ทำไมบริษัทต่างธุรกิจ จึงหันมาลงทุน ในอสังหาริมทรัพย์ /โดย ลงทุนแมน
หลายคนคงคุ้นเคยกับชื่อของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหล่านี้
แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, แสนสิริ, ศุภาลัย หรือพฤกษา ซึ่งเป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ อันดับต้น ๆ ของไทย
ที่มีโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านเดี่ยว อยู่ทั่วประเทศ
แต่กลับมีบางบริษัทต่างสาขาธุรกิจ ที่เริ่มสนใจเข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ก้าวเข้ามาเป็นหน้าใหม่ ร่วมแข่งขันกับบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการอสังหาริมทรัพย์
ซึ่งแม้ว่าบริษัทเหล่านั้นจะประสบความสำเร็จ และมีกำไรเติบโตจากธุรกิจของตนอยู่แล้ว
จึงทำให้เกิดคำถามที่ว่า..
ทำไม ? บริษัทที่เชี่ยวชาญในสายธุรกิจเดิมเหล่านี้ เริ่มหันมาลงทุนเพิ่มในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
และมีจำนวนไม่น้อยที่ประสบความสำเร็จไม่แพ้บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อีกด้วย
ลงทุนแมนจะวิเคราะห์ให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
หากลองสังเกตในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
จะเริ่มเห็นโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย ให้เช่า หรือบริหารโครงการหลายแห่ง
ที่มีเจ้าของเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในสายธุรกิจอื่น เพิ่มจำนวนมากขึ้น
ตัวอย่าง สิงห์ เอสเตท บริษัทในเครือของบุญรอดบริวเวอรี่
ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นอันดับต้น ๆ ของไทย
เจ้าของแบรนด์เครื่องดื่มที่คนไทยรู้จักดีอย่าง สิงห์และลีโอ
ซึ่งจากข้อมูลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
เครือบุญรอดฯ นับว่ามีเม็ดเงินจากธุรกิจแอลกอฮอล์มากมาย
บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด
- ปี 2561 มีรายได้รวม 106,209 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 1,762 ล้านบาท
- ปี 2562 มีรายได้รวม 114,124 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 2,187 ล้านบาท
- ปี 2563 มีรายได้รวม 107,370 ล้านบาท เป็นกำไรสุทธิ 2,468 ล้านบาท
แต่เครือบุญรอดฯ ยังเลือกที่จะต่อยอดธุรกิจในด้านอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น
โดยมองว่า การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ จะเปิดโอกาสที่มาของรายได้จากทรัพย์สิน Passive Income ตัวอย่างเช่น รายได้ที่เป็น ค่าเช่า ต่างจากรายได้ของธุรกิจหลักที่เป็นรายได้จากการขายสินค้าแบบ Active Income
แต่เดิมเครือบุญรอดฯ เคยลงทุนในหลายโครงการร่วมกับบริษัทผู้พัฒนาอื่น ๆ
ก่อนจะควบรวมกิจการกับ “รสา พร็อพเพอร์ตี้” ที่มีผลงานเป็นโครงการที่อยู่อาศัย สำนักงานเช่า และโรงแรมรีสอร์ต และเปลี่ยนชื่อมาเป็น “สิงห์ เอสเตท” เข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัว
โดยบริษัทเคยชนะประมูลการเช่าที่ดินระยะเวลา 50 ปี บริเวณหัวมุมถนนอโศกมนตรีและเพชรบุรีตัดใหม่
จึงพัฒนาโครงการสิงห์ คอมเพล็กซ์ ที่มีพื้นที่ใช้สอยกว่า 120,000 ตารางเมตร
ซึ่งแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2561 กลายมาเป็น Mixed-Use โครงการแรกของบริษัท
นอกจากนี้ ยังเปิดตัวแบรนด์คอนโดมิเนียม The ESSE และ The Extro
และยังมีโครงการ S Oasis สำนักงานเช่าบนถนนวิภาวดีรังสิต คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2565
ยังไม่นับรวมการลงทุนในกลุ่มโรงแรม และอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศอีกมากมาย
อีกบริษัทที่มีมุมมองในการขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์
ก็คือ AIA ซึ่งเป็นที่รู้จักในสายธุรกิจประกันชีวิตในไทยกว่า 83 ปี
โดยเลือกที่จะพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบสำนักงานปล่อยเช่า บนทำเลศักยภาพต่าง ๆ
นอกจากจะได้ครอบครองแปลงที่ดินบนทำเลศักยภาพแล้ว
ก็ยังจะได้รับผลตอบแทนในรูปของค่าเช่า ซึ่งได้พัฒนาอาคารสำนักงานเช่าไปแล้ว 2 โครงการ คือ
- อาคาร AIA Capital Center บนถนนรัชดาภิเษก แล้วเสร็จปี 2557
เป็นอาคารสำนักงานเกรดเอ ที่มีอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 1,000 บาทต่อตารางเมตร
และยังมีกลุ่ม Regus เข้าไปทำธุรกิจพื้นที่เช่า Co-Working Space อีกด้วย
- อาคาร AIA Sathorn Tower บนถนนสาทรใต้ แล้วเสร็จปี 2558
เป็นอาคารสำนักงานเกรดเอ ที่มีอัตราค่าเช่าเฉลี่ย 1,000 บาทต่อตารางเมตร
และกำลังจะมีโครงการแห่งที่ 3 คือ อาคาร AIA East Gateway
ที่เรียกได้ว่าเป็น อาคารสำนักงานพรีเมียมเกรดเอแห่งแรก บนถนนบางนา-ตราด
ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 2 ของปี 2565
นอกจากธุรกิจอื่น ๆ จะเข้าสู่วงการอสังหาริมทรัพย์
ในรูปแบบของการลงทุนพัฒนา เพื่อเป็นเจ้าของโครงการเองแล้ว
เรายังพบในลักษณะของการถือครองหุ้น หรือเข้าไปร่วมบริหารองค์กร อีกด้วย
ตัวอย่าง บริษัท เคพีเอ็น แลนด์ สายธุรกิจย่อยในด้านอสังหาริมทรัพย์
ในเครือของเคพีเอ็น กรุ๊ป ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับสยามกลการ และเครือสยามมอเตอร์
ซึ่งโดดเด่นในสายธุรกิจรถจักรยานยนต์และเครื่องดนตรี ร่วมกับแบรนด์ Yamaha
เดิมที เคพีเอ็น แลนด์ เคยมีผลงานโครงการคอนโดมิเนียมมาแล้ว 3 โครงการ ได้แก่
- แบรนด์ The Diplomat จำนวน 2 โครงการ
- แบรนด์ The Capital จำนวน 1 โครงการ
จากนั้นจึงเข้ามามีส่วนร่วมในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อว่า ไรมอน แลนด์
โดยปัจจุบัน เคพีเอ็น แลนด์ คือผู้ถือหุ้นอันดับ 1 ที่มีสัดส่วน 23.97%
ขณะเดียวกันนั้น นายกรณ์ ณรงค์เดช จาก KPN ยังเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (CEO) ของไรมอน แลนด์ อีกด้วย
มาถึงตรงนี้ เราจะเริ่มเห็นได้ว่า..
หลายบริษัทที่เริ่มต้นธุรกิจในด้านอื่น ๆ และประสบความสำเร็จมาแล้วถึงจุดหนึ่ง
จะเริ่มก้าวเข้ามาร่วมแข่งขัน หรือร่วมลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ถ้าถามถึงเหตุผลว่า ทำไมบริษัทเหล่านี้ จึงหันมาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ก็คงจะมีหลายเหตุผล เช่น
1. ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีขนาดตลาดที่ใหญ่เป็นหลักล้านล้านบาท เพราะยุ่งเกี่ยวกับชีวิตของคนทุกคนในเรื่อง ที่อยู่อาศัย การทำงาน และการใช้ชีวิต
เมื่อธุรกิจมีกระแสเงินสดมาจากธุรกิจหลัก ก็สามารถนำเม็ดเงินเหล่านี้ไปลงทุนในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีความต้องการมหาศาลมาดูดซับได้ ตัวอย่างเช่น การสร้างหนึ่งตึกในสมัยนี้ก็มีมูลค่าโครงการหลักพันล้านบาทแล้ว
2. ตลาดอสังหาริมทรัพย์มี Barriers to Entry น้อย ผู้เล่นเดิมจะไม่ได้เปรียบผู้เล่นหน้าใหม่เหมือนอุตสาหกรรมอื่น เพราะผู้ลงทุนสามารถจ้างผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องมาทำแทนได้ ตั้งแต่ การออกแบบ การรับเหมา การทำตลาด การจัดการ ดังนั้นเราจึงจะเห็นได้ว่าบริษัทหน้าใหม่สามารถสร้างโครงการ หรืออาคารได้สำเร็จ ไม่แพ้ผู้เล่นหน้าเก่าเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดของตลาดนี้ก็คือ “เงินทุน”
3. ลักษณะของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะให้ผลตอบแทนที่พอจะคาดการณ์ได้ และสามารถเปลี่ยนมือได้ นั่นหมายความว่าผู้ลงทุนสามารถซื้อสินทรัพย์ หรือซื้อหุ้นต่อจากผู้เล่นรายอื่นได้ โดยดูผลตอบแทนที่คาดการณ์ไม่ว่าจะเป็น Yield หรือ IRR ว่าจะยอมจ่ายเงินเพื่อลงทุนที่ราคาเท่าไร ดังนั้นถ้าผู้เล่นหน้าใหม่อยากเข้ามาก็สามารถซื้อต่อจากผู้เล่นเดิมได้ง่าย
ทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลเบื้องต้นว่าทำไมบริษัทต่างธุรกิจ จึงหันมาลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กันได้ง่าย ถ้าจะให้สรุปคำตอบง่าย ๆ ก็คือ บริษัทเหล่านั้นมีเงินทุน และตลาดอสังหาริมทรัพย์มีขนาดใหญ่ที่ผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาได้ไม่ยาก นั่นเอง
ก็น่าติดตามต่อไปว่า แล้วจะมีกลุ่มธุรกิจใดที่จะก้าวเข้ามาลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
จนกลายเป็นคู่แข่งคนสำคัญ ที่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์เดิม ต้องจับตามองกันบ้าง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.singhaestate.co.th/th/#intro
-https://www.prachachat.net/property/news-745384
-https://datawarehouse.dbd.go.th/
-https://positioningmag.com/1297091
-https://www.reuters.com/article/aia-thailand-idUSL4E7MM15O20111122
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過53萬的網紅วรัทภพ รชตนามวงษ์ WARATTAPOB,也在其Youtube影片中提到,?แจกหนังสือฟรี?" เงิน มา ง่ายๆ" เขียนโดย อ.วรัทภพ รชตนามวงษ์ มีเนื้อหามากถึง 357 หน้า รับหนังสือฟรี! กดลิงก์นี้ด่วน ของมีจำนวนจำกัด ? https://get.mon...
「การจัดการ คือ」的推薦目錄:
การจัดการ คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
สรุปประเด็นจากงาน LiVE Demo Day - โอกาสใหม่ของ SMEs และ Startups บนเส้นทางตลาดทุน
รู้ไหมว่า ปัจจุบันประเทศไทยมี SMEs และ Startups รวมกันแล้วมากกว่า 3 ล้านราย
ก่อให้เกิดการจ้างงานถึง 13 ล้านคน และสร้างมูลค่าถึง 1 ใน 3 ของ GDP ประเทศไทย
ซึ่งนับว่า ธุรกิจขนาดเล็กและกลาง เป็นกลไกที่สำคัญของเศรษฐกิจประเทศไทย เลยทีเดียว
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจ SMEs และ Startups เหล่านี้ ยังมีข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนอยู่มาก ทำให้ต้องอาศัยการกู้สถาบันการเงินหรือแหล่งเงินนอกระบบที่ให้วงเงินต่ำแต่ดอกเบี้ยสูง ซึ่งส่งผลให้บริษัทกลุ่มนี้เติบโตได้ลำบาก
นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้น ให้ทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พัฒนา “LiVE Exchange” ซึ่งทำหน้าที่เป็นตลาดหลักทรัพย์สำหรับ SMEs และ Startups ที่ระดมทุนในวงกว้าง
และ “LiVE Platform” ที่ทำหน้าที่เป็น Education Platform ให้เหล่าผู้ประกอบการเริ่มต้นเข้ามาศึกษาหาความรู้ด้านธุรกิจและเตรียมความพร้อมในการระดมทุน
โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยให้ธุรกิจ SMEs และ Startups มีช่องทางการระดมทุนใหม่ ผ่านกลไกตลาดทุน และเป็นตัวช่วยในการเตรียมความพร้อมพัฒนาธุรกิจอย่างรอบด้าน ให้กับทั้งผู้ประกอบการ SMEs และ Startups
แล้วรายละเอียดของ “LiVE Exchange” และ “LiVE Platform” เป็นอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะสรุปจากงาน LiVE Demo Day ให้ฟัง
หลายคนทราบกันดีว่า การที่จะนำบริษัทไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่ว่าจะเป็นบนกระดาน SET หรือ mai นั้นต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน ใช้ทุนทรัพย์สูง และต้องผ่านกระบวนการต่าง ๆ หลายขั้นตอน
ทำให้การระดมทุนผ่านตลาดทุนนั้นกลายเป็นเรื่องยากสำหรับหลายบริษัท โดยเฉพาะบริษัทระดับ SMEs และ Startups
เพราะต้องบอกว่า ถึงแม้ว่าจะมีกระดาน mai ขึ้นมาแล้วก็ตาม แต่ก็ยังถือว่ามีกฎเกณฑ์สำหรับเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ยากเกินไปสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก
เช่น บริษัทต้องทำบัญชีตามมาตรฐาน PAEs เป็นระยะเวลา 3 ปีติดต่อกัน ทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาทขึ้นไป และต้องมีกำไรไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
กฎเกณฑ์เหล่านี้ไม่ใช่แค่เป็นเรื่องที่ทำได้ยากเท่านั้น แต่ต้องใช้ระยะเวลาทำธุรกิจพอสมควร อย่างน้อย 4 ปีขึ้นไป จึงจะสามารถเข้าระดมทุนตามกฎเกณฑ์ของสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงมีค่าใช้จ่ายที่สูง
อย่างการทำบัญชีตามมาตรฐาน PAEs บริษัทต้องจ้างผู้ตรวจสอบบัญชี ปีละ 1-2 ล้านบาท ค่าที่ปรึกษาทางการเงินอีก 5 ล้านบาท ผู้จัดจําหน่ายหลักทรัพย์เก็บอีก 3% ของเงินที่ระดมทุน คิดรวมแล้วมีค่าใช้จ่ายจะถึง 10 กว่าล้านบาทเลยทีเดียว
จากเหตุผลเหล่านี้ ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ จำเป็นต้องพัฒนาแหล่งระดมทุนกระดานใหม่ขึ้นมา ที่มีชื่อเรียกว่า LiVE Exchange ซึ่งจะลดกฎเกณฑ์ ผ่อนปรนข้อกำหนดบางอย่างลง บนการดูแลนักลงทุนที่เหมาะสม
เช่น
- จากต้องทำบัญชีตามมาตรฐาน PAEs ถึง 3 ปี เหลือเพียงแค่ 1 ปี
- บริษัทมีทางเลือกว่าจะจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน Financial Advisor (FA) หรือไม่ก็ได้
เพื่อให้ SMEs และ Startups สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบตลาดทุนได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็พบปัญหาอีกว่า
บรรดาบริษัทขนาดเล็ก ยังขาดความรู้ ความเข้าใจ และความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน เช่น ด้านการทำระบบบัญชีให้เป็นมาตรฐาน ความรู้ด้านกฎหมาย การจัดการระบบข้อมูลในองค์กร
นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้เกิด “LiVE Platform”
โดย LiVE Platform ทำหน้าที่เป็น Education Platform ให้เหล่าผู้ประกอบการเริ่มต้นเข้ามาศึกษาหาความรู้ด้านธุรกิจ ตั้งแต่การทำบัญชีการเงิน การตลาด การจัดการ จนไปถึงการระดมทุน ซึ่งปัจจุบันมีอยู่หลากหลายหลักสูตร และเปิดให้บริการเรียบร้อยแล้ว บนเว็บไซต์ https://www.live-platforms.com
และเมื่อบริษัทมีความต้องการในการเข้าระดมทุน ก็สามารถเข้าสู่ “Scaling Up Platform” ซึ่งเป็นโปรแกรมการเตรียมธุรกิจให้พร้อมสำหรับการระดมทุน โดยมี 4 กระบวนการที่คอยช่วยเหลือคือ
1. Advanced Courses หรือหลักสูตรอบรมเชิงลึกจากบริษัทที่เชี่ยวชาญ
เช่น เรื่องของบัญชี ก็จะได้ PwC หนึ่งใน Big 4 หรือบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีรายใหญ่ระดับโลก เข้ามาแนะนำและให้ความรู้โดยตรง หรืออยากรู้เรื่องกฎหมาย ก็มี Baker McKenzie มาทำหลักสูตรให้
2. สนับสนุนเครื่องมือและระบบต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อธุรกิจ
เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการมากยิ่งขึ้น
เช่น บัญชี การควบคุมภายใน ระบบ ERP Back Office HR และอื่น ๆ อีกมากมาย
3. ให้คำปรึกษาต่าง ๆ ผ่านโครงการและแพลตฟอร์มต่าง ๆ
อย่างเช่น LiVE Acceleration Program โครงการที่ให้เหล่าธุรกิจเข้าร่วม เพื่อรับการอบรมเชิงปฏิบัติการ และรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงได้เงินทุนสนับสนุนสูงสุด 1.5 ล้านบาทต่อบริษัท จากกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) เพื่อจ้างที่ปรึกษาหรือปรับปรุงระบบงาน
โดยตัวอย่างบริษัทที่เคยเข้าร่วมคือ “Specialty Natural Products (SNP)” ซึ่งเป็น SMEs ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมจากสมุนไพรไทย
และ “Shippop” ซึ่งเป็น Startups ผู้ให้บริการจองขนส่ง เทียบราคาขนส่ง และจัดการการขนส่งพัสดุออนไลน์ครบวงจร
ผู้ประกอบการจากทั้งสองบริษัทเล่าให้ฟังว่า หลังจากเข้าร่วม LiVE Acceleration Program ก็ไม่เพียงแต่ได้รับความรู้และเงินสนับสนุนในการเตรียมความพร้อมเท่านั้น แต่ยังได้พันธมิตรมาเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจตนเองด้วย
4. สนับสนุนการพบปะเจรจากับผู้บริหารบริษัทรุ่นใหญ่ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แล้ว เพื่อเปิดโอกาสในการต่อยอดธุรกิจร่วมกัน หรือสร้างความร่วมมือด้วยกัน
นอกจากนี้ LiVE Platform ยังได้ร่วมมือกับอีกหลายหน่วยงาน
เช่น มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่ได้ทำ MOU ร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดตัวโครงการ Embryo Incubation Program ที่ช่วยให้ความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับการระดมทุนใน LiVE Exchange
นอกจากนั้นยังมีการร่วมมือกับอีกหลายองค์กรพันธมิตร ทั้งจากภาครัฐและเอกชน มากกว่า 25 ราย
เช่น สภาวิชาชีพบัญชีฯ, สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย Baker Mckenzie และองค์กรชั้นนำอื่น ๆ อีกมากมาย
อีกเรื่องที่น่าสนใจมาก ๆ ก็คือ บริการทั้งหมดบนเว็บไซต์ LiVE Platform นั้น “ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น”
เมื่อธุรกิจ SMEs และ Startups เตรียมความพร้อมเสร็จเรียบร้อยแล้ว และต้องการระดมทุนผ่านกลไกตลาดทุน ก็จะถูกส่งต่อไปที่ LiVE Exchange ตลาดสำหรับ SMEs และ Startups เพื่อระดมทุนในวงกว้าง ซึ่งจะเปิดให้บริการภายในปี 2021 นี้
ในเบื้องต้น ทางสำนักงาน ก.ล.ต. ได้อนุญาตให้นักลงทุน 5 ประเภท ที่มีความรู้ความเข้าใจ และรับความเสี่ยงจากการลงทุนในธุรกิจ SMEs และ Startups สามารถลงทุนในกระดาน LiVE Exchange ได้
โดยนักลงทุน 5 ประเภท ประกอบด้วย
1. ผู้ลงทุนสถาบัน
2. Venture Capital (VC) หรือธุรกิจเงินร่วมลงทุน
3. Angel Investor
4. Qualified Investor ตามเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต. เห็นสมควรว่า สามารถรับความเสี่ยงได้และมีทักษะการลงทุนที่เพียงพอ ซึ่งจะดูจากขนาดสินทรัพย์ที่มี หรือรายได้ต่อปี หรือพอร์ตการลงทุน
5. กลุ่มคนคุ้นเคยของบริษัท เช่น พนักงาน
ซึ่งตรงนี้ต้องหมายเหตุเอาไว้ด้วยว่า ทางสำนักงาน ก.ล.ต. จะมีการประกาศรายละเอียด กฎเกณฑ์ในการพิจารณาผู้ลงทุนอย่างชัดเจนเต็มรูปแบบในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งทางลงทุนแมนก็จะสรุปมาเล่าให้ฟังกันอย่างแน่นอน
สรุปแล้ว LiVE Platform คือ ศูนย์รวมความรู้ด้านธุรกิจที่หลากหลาย สำหรับผู้ประกอบการ SMEs และ Startups ตั้งแต่การทำบัญชี การตลาด การจัดการ ไปจนถึงการเตรียมความพร้อมสู่การระดมทุนผ่านกลไกตลาดทุน
ส่วน LiVE Exchange คือ ตลาดสำหรับ SMEs และ Startups ที่ต้องการระดมทุนในวงกว้าง และช่วยเปิดโอกาสให้ธุรกิจ SMEs และ Startups สามารถยกระดับธุรกิจของตนให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และเติบโตพร้อมระดมทุนต่อไป ใน SET หรือ mai
ซึ่งทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็เชื่อว่าทั้ง LiVE Platform และ LiVE Exchange จะสร้างองค์ความรู้ เตรียมความพร้อม เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อการพัฒนา SMEs และ Startups ให้เป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ เติบโตอย่างเข้มแข็ง และเป็นกลไกของเศรษฐกิจไทย
สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs และ Startups หรือนักลงทุน ที่สนใจในโครงการดี ๆ แบบนี้ ลองเข้าไปชมเว็บไซต์ www.live-platforms.com กันได้เลย
การจัดการ คือ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
การแก้ปัญหา ส้มหล่น ของสเปน /โดย ลงทุนแมน
48,000 ต้น คือจำนวนต้นส้ม ที่ปลูกประดับประดาไปทั่วเมืองเซบิยา
เมืองหลวงของแคว้นอันดาลูซิอา ทางตอนใต้ของประเทศสเปน
ด้วยความที่มีภูมิอากาศเหมาะสม แคว้นแห่งนี้จึงเป็นเขตปลูกส้มที่สำคัญที่สุดของประเทศสเปน ซึ่งการปลูกส้มก็ไม่ได้เพื่อการส่งออกเพียงอย่างเดียว แต่ยังนิยมปลูกไว้เพื่อประดับประดาไปทั่วเมืองด้วย
แต่ปัญหาก็มักเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว เมื่อต้นส้มทั่วทั้งเมือง ต่างออกผล
จนเกิดมหกรรม “ส้มหล่น” จำนวนกว่า 5.7 ล้านกิโลกรัม เกลื่อนกลาดไปทั่วทางเท้าและถนนหนทาง
สำนวน “ส้มหล่น” ในภาษาไทย มักมีความหมายสื่อถึงสิ่งดี ๆ ที่ได้มาโดยไม่คาดคิด
แต่สำหรับเมืองเซบิยาแล้ว มหกรรม “ส้มหล่น” ในแต่ละครั้ง คงไม่ได้นำสิ่งดี ๆ มาให้สักเท่าไร
แล้วเซบิยา มีแผนจัดการกับปัญหานี้ อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ก่อนอื่นมารู้จักความสัมพันธ์ของส้มกับประเทศสเปนกันสักนิด..
แต่เดิมส้มเป็นผลไม้พื้นเมืองของทวีปเอเชีย โดยเฉพาะในแถบตอนเหนือของอินเดียและจีนตอนใต้ โดยพ่อค้าชาวอาหรับเป็นผู้นำผลไม้ชนิดนี้มาเผยแพร่ในแถบตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ
เมื่อดินแดนสเปนถูกยึดครองโดยชาวมัวร์ ซึ่งเป็นชาวมุสลิมจากแอฟริกาเหนือในช่วงศตวรรษที่ 7 ชาวมัวร์ก็ได้นำต้นส้มเข้ามาทดลองปลูกบนแผ่นดินสเปน
ความโชคดีประการหนึ่ง คือ ผลไม้ตระกูลส้ม จะเจริญเติบโตได้ในที่ที่มีอากาศร้อนและแห้งแล้งในฤดูร้อน และมีฝนตกมากในฤดูหนาว ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ของสเปนมีภูมิอากาศแบบนี้
ซึ่งเรียกว่า ภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน
จากจุดเริ่มต้นโดยชาวมัวร์ สเปนได้กลายเป็นแหล่งปลูกส้มที่สำคัญของโลกในปัจจุบัน
ในปี 2020 สเปนส่งออกส้มเป็นอันดับ 1 ของโลก คิดเป็นมูลค่า 46,200 ล้านบาท
และคิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 4 ของโลก
พื้นที่ปลูกส้มส่วนใหญ่ของสเปนจะอยู่ทางตอนใต้ โดยเฉพาะในแคว้นอันดาลูซิอา ที่ให้ผลผลิตส้มมาจากแคว้นนี้ปีละกว่า 1.6 ล้านตัน
หนึ่งในส้มที่ปลูกมากในแคว้นนี้ คือ Bitter Orange หรือ ส้มขม เป็นส้มที่มีรสชาติออกขม และคนสเปนก็ไม่ค่อยนิยมกินสด ๆ เท่าไร นิยมนำไปทำ Marmalade หรือแยมผิวส้มมากกว่า
โดยประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางของการส่งออกส้มและแยมผิวส้มมากที่สุด ก็คือ สหราชอาณาจักร ซึ่งคนอังกฤษจะเรียกส้มชนิดนี้ว่า “ส้มเซบิยา”..
ซึ่งแน่นอนว่าในเมืองหลวงของแคว้นอันดาลูซิอา อย่างเมืองเซบิยา
เราก็จะสามารถพบเห็นต้นส้มเซบิยาได้อย่างง่ายดาย เพราะจะถูกปลูกประดับประดาอยู่ริมถนน สถานที่สำคัญ สวนสาธารณะ หรือแม้แต่ในเขตที่อยู่อาศัย
ข้อโดดเด่นอีกอย่างของต้นส้มเซบิยา คือกลิ่นดอกที่หอมหวน ทำให้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ต้นส้มในเมืองกว่า 48,000 ต้นก็จะผลิดอกหอมหวน ตลบอบอวลไปทั่วทั้งเมือง
แต่สัญญาณของความวุ่นวายก็มักจะเกิดขึ้น เมื่อเมืองเซบิยาเข้าสู่ฤดูหนาวในช่วงปลายเดือนตุลาคม ถึงต้นเดือนพฤศจิกายน
ส้มเป็นผลไม้ไม่กี่ชนิดที่จะออกผลในช่วงฤดูหนาว และฤดูหนาวของเซบิยาก็ไม่ได้หนาวรุนแรงเหมือนเมืองอื่น ๆ ทางตอนเหนือของยุโรป
และเมื่อส้มทั้งเมืองออกผลในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน
นั่นก็ทำให้เซบิยาเต็มไปด้วย “ส้มหล่น” กว่า 5.7 ล้านกิโลกรัม
ด้วยความที่ส้มเหล่านี้มีรสขม และไม่เป็นที่นิยมของชาวเมือง พื้นถนนและทางเท้าจึงเต็มไปด้วยส้มหล่นที่ไม่มีใครต้องการ
บางแห่งก็เจิ่งนองไปด้วยน้ำส้มที่แตกจากผล บางแห่งมีแมลงวันตอมและเริ่มส่งกลิ่นเหม็น มีผู้คนไม่น้อยที่เดินเหยียบส้มเหล่านี้จนเกิดอุบัติเหตุ จนกลายเป็นความวุ่นวายไปทั่วทั้งเมือง
ทางเทศบาลเมืองเซบิยาต้องใช้พนักงานกว่า 200 คน ทำการเก็บกวาดส้มตลอดทั้งเดือน ยังไม่นับรวมค่าใช้จ่ายในการกำจัดซากส้มหล่นมหาศาลที่ไม่มีใครต้องการเหล่านี้
“ส้มหล่น” สำหรับชาวเมืองเซบิยา นอกจากจะไม่ได้นำสิ่งดี ๆ เข้ามาแล้ว
ยังกลายเป็นปัญหาที่สร้างความกระอักกระอ่วนใจให้กับผู้คน และผู้บริหารในเมืองมานานแสนนาน จะตัดทิ้งก็ไม่ได้เพราะเป็นเหมือนต้นไม้ประจำเมือง จะกินก็ไม่ได้เพราะรสชาติไม่อร่อย
จึงนำมาสู่การคิดแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง ในปี 2020..
บริษัท Emasesa บริษัทบริหารจัดการน้ำของเทศบาลเมืองเซบิยา ได้คิดโครงการนำร่องเพื่อแก้ปัญหาส้มหล่น โดยได้ทดลองนำส้ม 35,000 กิโลกรัม ไปหมักบ่ม
การหมักบ่มทำให้เกิดแก๊สชีวภาพอย่างแก๊สมีเทน ที่สามารถนำไปผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ในกระบวนการกรองน้ำให้บริสุทธิ์ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
Benigno Lopez ผู้บริหารฝ่ายสิ่งแวดล้อมของ Emasesa ได้เสนอให้มีแผนการต่อไป
คือการนำส้มทั้งหมดในเมืองมาหมักเพื่อให้เป็นพลังงานชีวมวล สำหรับใช้ผลิตไฟฟ้าให้กับระบบกรองน้ำของเมืองทั้งหมด
โดยทางเทศบาลอาจต้องลงทุนเพิ่มประมาณ 250,000 ยูโร หรือราว 10 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าพลังงานที่ได้ จะเหลือให้นำไปผลิตไฟฟ้าเพื่อแจกจ่ายให้ครัวเรือนในเมืองเซบิยาอีกด้วย
โดยส้ม 1,000 กิโลกรัม สามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้งานเป็นระยะเวลา 1 วัน เพียงพอสำหรับ 5 ครัวเรือน
ซึ่งหากคำนวณส้มหล่นทั้งหมดในเมืองกว่า 5.7 ล้านกิโลกรัม ซึ่งรวมทั้งส้มที่ร่วงหล่นลงมาแล้วและยังไม่หล่น ก็จะสามารถผลิตไฟฟ้าให้ผู้คนในเมืองได้ไม่ต่ำกว่า 28,500 ครัวเรือน
ซึ่งคิดเป็นเกือบ 20% ของครัวเรือนในเขตเทศบาลเมืองเซบิยา
Juan Espadas Cejas นายกเทศมนตรีของเซบิยา ได้ให้คำสัญญาว่าจะผลักดันโครงการนี้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ชาวเมืองเซบิยามีน้ำสะอาดสำหรับใช้อุปโภคบริโภค โดยใช้พลังงานสะอาดจากชีวมวล และต่อยอดไปสู่การสร้างเศรษฐกิจพึ่งพาตัวเอง และการแก้ไขปัญหาพลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน..
สเปนตั้งเป้าว่าจะเป็นประเทศที่ปล่อยคาร์บอนเป็น 0 หรือ Carbon Neutral ภายในปี 2050 หรืออีก 29 ปีข้างหน้า ซึ่งเป้าหมายแรก ๆ คือการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด 100% จากพลังงานหมุนเวียน
ในปี 2020 พลังงานที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าของสเปน มาจากพลังงานหมุนเวียน 43% โดยเป็นพลังงานลม 21% พลังงานน้ำ 12% พลังงานแสงอาทิตย์ 8% และชีวมวลราว 2%
การจัดการ “ส้มหล่น” ของเมืองเซบิยา อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้สเปน พัฒนากระบวนการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลในอนาคต เพื่อให้สามารถเติมเต็มเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมได้เร็วขึ้น
เรื่องราว “ส้มหล่น” อาจสร้างปัญหาให้กับชาวเมืองเซบิยามาเนิ่นนาน
แต่สำหรับอนาคตของพลังงานและสิ่งแวดล้อมแล้ว
เมืองเซบิยาก็อาจกำลังเจอ “ส้มหล่น” ที่ได้รับสิ่งดี ตามความหมายของสำนวนไทย ขึ้นมาจริง ๆ..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://atlas.cid.harvard.edu/explore?country=undefined&product=5282&year=2019&productClass=HS&target=Product&partner=undefined&startYear=undefined
-https://www.statista.com/statistics/743119/orange-production-volume-spain-by-region/
-https://www.worldstopexports.com/oranges-exports-by-country/
-https://globalshakers.com/how-a-city-in-spain-is-making-electricity-out-of-oranges/?fbclid=IwAR1yTR9FwkunabzT9Cbo1x3n0CI39-l795Kxw5vDIhVtDMpsEl_CK4zI4o4
-https://www.theguardian.com/environment/2021/feb/23/how-seville-is-turning-leftover-oranges-into-electricity?fbclid=IwAR3d4IPlyhtfZQpnQZp0LTxYLpSsPBN9xjgc8ZY_bKp7NnTGiKU1RSiCcfA
-https://ourworldindata.org/renewable-energy
-https://www.euractiv.com/section/circular-economy/news/spain-sets-2050-target-for-a-circular-carbon-neutral-economy/
การจัดการ คือ 在 วรัทภพ รชตนามวงษ์ WARATTAPOB Youtube 的最讚貼文
?แจกหนังสือฟรี?" เงิน มา ง่ายๆ" เขียนโดย อ.วรัทภพ รชตนามวงษ์ มีเนื้อหามากถึง 357 หน้า รับหนังสือฟรี! กดลิงก์นี้ด่วน ของมีจำนวนจำกัด ? https://get.moneyeasybook.com/
การมีธุรกิจนั้น ใครๆก็อยากใฝ่ฝันที่อยากจะมีเป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ถือว่าเป็นรายได้หลัก ที่ช่วยให้ครอบครัวมีรากฐานที่มั่นคงขึ้น แต่การทำธุรกิจนั้นมักจะพบอุปสรรคบ่อยๆ ไม่ว่าการบริหาร การจัดการ หรือด้านอื่นๆ ซึ่งมีส่วนให้บางคนล้มเลิกกิจการไป
ความจริงผมมีคำแนะนำครับว่า ถ้าคุณอยากเริ่มต้นทำธุรกิจนั้น 2 วิธีนี้อาจช่วยให้คุณทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและเติบโตให้เร็วที่สุดครับ
//ฟังเฉพาะเสียง
--สำหรับ Android
Soundcloud : https://bit.ly/2QjfVYm
Spotify : https://spoti.fi/2Jcwh6Y
.
--สำหรับ iOS
Apple Podcast : https://apple.co/2QjW5fM
? พบกับวิดีโอใหม่ทุกวัน ? ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จและรวย "เร็วขึ้น"
จากประสบการณ์การทำธุรกิจไทย-จีน มาแล้ว 14 ธุรกิจของผม
? คลิกลิงก์แล้วกด “SUBSCRIBE - ติดตาม และกดกระดิ่งแจ้งเตือน ตอนนี้เลย!! ?
https://www.youtube.com/channel/UC6GkGouzOitA6vUzOEBEqwA?sub_confirmation=1
—
// ดูวิดีโอของ "วรัทภพ" ตามเพลย์ลิสต์
? คลิปใหม่ล่าสุด (มีคลิปใหม่ทุกวัน) https://bit.ly/2OCDdvb
========================
?ลงทุนอะไรดี https://bit.ly/2kH0Lm0
?วิธีขายของ LAZADA https://bit.ly/2TUxuRn
?วิธีขายของ SHOPEE https://bit.ly/2lJ5LHe
?วิธีสั่งสินค้าจากจีน https://bit.ly/2IERdmE
?วิธีส้รางรายได้บน YOUTUBE https://bit.ly/2NT8l8L
?การทำตลาดจีน และส่งออกจีน https://bit.ly/2GWdITq
?วิธีขายสินค้าแบบ ดรอปชิป https://bit.ly/2x2sOPf
?WARATTAPOB PODCAST https://bit.ly/2SBlrHR
?วิธีทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ https://bit.ly/2lRZuZn
?วิธีปลดหนี้ https://bit.ly/2PKNplE
========================
??VLOG IN CHINA ชีวิตในจีนของผม https://bit.ly/2AqaFNB
??VLOG IN THAILAND ชีวิตในไทยของผม https://bit.ly/2AUvnWf
========================
?แกะคำคม ข้อคิด นักปราชญ์ และนักธุรกิจ https://bit.ly/2SDzHjh
?5 นาที หาเงินแบบมหาเศรษฐี https://bit.ly/2k9oyuu
?รีวิวหนังสือที่ผมชอบ http://bit.ly/2lRZJnf
?วิธีเริ่มต้นธุรกิจ ในปัจจุบัน https://bit.ly/2ChCNT7
?ความรู้ หาเงิน เพิ่มรายได้ ที่จะทำให้คุณรวยเร็วขึ้น https://bit.ly/2CR2Jqc
?เคล็ดลับ การตลาดและการขาย https://bit.ly/2M8P7cV
?ไอเดียธุรกิจเงินล้าน https://bit.ly/2TrY2IT
?พัฒนาตัวเอง เพื่อความสำเร็จในด้านที่ต้องการ https://bit.ly/2LTPms2
?แรงบันดาลใจและกำลังใจ ในการใช้ชีวิต https://bit.ly/2TKQAbW
?รีวิว ธุรกิจจีนและเศรษฐกิจจีน https://bit.ly/2M8Phkx
?ความรู้ไทย-จีน อื่นๆ http://bit.ly/2kIZaMn
—
// วรัทภพ รชตนามวงษ์ คือ ใคร?
ผม "วรัทภพ รชตนามวงษ์" เป็นคนไทย เกิดที่จังหวัดเชียงใหม่
เป็นผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจมาแล้ว 14 ธุรกิจ
ทั้งในประเทศไทย และ จีน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 จนถึงปัจจุบัน
ผมตั้งใจทำสื่อเพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์
ให้คนรุ่นใหม่ที่อยากประสบความสำเร็จในชีวิตและรวย “เร็วขึ้น”
?คุณสามารถดูคลิปจากลิงก์ล่างนี้ ว่าผมมีประสบการณ์ธุรกิจอะไรบ้าง?
http://bit.ly/2kHDgt4
—
// ติดตาม วรัทภพ รชตนามวงษ์ เพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.warattapob.com
?SOCIAL
Instagram : https://www.instagram.com/warattapob_rachatanamwong
Facebook : https://fb.me/WarattapobRachatanamwong
YouTube: https://www.youtube.com/c/WarattapobRachatanamwong
Line official : http://line.me/ti/p/~@warattapob
Twitter : https://twitter.com/warattapob
Tiktok : https://www.tiktok.com/@warattapob
?PODCAST
--สำหรับ Android
Soundcloud : https://bit.ly/2QjfVYm
Spotify : https://spoti.fi/2Jcwh6Y
--สำหรับ iOS
Apple Podcast : https://apple.co/2QjW5fM
—
#WARATTAPOB #warattapobpodcast #podcastไทย
วิดีโอนี้เกี่ยวกับ 2 วิธี ที่จะทำให้ธุรกิจของคุณโตเร็วที่สุด | #96 WARATTAPOB PODCAST ไทย
LINK https://youtu.be/h42RwWGKvvc
LINK https://youtu.be/h42RwWGKvvc
การจัดการ คือ 在 iT24Hrs Youtube 的最佳解答
Cyberbullying คือ การกลั่นแกล้งบนโลกไซเบอร์ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่บางครั้งอาจจะส่งผลความรุนแรงต่อผู้โดนกระทำ อาจถึงขั้นเกิดภาวะซึมเศร้าเป็นเหตุทำให้เกิดการฆ่าตัวตาย
กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณะสุข จึงได้แนะนำ "การจัดการ กับ Cyberbullying " วิธีการป้องกันตัวเองในเบื้องตัน ถ้าหากพบเจอเหตุการณ์กลั่นแกล้งบนโลกไซเบอร์ ต้องทำยังไงบ้าง มาดูกันเลยค่ะ
ออกอากาศวันที่ 26 ตุลาคม 2562
รายการไอที 24 ชั่วโมง ออกอากาศ ทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ ทางช่อง 9MCOT HD และ Modern 9 TV เวลาประมาณ 22.05 น.
ติดตามรับข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
facebook.com/it24hrs
twitter.com/panraphee
twitter.com/it24hrs
IG: panraphee
ติดต่อโฆษณา it24hrs@it24hrs.com
การจัดการ คือ 在 แนวคิดและทฤษฎีการจัดการองค์การ - YouTube 的推薦與評價
... การจัดการ ระดับสูง (Senior Management) 2. การจัดการ ระดับกลาง (Middle Management) 3. การจัดการ ... 5 เทรนด์บริหารคน 2024 เมื่อ HR คือ กองหน้า ไม่ใช่ภาระ | The ... ... <看更多>