ต้นปี 2564 MSI แบรนด์ผู้นำด้านเมนบอร์ดระดับโลกได้ประกาศเปิดตัวเมนบอร์ดในแพลตฟอร์ม Intel 500 series หลังจากที่รอคอยกันมาอย่างยาวนาน ในที่สุดเมนบอร์ด MSI Intel 500 series ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วในวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา
.
ดังที่ MSI ได้ประกาศไว้ เมนบอร์ด MSI 500 Series ทุกรุ่นที่ใช้ CPU Intel Core 11th Gen จะสามารถรองรับ PCIe 4.0 และเมนบอร์ด Z590 Wi-Fi ทุกรุ่นจะมีพอร์ท 2.5G LAN อย่างน้อยหนึ่งพอร์ท พร้อมรองรับ Wi-Fi 6E ที่อัพเกรดขึ้นไปใช้ 6GHz spectrum เพื่อช่วยส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่โดดเด่นทั้งด้านการเล่นเกม สตรีมมิ่ง รวมถึงการทำงานแบบ Work from home ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
.
โดยเมนบอร์ด MSI Z590 ทุกรุ่นได้รับการอัพเกรดภาคจ่ายไฟ VRM power designs โดย MEG Z590 GODLIKE มาพร้อมภาคจ่ายไฟ direct 20 phases with 90A SPS ในขณะที่ MEG Z590I UNIFY ใช้ภาคจ่ายไฟ direct 8 phases with 90A SPS ส่วนเมนบอร์ด MEG Series รุ่นอื่นๆ จะใช้ภาคจ่ายไฟ 16 phases with 90A SPS พร้อมระบบ Mirrored Power Arrangement
.
ด้านวัสดุและการผลิต เมนบอร์ด MSI Z590 ทุกรุ่นผลิตด้วย PCB ที่มีความหนาขั้นต่ำ 6 ชั้นขึ้นไป พร้อมใช้ทองแดงที่หนาถึง 2 Oz ในวงจรไฟฟ้าเพื่อเพิ่มเสถียรในการทำงานและยกระดับประสบการณ์การใช้งาน โดยเมนบอร์ด MEG ขนาด ATX ใช้ PCB ที่หนาถึง 8 ชั้น และ MEG Z590I UNIFY ใช้ PCB ที่หนาถึง 10 ชั้น นอกจากนี้เมนบอร์ด MSI Z590 Gaming Series ทุกรุ่นยังเลือกใช้ PCB คุณภาพสูงเกรดเซิร์ฟเวอร์ในการผลิตอีกด้วย
.
ส่วนด้านการเชื่อมต่อ เมนบอร์ด MSI Z590 ทุกรุ่นมาพร้อมกับ Lightning USB 20G ที่รู้จักกันในชื่อ USB 3.2 Gen2x2 ซึ่งให้ความเร็วการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุดถึง 20Gbps โดยใช้พอร์ตแบบ Type-C และที่พิเศษเฉพาะสำหรับเมนบอร์ด MEG Series นั้นจะมาพร้อมพอร์ต Thunderbolt 4 ซึ่งให้ความเร็วการถ่ายโอนข้อมูลได้สูงสุดถึง 40Gbps ที่รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์แบบ Daisy-chained ได้สูงสุดถึง 6 ชุด รองรับหน้าจอความละเอียดสูงสุดถึง 8K และ USB 4.0 เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของครีเอเตอร์มืออาชีพโดยเฉพาะ
.
นอกจากนี้ โปรแกรมยอดนิยม MSI Dragon Center จะได้รับการอัพเกรดมาเป็น MSI Center โดยมีการออกแบบ UI ขึ้นใหม่ทั้งหมด พร้อมฟังก์ชันสุดล้ำ เช่น ภายในโปรแกรม MSI Center ผู้ใช้จะสามารถค้นหาฟีเจอร์ Sound Tune พร้อมทั้งเปิดการทำงานได้อย่างง่ายดายในคลิกเดียว ส่วนในด้านพลังเสียง เมนบอร์ด MEG Z590 GODLIKE และ MEG Z590 ACE มาพร้อมกับ Audio Boost 5 HD ควบคู่ไปกับการใช้ audio processor รุ่นใหม่ ALC 4082 พร้อม ESS codec ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานได้อิ่มเอมไปกับพลังเสียงระดับมืออาชีพได้โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม
.
หลังจากมีการเผยโฉมเมนบอร์ด MSI รุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับการอัพเกรดขึ้นรอบด้านและมาพร้อมความคุ้มค่าสูงสุดสู่สาธารณะแล้ว ทุกคนต่างต้องการทราบรายละเอียดฟีเจอร์สุดล้ำต่างๆรวมถึงประสิทธิภาพของเมนบอร์ดรุ่นใหม่นี้ แต่ก่อนที่เราจะมีโอกาสได้สัมผัสเมนบอร์ดของจริง เราลองมาดูรายละเอียดเจาะลึกฟีเจอร์ต่างๆ ของเมนบอร์ด MSI 500 Series
.
ราชาแห่งสรรพสิ่ง - MEG
.
ด้วยการผสานฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลังเข้ากับสุนทรียแห่งการออกแบบ ทำให้เมนบอร์ด MSI MEG Series เปรียบได้ดั่งงานศิลปะชั้นสูงสำหรับผู้ใช้ในระดับ hardcore โดยเมนบอร์ดรุ่นแรกที่จะแนะนำคือ MEG Z590 ACE ซึ่งมาในโทนสีดำสุดคลาสสิค พร้อมแต่งแต้มด้วยสีทองอย่างมีระดับ
.
พร้อมประสิทธิภาพที่ซ่อนอยู่ในรายละเอียดต่างๆ เช่น Cover ที่ผลิตจากอลูมิเนียม, VRM heatsink, heat pipe พร้อม thermal pad เพื่อช่วยลดอุณหภูมิรอบๆตัว CPU นอกจากนี้สล็อต M.2 ทั้งสี่สล็อตยังได้รับการติดตั้งระบบระบายความร้อน M.2 Shield Frozr ส่วนด้านบนของเมนบอร์ด ภาคจ่ายไฟและ Chokes ทั้งหมดจะได้รับการติดตั้ง Choke Pad เพื่อช่วยระบายความร้อน นอกจากนี้ MSI ได้อัพเกรด Chest Plate สำหรับ MEG Z590 ACE ขึ้นมาเป็น Backplate อลูมิเนียม ที่ครอบคลุมพื้นที่ด้านหลังเมนบอร์ดเกือบทั้งหมดเพื่อช่วยในการการระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น จากการทดสอบของ MSI อุณหภูมิทั้งด้านหน้าและหลังแผ่น PCB ของ MEG Z590 ACE ลดลงได้ถึง 21% และ 15.8% ตามลำดับ ส่วน MEG Z590 GODLIKE จะลดลงได้มากถึง 27% ที่ด้านหน้าและ 16% ที่ด้านหลัง ซึ่งพิสูจน์ว่าเทคโนโลยีการระบายความร้อนของ MSI นั้นมีประสิทธิภาพอย่างมาก*1
.
ในด้านการเชื่อมต่อ เมนบอร์ด MEG Series มาพร้อมเทคโนโลยี Wi-Fi 6E แบบใหม่ล่าสุด นอกจากนี้เมนบอร์ด MEG ขนาด ATX จะมีสล็อต M.2 มากถึงถึงสี่สล็อต, พอร์ต 8 พินถึง 2 พอร์ต และยังมีฟีเจอร์เพิเศษที่มีเฉพาะในเมนบอร์ด MEG Series เช่นพอร์ท Thunderbolt 5 และ Audio Boost 5 HD
.
สำหรับเมนบอร์ด MEG Z590 GODLIKE, MEG Z590 UNIFY และ MEG Z590I UNIFY มีกำหนดการวางจำหน่ายในเร็วๆนี้
.
เมนบอร์ดที่เกิดมาเพื่อจะเปลี่ยนโลก - MPG
.
เมนบอร์ด MPG Series โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวทันสมัย ดึงดูดสายตา โดย MSI ได้ทำการอัพเกรดเมนบอร์ด MPG Series ด้วยการใช้ VRM heatsink แบบ wavelike ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อน และการออกแบบ M.2 Shield Frozr ให้ดูคล้ายvolume bar พร้อมแอบซ่อน easter eggs ไว้อย่างแนบเนียน และที่พิเศษไปกว่านั้น เมนบอร์ด MPG Z590 GAMING FORCE ยังเป็นเมนบอร์ดตัวแรกของโลกที่เลือกใช้โทนสี violet black อีกด้วย
.
MPG Z590 GAMING CARBON WIFI และ MPG Z590 GAMING FORCE เป็นหนึ่งในเมนบอร์ดชุดแรกที่จะวางจำหน่าย ทั้งสองรุ่นใช้ภาคจ่ายไฟประสิทธิภาพสูงแบบ 16 Duet Rail Power System with 75A SPS นอกจากนี้เมนบอร์ด MPG ขนาด ATX ยังมีสล็อต M.2 มากถึงสามสล็อตพร้อมระบบระบายความร้อน M.2 Shield Frozr และพอร์ท Lightning USB 20G ทั้งหมดนี้ช่วยให้เมนบอร์ด MSI MPG Series นั้นโดดเด่นเหนือใครๆ
.
สไนเปอร์มือหนึ่งแห่งสนามรบ - MAG
.
MAG Series ของ MSI นั้นมาในธีมสีของยุทโธปกรณ์ทางทหาร ทั้งสีดำ Graphite Black สีน้ำเงิน Pacific Blue และสีเขียว Midnight Green แฟนๆ MAG Series สามารถเลือกสีได้ตามความชอบ นอกเหนือจากความหลากหลายด้านรูปลักษณ์แล้ว เมนบอร์ด MAG Z590 ของ MSI ยังมาพร้อมภาคจ่ายไฟ 14 Duet Rail Power System พร้อม DrMOS และ Extended Heatsink Design เพื่อให้เมนบอร์ดสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้น MAG Z590 TOMAHAWK WIFI ยังมีเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่ทันสมัยที่สุด ทั้ง Wi-Fi 6E และ Intel 2.5G LAN
.
ตวิญญาณแห่งนักธุรกิจมืออาชีพ – PRO
.
เมนบอร์ด PRO Series โดดเด่นด้วยการออกแบบ ลวดลาย และการเลือกใช้โทนสี Matte black ที่สะท้อนถึงความเป็นมืออาชีพ โดยเมนบอร์ด PRO Series ของ MSI นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองการทำงานในภาคธุรกิจจนถึงการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวัน เมนบอร์ด Z590-A PRO และ Z590 PRO WIFI มาพร้อมภาคจ่ายไฟ 12 Duet Rail Power System พร้อม DrMOS และ Extended Heatsink Design เพื่อการระบายความร้อนได้อย่างยอดเยี่ยม เสริมด้วยระบบควบคุมอุณหภูมิอัจฉริยะ Frozr AI Cooling ที่ช่วยลดอุณหภูมิของเมนบอร์ดทั้งด้านหน้าและหลังได้ถึง 18% และ 26%*1 นอกจากนี้ Z590 PRO WIFI ยังมาพร้อมเทคโนโลยีการเชื่อมต่อแห่งอนาคต
.
Wi-Fi 6E เพื่อตอบสนองการทำงานในยุคดิจิทัล
.
เตรียมพร้อมออกทะยานไปสู่จุดสูงสุดใหม่แล้วรึยัง? ถ้าพร้อมแล้ว คลิ๊กที่นี่ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเมนบอร์ด MSI 500 Series
.
*1:ทำการทดสอบโดยใช้ CPU Intel Core I9-10900K และ Corsair H150i Pro (360mm)
.
MSI GAMING: https://www.msi.com/
MSI Facebook: https://www.facebook.com/MSIGamingThailand/
MSI Instagram: https://www.instagram.com/msigaming_thailand/
MSI YouTube: https://www.youtube.com/user/MSIGamingGlobal
MSI Twitter: https://twitter.com/msi_th
.
Subscribe MSI RSS Feeds ได้ที่ https://www.msi.com/rss เพื่อการติดตามข่าวสารและผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดจาก MSI ในแบบ real-time
同時也有14部Youtube影片,追蹤數超過27萬的網紅Adrian Lo Dejavu,也在其Youtube影片中提到,?Freemax Maxpod Circle Pod Kit 550mAh? (Product Introduction) Freemax Maxpod Circle Kit is a circular pod device, implementing a visually striking uni...
「carbon design system」的推薦目錄:
- 關於carbon design system 在 GamingDose Facebook 的精選貼文
- 關於carbon design system 在 IELTS Fighter - Chiến binh IELTS Facebook 的最讚貼文
- 關於carbon design system 在 龔懷主(羅賓)Robin Kung Facebook 的最讚貼文
- 關於carbon design system 在 Adrian Lo Dejavu Youtube 的最佳貼文
- 關於carbon design system 在 CarDebuts Youtube 的精選貼文
- 關於carbon design system 在 CarDebuts Youtube 的最讚貼文
- 關於carbon design system 在 Carbon Design System - GitHub 的評價
- 關於carbon design system 在 carbon-design-system/carbon-sketch-assistant - Hi,Github 的評價
- 關於carbon design system 在 Pin on Web Design / UX - Pinterest 的評價
- 關於carbon design system 在 What should be the dimensions of title bar of an app according ... 的評價
- 關於carbon design system 在 carbon-design-system/carbon-utils-position - githubmemory 的評價
carbon design system 在 IELTS Fighter - Chiến binh IELTS Facebook 的最讚貼文
- Luyện đọc và tìm kiếm từ mới nào cả nhà!
Đề Cambridge IELTS 14 Test 2 - passage 2:
BACK TO THE FUTURE OF SKYSCRAPER DESIGN
Answers to the problem of excessive electricity use by skyscrapers and large public buildings can be found in ingenious but forgotten architectural designs of the 19th and early-20th centuries
A. The Recovery of Natural Environments in Architecture by Professor Alan Short is the culmination of 30 years of research and award-winning green building design by Short and colleagues in Architecture, Engineering, Applied Maths and Earth Sciences at the University of Cambridge.
'The crisis in building design is already here,' said Short. 'Policy makers think you can solve energy and building problems with gadgets. You can't. As global temperatures continue to rise, we are going to continue to squander more and more energy on keeping our buildings mechanically cool until we have run out of capacity.'
B. Short is calling for a sweeping reinvention of how skyscrapers and major public buildings are designed - to end the reliance on sealed buildings which exist solely via the 'life support' system of vast air conditioning units.
Instead, he shows it is entirely possible to accommodate natural ventilation and cooling in large buildings by looking into the past, before the widespread introduction of air conditioning systems, which were 'relentlessly and aggressively marketed' by their inventors.
C. Short points out that to make most contemporary buildings habitable, they have to be sealed and air conditioned. The energy use and carbon emissions this generates is spectacular and largely unnecessary. Buildings in the West account for 40-50% of electricity usage, generating substantial carbon emissions, and the rest of the world is catching up at a frightening rate. Short regards glass, steel and air-conditioned skyscrapers as symbols of status, rather than practical ways of meeting our requirements.
D. Short's book highlights a developing and sophisticated art and science of ventilating buildings through the 19th and earlier-20th centuries, including the design of ingeniously ventilated hospitals. Of particular interest were those built to the designs of John Shaw Billings, including the first Johns Hopkins Hospital in the US city of Baltimore (1873-1889).
'We spent three years digitally modelling Billings' final designs,' says Short. 'We put pathogens• in the airstreams, modelled for someone with tuberculosis (TB) coughing in the wards and we found the ventilation systems in the room would have kept other patients safe from harm.
E. 'We discovered that 19th-century hospital wards could generate up to 24 air changes an hour-that's similar to the performance of a modern-day, computer-controlled operating theatre. We believe you could build wards based on these principles now.
Single rooms are not appropriate for all patients. Communal wards appropriate for certain patients - older people with dementia, for example - would work just as well in today's hospitals, at a fraction of the energy cost.'
Professor Short contends the mindset and skill-sets behind these designs have been completely lost, lamenting the disappearance of expertly designed theatres, opera houses, and other buildings where up to half the volume of the building was given over to ensuring everyone got fresh air.
F. Much of the ingenuity present in 19th-century hospital and building design was driven by a panicked public clamouring for buildings that could protect against what was thought to be the lethal threat of miasmas - toxic air that spread disease. Miasmas were feared as the principal agents of disease and epidemics for centuries, and were used to explain the spread of infection from the Middle Ages right through to the cholera outbreaks in London and Paris during the 1850s. Foul air, rather than germs, was believed to be the main driver of 'hospital fever', leading to disease and frequent death. The prosperous steered clear of hospitals.
While miasma theory has been long since disproved, Short has for the last 30 years advocated a return to some of the building design principles produced in its wake.
G. Today, huge amounts of a building's space and construction cost are given over to air conditioning. 'But I have designed and built a series of buildings over the past three decades which have tried to reinvent some of these ideas and then measure what happens. 'To go forward into our new low-energy, low-carbon future, we would be well advised to look back at design before our high-energy, high-carbon present appeared. What is surprising is what a rich legacy we have abandoned.'
H. Successful examples of Short's approach include the Queen's Building at De Montfort University in Leicester. Containing as many as 2,000 staff and students, the entire building is naturally ventilated, passively cooled and naturally lit, including the two largest auditoria, each seating more than 150 people. The award-winning building uses a fraction of the electricity of comparable buildings in the UK.
Short contends that glass skyscrapers in London and around the world will become a liability over the next 20 or 30 years if climate modelling predictions and energy price rises come to pass as expected.
I. He is convinced that sufficiently cooled skyscrapers using the natural environment can be produced in almost any climate. He and his team have worked on hybrid buildings in the harsh climates of Beijing and Chicago - built with natural ventilation assisted by back-up air conditioning - which, surprisingly perhaps, can be switched off more than half the time on milder days and during the spring and autumn.
“My book is a recipe book which looks at the past, how we got to where we are now, and how we might reimagine the cities, offices and homes of the future. There are compelling reasons to do this. The Department of Health says new hospitals should be naturally ventilated, but they are not. Maybe it’s time we changed our outlook.”
TỪ VỰNG CHÚ Ý:
Excessive (adj)/ɪkˈsesɪv/: quá mức
Skyscraper (n)/ˈskaɪskreɪpə(r)/: nhà trọc trời
Ingenious (adj)/ɪnˈdʒiːniəs/: khéo léo
Culmination (n) /ˌkʌlmɪˈneɪʃn/: điểm cao nhất
Crisis (n)/ˈkraɪsɪs/: khủng hoảng
Gadget (n)/ˈɡædʒɪt/: công cụ
Squander (v)/ˈskwɒndə(r)/: lãng phí
Reliance (n)/rɪˈlaɪəns/: sự tín nhiệm
Vast (adj)/vɑːst/: rộng lớn
Accommodate (v)/əˈkɒmədeɪt/: cung cấp
Ventilation (n)/ˌventɪˈleɪʃn/: sự thông gió
Habitable (adj)/ˈhæbɪtəbl/: có thể ở được
Spectacular (adj)/spekˈtækjələ(r)/: ngoạn mục, đẹp mắt
Account for /əˈkaʊnt//fə(r)/ : chiếm
Substantial (adj)/səbˈstænʃl/: đáng kể
Frightening (adj)/ˈfraɪtnɪŋ/: kinh khủng
Sophisticated (adj)/səˈfɪstɪkeɪtɪd/: phức tạp
Pathogen (n)/ˈpæθədʒən/: mầm bệnh
Tuberculosis (n)/tjuːˌbɜːkjuˈləʊsɪs/: bệnh lao
Communal (adj)/kəˈmjuːnl/: công cộng
Dementia (n)/dɪˈmenʃə/: chứng mất trí
Fraction (n)/ˈfrækʃn/: phần nhỏ
Lament (v)/ləˈment/: xót xa
Panicked (adj): hoảng loạn
Lethal (adj)/ˈliːθl/: gây chết người
Threat (n)/θret/: mối nguy
Miasmas (n)/miˈæzmə/: khí độc
Infection (n) /ɪnˈfekt/: sự nhiễm trùng
Cholera (n)/ˈkɒl.ər.ə/: dịch tả
Outbreak (n)/ˈaʊt.breɪk/: sự bùng nổ
Disprove (v)/dɪˈspruːv/: bác bỏ
Advocate (v)/ˈæd.və.keɪt/: ủng hộ
Auditoria (n)/ˌɔːdɪˈtɔːriə/ : thính phòng
Comparable (adj)/ˈkɒm.pər.ə.bəl/: có thể so sánh được
Contend (v) /kənˈtend/: cho rằng
Liability (n)/ˌlaɪ.əˈbɪl.ə.ti/: nghĩa vụ pháp lý
Convince (v) /kənˈvɪns/: Thuyết phục
Assist (v) /əˈsɪst/: để giúp đỡ
Các bạn cùng tham khảo nhé!
carbon design system 在 龔懷主(羅賓)Robin Kung Facebook 的最讚貼文
經典Ruf大黄鳥全球30台,台灣搶到三輛,表示台灣的總代理很有實力!明年就可以運抵台灣!#Hubauto #BigYellowBird #RufAutomobileGmbH
2017 RUF CTR Unveiled in Geneva
World’s First Rear-Engine Carbon Monocoque Road Car
- First RUF car engineered and designed by RUF
- First rear-engine carbon fiber monocoque chassis
- Twin-turbo 3.6L flat-six creates 522 kw (710 PS), 880 Nm (649 lb-ft)
- Rear-engine design sends power to rear wheels through six-speed manual gear box
- Top speed in excess of 360 km/h (223 mph)
- 0-100 km/h (62 mph) in less than 3.5 seconds, 0-200 km/h (124 mph) in less than 9 seconds
Revered sports car manufacturer RUF
Automobile GmbH unveiled the latest generation of its famed CTR halo car today during the 87th Geneva Motor Show. This is the first RUF sports car to be based on a chassis completely of the firm’s own design with a body that pays tribute to the 1987 CTR
“Yellow Bird.”
“The concept for the 2017 CTR is one that I have had in my head for a very long time,” said Alois Ruf, President and owner of RUF Automobile GmbH. “We have been waiting for the right point in our history to build our own car and the 30th anniversary of the CTR
‘Yellow Bird’ is that moment.”
New Chapter in a David and Goliath Story
Entering its fourth generation, the latest high-performance RUF supercar pays homage to the 1987 CTR Yellow Bird in both form and function. A weight-to-power ratio of only 3.5 lbs per horsepower, a first-ever rear-wheel drive bespoke carbon fiber monocoque chassis and an incredibly powerful engine are only some of the ingredients that make the latest CTR such a compelling work of automotive art.
Design inspiration comes directly from the 1987 Yellow Bird’s focus on aerodynamic efficiency. The silhouette, narrow body, rear air inlets and fascias are all direct nods to the company heritage. The body, now formed in carbon, calls back to the original car’s
flushed look.
Center-locking 19-inch forged alloy wheels complete the design wrapped in tires measuring 245/35ZR19 in the front and 305/30ZR19 in the rear.
Powerful, Traditional and Thoroughly Modern
Technological sophistication starts with the skin, which is made completely of carbon fiber. For the first time, the chassis beneath that surface – also made of carbon fiber - is a bespoke monocoque, a proprietary RUF design. The front and rear crash structures are built with lightweight, steel as is the integrated roll cage that are both designed to maximize occupant safety. In total, the extensive use of modern materials allows for an extremely light dry weight of 1,200 kg (2,640 lbs).
Like most RUF works, the 2017 CTR uses a rear-engine powertrain layout. The 3.6-liter twin-turbo flat-six is built by RUF and inspired by the design of the engine in the original Yellow Bird. To that end, it uses a dry-sump lubrication system to provide constant oil
supply and pressure during extreme cornering. Total output is 522 kw (710 PS) at 6,750 RPM and 880 Nm (649 lb-ft) at 2,750 RPM, allowing acceleration from 0-100 km/h (62 mph) under 3.5 seconds and 0-200 km/h (125 mph) under nine seconds. Top speed is 360 km/h (225 mph).
In order to truly pay tribute to the Yellow Bird, the latest CTR will be available exclusively with a newly-developed six-speed manual transmission that sends power to the rear wheels through a limited-slip differential. We began development on the new CTR five years ago with the goal of creating a thrilling, analog driving experience that combines an amazing power-to-weight ratio, manual transmission and modern racing technology,” said Estonia Ruf.
Ensuring excellent handling characteristics, the 2017 CTR uses double-wishbone suspension arms in a pushrod configuration for both the front and rear axles. Internally vented and perforated carbon ceramic brake discs (380 mm front, 250 mm rear) clamped by six-piston fixed calipers (front) and four-piston calipers (rear) offer maximum stopping power and enduring fade resistance.
Minimalist Interior as a Mark of Analog Design
A minimalist two-seat interior designed with lightweight materials is a further acknowledgement of the 2017 CTR’s analog philosophy.
Alcantara is the upholstery of choice both for its aesthetics and weight saving properties that, in combination with leather and carbon fiber, give the cockpit a balance between modern and retro design. The seats are made of carbon fiber, and the pedals from aluminum. A three-spoke steering wheel is a further nod to the car’s racing pedigree, as are the analog dial-type gauges in a green typeface.
Series production is scheduled to begin by 2018 at RUF’s Pfaffenhausen, Germany, facility. The limited run will include 30 units not including the prototype unveiled during the 2017 Geneva Motor Show.
carbon design system 在 Adrian Lo Dejavu Youtube 的最佳貼文
?Freemax Maxpod Circle Pod Kit 550mAh?
(Product Introduction)
Freemax Maxpod Circle Kit is a circular pod device, implementing a visually striking unique design, 2.0mL pod juice capacity, and a whopping 550mAh battery that will keep the vape powered for all day use. The Maxpod Circle Pod System is constructed from a durable zinc-alloy, and features a stunning resin or carbon fiber panels on both sides. The 2.0mL capacity pod is connected via magnetic connection and is sturdy enough to withstand moderate drops and falls. In addition, Maxpod Circle Pod utilizes FM SaltCoilTech 2.0, with NS Mesh 1.5ohm coil, it is capable of supporting both freebase and salt nicotine e-liquids and compatible with 99% flavor categories in the market, and with a stunning life time of 6-8 refills. Featuring a side refill stoppered by a silicone plug and a firing button, the Maxpod Circle pod is super easy to refill and also supports both Draw Activated and Button Activated. Its 3.7V constant voltage output guarantees stable performance and flavor from the first vape to the last.
(Parameters)
Size: D62.2 x W12.1mm
Pod Capacity: 2ml
Coil Resistance: 1.5ohm
Battery Capacity: 550mAh
Output Voltage: Constant 3.7V
Output Wattage: 10W
Material: PCTG/Steel/Zinc Alloy
#Freemaxmaxpodcircle #heavengifts #adrianlodejavu
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
?SAY NO TO UNDERAGE?
DISCLAIMER: Vape or electronic cigarette is strictly not suitable for kids under 18. All Vaping reviews will be set to age restriction. This review is for adult smokers trying to get better health for quit smoking. For adult vapers to update about new products and tutorial. Vape safe and be happy gais! ☺️
Review/Branding/Sponsors/ job enquiries please email: adrianlodejavu@gmail.com
♠︎MAIN SPONSOR♠︎
?VAPX
?SNOW WOLF
?WERTI
?PJA VAPORIZER
?ARTERY VAPOR
?HEAVENGIFTS
SOCIAL VAPING:
?YOUTUBE: http://www.youtube.com/adrianlodejavu
?INSTAGRAM: http://www.instagram.com/adrianlodejavu/
?FACEBOOK: http://www.facebook.com/adrianlodejavu/
?[DJV] DEJAVU: http://www.instagram.com/official.djv/
SOCIAL CAR PROJECT:
?INSTAGRAM: http://www.instagram.com/wishlistproject_malaysia/
?FACEBOOK: http://www.facebook.com/wishlistproject_malaysia/
?PLAYLIST: https://www.youtube.com/playlist?list=PLXpdca_pLp7p6lXZi9OXYSbmsu7BpzogY
carbon design system 在 CarDebuts Youtube 的精選貼文
เผยโฉมตัวจริง All-New Nissan Note e-Power 2021 นิสสัน โน้ต อีเพาเวอร์ โฉมใหม่ เริ่มขาย 23 ธันวาคมนี้ ในประเทศญี่ปุ่น
ระบบขับเคลื่อน 2WD เครื่องยนต์รหัส HR12DE-EM47
รุ่น F ราคา 2,054,800 เยน
รุ่น S ราคา 2,029,500 เยน
รุ่น X ราคา 2,186,800 เยน
Evolution of e-POWER "e-POWER", which has evolved into the second generation, has renewed its motor and inverter. Compared to the predecessor "Note", the motor has improved torque by 10% and output by 6%, achieving more powerful and comfortable starting acceleration and a powerful feeling of acceleration when overtaking from medium and high speeds. The inverter is 40% smaller and 30% lighter than the first generation, and the efficiency of the engine is also improved, which not only improves acceleration performance but also improves fuel efficiency. In addition, by reducing the frequency of engine operation by controlling the system and improving the sound insulation performance of the car body, we have achieved a class of quietness despite being a compact car. In addition, we have developed the world's first control system that actively generates electricity when it is judged that road noise is large based on the road surface condition, and we are improving the quietness.
Advanced safety technology
in all directions Equipped with advanced safety technology that realizes 360 ° safety support, safety in all directions has been improved. In addition, "ProPilot (with Navilink function)" is installed for the first time * 2 . By adding a function linked with the navigation system to the professional pilot who supports driving operations when driving in the same lane on the highway, it is possible to switch the set speed according to the change in the speed limit and decelerate according to the size of the curve. The system assists the driver to reduce the frequency of operation and realize a safe and comfortable drive.
In addition, Nissan's first 1470MPa class ultra-high-tensile steel (ultra-high-strength steel plate for cold pressing) is used for the body frame to achieve both weight reduction and collision safety at a high level.
Exterior design that goes beyond the conventional wisdom of compact cars
A thin headlamp integrated with the front grille, a new V-motion chrome that connects to it, a character line that connects from the front to the rear with a single line, and a clean view that extends below it The advanced, clean and dynamic design of Nissan's new design language, such as the inflection of the richly sloping surface depending on the angle and the distinctive signature rear combination lamp with the shape of one horizontal character that spreads horizontally, while being compact It also has a striking presence. In addition, the front grille has a pattern inspired by Kumiko, a traditional Japanese craft, and has a "design that blends into the Japanese landscape." The sleek and advanced headlamps use a 4-unit LED projector * 3 . Similarly, the optional 16-inch aluminum wheels have a sharp and sophisticated design inspired by Japanese swords, and are designed to remind you of the driving performance of the "e-POWER." We have prepared a wide range of 13 body colors, including 2 tones of 2 colors, to create a lineup that customers can enjoy and choose according to their tastes. Nissan's new cool tone "Opera Move", which was developed for the advanced and dynamic "Vivid Blue" and the new "Note", is a color that suits sophisticated adults.
Advanced and comfortable interior space The
interior design realizes an advanced and comfortable space that overturns the common sense of compact cars. The instrument panel that expands outward is equipped with a meter integrated with the center display, embodying Nissan's new interior design concept that combines advanced feeling and ease of use suitable for electrification. In addition, the bridge-type center console on which a small electronically controlled shift lever sits is equipped with a large storage space and long reach armrests, so you can enjoy both comfortable driving with an innovative design. In addition, the center console in the front seat is equipped with highly convenient functions such as a wireless charger for smartphones * 3 . The rear seats are equipped with a reclining function, ensuring a class-leading spacious space in both the knee room and headroom. Furthermore, in the luggage compartment, by securing a wide opening and luggage compartment width, it is possible to store luggage without stress. Three types of interior colors and materials are available. The X grade is a combination of a jersey seat with gradation stripes and a synthetic leather armrest. The instrument panel also features carbon-like decorations and a long, horizontally-spreading matte chrome finisher for a clean, modern color coordination.
carbon design system 在 CarDebuts Youtube 的最讚貼文
ชมตัวจริงในงาน ขับทดสอบ All-New Toyota Corolla Cross 2020-2021 โตโยต้า โคโรลล่า ครอส Thailand Test Drive Event
All-New Corolla CROSS …A NEW JOURNEY has 5 unique selling points
1. Design
- A New Outstanding Journey – A New Journey … Reflecting state-of-the-art design
The exterior design uniquely stands out with its stylish and sporty feel yet unveils the sense of luxury in combination with toughness. The car comes with a power moonroof, roof rack, LED headlights and taillights, as well as 18-inch alloy wheels.
- A New Satisfying Journey – A New Journey … Offering ample space for all your needs
The design in the interior represents a seamless work of art with the new Terra Rossa red shade as the interior color, along with the addition of 7-inch Multi Information Display (MID).
2. Performance
- A New Energetic Journey – A New Journey … Showcasing the ultimate powertrain
The 1.8-inch hybrid engine with the most innovative 4th generation hybrid system has been completely developed so that the battery offers greater performance, endurance, and fuel efficiency, while preserving the exciting driving pleasure and superior power of acceleration. For the hybrid engine, the average fuel consumption is only 23.3 kilometer per liter, with the carbon dioxide emission of 98 grams per kilometer. On the other hand, for the gasoline engine, the average fuel consumption is 15.4 kilometer per liter, with the carbon dioxide emission of 150 grams per kilometer.
- A New Confident Journey – A New Journey … Having everything under control in all journeys
With Toyota New Global Architecture (TNGA) and the newly developed torsion beam, the suspension has been largely enhanced for better grip and smooth ride, while improving the balance while driving straight and cornering. All these features substantially help provide drivers with greater agility, confidence, and visibility.
3. Comfort
- A New Convenient Journey – A New Journey … Bringing sheer convenience to all your trips
The All-New Corolla CROSS offers a large luggage space with a maximum capacity of up to 487 liters. Besides, the cabin is distinguished by large doors that make it easy to get in and out, as well as the ample headroom that makes the occupants feel fresh and comfortable. The car also comes with Power Back Door with Activated Kick Sensor that allows greater convenience. Moreover, there are Power Adjustable Driver Seat, Dual-Zone Automatic Climate Control, Rear Seats can be reclined up to 6 degrees, Rear Seat Armrest with Cup Holders, along with Air Vents and USB Outlets for rear passengers.
4. Safety
- A New Protected Journey – A New Journey … Presenting superlative safety standard
The safety features and environmental performance of the All-New Corolla CROSS have been advanced based on the remarkable DNA of Corolla series to ensure driving confidence in all journeys with the world renowned Toyota Safety Sense, for example Pre-Collision System, Lane Departure Alert with Steering Assist, Dynamic Radar Cruise Control with Lane Tracing Assist, Automatic High Beam, as well as Panoramic View Monitor, Blind Spot Monitor, Rear CROSS Traffic Alert, and 7 SRS Airbags
5. Connection
- A New Connected Journey – A New Journey … Connecting all lifestyles for sheer confidence, safety, and worry-free experience
With the 9-inch touchscreen compatible with Apple CarPlay together with T-Connect, the vehicle offers flawless connection between itself and the driver, making the journey a moment of happiness and peace of mind, while ensuring that car maintenance will never be a difficult task.
carbon design system 在 carbon-design-system/carbon-sketch-assistant - Hi,Github 的推薦與評價
carbon-design-system/carbon-sketch-assistant - Carbon Design System design validation directly in Sketch. ... <看更多>
carbon design system 在 Pin on Web Design / UX - Pinterest 的推薦與評價
Nov 26, 2017 - Carbon is the design system for IBM web and product. It is a series of individual styles, components, and guidelines used for creating ... ... <看更多>
carbon design system 在 Carbon Design System - GitHub 的推薦與評價
Carbon is an open-source design system built by IBM. With the IBM Design Language as its foundation, the system consists of working code, design tools and ... ... <看更多>