รัฐจอร์เจีย ประชากร 11 ล้านคน แต่มี GDP มากกว่า ประเทศไทย /โดย ลงทุนแมน
น้ำอัดลม Coca-Cola ที่ครองใจผู้คนทั่วโลก จนกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ากว่า 6.3 ล้านล้านบาท
รู้หรือไม่ว่า น้ำอัดลมนี้มีถิ่นกำเนิดมาจากเมืองแอตแลนตา ในรัฐจอร์เจีย
รัฐทางตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา ที่มีประชากรเพียง 11 ล้านคน
แต่มี GDP มากกว่าประเทศไทยทั้งประเทศ
ปี 2019 ประเทศไทยมี GDP 16.3 ล้านล้านบาท
ส่วนรัฐจอร์เจียมี GDP 18.6 ล้านล้านบาท สูงเป็นอันดับ 9 จากทั้งหมด 50 รัฐของสหรัฐอเมริกา
อะไรที่ทำให้รัฐเล็กๆ อย่างจอร์เจียมีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่าประเทศไทย?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
รัฐจอร์เจียมีพื้นที่ประมาณ 153,909 ตารางกิโลเมตร ใกล้เคียงกับภาคอีสานของประเทศไทย
มีเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่สุดของรัฐ คือ แอตแลนตา ที่มีประชากรประมาณ 1 ล้านคน
ที่มาของชื่อรัฐจอร์เจีย มาจากพระนามของพระเจ้าจอร์จที่ 2 แห่งอังกฤษ เมื่อมีชาวอังกฤษมาตั้งถิ่นฐานเป็นครั้งแรกราวปี ค.ศ. 1730
ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก
และอยู่ในทำเลสำคัญที่เชื่อมต่อระหว่างรัฐทางตอนเหนือ เช่น รัฐนิวยอร์ก เพนซิลเวเนีย
เซาท์แคโรไลนา กับทางตอนใต้เช่น รัฐฟลอริดา
และเชื่อมระหว่างมหาสมุทรแอตแลนติก กับรัฐตอนใน เช่น รัฐเทนเนสซี และรัฐแอละแบมา
รัฐจอร์เจียจึงเติบโตขึ้นมาเป็นศูนย์กลางการขนส่งที่สำคัญทางฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา
เนื่องจากมีความพร้อมในด้านการขนส่งทั้งทางอากาศ ทางเรือ และทางบก
ทางอากาศมีเมืองแอตแลนตา เป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าทางอากาศที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา โดยมีท่าอากาศยาน Hartsfield-Jackson Atlanta International Airport
ที่ได้ชื่อว่าเป็นท่าอากาศยานที่มีความหนาแน่นมากที่สุดในโลก
โดยในปี 2019 มีผู้โดยสารใช้บริการที่สนามบินแห่งนี้กว่า 100 ล้านคน
สนามบินแห่งนี้ยังมีโกดังสินค้าที่สามารถรองรับความจุได้มากถึง 120,000 ตารางเมตร
และยังให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศกว่า 650,000 ตันต่อปี
ส่วนการขนส่งทางเรือ รัฐจอร์เจียมีท่าเรือน้ำลึก 2 แห่ง
คือท่าเรือในเมือง Savannah และ Brunswick
โดยเฉพาะท่าเรือเมือง Savannah เป็นท่าเรือที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของสหรัฐอเมริกา
มีการจัดส่งตู้คอนเทนเนอร์อย่างน้อย 4.35 ล้านตู้ และมีคลังสินค้าที่มีเนื้อที่กว่า 270,000 ตารางเมตร
ส่วนท่าเรือ Brunswick ที่เน้นการนำเข้าและส่งออกอุตสาหกรรมหนัก เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนประกอบ
นอกจากเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางอากาศและทางเรือแล้ว
จอร์เจียยังถือว่าเป็นรัฐที่มีระบบการขนส่งทางรางรถไฟที่มากที่สุดรัฐหนึ่งในสหรัฐอเมริกา
โดยมีการขนส่งสินค้าผ่านทางรางรถไฟถึง 200 ล้านตันต่อปี
ด้วยความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานในการคมนาคมขนส่ง
รัฐจอร์เจียจึงเป็นที่ตั้งของบริษัท และโรงงานมากมาย
รัฐจอร์เจียสามารถส่งออกไปต่างประเทศรวมเป็นมูลค่ากว่า 1.2 ล้านล้านบาท
โดยมีอุตสาหกรรมหลักคืออากาศยาน, การเกษตร, รถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์
ในส่วนของอุตสาหกรรมอากาศยาน
มีบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอากาศยานกว่า 800 แห่งตั้งอยู่ในรัฐแห่งนี้
ไม่ว่าจะเป็นบริษัทผลิตเครื่องบินและชิ้นส่วน, บริษัทวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับการบิน,
บริษัทสายการบิน และบริษัทขนส่งทางอากาศ
นอกเหนือจากนั้น ที่นี่ยังเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และพัฒนาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการบิน
จากการจัดอันดับจาก US News มหาวิทยาลัย Georgia Institute of Technology ติด 5 อันดับแรกเกี่ยวกับสาขาวิศวกรรมการบิน และอวกาศในสหรัฐอเมริกา
เนื่องจากมีการลงทุนวิจัยและพัฒนาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการบินกว่า 4,600 ล้านบาท
ส่งผลให้สามารถผลิตบุคลากรที่เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ
และยังมีงานวิจัยมากมายที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมอากาศยาน
ด้วยเหตุนี้เอง จอร์เจียจึงเป็นรัฐที่ดึงดูดบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับอากาศยานให้มาเปิดโรงงานและสำนักงานที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น Boeing, Lockheed Martin, Delta Air Lines และอื่นๆ
ส่งผลให้มีการจ้างงานในอุตสาหกรรมอากาศยานในรัฐจอร์เจียถึง 100,000 คน
ในปี 2019 จอร์เจียสามารถส่งออกเครื่องบินพลเรือนเป็นมูลค่า 2.6 แสนล้านบาท
อุตสาหกรรมที่รองลงมาก็คือการเกษตร
เนื่องจากทำเลที่ตั้งอยู่ทางใต้ ซึ่งมีความอบอุ่นมากกว่า มีฤดูการเก็บเกี่ยวที่ยาวนานกว่ารัฐทางตอนเหนือ รัฐจอร์เจียจึงมีพื้นที่เพาะปลูกการเกษตรราว 36,000 ตารางกิโลเมตร
ส่งให้รัฐจอร์เจียสามารถสร้างผลผลิตทางการเกษตรเป็นมูลค่ากว่า 1.3 แสนล้านบาท
ซึ่งผลผลิตที่สำคัญได้แก่ เนื้อไก่, ถั่ว และ บลูเบอร์รี
อีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่สำคัญก็คือ ยานยนต์และชิ้นส่วนประกอบ
ด้วยความพร้อมทางด้านโครงสร้างพื้นฐานอย่างเช่น การขนส่งทางบกและทางเรือ
ส่งผลให้โรงงานผลิตรถยนต์ในรัฐใกล้เคียงอย่าง รัฐแอละแบมา, รัฐเซาท์แคโรไลนา และ รัฐเทนเนสซี ต้องมาใช้บริการท่าเรือน้ำลึกในรัฐจอร์เจีย โดยมูลค่าการส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วนอยู่ที่ 9.6 หมื่นล้านบาท
จอร์เจียจึงเป็นที่ตั้งของสำนักงาน, โรงงานผลิตรถยนต์และชิ้นส่วน ไม่ว่าจะเป็น Porsche, Mercedes-Benz และ KIA
จอร์เจียถือเป็นรัฐที่เอื้ออำนวยต่อการเริ่มต้นทำธุรกิจมากที่สุดรัฐหนึ่งในสหรัฐอเมริกา
เนื่องจากเจ้าหน้าที่รัฐของจอร์เจียมีนโยบายสนับสนุนธุรกิจเพื่อที่จะดึงดูดให้บริษัทและโรงงานก่อตั้งที่นี่
ปกติแล้ว บริษัทในสหรัฐฯ จะมีการเสียภาษีนิติบุคคล 2 ระดับ คือให้รัฐบาลกลาง ซึ่งเป็นอัตราเดียวกัน และให้รัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งอัตรานี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ
รัฐจอร์เจียมีอัตราการเก็บภาษีนิติบุคคลอยู่ที่ 5.75% ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำกว่ารัฐใหญ่อื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็นรัฐแคลิฟอร์เนียที่เป็นศูนย์กลางแห่งเทคโนโลยี
มีการเก็บภาษีนิติบุคคลสูงถึง 8.84%
รัฐมิชิแกนที่เป็นศูนย์กลางแห่งอุตสาหกรรมยานยนต์
มีการเก็บภาษีนิติบุคคล 6.00%
ที่น่าสนใจคือ บริษัทและโรงงานที่จดทะเบียนในรัฐจอร์เจีย
จะเสียภาษีนิติบุคคล โดยคำนวณจากรายได้ของการขายสินค้าและบริการภายในรัฐจอร์เจียเท่านั้น
ในปี 2020 นิตยสารฟอร์จูน จัดอันดับบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก 500 บริษัท โดยมีถึง 18 บริษัทที่ตั้งอยู่ในจอร์เจีย
บริษัทระดับโลกซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในรัฐจอร์เจียที่คนไทยคุ้นเคย เช่น
The Home Depot บริษัทค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน มูลค่าบริษัท 8.9 ล้านล้านบาท
Coca-Cola บริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำอัดลม ซึ่งถือกำเนิดในเมืองแอตแลนตา
มีมูลค่าบริษัท 6.3 ล้านล้านบาท
UPS บริษัทขนส่งสินค้าครบวงจร มูลค่า 4.1 ล้านล้านบาท
Delta Air Lines บริษัทสายการบิน มูลค่า 0.7 ล้านล้านบาท
ด้วยมูลค่า GDP ของรัฐจอร์เจียที่ 18.6 ล้านล้านบาท
ถ้ารัฐจอร์เจียเป็นประเทศ จะมีมูลค่า GDP ใหญ่เป็นอันดับที่ 21 ของโลก
ใหญ่กว่าประเทศไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ซึ่งมีประชากรมากกว่ารัฐจอร์เจียหลายเท่า
เรื่องนี้ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ..
ทำเลของรัฐจอร์เจียดีมากก็จริง แต่สิ่งสำคัญก็คือ “การพัฒนาโครงสร้าง”
เพราะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะด้านการคมนาคมขนส่งให้ครอบคลุม
จึงดึงดูดให้รัฐแห่งนี้กลายเป็นศูนย์กลางการขนส่ง สร้างงานและสร้างรายได้มหาศาล
เมื่อรวมกับการมอบแรงจูงใจเพื่อดึงดูดบริษัทต่างๆ มาก่อตั้งในรัฐ
ถือเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ ที่ทำให้รัฐที่มีประชากรน้อยกว่าไทยเกือบ 7 เท่า
แต่สามารถมีขนาดเศรษฐกิจมากกว่าไทย และหลายประเทศในโลกได้
หันกลับมามองที่ประเทศไทย ด้วยทำเลที่ตั้งที่ดี สามารถเชื่อมโยงระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนได้ไม่ยากเย็น
หากพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ดี
GDP ของเราก็อาจจะเติบโตมาเท่ากับรัฐจอร์เจีย ก็เป็นได้..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.statista.com/statistics/248023/us-gross-domestic-product-gdp-by-state/
-https://www.pwc.com/us/en/industries/industrial-products/library/aerospace-manufacturing-attractiveness-rankings.html
-https://www.georgia.org/sites/default/files/2020-02/annual_trade_report.pdf
-https://www.georgia.org/industries/aerospace
-https://www.usnews.com/best-graduate-schools/top-engineering-schools/aerospace-rankings
-https://www.statista.com/statistics/226464/passenger-traffic-at-atlanta-airport/#:~:text=In%202019%2C%20Hartsfield%2DJackson%20Atlanta,it%20the%20world's%20busiest%20airport.&text=As%20one%20of%20the%20busiest,Hartsfield%2DJackson%20Atlanta%20International%20Airport.
-https://www.porttechnology.org/news/top-5-ports-in-the-usa/
-https://www.georgia.org/competitive-advantages/incentives/tax-credits
-https://taxfoundation.org/2020-sales-taxes/
-https://www.georgia.org/industries/automotive
-https://www.georgia.org/industries/logistics-supply-chain
-https://fortune.com/fortune500/2020/search/?hqstate=GA
-https://data.worldbank.org/?locations=CN-TH-US
เวียดนาม ประชากร 在 Mao-Investor Facebook 的最佳解答
#เวียดนามจะแซงไทยจริงหรา
พี่เม่าได้ยินประโยคนี้มานานหลายปี จนกระทั่งลองไปเที่ยวดู ตอนเหยียบแผ่นดินเวียดนามก้าวแรก ก็แอบยักไหล่เล็กๆ พลางคิดในใจตามประสาคนนิสัยไม่ดีว่า "เวียดนามเนี่ยนะจะแซงไทย" บรรยากาศเหมือนประเทศไทยสัก 30 ปีก่อน ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ระบบจัดการ ประชากร ต่างๆ ยังดูตามไทยอยู่หลายสิบปีเลย แต่หลังจากอ่านบทวิเคราะห์อันนี้แล้วกลับคิดว่า "เวียดนามน่ากลัวโพดๆ" สรุปได้ 5 ข้อ ลองอ่านกันดูนะ
#ข้อได้เปรียบของเวียดนามคือข้อได้เปรียบที่ไทยเคยมีเมื่อ30ปีก่อน
1. โครงสร้างประชากรเข้าสู่วัยทำงาน ในขณะที่ไทยเข้าสู่สังคมสูงอายุ
และแรงงานเค้ามีคุณภาพด้วยนะเออ ความสามารถด้านวิทยศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี ของนักเรียนเวียดนามใกล้เคียงกับณี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ( อ้างอิงจากการประเมินผลนักเรียน PISA 2015 ) และบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google Inc.กล่าววว่าเวียดนามจะเป็นตลาดสำคัญของ Google Inc.ในไม่ช้า
2.ต้นทุนการผลิตถูก คล้ายจีนเมื่อ 20 ปีก่อน
ตั้งแต่ปี 2010 ที่ค่าแรงจีนสูงขึ้นเรื่อยๆ ชาวต่างชาติเลยมองฐานการผลิตที่อื่น และเวียดนามเป็นตัวเลือกอันดับแรกๆ ของนักลงทุน เพราะค่าแรงถูกมาก (ไทย 300 บาท/วัน,เวียดนาม 160-180 บาท/วัน, จีน 170-370 บาท/วัน) เช่น Intel Corp. ที่สร้างฐานการผลิต IC ที่ใหญ่สุดในเวียดนาม มูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลล์ รวมไปถึง Samsung Electronics และ LG Corp. ที่เพิ่งย้ายฐานการผลิตจากไทยไปตั้งโรงงานใหม่ที่เวียดนาม
3. สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจเอื้อต่อการลงทุนและทำธุรกิจ
จากการปกครองระบอบสังคมนิยม ทำให้รัฐบาลมีเสถียรภาพด้านการเมืองสูง การพัฒนาประเทศจึงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงนายกฯของเวียดนามสามารถอนุมัติสิทธิพิเศษเพิ่มเติมกรณีพิเศษได้ เช่นการลงทุน "ขนาดใหญ่" ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ในหมวดอิเล็คโทรนิค ของ Samsung Electronic หรือการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group)
รวมไปถึงพรมแดนที่ติดกับ จีน ลาว กัมพูชา มีชายฝั่งทะเลทอดยาวเหนือจรดใต้ เหมาะกับเป็นฐานการผลิตและกระจายสินค้ามาก ผลิตเสร็จขนส่งไปจีนไปอาเซียน หรือลงเรือไปยุโรป อเมริกาได้เบย สะดวกโยธิน ถึงปัจจุบันการขนส่งของไทยจะเชื่อมโยงครอบคลุมในภูมิภาคกว่าและมีคุณภาพดีกว่า แต่ก็อย่าชะล่าใจ เพราะเวียดนามก็มีแผนก่อสร้างและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เปิดให้นักลงทุนต่างชาติร่วมทุนด้วย
4. การเพิ่มขึ้นของชนชั้นกลาง
คาดว่าภายในปี 2020 จำนวนชนชั้นกลางของเวียดนามจะเพิ่มขึ้น 2 เท่า เป็น 33 ล้านคน ซึ่งคนเหล่านี้มีกำลังซื้อ พวกสินค้าอุปโภคบริโภค ฟุ่มเฟือย ไฮเทค ขายดีนักแล นักลงทุนสายเหยี่ยวอย่าง CP Group, Unilever, Samsung, Google จึงเลือกลงทุนในเวียดนามไงล่ะจ๊ะ
5. โครงสร้างสินค้าส่งออกของเวียดนาม
ที่เปลี่ยนจากเครื่องนุ่งห่ม,น้ำมันดิบ เป็นหมวดอิเล็คโทรนิคสมัยใหม่ เช่น Smartphone,Tablet ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดโลก และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ไทยก็เป็นฐานการผลิตของอิเล็คโทรนิคเหมือนกัน แต่เป็นเทคโนโลยีเก่าอย่าง PC, Harddisk ง่ะ ในช่วงวิกฤติการเงินของยุโรป การส่งออกของเวียดนามก็ได้รับผลกระทบน้อยกว่าไทย
ที่มา : EIC Outlook ไตรมาส 2/2017 อ่านต่อแบบละเอียดได้ที่ http://bit.ly/2oXbCHJ
เวียดนาม ประชากร 在 ประชากรเวียดนามจ่อแตะ 100 ล้านคนในปี 2023 | - Facebook 的推薦與評價
ปีข้างหน้าอาจมี ประชากร หญิงวัยเจริญพันธุ์เพิ่มขึ้นอีกกว่า 1 ล้านคนด้วย ส่วนผู้สูงอายุชาว เวียดนาม ที่อาศัยอยู่ในกรุงฮานอย รวมกลุ่มกันไปเรียนภาษาอังกฤษ เพื่อเข้าสังคม และลับสมอง ... <看更多>