี้เองสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เริ่มต้นขึ้น แต่ Hot Shoppes ก็ยังรอดพ้นจากวิกฤติได้อีกครั้งจากการปรับตัวไปให้บริการอาหารในฐานทัพทหารและสำนักงานรัฐบาล
จนกระทั่งช่วงทศวรรษ 1950s การเดินทางท่องเที่ยวกำลังได้รับความนิยมสูง John เลยสนใจซื้อที่ดินเปล่าที่อยู่ตรงข้ามสนามบินวอชิงตัน เพื่อสร้างโมเทลที่ชื่อว่า “Twin Bridges” ซึ่งเปิดให้บริการในปี ค.ศ. 1957 ก่อนที่ 2 ปีให้หลัง ได้สร้างโรงแรมแห่งที่ 2 ที่ชื่อ Key Bridge Motor
และในที่สุด กิจการโรงแรมของ John Willard Marriott ก็ได้เริ่มต้นขึ้น หลังจากเปิดร้านรูตเบียร์มาได้ 30 ปี
ต่อมาในปี ค.ศ. 1967 John ตั้งชื่อบริษัทของเขาใหม่ว่า “Marriott” ซึ่งใช้เรียกรวมทุกกิจการในเครือ ทั้งโรงแรมและร้านอาหาร
ในช่วงเริ่มต้นของกิจการโรงแรม ก็ได้ลูกชายคนโตของ John กับ Alice ที่ชื่อว่า “J.W. Bill Marriott Jr.” เข้ามาช่วยบริหาร
Bill เรียนด้านการเงินจากมหาวิทยาลัยยูทาห์ โดยภายใต้การบริหารของเขา บริษัทสามารถทำกำไรได้มากขึ้นอย่างชัดเจน จน Bill กลายมาเป็นบุคคลสำคัญที่ได้วางรากฐานธุรกิจและขยายอาณาจักร Marriott
ด้วยผลงานที่โดดเด่นของ Bill จึงทำให้เขาได้รับเลือกเป็นประธานบริษัทในปี ค.ศ. 1964 ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็น CEO ในอีก 8 ปีต่อมา
Bill เน้นขยายโรงแรมใกล้สนามบิน และโรงแรมเพื่อการประชุมหรือ Convention โดยสร้างจุดเด่นให้กับโรงแรมของ Marriott ที่มีทั้งห้องจัดประชุมสัมมนา ภัตตาคาร ไปจนถึงลานสเกตน้ำแข็ง
นอกจากนี้ Bill ยังเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ จากการเป็นเจ้าของโรงแรมเอง สู่การรับบริหารโรงแรม และระบบแฟรนไชส์
นั่นจึงทำให้ในปี ค.ศ. 1993 บริษัท Marriott แบ่งการบริหารจัดการออกเป็น 2 บริษัท
บริษัทแรกชื่อ Marriott International ที่จัดการในส่วนของธุรกิจรับบริหารโรงแรมและระบบแฟรนไชส์ ซึ่งดูแลโดยลูกชายคนโต นั่นก็คือ Bill
บริษัทที่สองชื่อ Host Hotels and Resorts ที่จัดการในส่วนของธุรกิจโรงแรมที่ Marriott เป็นเจ้าของเอง ซึ่งดูแลโดยน้องชายของ Bill ที่ชื่อ Richard
อีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ที่ช่วยเร่งขยายฐานลูกค้าให้ Marriott ก็คือการเป็นบริษัทโรงแรมแรกของโลก ที่ให้บริการระบบจองที่พักแบบออนไลน์ ในปี ค.ศ. 1995
และกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ Marriott ขยายอาณาจักรโรงแรมได้อย่างรวดเร็วก็คือ “การควบรวมกิจการ”
ปี ค.ศ. 1995 Marriott เริ่มซื้อกิจการครั้งแรก ด้วยการเข้าไปถือหุ้น 49% ในโรงแรม Ritz-Carlton ก่อนที่อีกไม่กี่ปีต่อมาจะเข้าซื้อทั้งกิจการ
แต่การซื้อกิจการที่สำคัญที่สุด เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2016 ภายใต้การนำของ CEO ที่เป็นคนนอกตระกูลคนแรกอย่าง Arne Sorenson
Marriott ได้เข้าซื้อกิจการ Starwood Hotels and Resorts ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์โรงแรมดังมากมาย อย่างเช่น Sheraton, W Hotels และ St. Regis
และในตอนนี้เองที่ Marriott ได้ก้าวขึ้นมาเป็นเชนโรงแรมที่ใหญ่สุดในโลก
น่าเสียดายที่ John เสียชีวิตไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 เขาจึงไม่มีโอกาสได้เห็นความยิ่งใหญ่ของอาณาจักร Marriott ในปัจจุบัน ที่เขาเป็นผู้ริเริ่ม
แต่สิ่งสำคัญที่ตกทอดมาจาก John จนกลายเป็นหนึ่งในดีเอ็นเอของ Marriott ก็คือวัฒนธรรมองค์กร
เพราะ John ให้ความสำคัญกับพนักงานทุกคนและดูแลพนักงานเหมือนคนในครอบครัว มาตั้งแต่ช่วงแรกที่เริ่มทำธุรกิจ
เหมือนกับหนึ่งในคำพูดอมตะของเขาที่ว่า
“Take care of associates, and they’ll take care of your customers”
หรือ ดูแลพนักงานของคุณให้ดี แล้วพนักงานเหล่านั้นจะดูแลลูกค้าของคุณต่อเอง
นั่นจึงทำให้ Marriott ไม่ได้เป็นเพียงหนึ่งในโรงแรมที่น่าเข้าพักมากที่สุดเท่านั้น
แต่ในมุมของสถานที่ทำงาน Marriott ยังติดอันดับโลกในด้านบริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดเช่นกัน..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.cnbc.com/2021/08/10/how-marriott-became-the-worlds-biggest-hotel-chain.html
-https://www.washingtonpost.com/archive/politics/1985/08/14/hotel-magnate-jw-marriott-dies-at-age-84/d8cfeda2-6a83-40fc-8126-310233d114f0/
-https://www.entrepreneur.com/article/197668
-https://edition.cnn.com/2012/04/12/business/marriott-hotel-industry/index.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Marriott_International
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_chained-brand_hotels
-https://companiesmarketcap.com/hotels/largest-hotel-companies-by-market-cap/
-https://careers.marriott.com/20-years-fortune-100-list/
-https://www.marriott.com/culture-and-values/j-willard-marriott.mi
同時也有115部Youtube影片,追蹤數超過18萬的網紅KemushiChan ロレッタ,也在其Youtube影片中提到,After 6 long months, here's a round of applause to @Boomlore for being the guinea pig in this video as we talk to my neighbors and test out my new pho...
「years and years soundcloud」的推薦目錄:
- 關於years and years soundcloud 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於years and years soundcloud 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於years and years soundcloud 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於years and years soundcloud 在 KemushiChan ロレッタ Youtube 的最佳貼文
- 關於years and years soundcloud 在 KemushiChan ロレッタ Youtube 的最佳貼文
- 關於years and years soundcloud 在 KemushiChan ロレッタ Youtube 的精選貼文
years and years soundcloud 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
MINI แบรนด์รถเล็ก ที่ยิ่งใหญ่ /โดย ลงทุนแมน
หากพูดถึงรถยนต์ “MINI” เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงรถคันเล็ก ที่มีความคลาสสิกอยู่ในตัว
แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้ว รถยนต์ MINI เป็นรถยนต์สัญชาติอังกฤษ
ที่มีจุดประสงค์ คือการผลิตขึ้นให้เป็นรถยนต์ราคาถูกเพื่อแก้ปัญหาน้ำมันราคาแพง
แล้วเรื่องราวของรถเล็กที่ตั้งใจให้เป็นรถยนต์ราคาถูกนี้ น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้นของ MINI ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 1957 ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ช่วงนั้นเป็นช่วงเดียวกันกับตอนที่ประเทศอียิปต์ยึดคลองสุเอซ
คลองสุเอซ ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางการขนส่งที่สำคัญมากที่สุดในโลก
เมื่อถูกยึดและถูกปิดกั้นเส้นทาง การขนส่งน้ำมันจึงหยุดชะงักจนดันให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้น
เรื่องดังกล่าวส่งผลให้รถที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ซึ่งจำเป็นต้องใช้น้ำมันปริมาณมาก ได้รับความนิยมลดลง
ในช่วงนั้น บริษัท British Motor Corporation หรือ BMC ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ขนาดใหญ่ในประเทศอังกฤษ ที่เกิดจากการควบรวมของบริษัท Austin Motor Company กับ Morris Motors
เกิดความคิดที่จะผลิตรถยนต์ที่เหมาะสมกับสถานการณ์ขึ้นมา
โดยรถยนต์ที่ว่านั้น ต้องเป็นรถยนต์ที่มีขนาดเล็กและใช้น้ำมันน้อย
แต่ก็ต้องสามารถรับผู้โดยสารได้ 4 คน และที่สำคัญคือราคาต้องไม่แพง
บริษัท BMC จึงได้ทดลองผลิตรถเล็กขึ้นมาโดยมี เซอร์อเล็ก อิสซิโกนิส
วิศวกรและนักออกแบบรถของ BMC มาเป็นผู้รับผิดชอบหลักในโครงการนี้
จนในที่สุด “MINI” คันแรกก็สามารถออกสู่ตลาดได้ในปี 1959
หลังจากเปิดตัวได้ไม่นาน ด้วยรูปร่างของ MINI ที่เล็กกะทัดรัดแต่สามารถจุคนได้ถึง 4 คน
บวกกับการออกแบบที่สวยงาม ดูคลาสสิก ที่สำคัญมีราคาเพียง 496 ปอนด์
ซึ่งถือเป็นราคาที่คนทั่วไปสามารถเอื้อมถึงได้
ทั้งหมดนี้ก็ได้ทำให้ MINI สามารถขายได้ถึง 116,000 คัน ในระยะเวลาเพียงปีเดียว
สำหรับชื่อของ MINI นั้น จริง ๆ แล้วไม่ได้ถูกเรียกแบบนี้มาตั้งแต่แรก
เดิมที MINI ถูกเรียกว่า “Austin Seven” กับ “Morris Mini” มาก่อน
เนื่องจากในช่วงแรกยังคงทำการตลาดภายใต้แบรนด์
Austin Motor Company กับ Morris Motors
แต่ในภายหลัง ก็ได้เปลี่ยนเป็นชื่อ “MINI” ในปี 1969
แล้วถ้าถามว่า อะไรกันที่ทำให้ MINI เป็นที่รู้จักและยอมรับกัน ?
เราก็สามารถแบ่งก้าวกระโดดของ MINI จาก 2 เหตุการณ์ด้วยกัน
เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นในปี 1961
John Cooper นักแข่งรถในตำนาน
ซึ่งเขาเองเป็นเพื่อนสนิทของ เซอร์อเล็ก อิสซิโกนิส
เห็นว่าจริง ๆ แล้ว MINI เป็นรถที่สามารถยึดเกาะถนนได้ดี
เขาจึงได้ลองนำรถ MINI มาปรับแต่งเครื่องยนต์ให้แรงขึ้น
หลังจากที่ John Cooper ได้ทำการปรับแต่งเสร็จ
เขาได้ตั้งชื่อให้รถที่เขานำมาปรับแต่งว่า “MINI Cooper”
และนั่นจึงเป็นที่มาของรถรุ่น MINI Cooper ที่เรารู้จักกันในปัจจุบันนั่นเอง
จนในปี 1964 ถือเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้คนรู้จักและยอมรับในรถ MINI Cooper มากขึ้น
จากการที่ “Paddy Hopkirk” นักแข่งรถวิบาก สามารถนำรถ MINI Cooper เอาชนะการแข่งขัน
ในรายการ Monte Carlo Rally ซึ่งเป็นรายการแข่งรถวิบากในประเทศโมนาโก
โดยมีจุดประสงค์ในการแข่งคือต้องการเห็นนวัตกรรมใหม่ ๆ สำหรับรถยนต์ที่พัฒนาขึ้นในแต่ละปี
อีกเหตุการณ์เกิดขึ้นในปี 1968
เมื่อ Paramount บริษัทผลิตภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ได้นำ MINI Cooper
มาใช้ประกอบการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง “The Italian Job”
ซึ่งเป็นภาพยนตร์เล่าเรื่องราวการปล้นทองคำครั้งใหญ่
โดยมีฉากที่ใช้รถ MINI Cooper 3 คัน สามารถขับหนีตำรวจ
ที่ใช้รถ Alfa Romeo ซึ่งเป็นรถสปอร์ตที่โด่งดังในช่วงนั้น
หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ยอดขายรถ MINI เพิ่มขึ้นมากถึง 318,000 คันในปี 1971
โดยตลอดระยะเวลา 40 ปี นับตั้งแต่สามารถขายรถ MINI คันแรกได้ในปี 1959
ได้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมากมาย
ปี 1966 บริษัท BMC ทำการควบรวมบริษัท Jaguar Cars
หลังจากทำการควบรวม ได้เปลี่ยนชื่อเป็น British Motor Holdings Limited หรือ BMH
ปี 1968 บริษัท BMH ทำการควบรวมบริษัท Leyland Motor Corporation
ซึ่งในเวลานั้นมีบริษัทลูกเป็น Triumph Motor และ The Rover Company
หลังจากการควบรวมได้ทำการเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น British Leyland Motor Corporation หรือ BLMC
ในเวลานั้น BLMC ถือเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษเลยทีเดียว โดยมีแบรนด์ที่เราน่าจะคุ้นเคยกันดี เช่น Triumph, MG, Rover รวมไปถึง MINI ด้วย
ปี 1975 ได้ทำการเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น British Leyland
ปี 1986 British Leyland ได้ทำการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ของบริษัท โดยมีการขายบริษัทย่อยที่ไม่ทำกำไรออกไป และได้ทำการเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น Rover Group
ปี 1994 BMW บริษัทรถยนต์สัญชาติเยอรมัน ได้ทำการเข้าซื้อ Rover Group ด้วยมูลค่า 800 ล้านปอนด์
แต่เนื่องจากแนวทางในการทำงานที่ต่างกันและกำลังเป็นช่วงขาลงของ Rover
ทำให้ BMW ต้องอัดฉีดเงินเข้าไปจำนวนมากถึง 1,000 ล้านปอนด์
จนในที่สุด BMW จึงตัดสินใจขายธุรกิจส่วนใหญ่ของ Rover Group ออกไปในปี 2000
อ่านมาถึงตรงนี้ เราคงเห็นแล้วว่าตลอด 40 ปีที่ผ่านมา
มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายเลยทีเดียว
ทั้งการควบรวม เปลี่ยนชื่ออยู่หลายครั้ง รวมถึงการขายบริษัทย่อยออกไป
แม้ BMW ได้ขายธุรกิจส่วนใหญ่ของ Rover Group ออกไป
แต่มีรถยนต์อยู่แบรนด์หนึ่ง ที่ทาง BMW ยังคงเก็บไว้นั่นคือ MINI นั่นเอง
แล้วปัจจุบัน MINI ภายใต้บริษัทแม่ BMW เป็นอย่างไรบ้าง ?
ปี 2018 ขายได้ 364,101 คัน
ปี 2019 ขายได้ 347,465 คัน
ปี 2020 ขายได้ 292,582 คัน
ถึงแม้ 3 ปีที่ผ่านมา จำนวนรถที่สามารถขายได้ของ MINI จะลดลงอย่างต่อเนื่อง
แต่หากเราลองไปดู ยอดขายของรถยนต์ทั่วโลกจะพบว่ามีแนวโน้มลดลงเช่นเดียวกัน
ปี 2018 ปริมาณรถยนต์ที่ขายได้ 92 ล้านคัน
ปี 2019 ปริมาณรถยนต์ที่ขายได้ 88 ล้านคัน
ปี 2020 ปริมาณรถยนต์ที่ขายได้ 73 ล้านคัน
สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2018
ในขณะที่ในปี 2020 ทั่วโลกยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 จึงทำให้ยอดขายรถยนต์ ตกลงไปอีก
อีกสาเหตุสำคัญมาจากการเปลี่ยนผ่านระหว่างการใช้รถที่ใช้น้ำมัน ไปเป็นรถที่ใช้ไฟฟ้า ซึ่งก็มีบางประเทศเริ่มออกนโยบายให้เห็นกันชัดเจนแล้ว เช่น นโยบายของสหรัฐอเมริกาที่จะเปลี่ยน รถยนต์ของรัฐให้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมด
ซึ่งปัจจุบันทาง MINI เอง สามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้แล้วเช่นกัน
และก็เพิ่งทำการเปิดตัวไปเมื่อปี 2020 ชื่อรุ่น “MINI Cooper SE”
ซึ่งเป็นเรื่องน่าติดตามต่อไปว่า MINI คันเล็กคันนี้
จะปรับตัวกับความท้าทายในครั้งนี้อย่างไร
ปิดท้ายด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ
รถ MINI รุ่น Paddy Hopkirk Edition ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษ ที่ตั้งชื่อตาม Paddy Hopkirk
นักแข่งรถที่สามารถนำรถ MINI Cooper เอาชนะการแข่งขัน Monte Carlo Rally ในปี 1964
โดยหมายเลข 37 ที่ติดอยู่กับตัวรถ คือหมายเลขรถ MINI ที่เขาสามารถเอาชนะในวันนั้นได้ นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-http://cminicooper.blogspot.com/p/blog-page.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Rover_Group
-https://www.longtunman.com/8870
-https://en.wikipedia.org/wiki/British_Leyland
-https://en.wikipedia.org/wiki/British_Motor_Corporation
-https://en.wikipedia.org/wiki/Austin_Motor_Company
-https://en.wikipedia.org/wiki/Morris_Motors
-https://www.britannica.com/topic/British-Leyland-Motor-Corporation-Ltd
-https://www.miniusa.com/why-mini/why-mini/over-60-years-of-motoring.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/The_Italian_Job
-https://www.carolenash.com/news/classic-car-news/detail/mini-eras-the-1970s
-https://www.marketingoops.com/reports/fast-fact-reports/20-mini-car-facts/
-https://askanydifference.com/difference-between-mini-cooper-and-mini-one/
-https://www.unlockmen.com/mini-cooper-3-door-f56-5-door-f55/
-https://www.statista.com/statistics/267245/worldwide-sales-volume-of-mini-automobiles-since-2006/
-https://www.autostation.com/car/mini-electric-2020-launch-in-thailand
-https://www.best-selling-cars.com/brands/2020-full-year-global-bmw-mini-and-rolls-royce-sales-worldwide/
-https://en.wikipedia.org/wiki/Monte_Carlo_Rally
-https://en.wikipedia.org/wiki/Paddy_Hopkirk
-https://www.forbes.com/sites/neilwinton/2019/10/03/uschina-tariff-war-will-lose-auto-industry-sales-worth-770-billion-report/?sh=4e0ed85f25e4
-https://www.iea.org/data-and-statistics/charts/global-car-sales-by-key-markets-2005-2020
years and years soundcloud 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
Activision Blizzard ค่ายเกมระดับโลก ที่มีต้นกำเนิดจาก นักศึกษามหาวิทยาลัย /โดย ลงทุนแมน
หากเรามาดูบริษัท ที่มีธุรกิจเกี่ยวข้องกับเกม ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
Tencent 22.9 ล้านล้านบาท
Sea (Garena) 4.6 ล้านล้านบาท
Sony 4.1 ล้านล้านบาท
NetEase 2.4 ล้านล้านบาท
Activision Blizzard 2.3 ล้านล้านบาท
บรรดาเจ้าของธุรกิจเกมยักษ์ใหญ่เหล่านี้ ล้วนมีรากฐานมาจากเอเชีย
Tencent และ NetEase จากประเทศจีน Sony จากญี่ปุ่น และ Sea จากสิงคโปร์
Activision Blizzard เป็นเพียงบริษัทเดียว ที่มาจากสหรัฐอเมริกา
แต่บริษัทแห่งนี้ ก็เป็นเจ้าของเกมระดับโลกมากมาย
นอกจากที่กล่าวมานั้น Activision Blizzard ยังเป็นเจ้าของเกมอะไรบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จุดเริ่มต้นของบริษัทแห่งนี้ เกิดขึ้นในปี 1991
Allen Adham, Michael Morhaime และ Frank Pearce นักศึกษาปริญญาตรีจบใหม่จาก University of California, Los Angeles หรือ UCLA ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ร่วมกันก่อตั้งบริษัท Silicon & Synapse, Inc. จากความชื่นชอบในการเล่นเกม
ก่อนที่บริษัทจะถูกเข้าซื้อกิจการไปโดย Davidson & Associates บริษัทผู้จัดจำหน่ายเกม
ตั้งแต่ปี 1994 หรือหลังจากก่อตั้งได้เพียง 3 ปี ด้วยมูลค่าราว 375 ล้านบาท
บริษัทแห่งนี้ ก็ได้พัฒนาเกม ที่กลายมาเป็นเกมท็อประดับโลกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น Warcraft, StarCraft, Call of Duty, Guitar Hero, Diablo, Hearthstone และ Overwatch
จะเห็นได้ว่าหลายเกมเป็นเกมที่เราคุ้นหูกันเป็นอย่างดี
โดยที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฐานผู้เล่นเกมของทางบริษัท
ก็ได้เพิ่มสูงขึ้นตามนักเล่นเกมและการเติบโตของยุคคอมพิวเตอร์
หนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของ Blizzard Entertainment เกิดขึ้นในปี 2004
ซึ่งเป็นปีที่ทางบริษัทได้เปิดตัวเกม “World of Warcraft” ออกสู่ตลาดโลก
เกมดังกล่าวได้เข้ามาปฏิวัติโมเดลการหารายได้ของหลาย ๆ สตูดิโอเกมทั่วโลก
เพราะการที่ผู้เล่นจะสามารถเล่นเกม World of Warcraft ได้นั้น จำเป็นต้องสมัครสมาชิก
โดยสมาชิกที่ว่านี้จะอยู่ในรูปแบบ Subscription หรือสมาชิกรายเดือน
ซึ่งก็ถือเป็นโมเดลที่แปลกมากในสมัยนั้น เพราะหากว่าเกมไม่ได้ฮิตจริง
การที่ผู้เล่นจะยอมจ่ายสมาชิกรายเดือนเพื่อเล่นเกม แทบเป็นไปไม่ได้เลย
อย่างไรก็ตาม หลังจาก World of Warcraft เปิดตัวไปได้เพียง 6 ปี
เกมนี้ก็ได้เติบโตและประสบความสำเร็จอย่างมาก
จนมียอดสมาชิกที่จ่ายเงินรายเดือนให้กับเกมมากกว่า 12 ล้านบัญชี เลยทีเดียว
จากความสำเร็จของเกม World of Warcraft ก็ได้ทำให้ Blizzard Entertainment
กลายเป็นที่สนใจของบริษัทอื่น
บริษัท Blizzard Entertainment จึงถูกเข้าซื้อกิจการจาก Vivendi บริษัทสัญชาติฝรั่งเศส เจ้าแห่งการควบรวมกิจการ และในท้ายที่สุดก็ถูกควบรวมอีกครั้งจากบริษัท Activision
จนกลายมาเป็นบริษัท “Activision Blizzard” ในปัจจุบัน
โดยดีลการซื้อกิจการครั้งนั้นมีมูลค่ามากถึง 6 แสนล้านบาท เลยทีเดียว
ทีนี้เรามาดูกันว่าผลประกอบการของ Activision Blizzard ที่ผ่านมา เป็นอย่างไร ?
ปี 2017 รายได้ 2.2 แสนล้านบาท กำไร 0.9 หมื่นล้านบาท
ปี 2018 รายได้ 2.4 แสนล้านบาท กำไร 5.9 หมื่นล้านบาท
ปี 2019 รายได้ 2.1 แสนล้านบาท กำไร 4.8 หมื่นล้านบาท
ปี 2020 รายได้ 2.6 แสนล้านบาท กำไร 7.0 หมื่นล้านบาท
จากผลประกอบการที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทมีกำไรที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาทางบริษัทก็ได้มีการปรับตัวตามพฤติกรรมการเล่นเกมบนสมาร์ตโฟน
อย่างในกรณีล่าสุดก็คือการเข้าควบรวมกับบริษัท King Digital เจ้าของ Candy Crush เกมสมาร์ตโฟนยอดฮิตระดับโลก ด้วยมูลค่ามากถึง 1.9 แสนล้านบาท รวมถึงการนำแบรนด์เกมที่บริษัทเป็นเจ้าของอยู่แล้วมาพัฒนาเป็นเกมบนสมาร์ตโฟน เช่น Diablo, Call of Duty รวมถึง Overwatch ที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา
ปัจจุบัน Activision Blizzard ถือเป็น 1 ใน 5 บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับเกม
ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าบริษัทมากถึง 2.3 ล้านล้านบาท
ปิดท้ายด้วยสิ่งที่หลายคนอาจจะสงสัยว่า Warcraft และ Dota 2 เกี่ยวข้องอะไรกัน ?
จริง ๆ แล้ว Dota 2 เรียกได้ว่ามีรากฐานตัวละครมาจากเกม Warcraft แทบจะทั้งหมด
เหตุผลก็เพราะว่าในอดีต Activision Blizzard เคยอนุญาตให้ผู้เล่นทั่วไป
สามารถตกแต่งหรือเปลี่ยนข้อมูลของเกมได้
จึงทำให้นักพัฒนาที่ชื่อว่า “IceFrog” นำตัวเกม Warcraft มาดัดแปลงเป็นเกม Dota
แต่ต่อมาทาง Valve Corporation ก็ได้ว่าจ้าง IceFrog ให้เข้ามาพัฒนาตัวเกมดังกล่าวอย่างจริงจัง
จนในที่สุด ก็ได้พัฒนาออกมาเป็นเกม Dota 2 เกมระดับโลก ที่มีเงินรางวัลระดับพันล้าน
ที่แม้จะได้ไอเดียมาจาก Warcraft แต่ทางบริษัท Activision Blizzard จะไม่ได้รับส่วนแบ่งอะไรเลย..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.britannica.com/topic/Activision-Blizzard-Inc#ref1116598
-https://www.videogameschronicle.com/news/blizzards-player-base-has-fallen-29-over-the-last-3-years/
-https://www.investopedia.com/5-companies-owned-by-atvi-5093046
-https://www.engadget.com/2012-05-11-blizzard-and-valve-settle-dota-argument-blizzard-dota-is-now-bl.html
-https://www.thegamer.com/blizzard-things-you-didnt-know/
-https://www.uselessdaily.com/tech/blizzard-entertainment-trivia-30-facts-about-the-most-successful-gaming-company/
-https://investor.activision.com/static-files/09bb50e3-b2e8-4407-9ee3-2aec3c7bc29d
-https://companiesmarketcap.com/video-games/largest-video-game-companies-by-market-cap/
years and years soundcloud 在 KemushiChan ロレッタ Youtube 的最佳貼文
After 6 long months, here's a round of applause to @Boomlore for being the guinea pig in this video as we talk to my neighbors and test out my new phone!
Here's the waffletruck in my neighborhood: https://www.instagram.com/gontetsu.3/
(Dates/Locations updated on Twitter): https://twitter.com/gontetsu_waffle
♪Music in this video courtesy of Artlist♬
https://artlist.io/artlist-70446/?artlist_aid=kemushichan_1567&utm_source=affiliate_p&utm_medium=kemushichan_1567&utm_campaign=kemushichan_1567
★☆Where I got my iPhone 12 ★☆
https://28mobile.com/
Many thanks! This phone was gifted by 28mobile but all opinions are my own.
Join my discord → https://tinyurl.com/hf522un5
💰 H O W T O S U P P O R T T H I S C H A N N E L
Become a patreon: https://www.patreon.com/KemushiChan
Donate to this channel (for a video shoutout!): http://paypal.me/Boomlore
♬Featuring music by Lukrembo♬
🍪 Soundcloud : https://soundcloud.com/lukrembo
⭐️ Twitter : https://twitter.com/LuKremBo
😀 Instagram : https://www.instagram.com/lukrembo
✉️ Email : Lukrembo@gmail.com
📷 S U B S C R I B E
→ My Second Channel: @Boomlore
→ Me: @KemushiChan ロレッタ
✉ H O W T O R E A C H M E
→ http://www.instagram.com/kemushijp
→ http://www.facebook.com/KemushiChan
→ http://www.twitter.com/KemushiJP
✔ R E C O M M E N D A T I O N S & D I S C O U N T S
→ https://go.italki.com/kemushichan (find a Japanese tutor!)
→ https://www.jrpass.com/buy-the-japan-... (JR Pass, Mobile Wifi & more for Travel)
Business Inquiries:
Hello@KemushiChan.com
🔍 F A Q
Hi! My name is Loretta, a girl from the U.S. who moved to Japan to start Graduate School via the MEXT Scholarship.
① Do I Speak Japanese? Yep! I was taught formally in High School and have been speaking now for over 15 years.
② What uni did I attend in Japan: Yokohama National University's "Masters of Business Administration" Program
③ How old are you?: Year of the dragon. :D The math is up to you.
④ What camera equipment do you use?: I film my videos with a Canon 60D using a 30mm Sigma Art Lens and I edit with Sony Vegas Pro (with some help from photoshop). Additional cameras include GoPro Hero 7 Black and DJI Majic Air
#apartmenttour #japanvlog #techreview

years and years soundcloud 在 KemushiChan ロレッタ Youtube 的最佳貼文
Why I left New York & tips re moving to Japan.
☆★support my channel & join my Discord: https://tinyurl.com/hf522un5 (via Patreon tier)
Introducing Chika from Chika Alice in Japan! Check out her channel to see more videos from an OL in Japan:
https://www.youtube.com/channel/UCIWl5gUZ2FuL8fY9EN4cMZQ
Thanks to Tippsy for greasing the wheels of this girls talk! If you want to try out a box for yourself, use the link below with the code KEMUSHI for $20 off!
https://www.tippsysake.com/
Join my discord → https://tinyurl.com/hf522un5
00:00 INTRO
00:45 Loretta get's tippsy and spills the tea
02:34 How much to save before moving to Japan?
05:58 Is 30+ too old to move to Japan?
06:13 The job roadblock for foreigners in Japan
09:02 Should I get married to move to Japan?
11:31 What made you move to Japan finally?
15:30 How much money did you lose moving to Japan?
18:43 What would you change if you could do it over?
💰 H O W T O S U P P O R T T H I S C H A N N E L
Become a patreon: https://www.patreon.com/KemushiChan
Donate to this channel (for a video shoutout!): http://paypal.me/Boomlore
♬Featuring music by Lukrembo♬
🍪 Soundcloud : https://soundcloud.com/lukrembo
⭐️ Twitter : https://twitter.com/LuKremBo
😀 Instagram : https://www.instagram.com/lukrembo
✉️ Email : Lukrembo@gmail.com
📷 S U B S C R I B E
→ My Second Channel: @Boomlore
→ Me: @KemushiChan ロレッタ
✉ H O W T O R E A C H M E
→ http://www.instagram.com/kemushijp
→ http://www.facebook.com/KemushiChan
→ http://www.twitter.com/KemushiJP
✔ R E C O M M E N D A T I O N S & D I S C O U N T S
→ https://go.italki.com/kemushichan (find a Japanese tutor!)
→ https://www.jrpass.com/buy-the-japan-rail-pass-online?trans=1028a4d7453b3b93eca0bbff92adee&offer_id=19 (JR Pass, Mobile Wifi & more for Travel)
Business Inquiries:
Hello@KemushiChan.com
🔍 F A Q
Hi! My name is Loretta, a girl from the U.S. who moved to Japan to start Graduate School via the MEXT Scholarship.
① Do I Speak Japanese? Yep! I was taught formally in High School and have been speaking now for over 15 years.
② What uni did I attend in Japan: Yokohama National University's "Masters of Business Administration" Program
③ How old are you?: Year of the dragon. :D The math is up to you.
④ What camera equipment do you use?: I film my videos with a Canon 60D using a 30mm Sigma Art Lens and I edit with Sony Vegas Pro (with some help from photoshop). Additional cameras include GoPro Hero 7 Black and DJI Majic Air
#costofliving #tokyo #newyorkcity

years and years soundcloud 在 KemushiChan ロレッタ Youtube 的精選貼文
See how my Japanese friend Yuu reacts to all my dark and juicy questions. Check out his channel below for Part II!
Thanks to Bokksu for the snacks, get 10% off (save up to $47!) your own authentic Japanese snack box from Bokksu using my link: http://bit.ly/3aI7Vy6 and code KEMUSHI10
Watch our second video on Yuu's channel!: https://www.youtube.com/watch?v=aOehT5T5kok
This video was sponsored by Bokksu.
Big shout out to GROOVY KAIJU for providing the music for this chill episode at home! Please make sure to check out his music!
Soundcloud; https://tinyurl.com/sgjdhyw
Spotify: https://tinyurl.com/svn3x72
- - - - - - - - S U B S C R I B E - - - - - - - -
My Second Channel: https://tinyurl.com/yb88ob94
Me: https://www.youtube.com/user/kemushichan
- - - - - - - - H O W T O R E A C H M E - - - - - - - -
http://www.instagram.com/KemushiJP
http://www.facebook.com/KemushiChan
http://www.twitter.com/KemushiJP
Business Inquiries:
Hello@KemushiChan.com
- - - - - - - - F A Q - - - - - - - -
Hi! My name is Loretta, a girl from the U.S. who moved to Japan! I'm here on the MEXT scholarship program as a graduate student, studying to get a Masters in Business Administration. Here are some answers to common questions:
1. Do I Speak Japanese? Yep! I was taught formally in High School and have been speaking now for over 15 years.
2. What are you studying? I'm a recent grad of Yokohama National University's "Masters of Business Administration" Program
3. How old are you?: Year of the dragon. :D The math is up to you.
4. How did you get into Japanese school?: http://tinyurl.com/yb8yylch
5. What camera equipment do you use?: I film my videos with a Canon 60D using a 30mm Sigma Art Lens and I edit with Sony Vegas Pro 10 (with some help from photoshop). Additional cameras include GoPro Hero 7 Black and DJI Majic Air
☆★☆★☆★☆★☆★*~MUSIC~*★☆★☆★☆★☆★☆★
#jlpt #speakjapanese #askjapanese
