สรุป Risk Premium คืออะไร ? ทำไมนักลงทุนควรรู้จัก /โดย ลงทุนแมน
“การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน”
คนที่เป็นนักลงทุนคงคุ้นเคยกับประโยคเตือนนี้ดี
ความเสี่ยง ถ้าให้อธิบายง่าย ๆ ก็คือ โอกาสที่เราจะไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่เราคาดหวังไว้ รวมไปถึงโอกาสในการสูญเสียเงินต้นจากการลงทุนนั้น ๆ
แต่ถ้าในเชิงวิชาการเงิน ความเสี่ยงก็อาจวัดได้จากความผันผวนของผลตอบแทน ยิ่งผันผวนมาก ในวิชาการเงินจะถือว่ามีความเสี่ยงสูง
แน่นอนว่า เมื่อเราไปลงทุนในสินทรัพย์ที่เสี่ยง เราก็มีโอกาสที่จะไม่ได้รับผลตอบแทนที่คาดไว้ รวมถึงโอกาสในการสูญเสียเงินต้น
ดังนั้น เมื่อตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงแล้ว นักลงทุนจึงต้องการผลตอบแทนเพิ่มเติม ที่เรียกว่า “ส่วนชดเชยความเสี่ยง” หรือ “Risk Premium”
แล้ว Risk Premium คืออะไร ?
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ลองนึกภาพเล่น ๆ กันก่อนว่า ถ้าเรานำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น
- เงินฝากธนาคาร เสี่ยงต่ำมาก ต้องการผลตอบแทน 1%
- หุ้นกู้บริษัทเอกชน เสี่ยงปานกลาง ต้องการผลตอบแทน 5%
- หุ้นสามัญ เสี่ยงสูง ต้องการผลตอบแทน 10%
เราจะพบว่า แต่ละสินทรัพย์นั้นมีความคาดหวังของอัตราผลตอบแทนที่แตกต่างกันออกไป
สินทรัพย์ยิ่งเสี่ยงมาก เราก็ยิ่งคาดหวังผลตอบแทนที่สูงมากตามไปด้วย
ซึ่งก็เข้ากับประโยคคลาสสิกในโลกของการลงทุนที่ว่า “High Risk High Return” นั่นเอง
ตัวอย่างหนึ่งที่ช่วยให้หลายคนเห็นภาพมากขึ้น
คือ ความแตกต่างระหว่าง อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ก็สามารถใช้คำว่า Risk Premium มาอธิบายความแตกต่างนี้ได้เช่นกัน
คำถามที่หลายคนมักคาใจกันมานานคือ ทำไมอัตราดอกเบี้ยเงินฝากถึงต่ำมาก เช่น อยู่ในช่วงระหว่าง 0.5% - 1.5% แต่ทำไมอัตราดอกเบี้ยเงินกู้นั้นจึงสูงมาก เช่น 5.0% - 8.0%
เรื่องนี้อธิบายตามหลัก Risk Premium ก็คือ
เมื่อธนาคารรับเงินฝากจากเราไป ธนาคารก็จะมีภาระที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้กับเราหรือคนที่เอาเงินไปฝากตามตกลงกัน
แต่ประเด็นคือ ธนาคารไม่ได้เอาเงินฝากของเรากองไว้เฉย ๆ แต่ธนาคารเอาเงินไปปล่อยสินเชื่อต่อ ซึ่งจะทำให้ธนาคารมีความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระดอกเบี้ย หรือไม่ได้เงินต้นคืนจากผู้ขอสินเชื่อ
เช่น ถ้าผู้กู้เป็นบริษัทที่มีความเสี่ยงด้านการเงิน มีหนี้สูง หรือแม้แต่คนธรรมดาที่ไปขอกู้และมีเครดิตไม่ดีในการผ่อนชำระเงิน มีรายได้ไม่แน่นอน หรือไม่มีหลักประกัน
ความเสี่ยงตรงนี้ เป็นส่วนที่ธนาคารต้องแบกรับ ทำให้ธนาคารต้องคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในระดับสูงขึ้น มากกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก
ซึ่งความแตกต่างนั้น ส่วนหนึ่งก็สะท้อนคำว่า Risk Premium หรือ ส่วนชดเชยความเสี่ยง นั่นเอง
อีกกรณีหนึ่งที่อธิบายเรื่องนี้ได้คือ การจัดอันดับเครดิตเรตติงของ หุ้นกู้
โดยบริษัทที่ทำการจัดอันดับเครดิตเรตติง จะประเมินระดับเรตติงจาก ลักษณะการดำเนินธุรกิจของบริษัท ผลประกอบการ หลักทรัพย์ค้ำประกัน รวมถึงปัจจัยภายนอกที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูว่าบริษัทที่ออกหุ้นกู้นั้น มีความสามารถในการชำระหนี้คืนได้มากแค่ไหน
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงมีการจัดอันดับความเสี่ยงของหุ้นกู้ ซึ่งแบ่งออกมาเป็น Investment Grade หรือกลุ่มที่มีเครดิตดีน่าลงทุน ที่มีเรตติงตั้งแต่ BBB ขึ้นไปถึง AAA
และ Non-Investment Grade หรือกลุ่มที่มีความเสี่ยงจะผิดนัดชำระหนี้สูง มีเรตติงต่ำกว่า BBB ลงมา
โดยในกลุ่ม Non-Investment Grade บริษัทที่ออกหุ้นกู้ ก็จะต้องเสนอดอกเบี้ยสูง ๆ เพื่อจูงใจนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนบนความเสี่ยงที่สูงนั้น
แตกต่างกับกลุ่ม Investment Grade ที่เครดิตดีอยู่แล้ว ผู้ลงทุนจึงรู้สึกปลอดภัยในการมาลงทุน และไม่ต้องการส่วนชดเชยความเสี่ยงเยอะ ผู้ออกจึงไม่จำเป็นต้องเสนอดอกเบี้ยสูง ๆ นั่นเอง
ส่วนคนที่ลงทุนในตลาดหุ้น ก็จะมีผลตอบแทนชดเชยความเสี่ยง ที่เรียกว่า “Equity Risk Premium”
ซึ่ง Equity Risk Premium ถ้าอธิบายตามหลักการ ก็เกิดมาจาก อัตราผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุนในตลาดหุ้น หักลบด้วย ผลตอบแทนจากสินทรัพย์ที่ปราศจากความเสี่ยง
ซึ่งตามทฤษฎีแล้ว สินทรัพย์ที่มักถูกนำมาใช้เป็นตัวแทนสินทรัพย์ที่ปราศจากความเสี่ยง ก็คือ พันธบัตรรัฐบาล
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย ๆ เช่น
ถ้าอัตราผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุนในตลาดหุ้นเท่ากับ 10% อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลเท่ากับ 2% ในกรณีนี้ Equity Risk Premium จะเท่ากับ 8%
และด้วยความที่ตัวแปรทั้ง 2 ตัวนั้นเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา เพราะฉะนั้น Equity Risk Premium จะมีการเปลี่ยนไปตลอดเวลาเช่นเดียวกัน
โดยปกติแล้วเมื่อตลาดอยู่ในภาวะที่มีความเสี่ยงสูง
เช่น การตกต่ำของภาวะเศรษฐกิจ การเกิดสงคราม ก็จะทำให้ Equity Risk Premium มีการปรับตัวสูงขึ้น เพราะนักลงทุนคาดหวังผลตอบแทนชดเชยความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงใน Equity Risk Premium ยังสามารถบอกการเคลื่อนย้ายเงินทุนของนักลงทุนระหว่างตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรได้อีกด้วย
โดยปกติแล้วถ้ามีเงินไหลออกจากตลาดพันธบัตรเข้าตลาดหุ้น Equity Risk Premium จะลดลง และกลับกัน เมื่อมีเงินไหลออกจากตลาดหุ้นเข้าสู่ตลาดพันธบัตร Equity Risk Premium จะเพิ่มขึ้น
อ่านมาถึงตรงนี้เราน่าจะพอได้ไอเดียเกี่ยวกับ Risk Premium หรือ ผลตอบแทนที่ชดเชยความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ มาพอสมควร
ซึ่งการที่เรารู้และเข้าใจข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ก่อนที่จะลงทุน
ก็น่าจะช่วยให้เรา เข้าใจกลไก ความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ของโลกการลงทุน ได้ดีมากขึ้น
ดังนั้น ต่อไปนี้ ก่อนที่ใครจะชวนลงทุนอะไร ที่มันดูเสี่ยง
เราอาจต้องถามตัวเองว่า เราต้องการ Risk Premium ที่เท่าไร..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.bot.or.th/thai/statistics/_layouts/application/interest_rate/in_rate.aspx
-https://en.wikipedia.org/wiki/Risk_premium
-https://en.wikipedia.org/wiki/Credit_rating
-https://www.investopedia.com/terms/e/equityriskpremium.asp
同時也有38部Youtube影片,追蹤數超過42萬的網紅ชาญชัย กินให้อ้วนรวย,也在其Youtube影片中提到,ต่อไปนี้ มาก่อน โควิดมา...
「ต่อไปนี้」的推薦目錄:
- 關於ต่อไปนี้ 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於ต่อไปนี้ 在 sittikorn saksang Facebook 的最讚貼文
- 關於ต่อไปนี้ 在 Overclockzone Facebook 的精選貼文
- 關於ต่อไปนี้ 在 ชาญชัย กินให้อ้วนรวย Youtube 的最讚貼文
- 關於ต่อไปนี้ 在 555INFINITY Youtube 的最佳貼文
- 關於ต่อไปนี้ 在 Mario Jok Youtube 的最佳解答
- 關於ต่อไปนี้ 在 คอร์ดเพลง #ต่อไปนี้ - เขียนไขและวานิช - Pinterest 的評價
- 關於ต่อไปนี้ 在 ต่อไปนี้ไม่มีใคร - ใหม่ เจริญปุระ | By Domo Darken - Facebook 的評價
ต่อไปนี้ 在 sittikorn saksang Facebook 的最讚貼文
การถือครองทรัพย์สินของต่างชาติ 100%
ใน https://www.facebook.com/workpointTODAY/ ได้กล่าวถึง ประเด็นใหญ่ในสังคมไทยนาทีนี้ เมื่อมติคณะรัฐมนตรี ระบุว่า พร้อมแก้กฎหมายให้คนต่างชาติถือครองแผ่นดินในประเทศไทยได้ โดยให้เหตุผลว่า เพื่อดึงดูดเงินจากชาวต่างชาติที่ร่ำรวยเข้าสู่ประเทศ
เรื่องนี้โดนโต้แย้งอย่างรุนแรงในโลกออนไลน์ เพราะอาจทำให้เกิดปรากฎการณ์คนไทยต้องเช่าแผ่นดินตัวเองอยู่จากคนต่างชาติ เรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างไร workpointTODAY จะอธิบายสถานการณ์ให้เข้าใจง่ายที่สุดใน 12 ข้อ
1) ย้อนกลับไปวันที่ 18 กันยายน 2564 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเอาใจชาวต่างชาติ โดยมีรายละเอียดหลายข้อ เช่น
- ผู้ถือวีซ่าพำนักอาศัยระยะยาว (Long-term Visa) ไม่ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้รับทราบอีกต่อไป แม้จะอยู่ในประเทศเกิน 90 วัน
- ปรับลดอากรขาเข้า กับสินค้าประเภทไวน์ สุรา และยาสูบประเภทซิการ์ลงครึ่งหนึ่ง กล่าวคือชาวต่างชาติที่ขนเหล้า-ไวน์ มาจากต่างประเทศ ไม่ต้องจ่ายภาษีนำเข้าในราคาแพง
- ยกเลิกกฎหมายการขอใบอนุญาตการทำงานของกระทรวงแรงงาน ที่ชาวต่างชาติ 1 คน ที่ถือ Long-term Visa ต้องจ้างคนไทย 4 คน เพื่อเป็นการกระจายรายได้ แปลว่า อนาคตชาวต่างชาติก็จะเบาตัวขึ้น ไม่ต้องเสียเงินจ้างคนไทย 4 คนอีกต่อไป
2) เป้าหมายทั้งหมดของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นให้คนต่างชาติ มาอยู่อาศัยที่ไทยมากขึ้น เป็นการสร้างรายได้จากแหล่งใหม่ๆ โดยมีเป้าหมายคือเพิ่มจำนวนชาวต่างชาติที่อยู่อาศัยในประเทศไทยให้เพิ่มเป็น 1 ล้านคน และประเมินว่าจะเก็บภาษีได้เพิ่มมากขึ้นถึง 2.7 แสนล้านบาท
นอกจากนั้น ผลพลอยได้คือ จะทำให้ประเทศไทยมีบุคลากรเก่งๆ จากต่างประเทศ มาอยู่อาศัยในแผ่นดินของเรามากขึ้น
3) ในบรรดานโยบายหลายๆ ข้อ ข้อที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ คำสั่งให้กระทรวงมหาดไทย ศึกษาแนวทางแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการถือครองที่ดินเพื่อเอาใจชาวต่างชาติ
อธิบายคือ ในปัจจุบันประเทศไทยมีกฎหมายป้องกันไม่ให้คนต่างชาติซื้ออสังหาริมทรัพย์ในไทยได้ ตัวอย่างเช่น ในคอนโดมิเนียม 1 อาคาร จะอนุญาตให้ชาวต่างชาติ ซื้อห้องได้ทั้งหมดไม่เกิน 49% จากจำนวนห้องทั้งคอนโดฯ เหตุผลเพราะ ถ้าปล่อยให้คนต่างชาติซื้อได้อย่างอิสระ อาจมีนักธุรกิจทุนหนาจากจีน, สหรัฐฯ, ยุโรป หรือตะวันออกกลาง มากว้านซื้อคอนโดมิเนียมทั้งตึกเอาไว้ แล้วปล่อยให้คนไทยเช่าเพื่อทำกำไร
หรือถ้าคิดลึกขึ้นไปกว่านั้น อาจเห็นปรากฏการณ์ที่ทุนจีน ซื้อคอนโดทั้งตึกทิ้งไว้ แล้วนำนักท่องเที่ยวชาวจีนมาเที่ยวในไทย แต่มาอาศัยอยู่ในคอนโดฯ ที่ชาวจีนเองเป็นเจ้าของเอง คือแทนที่จะกระจายรายได้ไปสู่ระบบธุรกิจอื่นๆ ของคนไทย เงินทองทั้งหมดอาจจะไหลอยู่ในระบบเศรษฐกิจของคนจีนแทน
นอกจากเรื่องคอนโดมิเนียมแล้ว ประเทศไทยยังมีประมวลกฎหมายที่ดิน ห้ามชาวต่างชาติซื้อบ้านและที่ดิน เพื่อป้องกันประเทศถูกยึดครอง
ลองนึกภาพ ถ้ามีประเทศหนึ่งที่ร่ำรวยมาก ขนเงินมหาศาลมาซื้อหมู่บ้านเปิดใหม่แห่งหนึ่งไว้ทั้งหมดทุกหลัง จากนั้นก็ขายต่อบ้านแต่ละหลังให้คนชาติตัวเอง ก็อาจส่งผลให้หมู่บ้านนั้นใช้ภาษาอื่นและมีวัฒนธรรมอื่น ทั้งๆ ที่อยู่บนแผ่นดินไทย ซึ่งก็เป็นภาพที่ยากจะจินตนาการ
4) อย่างไรก็ตาม ฝั่งรัฐบาลมีความตั้งใจจะปลดล็อกเรื่องนี้มาตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 ที่ผ่านมา โดยมีข่าวว่าเตรียมแก้กฏหมาย จากอดีตที่ชาวต่างชาติถือกรรมสิทธิ์ได้ 49% ของคอนโดมิเนียม 1 อาคาร แต่จะปรับเปลี่ยนให้ชาวต่างชาติถือครองได้ สูงถึง 70 หรือ 80%
รวมถึง จะอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถซื้อบ้านจัดสรร ที่มีราคา 10-15 ล้านบาทขึ้นไปอีกด้วย
ขณะที่เรื่อง "สัญญาเช่า" ในอดีตเคยมีลิมิตสูงสุดคือคนต่างชาติเช่าได้ 30 ปี ก็จะแก้กฎหมายเป็นเช่าได้ 50 ปี และขยายเพิ่มได้อีก 40 ปี แปลว่าคนต่างชาติ ต่อให้ไม่ได้ซื้อบ้านก็สามารถเช่าได้สูงสุดถึง 90 ปี เลยชั่ว 1 อายุคนเสียอีก
5) เมื่อภาครัฐมีความตั้งใจจะแก้กฎหมายเรื่องอสังหาริมทรัพย์ได้เกิดการตอบรับในสองทิศทาง คือทางบวกและทางลบ เริ่มจากทางบวกโดยฝั่งผู้ขาย เช่น บริษัทอสังหาฯ ต่างๆ รวมถึงสมาคมที่เกี่ยวข้องกับอาคารชุด ก็พูดในทิศทางเดียวกันว่า หากปลดล็อกกฎหมาย 49% ก็จะเพิ่มแรงดึงดูดให้ชาวต่างชาติเข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมในไทยมากขึ้น ตลาดอสังหาฯ ก็จะมีความคึกคัก เป็นการดูดเงินมาจากต่างชาติ ถือเป็นการทดแทนกำลังซื้อจากคนไทยที่เริ่มถดถอยแล้ว
นอกจากนั้น ถ้าคนต่างชาติระดมซื้อคอนโดมิเนียม และบ้านราคาแพง ธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้องก็จะได้อานิสงส์ทั้งหมดเช่น บริษัทเฟอร์นิเจอร์ บริษัทก่อสร้างตกแต่งภายใน บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ ดังนั้นนโยบายปลดล็อกการกระตุ้นให้คนต่างชาติมาซื้ออสังหาฯ ได้เยอะๆ จึงเป็นการผลักดันอุตสาหกรรมอื่นๆ ไปพร้อมกันด้วย
6) อย่างไรก็ตาม แม้จะมีมุมบวก แต่กระแสมุมลบนั้นรุนแรงมาก มีความไม่พอใจจากกลุ่มประชาชนทั่วไป ว่าการที่ภาครัฐปล่อยให้คนต่างชาติ ซื้อบ้าน ซื้อคอนโดได้อย่างอิสระ สุดท้ายไทยจะโดนทุนต่างชาติฮุบหรือไม่ แล้วคนไทยจากที่เคยเป็นเจ้าของประเทศ ก็จะต้องเปลี่ยนบทบาทกลายมาเป็น "ผู้เช่า" แทน โดยในโลกออนไลน์ มีการใช้คำเพื่อประณามว่า ถ้ากฎหมายนี้ลุล่วงได้สำเร็จ มันคือ "กฎหมายขายชาติ"
มีการยกกรณีศึกษาที่ต่างประเทศ โดยระบุว่า ในต่างประเทศ มีข้อจำกัดเรื่องการถือครองที่ดินของชาวต่างชาติอย่างแข็งกร้าวมาก ที่จีน อนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อห้องชุดได้เพียงหลังเดียว ไม่ปล่อยให้นักลงทุนต่างประเทศ มากว้านซื้อห้องชุดจำนวนมากเพื่อปล่อยขายเก็งกำไรแต่อย่างใด หรือที่ออสเตรเลียอนุญาตให้ชาวต่างชาติซื้อบ้านได้ แต่เพื่อทำการอยู่อาศัยเท่านั้น มีข้อบังคับว่าถ้าขายต่อ ต้องขายให้คนท้องถิ่น ไม่อนุญาตให้ขายต่อให้คนชาติอื่นๆ
แต่นโยบายที่รัฐบาลไทยพยายามจะทำ สวนทางกับของชาติอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง ในขณะที่ชาติอื่นๆ ปกป้องสิทธิของคนในประเทศตัวเอง แต่ภาครัฐพยายามเปิดช่องเอาใจคนต่างชาติ จนอาจเข้ามาหากำไรจากประเทศไทยได้อย่างอิสระ
7) ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยกล่าวว่า "นี่ถือเป็นมติอัปยศ ที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลสิ้นไร้ความสามารถที่จะแสวงหารายได้เข้าแผ่นดิน แนวคิดและมติดังกล่าวไม่ได้สอบถามเจ้าของประเทศที่แท้จริงเลยว่าเห็นชอบด้วยหรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และอาจขัดต่อรัฐธรรมนูญ จึงเรียกร้องขอให้รัฐบาลใช้อำนาจ ม.166 ดำเนินการทำประชามติจากประชาชนเจ้าของประเทศเสียก่อน"
8 ) นอกจากเรื่องอสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นประเด็นร้อนแล้ว คำว่า "ขายชาติ" ก็ถูกหยิบมาพูดถึงอีกครั้งเช่นกัน โดยวาทกรรม "ขายชาติ" ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในยุคพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาเท่านั้น แต่ในอดีตมีนายกรัฐมนตรีสองคน ที่โดนกล่าวหาด้วยคำนี้มาแล้ว นั่นคือ ทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
9) อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร โดนประณามว่าเป็นคนขายชาติ หลังจากที่เขาประกาศนโยบายแปรรูปรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เช่น ปตท. (PTT) และ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (AOT) เป็นต้น โดยบริษัทเหล่านี้จากเดิมรัฐจะถือหุ้นทั้งหมด 100% แต่ทักษิณได้แปรรูปเป็น รัฐถือได้ 51% คนภายนอกทั้งไทยและต่างชาติ ถือได้รวมกัน 49% โดยทักษิณอธิบายว่า "ต้องการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับการเป็นเจ้าของกิจการของรัฐ"
อย่างไรก็ตาม สุทธิพงษ์ ปรัชญพฤทธิ์ คอลัมนิสต์จากผู้จัดการออนไลน์เขียนว่า "วลี 'ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของกิจการของรัฐ' คือความคิดของการปล้นสมบัติชาติโดยอ้างประชาชน เป็นตัวอย่างวาทกรรมที่ปกปิดซ่อนเร้นความในใจ พูดดี พูดน่าเชื่อถือ ฟังแล้วน่าหลงใหล แท้จริงแล้วต้องการจะฮุบทรัพยากรของรัฐ คิดจะฮุบรัฐวิสาหกิจของประเทศ...เป็นการยากที่จะทำให้ประเทศไทยรอดจากเงื้อมมือทักษิณ แม้เขาจะไม่อยู่ในประเทศไทยก็ตาม คนที่ปล้นชาติหรือขายชาติ เรียกว่าโจร หรือมหาโจร"
10) ขณะที่กรณีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีอีกคน โดนกล่าวหาว่าขายชาติเช่นกัน แต่ด้วยเหตุผลที่ต่างกันออกไป โดยในวันที่ 29 เมษายน 2556 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปกล่าวปาฐกถาที่ประเทศมองโกเลีย โดยประเด็นหลักเธอกล่าวว่าประเทศไทยต้องล้าหลังชาติอื่นไปหลายปี เพราะมีการรัฐประหารในยุคสนธิ บุญยรัตกลิน
อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า "การรัฐประหารทำให้ไทยถอยหลังและสูญเสียความน่าเชื่อถือต่อนานาชาติ หลักนิติธรรมและกระบวนการกฎหมายถูกทำลาย โครงการที่พี่ชายดิฉันริเริ่มตามที่ประชาชนต้องการถูกยกเลิก ประชาชนเกิดความรู้สึกว่าสิทธิเสรีภาพของเขาถูกปล้นไปคนไทยได้ลุกขึ้นต่อสู้เรียกร้องเพื่อให้ได้เสรีภาพคืนมา แต่ในเดือน พ.ค. 2553 มีการสลายการชุมนุมของผู้เรียกร้องกลุ่มคนเสื้อแดง ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 91 คน ในใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ คนบริสุทธิ์ถูกลอบยิงโดยสไนเปอร์ แม้แต่ทุกวันนี้ยังคงมีเหยื่อทางการเมืองจากการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยที่ติดคุกอยู่"
เมื่ออดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ พูดปาฐกถาแบบนั้น ทำให้โดนโจมตีว่า เอาเรื่องแย่ๆ ของประเทศไปบอกต่างประเทศ นายสุรชัย ศิริไกร อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่า "ไม่มีผู้นำประเทศไหนเอาเรื่องภายในไปบอกให้คนอื่นรับรู้โดยที่เขาไม่ได้ถาม ยกตัวอย่าง เช่น บารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ครั้งเดินทางมาเยือนประเทศไทย ก็ไม่เคยนำปัญหาภายในสหรัฐมาบอกให้ประเทศไทยรับทราบ"
ตามด้วยชัย ราชวัตร นักเขียนการ์ตูนคนดังจากไทยรัฐ ทวีตข้อความว่า "กะหรี่แค่เร่ขายตัว แต่หญิงชั่วเที่ยวเร่ขายชาติ" นั่นทำให้ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดนกล่าวหาว่าเป็น "คนขายชาติ" แต่จะเป็นความหมายที่ต่างกันกับกรณีของทักษิณ ชินวัตร
11) บรรยากาศในโลกออนไลน์ตอนนี้ จึงเชื่อมโยงว่า ในยุคทักษิณโดนกล่าวหาว่าขายชาติ เพราะแปรรูปรัฐวิสาหกิจ ส่วนยุคยิ่งลักษณ์โดนกล่าวหาว่าขายชาติเพราะปาฐกถาที่มองโกเลีย แต่ในวันนี้ที่รัฐบาลกำลังออกกฎหมายขายที่ดินให้คนต่างชาติ ซึ่งน่าจะตรงคอนเซ็ปต์คำว่า "ขายชาติ" มากกว่า เมื่อเกิดเหตุแบบนี้กลุ่มคนที่เคยด่าทักษิณและยิ่งลักษณ์ในอดีต ควรออกมาแสดงจุดยืนหรือไม่เพื่อปกป้องประเทศ
โฟกัส จิระกุล นักแสดงสาวคนดัง ในโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กของตัวเองว่า "ใครกันแน่ที่...ขายชาติ" ขณะที่ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้โพสต์ว่า "ไม่แน่นะ ต่อไปนี้ อาจมีเขตปกครองพิเศษ สำหรับต่างชาติ ห้ามคนไทยเข้าก็ได้"
12) สำหรับกระบวนการในตอนนี้ ยังต้องติดตามกันต่อไป ว่าภาครัฐจะผลักดันนโยบายนี้ไปถึงแค่ไหน แต่แน่นอนว่า คงต้องผ่านการโต้เถียงอย่างดุเดือด เพราะในมุมหนึ่ง มันก็เป็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและหาเงินเข้าประเทศที่น่าสนใจ แต่หากแลกมากับการให้คนต่างชาติมาถือครองแผ่นดินไทย และอาจเป็นจุดเริ่มต้นสู่การยึดครองประเทศ ก็ไม่สามารถตอบได้ ว่าจะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าหรือไม่
อนึ่งในความเห็นผมสามารถทำได้หรือไม่ ถ้ากฎหมายผ่านทำได้ และไม่ได้เป็นการขายชาติ เพราะอย่างไรอำนาจอธิปไตยทางดินแดนก็ยังเป็นของประเทศไทย เพียงแต่การถือครองทรัพย์สินเป็นของต่างชาติ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกในอังกฤษ ที่ให้คนต่างชาติถือครองทรัพย์สินได้ คิงพาวเวอร์ คนไทยถือครองทรัพย์สินเลสเตอร์ ที่ประเทศอังกฤษ เป็นต้น
#workpointTODAY
#สาระความรู้เพื่อวันนี้
ต่อไปนี้ 在 Overclockzone Facebook 的精選貼文
ต่อไปนี้ คำว่า ราคาแพง จะไม่ได้จำกัดอยู่กับ การ์ดจอ และ อุปกรณ์คอมแล้วนะ .. แต่ทุกอย่างที่เป็นสินค้า IT และเทคโนโลยี จะโดนผลกระทบไปด้วย สาเหตุมาจากปัญหาชิปขาดตลาด ทำให้ TSMC ผู้ผลิตชิปเจ้าหลักนั้น จำเป็นต้องปรับราคาขึ้น และแน่นอนว่าเจ้าอื่นๆก็ปรับขึ้นตามๆกันไป ทำให้สินค้าแบรนด์ IT ที่ปกติ Margin น้อยอยู่แล้ว จำเป็นต้องปรับราคาขึ้นยกแผง ! งานนี้ผู้บริโภคก็เตรียมตัวเตรียมใจกันไว้ได้เลย
https://youtu.be/n3U1-2UhZZc
ต่อไปนี้ 在 ชาญชัย กินให้อ้วนรวย Youtube 的最讚貼文
ต่อไปนี้ มาก่อน โควิดมา
ต่อไปนี้ 在 555INFINITY Youtube 的最佳貼文
Coupon:BGTHAILAND01
สั่งซื้อ Mikatu เครื่องฆ่าเชื้อแปรงสีฟัน : https://ban.ggood.vip/WSLh
ลดราคาฤดูใบไม้ผลิ เคล็ดลับการออมเงิน :https://bit.ly/30p1vNN
มีของแจกด้วยนะจ๊ะ :https://www.facebook.com/sea.banggood/
#springsale #banggoodspringsale2021 #springsales2021 #springsalesevent
ต่อไปนี้ ผมจะมีลมหายใจที่หอมสดชื่นแบบ 100% เต็มแล้วครับ
????????????
#เพื่อนซี้ตัวแสบ #รีวิวของเจ๋งๆ #เครื่องฆ่าเชื้อแปรงสีฟัน #Banggood
#ทดลองใช้ #แกะกล่อง #แนะนำสินค้า #แสงUV
♡ Facebook ส่วนตัว : https://www.facebook.com/zeejhk
♣ Fanpage 1 : https://www.facebook.com/555infinity/
♣ Fanpage 2 : https://www.facebook.com/ZabbFamily
♤ Instagram : https://www.instagram.com/555_infinity/
♦ สำหรับส่งIntro : [email protected]
♧ Tiktok : ครอบครัวตัวแสบ
***
☞ ติดต่องาน (For Business) : [email protected]
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~⠀
อุปกรณ์ที่ผมใช้สร้าง Content
กล้อง Canon EOS 80D เลนส์ kit
☞ https://raka.is/r/Y3DJ
ไมค์ RODE VIDEOMIC GO
☞ https://raka.is/r/5p9J
ไฟสตู
☞ https://raka.is/r/qOWz
Notebook : Acer Nitro 5
☞ https://raka.is/r/7GM9
เก้าอี้
☞ https://raka.is/r/APpz
ต่อไปนี้ 在 Mario Jok Youtube 的最佳解答
ต่อไปนี้ เรื่องซักผ้าจะกลายเป็นเรื่องง่ายๆ เพราะมีตัวช่วยดีๆ อย่าง "บรีส เพาเวอร์ 5 อิน 1“ ขจัดคราบเร็ว ไม่ต้องแช่นาน
.................
ติดต่องาน
id Line ► mario_Jok
..................
ติดตามเพิ่มเติม
Facebook ► มาริโอ้ โจ๊ก
https://www.facebook.com/mariojok555
Instagram ► mario_jok
Tiktok ► mario_jok
ต่อไปนี้ 在 ต่อไปนี้ไม่มีใคร - ใหม่ เจริญปุระ | By Domo Darken - Facebook 的推薦與評價
ต่อไปนี้ ไม่มีใคร - ใหม่ เจริญปุระ อัลบั้ม ความลับสุดขอบฟ้า (2535) This video belongs to GMM Grammy. ... <看更多>
ต่อไปนี้ 在 คอร์ดเพลง #ต่อไปนี้ - เขียนไขและวานิช - Pinterest 的推薦與評價
26 ส.ค. 2019 - คอร์ดเพลง ต่อไปนี้ - เขียนไขและวานิช | เนื้อเพลง คอร์ด ต่อไปนี้ คอร์ดง่ายๆ เปลี่ยนคีย์ เพิ่มคีย์ ลดคีย์ คีย์ผู้หญิง คีย์ผู้ชาย. ... <看更多>